ราชินีนอร์เวย์ผู้ได้รับรางวัลศิลปินภาพพิมพ์
สมเด็จพระราชินีซอนยาแห่งนอร์เวย์
สมเด็จพระราชินีซอนยาแห่งนอร์เวย์ ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีในสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 และเป็นสามัญชนผู้ทรงมีบทบาทสำคัญด้านสังคมและวัฒนธรรม
สมเด็จพระราชินีซอนยาแห่งนอร์เวย์ หรือพระนามเดิม ซอนยา เฮรัลด์เซ็น ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีในสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์ พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในฐานะพระราชินีแห่งนอร์เวย์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 โดยทรงเป็นพระราชินีพระองค์แรกในรอบ 52 ปี และเป็นพระราชินีพระองค์แรกในรอบ 69 ปีที่ทรงเข้าร่วมการเปิดสมัยประชุมรัฐสภาสตอร์ตติง พระองค์ทรงเป็นสามัญชนที่อภิเษกสมรสกับมกุฎราชกุมารฮารัลด์ (ในขณะนั้น) หลังจากความสัมพันธ์ที่ปิดบังมานานถึงเก้าปี ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความท้าทายในเวลานั้น เนื่องจากไม่มีธรรมเนียมให้สามัญชนอภิเษกสมรสกับราชวงศ์ แต่ด้วยความมุ่งมั่นของทั้งสองพระองค์ ทำให้พระราชบิดาของมกุฎราชกุมารฮารัลด์ คือสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 แห่งนอร์เวย์ ทรงยินยอมในที่สุด
สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงเป็นที่รู้จักจากพระราชกรณียกิจอันหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนด้านสังคมและวัฒนธรรม พระองค์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ขององค์กรต่างๆ กว่าสิบห้าแห่ง และเคยทรงดำรงตำแหน่งรองประธานสภากาชาดนอร์เวย์ พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งกองทุนเจ้าหญิงมาร์ธา ลุยเซอ เพื่อช่วยเหลือเด็กพิการ และทรงให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยระหว่างประเทศ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีพระปรีชาสามารถด้านศิลปะ ทั้งในฐานะนักออกแบบกราฟิกและศิลปินเซรามิก โดยผลงานของพระองค์ได้จัดแสดงในนิทรรศการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ พระองค์ทรงก่อตั้งการแข่งขันดนตรีนานาชาติสมเด็จพระราชินีซอนยา และรางวัลศิลปะสมเด็จพระราชินีซอนยา เพื่อส่งเสริมวงการศิลปะและวัฒนธรรมนอร์เวย์และสากล การเสด็จเยือนทวีปแอนตาร์กติกาในปี ค.ศ. 2005 ในฐานะสมเด็จพระราชินีพระองค์แรกที่ทำเช่นนั้น และการได้รับรางวัล Trysil-Knut ในปี ค.ศ. 2017 ซึ่งทำให้พระองค์เป็นสตรีพระองค์แรกที่ได้รับรางวัลนี้ ล้วนเป็นเครื่องยืนยันถึงพระราชกรณียกิจอันโดดเด่นของพระองค์
สมเด็จพระราชินีซอนยาเสด็จพระราชสมภพในกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1937 ทรงเป็นธิดาของนายคาร์ล ออกุส เฮรัลด์เซ็น ซึ่งประกอบอาชีพค้าขายเสื้อผ้า และนางแดกนี อูริชเซ็น
สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงเจริญพระชนม์ชีพในย่านวินเดอเรน (Tuengen Allé 1B) ในกรุงออสโล และทรงสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในปี ค.ศ. 1954 หลังจากนั้น พระองค์ทรงได้รับประกาศนียบัตรด้านการตัดเย็บเสื้อผ้าจากโรงเรียนอาชีวศึกษาออสโล และทรงได้รับประกาศนียบัตรจากโรงเรียน École Professionnelle des Jeunes Filles ซึ่งเป็นโรงเรียนฝึกอบรมมารยาทในเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ณ ที่นั่น พระองค์ทรงศึกษาด้านการบัญชี การออกแบบแฟชั่น และสังคมศาสตร์ ภายหลังทรงกลับมายังประเทศนอร์เวย์เพื่อศึกษาต่อ และทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยออสโล โดยทรงศึกษาด้านภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษ และประวัติศาสตร์ศิลปะ
สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงมีพระพี่น้องสามพระองค์ ได้แก่ นายฮากุน เฮรัลด์เซ็น, นางกรี เฮนริกเซ็น และนายคาร์ล เฮอร์มัน เฮรัลด์เซ็น ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเรือ
สมเด็จพระราชินีซอนยาได้ทรงพบกับมกุฎราชกุมารฮารัลด์ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) เป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1959 ที่งานเลี้ยงซึ่งจัดโดยโยฮัน เอช. สเตเนอร์เซ็น หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคม มกุฎราชกุมารทรงเชิญพระองค์เข้าร่วมงานเลี้ยงสำเร็จการศึกษา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองพระองค์ทรงฉายพระรูปร่วมกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์ดำเนินไปอย่างลับๆ เป็นเวลาถึงเก้าปี เนื่องจากสถานะของซอนยาที่เป็นสามัญชน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ขัดต่อธรรมเนียมปฏิบัติของราชวงศ์ในเวลานั้น
มกุฎราชกุมารฮารัลด์ทรงแสดงความประสงค์อย่างชัดเจนต่อพระราชบิดาคือสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 แห่งนอร์เวย์ ว่าพระองค์จะทรงครองโสดตลอดพระชนม์ชีพ หากไม่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้อภิเษกสมรสกับซอนยา ซึ่งจะส่งผลให้การสืบราชสันตติวงศ์ของราชวงศ์ต้องสิ้นสุดลง และอาจนำไปสู่การสิ้นสุดของสถาบันพระมหากษัตริย์ในนอร์เวย์ เนื่องจากมกุฎราชกุมารฮารัลด์ทรงเป็นรัชทายาทเพียงพระองค์เดียว เมื่อทรงเผชิญกับทางเลือกที่จะต้องทรงเลือกพระญาติจากราชวงศ์เดนมาร์ก หรือดยุกแห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ หรือแม้แต่แกรนด์ดยุกแห่งอ็อลเดินบวร์ค มาเป็นรัชทายาทพระองค์ใหม่แทนพระราชโอรส สมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 จึงทรงปรึกษารัฐบาลเพื่อขอคำแนะนำ ในการนี้ รัฐบาลนอร์เวย์ได้พิจารณาถึงกรณีของสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะแห่งญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสามัญชนที่อภิเษกสมรสกับสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ (ในขณะนั้น) เป็นแบบอย่าง หลังจากได้รับคำปรึกษาและพิจารณาอย่างรอบคอบ สมเด็จพระราชินีซอนยาจึงทรงหมั้นหมายกับมกุฎราชกุมารฮารัลด์เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1968 และทั้งสองพระองค์ทรงอภิเษกสมรสกันในวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1968 ณ อาสนวิหารออสโล หลังจากนั้น พระองค์ทรงได้รับพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงมกุฎราชกุมารีแห่งนอร์เวย์
หลังจากสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 แห่งนอร์เวย์ เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1991 เจ้าหญิงซอนยา มกุฎราชกุมารี จึงทรงขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ นับเป็นสมเด็จพระราชินีพระองค์แรกในรอบ 52 ปี สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงเสด็จพระราชดำเนินพร้อมกับสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์ เมื่อพระองค์ทรงถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญแห่งนอร์เวย์ต่อรัฐสภาสตอร์ตติง เมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1991 นับเป็นครั้งแรกในรอบ 69 ปี ที่สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ทรงเข้าร่วมในรัฐสภาสตอร์ตติง เนื่องจากในรัชสมัยของสมเด็จพระราชาธิบดีฮากุนที่ 7 แห่งนอร์เวย์ สมเด็จพระราชินีม็อดแห่งเวลส์ พระมเหสีของพระองค์ เสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1938 และสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 แห่งนอร์เวย์ ซึ่งเป็นมกุฎราชกุมารในขณะนั้น ก็ทรงสูญเสียเจ้าหญิงมาร์ธาแห่งสวีเดน พระมเหสีในปี ค.ศ. 1954 ก่อนที่พระองค์จะทรงขึ้นครองราชย์ในอีกสามปีต่อมา ตั้งแต่การขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงเสด็จพระราชดำเนินพร้อมกับพระองค์เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภาสตอร์ตติงอย่างเป็นทางการในฤดูใบไม้ร่วง และการอ่านพระราชดำรัสจากบัลลังก์
ตามพระราชประสงค์ของทั้งสองพระองค์ สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีทรงประกอบพิธีเจิม ณ อาสนวิหารนิดารอส ในเมืองทรอนด์เฮม เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 1991 หลังจากพิธีเจิม ทั้งสองพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนภาคใต้ของนอร์เวย์เป็นเวลา 10 วัน และในปี ค.ศ. 1992 พระราชวงศ์ทั้งหมดได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนสี่มณฑลทางเหนือสุดของนอร์เวย์เป็นเวลา 22 วัน สมเด็จพระราชินีทรงเสด็จพระราชดำเนินพร้อมกับสมเด็จพระราชาธิบดีในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ และทรงทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพเมื่อประมุขแห่งรัฐต่างประเทศเสด็จเยือนนอร์เวย์อย่างเป็นทางการ
สมเด็จพระราชินีซอนยาและสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 ทรงมีพระราชบุตรสองพระองค์ ได้แก่
ชื่อ | ประสูติ | การอภิเษกสมรส | พระบุตร |
---|
วันที่ | คู่สมรส |
---|
เจ้าหญิงมาร์ธา ลุยเซอ | 22 กันยายน ค.ศ. 1971 | 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2002 หย่าร้างในปี ค.ศ. 2017 | อารี เบห์น | - ลีอาห์ อิซาดอรา เบห์น ประสูติเมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2005
- เอ็มมา ทัลลูลาห์ เบห์น ประสูติเมื่อวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 2008
>- |
---|
31 สิงหาคม ค.ศ. 2024 | ดูเรก เวอร์เร็ตต์ | colspan="2" ไม่มี |
เจ้าชายโฮกุน มกุฎราชกุมาร | 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1973 | 25 สิงหาคม ค.ศ. 2001 | เม็ตเตอ-มาริต เชสเซ็ม เฮยบี | - เจ้าชายสแวร์เรอ มักนุส ประสูติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 2005
>} | ในฐานะสมเด็จพระราชินี สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ขององค์กรต่างๆ มากถึงสิบห้าแห่ง พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการดำเนินพระราชกรณียกิจอย่างเป็นทางการต่างๆ รวมถึงการเข้าร่วมพระราชพิธีสำคัญ และการให้การสนับสนุนองค์กรและหน่วยงานที่หลากหลาย ทั้งในด้านการกุศล สังคม ศิลปะ และวัฒนธรรม
สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงมีพระราชกรณียกิจและกิจกรรมที่โดดเด่นมากมายตลอดรัชสมัยของพระองค์
