1. ภาพรวม
สาธารณรัฐมอลโดวาเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันออก มีอาณาเขตทางตะวันตกติดกับประเทศโรมาเนีย และทางเหนือ ตะวันออก และใต้ติดกับประเทศยูเครน เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือกรุงคีชีเนา ดินแดนส่วนใหญ่ของมอลโดวาในปัจจุบันเคยเป็นส่วนหนึ่งของราชรัฐมอลเดเวียตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ก่อนจะถูกผนวกเข้ากับจักรวรรดิรัสเซียในปี 1812 และกลายเป็นที่รู้จักในชื่อเบสซาเรเบีย หลังจากการการปฏิวัติรัสเซียในปี 1917 เบสซาเรเบียได้ประกาศตนเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยมอลเดเวีย ก่อนจะรวมเข้ากับราชอาณาจักรโรมาเนียในปี 1918 ต่อมาในปี 1940 สหภาพโซเวียตได้เข้ายึดครองเบสซาเรเบียและก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวีย (MSSR) ซึ่งดำเนินนโยบายสังคมนิยมและการทำให้เป็นรัสเซียอย่างเข้มข้น
มอลโดวาประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 1991 แต่ต้องเผชิญกับสงครามทรานส์นีสเตรียในปี 1992 ซึ่งส่งผลให้ภูมิภาคทรานส์นีสเตรียทางตะวันออกของแม่น้ำนีสเตอร์อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลแบ่งแยกดินแดนที่ไม่ได้รับการรับรองในระดับสากل มอลโดวาปกครองในระบอบสาธารณรัฐแบบรัฐสภา มีประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐและนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีไมอา ซานดู ในปี 2020 มอลโดวาได้ดำเนินนโยบายมุ่งสู่การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างแข็งขัน และได้รับสถานะผู้สมัครสมาชิกในเดือนมิถุนายน 2022 โดยเริ่มการเจรจาเข้าเป็นสมาชิกในเดือนธันวาคม 2023 การการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียในปี 2022 ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อมอลโดวา ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการรับผู้ลี้ภัย
เศรษฐกิจของมอลโดวาพึ่งพาภาคบริการและการเกษตรเป็นหลัก โดยเป็นที่รู้จักในด้านการผลิตไวน์ อย่างไรก็ตาม มอลโดวาเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในยุโรปเมื่อวัดจากGDP ต่อหัว และเผชิญกับความท้าทายด้านประชากรจากการย้ายถิ่นออกนอกประเทศในอัตราที่สูง สังคมและวัฒนธรรมของมอลโดวามีรากฐานมาจากอิทธิพลโรมาเนีย ผสมผสานกับวัฒนธรรมสลาฟและอิทธิพลอื่น ๆ จากภูมิภาคโดยรอบ ภาษาโรมาเนียเป็นภาษาราชการ และประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ บทความนี้จะสำรวจมอลโดวาในมิติต่าง ๆ โดยสะท้อนมุมมองแบบศูนย์ซ้ายถึงเสรีนิยมทางสังคม โดยให้ความสำคัญกับประเด็นประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และผลกระทบต่อประชาชน
2. ชื่อประเทศ
ชื่อ มอลโดวา (Moldovaมอลดอวาภาษาโรมาเนีย) มีที่มาจากแม่น้ำมอลโดวา (Râul Moldovaภาษาโรมาเนีย) หุบเขาของแม่น้ำสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการเมืองในสมัยก่อตั้งราชรัฐมอลเดเวีย (Principatul Moldoveiภาษาโรมาเนีย) ในปี ค.ศ. 1359 ที่มาของชื่อแม่น้ำยังคงไม่ชัดเจน ตามตำนานที่เล่าขานโดยนักพงศาวดารมอลเดเวีย ดิมิตรีเอ กันเตมีร์ (Dimitrie Cantemirภาษาโรมาเนีย) และ กริกอเร อูเรเก (Grigore Urecheภาษาโรมาเนีย) เจ้าชายดรากอช วอเด (Dragoșภาษาโรมาเนีย) ผู้ก่อตั้งราชรัฐมอลเดเวีย ได้ตั้งชื่อแม่น้ำตามการล่ากระทิงออรอกซ์ (aurochsภาษาอังกฤษ) ครั้งหนึ่ง หลังจากการไล่ล่า สุนัขล่าเนื้อของเจ้าชายชื่อ มอลดา (Moldaภาษาโรมาเนีย) ซึ่งเหนื่อยล้าได้จมน้ำตายในแม่น้ำ ชื่อของสุนัขจึงถูกนำมาตั้งเป็นชื่อแม่น้ำ และต่อมาได้ขยายไปใช้เรียกชื่อราชรัฐด้วย
ในช่วงสั้น ๆ ในคริสต์ทศวรรษ 1990 เมื่อมีการก่อตั้งเครือรัฐเอกราช (CIS) ชื่อของสาธารณรัฐมอลโดวาในปัจจุบันเคยถูกสะกดว่า มอลเดเวีย (Moldaviaภาษาอังกฤษ) ด้วย หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ประเทศเริ่มใช้ชื่อในภาษาโรมาเนียคือ มอลโดวา (Moldovaภาษาโรมาเนีย) อย่างเป็นทางการ ชื่อ สาธารณรัฐมอลโดวา (Republica Moldovaภาษาโรมาเนีย) ได้รับการกำหนดโดยสหประชาชาติ
3. ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ของมอลโดวาครอบคลุมวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ จักรวรรดิโบราณและยุคกลาง ตลอดจนช่วงเวลาของการปกครองจากต่างชาติและความเป็นเอกราชในยุคปัจจุบัน ภูมิภาคนี้เป็นทางผ่านและได้รับอิทธิพลจากหลากหลายอารยธรรม ส่งผลให้มีประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนและหลากหลาย
3.1. ยุคโบราณและยุคกลาง

หลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในภูมิภาคนี้ย้อนกลับไปได้ถึง 800,000-1.2 ล้านปี มีการพัฒนาที่สำคัญด้านเกษตรกรรม เครื่องปั้นดินเผา และการตั้งถิ่นฐานในช่วงยุคหินใหม่และยุคสัมริด วัฒนธรรมยุคหินใหม่ที่สำคัญคือวัฒนธรรมกูกูเตน-ตรีปิลเลีย (ประมาณ 5500-2750 ปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งเป็นที่รู้จักจากเครื่องปั้นดินเผาที่สวยงามและการตั้งถิ่นฐานขนาดใหญ่
ในสมัยโบราณ ดินแดนที่เป็นมอลโดวาในปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยของชาวดาเซียน (Daciansภาษาอังกฤษ) และด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ทำให้เป็นทางผ่านของการรุกรานจากชนเผ่าต่าง ๆ เช่น ชาวซิทเธียน (Scythiansภาษาอังกฤษ) ชาวกอท (Gothsภาษาอังกฤษ) ชาวฮัน (Hunsภาษาอังกฤษ) และชนเผ่าอื่น ๆ ต่อมาภูมิภาคนี้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรวรรดิโรมันและจักรวรรดิไบแซนไทน์
ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1350 ราชรัฐมอลเดเวีย (Principatul Moldoveiภาษาโรมาเนีย) ได้ก่อตั้งขึ้น ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของรัฐมอลโดวาและโรมาเนียในยุคปัจจุบัน ราชรัฐนี้เจริญรุ่งเรืองภายใต้การปกครองของผู้นำอย่างชเตฟันมหาราช (Ștefan cel Mareภาษาโรมาเนีย) ซึ่งปกครองระหว่างปี 1457 ถึง 1504 และเป็นที่รู้จักจากการต่อต้านการรุกรานของจักรวรรดิออตโตมัน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 1538 (บางแหล่งระบุ 1512) มอลเดเวียได้กลายเป็นรัฐบรรณาการของจักรวรรดิออตโตมัน โดยยังคงมีเอกราชภายในระดับหนึ่ง จนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19
3.2. สมัยจักรวรรดิรัสเซียและราชอาณาจักรโรมาเนีย
ในปี 1812 หลังสงครามรัสเซีย-ตุรกี (1806-1812) จักรวรรดิออตโตมันได้ยกดินแดนทางตะวันออกของราชรัฐมอลเดเวีย หรือที่เรียกว่าเบสซาเรเบีย (Bessarabiaภาษาอังกฤษ) ให้กับจักรวรรดิรัสเซียตามสนธิสัญญาบูคาเรสต์ เหตุการณ์นี้เป็นการเริ่มต้นอิทธิพลของรัสเซียในภูมิภาค ภายใต้การปกครองของรัสเซีย เบสซาเรเบียได้เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม รวมถึงนโยบายการทำให้เป็นรัสเซีย (Russificationภาษาอังกฤษ)
ในปี 1856 หลังสงครามไครเมีย เบสซาเรเบียตอนใต้ได้ถูกคืนให้กับมอลเดเวีย ซึ่งในอีกสามปีต่อมา (1859) ได้รวมกับราชรัฐวาลากียา (Wallachiaภาษาอังกฤษ) เพื่อก่อตั้งเป็นสหราชรัฐโรมาเนีย อย่างไรก็ตาม ในปี 1878 รัสเซียได้กลับมามีอำนาจเหนือเบสซาเรเบียทั้งหมดอีกครั้ง
ในช่วงการปฏิวัติรัสเซียปี 1917 เบสซาเรเบียได้กลายเป็นรัฐปกครองตนเองในชื่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยมอลเดเวีย (Republica Democratică Moldoveneascăภาษาโรมาเนีย) ภายในสหพันธ์สาธารณรัฐรัสเซีย ในเดือนกุมภาพันธ์ 1918 สาธารณรัฐประชาธิปไตยมอลเดเวียได้ประกาศเอกราช และต่อมาในปีเดียวกัน หลังจากการลงมติของสภาแห่งชาติ (Sfatul Țăriiภาษาโรมาเนีย) ก็ได้รวมเข้ากับราชอาณาจักรโรมาเนีย การตัดสินใจนี้ถูกโต้แย้งโดยรัสเซียโซเวียต
3.3. สมัยโซเวียต
สหภาพโซเวียตไม่ยอมรับการรวมเบสซาเรเบียเข้ากับโรมาเนีย และในปี 1924 ได้จัดตั้งสาธารณรัฐปกครองตนเองสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวีย (Moldavian Autonomous Soviet Socialist Republicภาษาอังกฤษ, MASSR) ขึ้นภายในสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตยูเครน บนดินแดนทางตะวันออกของเบสซาเรเบีย (ทรานส์นีสเตรียในปัจจุบัน) ซึ่งมีประชากรชาวมอลโดวาอาศัยอยู่บางส่วน