ในปี ค.ศ. 1972 สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงมีส่วนร่วมในการก่อตั้งกองทุนเจ้าหญิงมาร์ธา ลุยเซอ ซึ่งให้ความช่วยเหลือแก่เด็กพิการในประเทศนอร์เวย์ พระองค์ทรงมีบทบาทอย่างแข็งขันในโครงการระดมทุนขนาดใหญ่เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยระหว่างประเทศ และทรงใช้เวลาในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 เสด็จเยือนผู้ลี้ภัยทางเรือชาวเวียดนามในมาเลเซีย
ระหว่างปี ค.ศ. 1987 ถึง ค.ศ. 1990 เจ้าหญิงมกุฎราชกุมารีซอนยาทรงดำรงตำแหน่งรองประธานสภากาชาดนอร์เวย์ โดยทรงรับผิดชอบกิจกรรมระหว่างประเทศขององค์กร พระองค์ทรงเข้าร่วมคณะผู้แทนกาชาดในการเยือนบอตสวานาและซิมบับเวในปี ค.ศ. 1989
รางวัลโรงเรียนสมเด็จพระราชินีซอนยา (Queen Sonja's School Awardควีนซอนยา สคูล อวอร์ดภาษาอังกฤษ) ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2006 และมอบให้กับโรงเรียนที่ "แสดงความเป็นเลิศในความพยายามที่จะส่งเสริมการรวมกลุ่มและความเท่าเทียมกัน"
ในปี ค.ศ. 2021 นายแฟรงก์ รอสซาวิก นักเขียนและนักข่าวชาวนอร์เวย์ ได้กล่าวว่าสมเด็จพระราชินีซอนยาทรงกำลังริเริ่มก่อตั้งแกลเลอรีศิลปะ เพื่อจำหน่ายผลงานของศิลปินที่พระองค์ได้พระราชทานรางวัลอันทรงเกียรติให้
สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงก่อตั้งการแข่งขันดนตรีนานาชาติสมเด็จพระราชินีซอนยาในปี ค.ศ. 1988 ซึ่งเดิมเป็นการแข่งขันสำหรับนักเปียโน แต่ในปี ค.ศ. 1995 ได้เปลี่ยนเป็นการแข่งขันสำหรับนักร้องเท่านั้น คณะกรรมการตัดสินประกอบด้วยบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขาในวงการอุปรากร และผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลพร้อมโอกาสในการแสดงอันทรงเกียรติในสถาบันดนตรีของนอร์เวย์
พระองค์ทรงเป็นช่างภาพผู้กระตือรือร้นมาอย่างยาวนาน และทรงมีความสนพระราชหฤทัยอย่างมากในศิลปะ พระองค์ทรงเป็นศิลปินภาพพิมพ์ และทรงจัดนิทรรศการร่วมกับศิลปินคเยลล์ นูเพน และเอิร์นูลฟ์ อ็อปดาล ในปี ค.ศ. 2011 และ ค.ศ. 2013
สมเด็จพระราชินีซอนยาในกรุงสต็อกโฮล์ม ในงานอภิเษกสมรสของเจ้าชายคาร์ล ฟิลิป ในปี ค.ศ. 2015
รางวัลศิลปะนอร์ดิกสมเด็จพระราชินีซอนยา (Queen Sonja Nordic Art Awardควีนซอนยา นอร์ดิก อาร์ต อวอร์ดภาษาอังกฤษ) ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2011 โดยมีทีนา คิวิเน็น จากฟินแลนด์ เป็นผู้ได้รับรางวัลคนแรกในปี ค.ศ. 2012 รางวัลนี้จะมอบให้ทุกสองปี
ในปี ค.ศ. 2017 ได้มีการเปิดโรงม้าศิลปะสมเด็จพระราชินีซอนยา (The Queen Sonja Art Stable) ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับศิลปะและวัฒนธรรม ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีและสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ทรงพยายามจัดตั้งพิพิธภัณฑ์พระราชวังในกรุงออสโล
ในปี ค.ศ. 2005 สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงเป็นสมเด็จพระราชินีพระองค์แรกที่เสด็จพระราชดำเนินเยือนทวีปแอนตาร์กติกา พระองค์ทรงเสด็จฯ ไปยังที่นั่นเพื่อทรงเปิดสถานีวิจัยทรอลล์ (Troll research station) ของนอร์เวย์ ในดินแดนควีนม็อดแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนในความอุปถัมภ์ของนอร์เวย์ในทวีปแอนตาร์กติกา สมเด็จพระราชินีทรงประทับเครื่องบินขนส่งทางทหารแบบซี-130 เฮอร์คิวลิส ของกองทัพอากาศนอร์เวย์ โดยทรงลงจอดที่สนามบินทรอลล์
ในปี ค.ศ. 2017 สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงได้รับรางวัล Trysil-Knut Prize ซึ่งทำให้พระองค์เป็นสตรีพระองค์แรกที่ได้รับรางวัลนี้
สมเด็จพระราชินีทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพลเรือจัตวาในราชนาวีนอร์เวย์ และพลจัตวาในกองทัพบกนอร์เวย์ พระองค์ทรงผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ระดับพื้นฐาน และทรงเข้าร่วมการฝึกซ้อมต่างๆ
เมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 2021 สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงฉลองการเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ครบ 30 ปี
สมเด็จพระราชินีทรงเป็นนักเดินป่าผู้กระตือรือร้น และสิ่งนี้ได้รับการเฉลิมฉลองด้วยการเปิดตัวประติมากรรมที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญจากสมาคมเดินป่านอร์เวย์ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพครบ 80 พรรษาของพระองค์
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2025 สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลิลเลอฮัมเมอร์เพื่อสังเกตอาการ หลังจากทรงมีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วระหว่างการเสด็จฯ ไปเล่นสกี พระองค์ทรงเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยออสโลเมื่อวันที่ 16 มกราคม เพื่อฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ
ในปี ค.ศ. 2025 ได้มีการเผยแพร่ละครย้อนยุคเรื่อง The Commoner ทาง แอมะซอนไพรม์วิดีโอ ซึ่งเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของมกุฎราชกุมารฮารัลด์และซอนยา เฮรัลด์เซ็น เพื่อสิทธิในการอภิเษกสมรส ในเรื่องนี้ สมเด็จพระราชินีซอนยาแห่งนอร์เวย์ทรงรับบทโดยจีน่า แบร์นฮอฟต์ กอร์เวลล์
สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เหรียญรางวัล และปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทั้งในระดับชาติและนานาชาติมากมาย
ในปี ค.ศ. 1982 พระองค์ทรงได้รับรางวัลรางวัลผู้ลี้ภัยนานเซ็น และในปี ค.ศ. 2007 พระองค์ทรงได้รับเหรียญโฮลเมนคอลเลน ร่วมกับไซมอน อัมมันน์, ฟรอดด์ เอสติล, อ็อด-บยอร์น เฮลเมเซ็ต และสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์ พระสวามีของพระองค์
สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเฮริออต-วัตต์ในปี ค.ศ. 1994
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์รอยัลนอร์วีเจียนออร์เดอร์ออฟเซนต์โอลาฟ ชั้นมหาปรมาภรณ์พร้อมสายสร้อย
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์รอยัลนอร์วีเจียนออร์เดอร์ออฟเมอริต ชั้นมหาปรมาภรณ์
- เหรียญครบรอบหนึ่งศตวรรษแห่งราชวงศ์นอร์เวย์
- เหรียญครบรอบหนึ่งศตวรรษแห่งสมเด็จพระราชาธิบดีฮากุนที่ 7
- เหรียญที่ระลึกสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 วันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1991
- เหรียญครบรอบราชสมบัติสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 ค.ศ. 1957-1982
- เหรียญครบรอบหนึ่งศตวรรษแห่งสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5
- เหรียญครบรอบราชสมบัติสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 ค.ศ. 1991-2016