ในปี 1940 ผลจากกติกาสัญญาโมโลตอฟ-ริบเบนทรอพ สหภาพโซเวียตได้บีบบังคับให้โรมาเนียยกเบสซาเรเบียและบูโควีนาเหนือให้แก่สหภาพโซเวียต นำไปสู่การก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวีย (Moldavian Soviet Socialist Republicภาษาอังกฤษ, MSSR) ซึ่งประกอบด้วยดินแดนส่วนใหญ่ของเบสซาเรเบียและส่วนตะวันตกของ MASSR เดิม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โรมาเนียซึ่งเป็นพันธมิตรกับฝ่ายอักษะได้ยึดครองดินแดนนี้คืนเป็นการชั่วคราวระหว่างปี 1941 ถึง 1944 ก่อนที่กองทัพโซเวียตจะยึดกลับคืนได้
ภายใต้การปกครองของโซเวียตหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มอลโดวาเผชิญกับนโยบายสังคมนิยม การรวมกลุ่มเกษตรกรรม (collectivizationภาษาอังกฤษ) การพัฒนาอุตสาหกรรม (โดยเฉพาะในทรานส์นีสเตรีย) และนโยบายการทำให้เป็นรัสเซียอย่างเข้มข้น ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมภาษารัสเซียและอักษรซีริลลิกสำหรับภาษามอลโดวา (โรมาเนีย) นอกจากนี้ยังมีการเนรเทศชาวมอลโดวาจำนวนมากไปยังส่วนอื่น ๆ ของสหภาพโซเวียต และมีการอพยพของชาวรัสเซียและชาวยูเครนเข้ามาตั้งถิ่นฐานแทน การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็มาพร้อมกับการกดขี่ทางการเมืองและวัฒนธรรม
ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1980 ภายใต้นโยบายกลัสนอสต์และเปเรสตรอยคาของมีฮาอิล กอร์บาชอฟ ได้เกิดขบวนการชาตินิยมขึ้นในมอลโดวา มีการเรียกร้องให้ใช้ภาษาโรมาเนีย (ซึ่งขณะนั้นเรียกว่าภาษามอลโดวา) เป็นภาษาราชการและกลับไปใช้อักษรละติน
3.4. การประกาศอิสรภาพและยุคปัจจุบัน
ในขณะที่สหภาพโซเวียตกำลังล่มสลาย สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวีย (MSSR) ได้ประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 1991 และเปลี่ยนชื่อเป็นสาธารณรัฐมอลโดวา ประธานาธิบดีคนแรกคือนายมีร์เชีย สเนกูร์ (Mircea Snegurภาษาโรมาเนีย) อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคทรานส์นีสเตรีย (Transnistriaภาษาอังกฤษ) ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซียและชาวยูเครน และมีความผูกพันทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมกับรัสเซีย ได้ประกาศแยกตัวออกจากมอลโดวาตั้งแต่ปี 1990 และไม่ยอมรับเอกราชของมอลโดวา
ความตึงเครียดนี้นำไปสู่สงครามทรานส์นีสเตรียในปี 1992 ซึ่งจบลงด้วยการหยุดยิงโดยการแทรกแซงของรัสเซีย ส่งผลให้ทรานส์นีสเตรียกลายเป็นรัฐแบ่งแยกดินแดนที่ควบคุมตนเองโดยพฤตินัย โดยมีกองกำลังรักษาสันติภาพของรัสเซียประจำการอยู่จนถึงปัจจุบัน สถานะของทรานส์นีสเตรียยังคงเป็นประเด็นขัดแย้งที่สำคัญ
มอลโดวาได้รับรองรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในปี 1994 ซึ่งกำหนดให้ประเทศเป็นสาธารณรัฐแบบรัฐสภา ในปีเดียวกันนั้น ได้มีการลงประชามติซึ่งปฏิเสธการรวมชาติกับโรมาเนีย และภูมิภาคกากาอูซียา (Gagauziaภาษาอังกฤษ) ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวกากาอุซซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เติร์กที่นับถือศาสนาคริสต์ออร์ทอดอกซ์ ก็ได้รับสถานะปกครองตนเอง
ช่วงหลังประกาศเอกราช มอลโดวาเผชิญกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจอย่างหนักจากการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบตลาดเสรี การเมืองภายในประเทศมีความแตกแยกระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียและกลุ่มที่ต้องการรวมเข้ากับยุโรปตะวันตกและสหภาพยุโรป รัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งสาธารณรัฐมอลโดวา (Party of Communists of the Republic of Moldovaภาษาอังกฤษ) ภายใต้การนำของวลาดิมีร์ โวโรนิน (Vladimir Voroninภาษาโรมาเนีย) เคยขึ้นสู่อำนาจในช่วงปี 2001-2009 ก่อนที่จะตามมาด้วยรัฐบาลผสมที่สนับสนุนยุโรปหลายชุด เหตุการณ์สำคัญรวมถึงเรื่องอื้อฉาวการทุจริตในภาคธนาคารปี 2014 ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน
3.4.1. สถานการณ์ตั้งแต่ทศวรรษ 2020
ในช่วงต้นทศวรรษ 2020 การเมืองมอลโดวามีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 ซึ่งไมอา ซานดู (Maia Sanduภาษาโรมาเนีย) ผู้มีแนวทางสนับสนุนยุโรปและต่อต้านการทุจริต ได้รับชัยชนะ กลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ ต่อมาในปี 2021 พรรคกิจการและความเป็นปึกแผ่น (Party of Action and Solidarityภาษาอังกฤษ, PAS) ของเธอได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งรัฐสภาก่อนกำหนด ทำให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมากที่สนับสนุนยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี โดยมีนาตาเลีย กาฟริลิตซา (Natalia Gavrilițaภาษาโรมาเนีย) และต่อมาคือโดริน เรซาน (Dorin Receanภาษาโรมาเนีย) ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
การการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อมอลโดวา ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครน มอลโดวาต้องรับมือกับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนจำนวนมาก เผชิญกับวิกฤตพลังงานเนื่องจากการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียและราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงความท้าทายด้านความมั่นคงจากความเป็นไปได้ที่สงครามจะลุกลาม และเหตุการณ์ขีปนาวุธรัสเซียล่วงล้ำน่านฟ้า ผู้นำมอลโดวาได้ประณามการรุกรานของรัสเซียอย่างรุนแรง
ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว มอลโดวาได้เร่งกระบวนการรวมเข้ากับสหภาพยุโรป โดยได้ยื่นขอสมัครเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2022 และได้รับสถานะประเทศผู้สมัครสมาชิก (candidate statusภาษาอังกฤษ) ในวันที่ 23 มิถุนายน 2022 พร้อมกับยูเครน ในเดือนธันวาคม 2023 ผู้นำสหภาพยุโรปได้ตกลงที่จะเริ่มการเจรจาเพื่อรับมอลโดวาเข้าเป็นสมาชิก โดยมอลโดวาตั้งเป้าที่จะเข้าเป็นสมาชิกภายในปี 2030 ในเดือนตุลาคม 2024 ได้มีการจัดประชามติระดับชาติซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบแนวทางการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป แม้จะมีข้อกล่าวหาเรื่องการแทรกแซงจากรัสเซีย และในเดือนพฤศจิกายน 2024 ประธานาธิบดีไมอา ซานดู ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง
นโยบายต่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่การกระชับความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรปและพันธมิตรตะวันตกมากขึ้น มีการหารือเกี่ยวกับสถานะความเป็นกลางของประเทศและความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับนาโต (NATO) อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการเพื่อลดอิทธิพลของรัสเซีย เช่น การจำกัดสื่อที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ และการขับไล่นักการทูตรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม มอลโดวายังคงเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ เช่น การทุจริตคอร์รัปชัน การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ความเปราะบางทางเศรษฐกิจ ปัญหาทรานส์นีสเตรียที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และความตึงเครียงในเขตกากาอูซียา
4. การเมือง
สาธารณรัฐมอลโดวาเป็นสาธารณรัฐตามรัฐธรรมนูญที่มีระบบรัฐสภาแบบสภาเดียวและการเลือกตั้งแบบหลายพรรคการเมืองที่มีการแข่งขันสูง รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการที่เป็นอิสระ โดยมีการแบ่งแยกอำนาจที่ชัดเจน
4.1. โครงสร้างรัฐบาล


มอลโดวาเป็นรัฐเดี่ยวที่มีระบบการปกครองแบบรัฐสภาและประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน
- รัฐธรรมนูญ: รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐมอลโดวาปี 1994 เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ กำหนดกรอบการทำงานของรัฐบาลและการแบ่งแยกอำนาจ การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องได้รับเสียงข้างมากอย่างน้อยสองในสามของสมาชิกรัฐสภา และการแก้ไขที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตย เอกราช หรือความเป็นเอกภาพของรัฐจะต้องผ่านการลงประชามติ
- ประธานาธิบดี: เป็นประมุขแห่งรัฐ ได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนในระบบสองรอบ (ตั้งแต่ปี 2016 ก่อนหน้านั้นมาจากการเลือกตั้งในรัฐสภาช่วงปี 2001-2015) ดำรงตำแหน่งวาระ 4 ปี และสามารถดำรงตำแหน่งได้ไม่เกินสองวาระ ประธานาธิบดีมีอำนาจในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดีคนปัจจุบันคือ ไมอา ซานดู (Maia Sanduภาษาโรมาเนีย)