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ราชวงศ์แห่งสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 แห่งนอร์เวย์
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ราชวงศ์แห่งสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์
- เหรียญเกียรติยศสภากาชาดนอร์เวย์
- เหรียญนานเซ็น
- เหรียญเกียรติยศทองคำของสมาคมทหารออสโล
- อาร์เจนตินา: เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งเดือนพฤษภาคม ชั้นมหาปรมาภรณ์
- ออสเตรีย: เครื่องราชอิสริยาภรณ์เกียรติยศสำหรับบริการสาธารณรัฐออสเตรีย ชั้นดาราใหญ่ (ค.ศ. 1978)
- เบลเยียม: เครื่องราชอิสริยาภรณ์ลีโอโปลด์ ชั้นมหาปรมาภรณ์
- บราซิล: เครื่องราชอิสริยาภรณ์กางเขนใต้ ชั้นมหาปรมาภรณ์
- บัลแกเรีย: เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งเทือกเขาบอลข่าน ชั้นสายสะพาย
- ชิลี: เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งคุณธรรม ชั้นมหาปรมาภรณ์
- โครเอเชีย: เครื่องราชอิสริยาภรณ์ใหญ่แห่งสมเด็จพระราชินีเยเลนา (12 พฤษภาคม ค.ศ. 2011)
- เดนมาร์ก: เครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้าง ชั้นอัศวิน (12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1973)
- เอสโตเนีย: เครื่องราชอิสริยาภรณ์กางเขนแห่งเทร์รา มาเรียนา ชั้นที่ 1 (24 สิงหาคม ค.ศ. 1998)
- เอสโตเนีย: เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดาวขาว ชั้นที่ 1 (2 กันยายน ค.ศ. 2014)
- ฟินแลนด์: เครื่องราชอิสริยาภรณ์กุหลาบขาวแห่งฟินแลนด์ ชั้นผู้บัญชาการมหาปรมาภรณ์
- ฝรั่งเศส: เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งคุณธรรมแห่งชาติ ชั้นมหาปรมาภรณ์
- เยอรมนี: เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งคุณธรรมแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ชั้นมหาปรมาภรณ์พิเศษ
- กรีซ: เครื่องราชอิสริยาภรณ์พระผู้ไถ่ ชั้นมหาปรมาภรณ์
- ฮังการี: เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งคุณธรรมแห่งสาธารณรัฐฮังการี ชั้นมหาปรมาภรณ์
- ไอโอซี: ผู้ได้รับเหรียญโอลิมปิกทองคำ
- ไอซ์แลนด์: เครื่องราชอิสริยาภรณ์เหยี่ยว ชั้นมหาปรมาภรณ์ (21 ตุลาคม ค.ศ. 1981)
- อิตาลี: เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งคุณธรรมแห่งสาธารณรัฐอิตาลี ชั้นอัศวินมหาปรมาภรณ์ (19 ตุลาคม ค.ศ. 2001)
- ญี่ปุ่น: เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนมงกุฎ ชั้นมหาปรมาภรณ์ (พอลโลเนีย)
- จอร์แดน: เครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุดแห่งการฟื้นฟู (ออร์เดอร์ออฟอัล-นาห์ดา) ชั้นมหาปรมาภรณ์
- ลัตเวีย: เครื่องราชอิสริยาภรณ์สามดาว ชั้นผู้บัญชาการมหาปรมาภรณ์ (2 กันยายน ค.ศ. 1998)
- ลัตเวีย: ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งการยอมรับ ชั้นที่ 1 (12 มีนาคม ค.ศ. 2015)
- ลิทัวเนีย: เครื่องราชอิสริยาภรณ์วิทอทัสผู้ยิ่งใหญ่ ชั้นมหาปรมาภรณ์ (3 กันยายน ค.ศ. 1998)
- ลักเซมเบิร์ก: เครื่องราชอิสริยาภรณ์อดอล์ฟแห่งนัสเซา ชั้นมหาปรมาภรณ์
- ลักเซมเบิร์ก: เครื่องราชอิสริยาภรณ์ราชสีห์ทองแห่งราชวงศ์นัสเซา ชั้นอัศวิน
- เนเธอร์แลนด์: เครื่องราชอิสริยาภรณ์ราชสีห์เนเธอร์แลนด์ ชั้นอัศวินมหาปรมาภรณ์
- เนเธอร์แลนด์: เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎ ชั้นมหาปรมาภรณ์