- นายกรัฐมนตรี: เป็นหัวหน้ารัฐบาล ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีโดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา นายกรัฐมนตรีเป็นผู้จัดตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาเช่นกัน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคือ โดริน เรซาน (Dorin Receanภาษาโรมาเนีย)
- รัฐสภา (Parlamentul Republicii Moldovaภาษาโรมาเนีย): เป็นองค์กรนิติบัญญัติระบบสภาเดียว ประกอบด้วยสมาชิก 101 คน ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนในระบบบัญชีรายชื่อตามสัดส่วน ดำรงตำแหน่งวาระ 4 ปี ประธานรัฐสภาคนปัจจุบันคือ อีกอร์ โกรซู (Igor Grosuภาษาโรมาเนีย)
- คณะรัฐมนตรี (Guvernulภาษาโรมาเนีย): เป็นองค์กรฝ่ายบริหาร นำโดยนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบต่อรัฐสภา
- ฝ่ายตุลาการ: เป็นอิสระ ประกอบด้วยศาลยุติธรรมสูงสุด (Curtea Supremă de Justițieภาษาโรมาเนีย) และศาลอื่น ๆ
- ศาลรัฐธรรมนูญ (Curtea Constituționalăภาษาโรมาเนีย): ประกอบด้วยผู้พิพากษา 6 คน (2 คนแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี, 2 คนโดยรัฐสภา, และ 2 คนโดยสภาผู้พิพากษาสูงสุด) ดำรงตำแหน่งวาระ 6 ปี มีอำนาจในการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย กฤษฎีกาประธานาธิบดี และสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
การเลือกตั้งรัฐสภาก่อนกำหนดในปี 2021 ผู้สังเกตการณ์จากองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ประเมินว่าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย มีการแข่งขัน และเสรีภาพขั้นพื้นฐานส่วนใหญ่ได้รับการเคารพ พรรคกิจการและความเป็นปึกแผ่น (PAS) ได้รับชัยชนะด้วยที่นั่ง 63 ที่นั่งในรัฐสภา ทำให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากพรรคเดียวได้
4.2. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

หลังจากได้รับเอกราชจากสหภาพโซเวียต นโยบายต่างประเทศของมอลโดวาได้รับการออกแบบโดยมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศยุโรปอื่น ๆ ความเป็นกลาง และการรวมกลุ่มกับสหภาพยุโรป
มอลโดวาเป็นสมาชิกขององค์การระหว่างประเทศที่สำคัญหลายแห่ง ได้แก่
- สหประชาชาติ (UN) (ตั้งแต่ปี 1992)
- สภายุโรป (Council of Europe, CoE) (ตั้งแต่ปี 1995)
- องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE)
- องค์การการค้าโลก (WTO) (ตั้งแต่ปี 2001)
- องค์การเพื่อประชาธิปไตยและการพัฒนาเศรษฐกิจกวม (GUAM)
- องค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจในทะเลดำ (BSEC)
- เครือรัฐเอกราช (CIS) (เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง แต่ได้ระงับการมีส่วนร่วมและกำลังถอนตัวออกจากข้อตกลงต่าง ๆ ของ CIS ตั้งแต่ปี 2023 เนื่องจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย)
- โครงการหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพ (Partnership for Peace, PfP) ของนาโต (NATO) (ตั้งแต่ปี 1994)
- องค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation internationale de la Francophonie)
- ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC)
นโยบายความเป็นกลางถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ภายหลังการการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียในปี 2022 ประธานาธิบดีซานดูได้จุดประเด็นการหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการกระชับความสัมพันธ์กับนาโต หรือแม้กระทั่งการละทิ้งความเป็นกลางหากจำเป็นเพื่อความมั่นคงของประเทศ
ประเด็นความขัดแย้งในทรานส์นีสเตรียเป็นความท้าทายที่สำคัญในนโยบายต่างประเทศ มอลโดวาพยายามหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติ โดยทำงานร่วมกับโรมาเนีย ยูเครน รัสเซีย และเรียกร้องให้มีการไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศ รวมถึงร่วมมือกับภารกิจค้นหาข้อเท็จจริงและสังเกตการณ์ของ OSCE และ UN มอลโดวายืนกรานเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารที่ประจำการอยู่ในภูมิภาคที่แบ่งแยกดินแดนนี้ "อย่างสมบูรณ์และไม่มีเงื่อนไข"