- เนเธอร์แลนด์: ผู้ได้รับเหรียญการเข้ารับตำแหน่งของสมเด็จพระราชินีเบียทริกซ์
- โปแลนด์: เครื่องราชอิสริยาภรณ์อินทรีขาว ชั้นอัศวิน
- โปรตุเกส: เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งคุณธรรมแห่งโปรตุเกส ชั้นมหาปรมาภรณ์ (2 มกราคม ค.ศ. 1981)
- โปรตุเกส: เครื่องราชอิสริยาภรณ์เจ้าชายเฮนรี ชั้นมหาปรมาภรณ์ (13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004)
- โปรตุเกส: เครื่องราชอิสริยาภรณ์พระคริสต์ ชั้นมหาปรมาภรณ์ (26 พฤษภาคม ค.ศ. 2008)
- สโลวาเกีย: เครื่องราชอิสริยาภรณ์กางเขนคู่ขาว ชั้นที่ 2 (ค.ศ. 2010)
- สโลวีเนีย: เครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับคุณูปการพิเศษ (ค.ศ. 2011)
- เกาหลีใต้: เครื่องราชอิสริยาภรณ์คุณธรรมทางการทูต ชั้นที่ 1 (เหรียญควังฮวาใหญ่)
- สเปน: เครื่องราชอิสริยาภรณ์คาร์ลอสที่ 3 ชั้นสุภาพสตรีมหาปรมาภรณ์ (21 เมษายน ค.ศ. 1995)
- สเปน: เครื่องราชอิสริยาภรณ์อิซาเบลลาแห่งคาทอลิก ชั้นสุภาพสตรีมหาปรมาภรณ์ (12 เมษายน ค.ศ. 1982)
- สวีเดน: เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซราฟิม ชั้นอัศวิน
- สวีเดน: ผู้ได้รับเหรียญตราฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพครบ 50 พรรษาของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ (30 เมษายน ค.ศ. 1996)
- สวีเดน: ผู้ได้รับเหรียญตราฉลองวันครบรอบราชสมบัติรูบี้ของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ (15 กันยายน ค.ศ. 2013)
- สวีเดน: ผู้ได้รับเหรียญตราฉลองวันครบรอบราชสมบัติทองคำของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ (15 กันยายน ค.ศ. 2023)
สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงได้รับการประเมินว่าเป็นบุคคลสำคัญที่มีผลกระทบเชิงบวกอย่างมากต่อสังคมและสถาบันพระมหากษัตริย์นอร์เวย์ การที่พระองค์ทรงเป็นสามัญชนที่อภิเษกสมรสกับมกุฎราชกุมารฮารัลด์ และทรงได้รับพระบรมราชานุญาตในที่สุด ได้แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป และเป็นการเปิดทางให้ราชวงศ์มีความใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้น
พระราชกรณียกิจของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการกุศล การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส และการส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรม ได้สร้างคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อสังคมนอร์เวย์ พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของการอุทิศตนเพื่อสาธารณประโยชน์ และทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ความสนพระราชหฤทัยส่วนพระองค์ในด้านศิลปะและการเดินป่า ยังช่วยให้สาธารณชนได้เห็นถึงพระราชอัธยาศัยที่เข้าถึงง่ายและเป็นกันเอง ซึ่งยิ่งเสริมสร้างความนิยมและความเคารพที่ประชาชนมีต่อพระองค์และราชวงศ์นอร์เวย์
ตราประจำพระองค์ของสมเด็จพระราชินีซอนยาแห่งนอร์เวย์
โมโนแกรมประจำพระองค์ของสมเด็จพระราชินีซอนยาแห่งนอร์เวย์สมเด็จพระราชินีซอนยาทรงมีตราประจำพระองค์ (Coat of Arms) และโมโนแกรมประจำพระองค์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ส่วนพระองค์ที่ใช้ในการแสดงพระยศและพระเกียรติยศ ตราประจำพระองค์มักจะรวมองค์ประกอบของตราประจำชาติเข้ากับสัญลักษณ์ส่วนพระองค์ ส่วนโมโนแกรมเป็นอักษรย่อพระนามของพระองค์ที่ออกแบบอย่างงดงาม
---|