ภารกิจให้ความช่วยเหลือชายแดนของสหภาพยุโรปในมอลโดวาและยูเครน (EUBAM) ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 ตามคำร้องขอร่วมกันของประธานาธิบดีมอลโดวาและยูเครน เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลทั้งสองประเทศในการปรับปรุงขั้นตอนการจัดการชายแดนและศุลกากรให้สอดคล้องกับมาตรฐานของสหภาพยุโรป และสนับสนุนการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ
มอลโดวาได้รับความช่วยเหลือทางการเงินและทางเทคนิคจำนวนมากจากสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา โรมาเนีย กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการรุกรานยูเครนของรัสเซียในปี 2022 นโยบายต่างประเทศของมอลโดวาสะท้อนคุณค่าประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และการสนับสนุนยูเครนในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
4.2.1. ความสัมพันธ์กับรัสเซีย
ความสัมพันธ์ระหว่างมอลโดวาและรัสเซียมีประวัติศาสตร์ยาวนานและซับซ้อน โดยได้รับอิทธิพลจากการที่มอลโดวาเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซียและสหภาพโซเวียต
- บริบททางประวัติศาสตร์: ความสัมพันธ์หยั่งรากลึกตั้งแต่สมัยจักรวรรดิรัสเซียผนวกเบสซาเรเบียในปี 1812 และต่อเนื่องมาถึงสมัยโซเวียต ซึ่งมอลโดวาเป็นสาธารณรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต
- ประเด็นทางการเมือง:
- ความขัดแย้งทรานส์นีสเตรีย: เป็นประเด็นสำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ รัสเซียให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในทรานส์นีสเตรีย และยังคงมีกำลังทหาร (กลุ่มปฏิบัติการกองกำลังรัสเซีย, OGRF) ประจำการอยู่ในภูมิภาคดังกล่าว แม้ว่ามอลโดวาจะเรียกร้องให้ถอนทหารมาโดยตลอด รัสเซียยังเป็นผู้เล่นหลักในกระบวนการเจรจาสันติภาพ (รูปแบบ 5+2) ซึ่งปัจจุบันหยุดชะงักไป
- อิทธิพลของรัสเซีย: มีข้อกล่าวหาว่ารัสเซียพยายามแทรกแซงการเมืองภายในของมอลโดวา ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองและกลุ่มบุคคลที่นิยมรัสเซีย (เช่น อิลัน ชอร์) ดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการบ่อนทำลายเสถียรภาพของประเทศ (เช่น ข้อกล่าวหาจากประธานาธิบดีซานดูในปี 2023) เอกสารที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นของFSB รัสเซียในปี 2021 เปิดเผยแผนการ 10 ปีเพื่อบ่อนทำลายมอลโดวา
- การเมืองด้านพลังงาน: ในอดีต มอลโดวาพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย (ก๊าซพรอม) อย่างมาก ทำให้รัสเซียสามารถใช้พลังงานเป็นเครื่องมือสร้างแรงกดดันทางการเมืองได้ ปัจจุบันมอลโดวากำลังพยายามหาแหล่งพลังงานที่หลากหลายมากขึ้น
- ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ: รัสเซียเคยเป็นคู่ค้าที่สำคัญของมอลโดวา แต่สัดส่วนลดลงเมื่อมอลโดวาหันไปกระชับความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรปมากขึ้น การส่งเงินกลับประเทศของชาวมอลโดวาที่ทำงานในรัสเซียก็เป็นปัจจัยหนึ่ง นอกจากนี้ รัสเซียเคยสั่งห้ามนำเข้าไวน์และสินค้าเกษตรของมอลโดวาหลายครั้งเพื่อตอบโต้ทางการเมือง
- ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน (2022):
- มอลโดวาประณามการรุกรานของรัสเซียอย่างรุนแรง
- ความสัมพันธ์ทวิภาคีเสื่อมถอยลง: มอลโดวาปรับนโยบายให้สอดคล้องกับการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปต่อรัสเซีย มีการขับไล่นักการทูตรัสเซีย (เช่น กรณีข้อกล่าวหาจารกรรมในเดือนกรกฎาคม 2023) และหน่วยข่าวกรองและความมั่นคง (SIS) ของมอลโดวาได้ยุติความร่วมมือกับ FSB ของรัสเซีย
- มอลโดวาถอนตัวออกจากข้อตกลงของเครือรัฐเอกราช (CIS) และลดการมีส่วนร่วมในองค์กรดังกล่าว
- รัสเซียยกเลิกกฤษฎีกาปี 2012 ที่รับรองอธิปไตยของมอลโดวาในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งมอลโดวามองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตร
- บทบาทของคริสตจักรรัสเซียออร์ทอดอกซ์: คริสตจักรรัสเซียออร์ทอดอกซ์ถูกมองว่ามีบทบาทในการขยายอิทธิพลของรัสเซียในมอลโดวา
4.2.2. ความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป
การรวมกลุ่มกับสหภาพยุโรป (EU) เป็นเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญในนโยบายต่างประเทศของมอลโดวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้รัฐบาลที่สนับสนุนยุโรป
- ข้อตกลงสำคัญ:
- ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปและมอลโดวา (EU-Moldova Association Agreement): ลงนามเมื่อเดือนมิถุนายน 2014 และมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ในเดือนกรกฎาคม 2016 ข้อตกลงนี้รวมถึงเขตการค้าเสรีเชิงลึกและครอบคลุม (Deep and Comprehensive Free Trade Area, DCFTA) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อค่อย ๆ รวมมอลโดวาเข้ากับตลาดเดียวของสหภาพยุโรป
- การยกเว้นวีซ่า: พลเมืองมอลโดวาที่มีหนังสือเดินทางไบโอเมตริกสามารถเดินทางไปยังพื้นที่เชงเกนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าตั้งแต่เดือนเมษายน 2014
- เส้นทางการเป็นสมาชิก:
- 3 มีนาคม 2022: มอลโดวายื่นขอสมัครเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ หลังจากการการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย
- 23 มิถุนายน 2022: ได้รับสถานะประเทศผู้สมัครสมาชิก (candidate status) จากสหภาพยุโรป
- 14 ธันวาคม 2023: สภายุโรปตัดสินใจเริ่มการเจรจาเพื่อรับมอลโดวาเข้าเป็นสมาชิก
- มอลโดวาตั้งเป้าที่จะเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปภายในปี 2030
- ตุลาคม 2024: การลงประชามติระดับชาติมีมติเห็นชอบแนวทางการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างฉิวเฉียด
- การปฏิรูป: กระบวนการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปกำหนดให้มอลโดวาต้องดำเนินการปฏิรูปที่สำคัญในหลายด้าน เช่น หลักนิติธรรม กระบวนการยุติธรรม การต่อต้านการทุจริต การบริหารรัฐกิจ และธรรมาภิบาลทางเศรษฐกิจ สหภาพยุโรปให้ความช่วยเหลือทางการเงินและทางเทคนิคในเรื่องนี้ (เช่น ผ่านทาง European Peace Facility สำหรับภาคกลาโหม และแพ็กเกจสนับสนุนต่าง ๆ)
- การค้าและเศรษฐกิจ: สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมอลโดวา DCFTA มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน มอลโดวาได้เข้าร่วมแพลตฟอร์มการจัดซื้อก๊าซร่วมของสหภาพยุโรป และได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับกลุ่มประเทศสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) ในเดือนมิถุนายน 2023
- ความคิดเห็นของประชาชน: โดยทั่วไปแล้วประชาชนสนับสนุนการรวมกลุ่มกับสหภาพยุโรป แต่มีความแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค (เช่น การสนับสนุนที่ต่ำกว่าในกากาอูซียา)
- ความท้าทาย: ความขัดแย้งทรานส์นีสเตรีย (แม้ว่าสหภาพยุโรประบุว่าเส้นทางการเป็นสมาชิกไม่ขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหานี้), แรงกดดันจากรัสเซีย, ความแตกแยกทางการเมืองภายในประเทศ และความเร็วในการดำเนินการปฏิรูป
สหภาพยุโรปได้จัดตั้งโครงการสนับสนุนและการลงทุนมูลค่า 1.60 B EUR สำหรับมอลโดวาในปี 2023 รวมถึงการลดราคาค่าบริการข้อมูลมือถือและค่าโรมมิ่งเสียงในมอลโดวาโดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมของยุโรปและมอลโดวา
4.3. ความมั่นคง
นโยบายความมั่นคงแห่งชาติของมอลโดวามุ่งเน้นไปที่การรักษาอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และระเบียบตามรัฐธรรมนูญ แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะกำหนดความเป็นกลาง แต่สถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคที่เปลี่ยนแปลงไปได้นำไปสู่การหารือเกี่ยวกับสถานะดังกล่าว
- ภัยคุกคามหลัก:
- ความขัดแย้งทรานส์นีสเตรีย: ความขัดแย้งที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและการคงอยู่ของกองกำลังรัสเซียในทรานส์นีสเตรียถือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคง
- สงครามลูกผสมของรัสเซีย: การเผยแพร่ข้อมูลเท็จ การโจมตีทางไซเบอร์ การสนับสนุนกลุ่มพลังที่บ่อนทำลายเสถียรภาพ และการใช้พลังงานเป็นเครื่องมือสร้างแรงกดดัน
- ความไม่มั่นคงในภูมิภาค: ผลกระทบจากสงครามในยูเครน (เช่น เศษซากขีปนาวุธตกในดินแดน การหลั่งไหลของผู้ลี้ภัย)
- ช่องโหว่ภายในประเทศ: การทุจริต สถาบันที่อ่อนแอ และความแตกแยกทางการเมือง
- ความร่วมมือระหว่างประเทศ:
- สหภาพยุโรป:
- ภารกิจหุ้นส่วนสหภาพยุโรปในมอลโดวา (EUPM Moldova): เปิดตัวในเดือนเมษายน 2023 ภายใต้นโยบายความมั่นคงและกลาโหมร่วม (CSDP) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับมือกับภัยคุกคามแบบผสมผสาน ความมั่นคงทางไซเบอร์ และการต่อต้านการบิดเบือนข้อมูลและการแทรกแซงจากต่างชาติ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศุลกากร และตุลาการ
- การสนับสนุนผ่าน European Peace Facility สำหรับการปรับปรุงภาคกลาโหมให้ทันสมัย
- นาโต (NATO): เป็นสมาชิกโครงการหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพ (PfP) ความร่วมมือเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2022 มีการหารือเกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์
- OSCE: มีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ไขปัญหาทรานส์นีสเตรีย
- ความร่วมมือทวิภาคี: กับโรมาเนีย สหรัฐอเมริกา ยูเครน และพันธมิตรอื่น ๆ ในประเด็นความมั่นคง
- สหภาพยุโรป:
- มาตรการภายในประเทศ:
- การเสริมสร้างความเข้มแข็งของหน่วยงานความมั่นคงและข่าวกรอง (SIS)
- กุมภาพันธ์ 2023: ออกกฎหมายเอาผิดกับการแบ่งแยกดินแดน การให้ทุนสนับสนุน/ยุยงให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน และการกระทำที่เป็นอันตรายต่ออธิปไตย
- ความพยายามในการเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และการต่อต้านข้อมูลเท็จ
บันทึกข้อตกลงลงวันที่ 29 มีนาคม 2023 ระบุว่าภารกิจ EUPM มีเป้าหมายเพื่อ "เพิ่มความยืดหยุ่นของภาคความมั่นคงของมอลโดวาในด้านการจัดการภาวะวิกฤต รวมถึงการเพิ่มความยืดหยุ่นต่อภัยคุกคามแบบผสมผสาน ซึ่งรวมถึงความมั่นคงทางไซเบอร์ และการต่อต้านการบิดเบือนข้อมูลและการแทรกแซงจากต่างชาติ" อาณัติเริ่มแรกของภารกิจคาดว่าจะมีระยะเวลาสองปี และจะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและศุลกากร และเจ้าหน้าที่ตุลาการมากถึง 40 คน เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย เยอรมนี โปแลนด์ สวีเดน สาธารณรัฐเช็ก โปรตุเกส โรมาเนีย และเดนมาร์ก ได้แสดงการสนับสนุนภารกิจนี้
4.4. การทหาร

กองทัพมอลโดวาประกอบด้วยกองทัพบกและกองทัพอากาศ
- โครงสร้าง: กองทัพมอลโดวา (Forțele Armate ale Republicii Moldovaภาษาโรมาเนีย) ประกอบด้วย:
- กองทัพบก (Forțele Terestreภาษาโรมาเนีย)
- กองทัพอากาศ (Forțele Aerieneภาษาโรมาเนีย) - ส่วนใหญ่มีความสามารถด้านการขนส่งและเฮลิคอปเตอร์ อากาศยานรบมีจำกัด
- กำลังพล: มีกำลังพลประจำการค่อนข้างน้อย (ประมาณ 6,000-7,500 นาย) ใช้ระบบการเกณฑ์ทหาร
- งบประมาณ: ในอดีตมีงบประมาณกลาโหมต่ำ (ประมาณ 0.4% ของ GDP) แต่ได้เพิ่มความสำคัญกับการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยตั้งแต่ปี 2022
- ยุทโธปกรณ์: ส่วนใหญ่เป็นยุทโธปกรณ์เก่าสมัยโซเวียต มีความพยายามในการปรับปรุงให้ทันสมัยโดยได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ (เช่น European Peace Facility ของสหภาพยุโรป, ความช่วยเหลือทวิภาคี) เช่น สหรัฐอเมริกาบริจาครถฮัมวีในปี 2014 รัฐมนตรีกลาโหม อนาโตลี โนซาตีย์ ระบุในปี 2022 ว่ายุทโธปกรณ์ทางทหารของประเทศ 90% ล้าสมัยและมีต้นกำเนิดจากโซเวียต โดยมีอายุย้อนไปถึงช่วงทศวรรษ 1960 และ 1980 มอลโดวาต้องการเงินทุนประมาณ 275.00 M USD เพื่อปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย
- นโยบายทางทหาร:
- ความเป็นกลางตามรัฐธรรมนูญ
- เข้าร่วมโครงการหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพ (PfP) ของนาโตตั้งแต่ปี 1994
- เข้าร่วมปฏิบัติการรักษาสันติภาพระหว่างประเทศ (ภารกิจของ UN ในไลบีเรีย, โกตดิวัวร์, ซูดาน, ซูดานใต้, กองกำลังคอซอวอ KFOR)
- ความร่วมมือทางทหารทวิภาคี โดยเฉพาะกับโรมาเนีย (เช่น ข้อตกลงปี 2015)
- ความท้าทาย: ยุทโธปกรณ์ล้าสมัย งบประมาณจำกัด ภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับทรานส์นีสเตรียและความไม่มั่นคงในภูมิภาค
- การประจำการของทหารรัสเซีย: กองกำลังรัสเซีย (กลุ่มปฏิบัติการกองกำลังรัสเซีย, OGRF) ยังคงประจำการอยู่ในภูมิภาคทรานส์นีสเตรียที่แบ่งแยกดินแดน ซึ่งขัดต่อความต้องการของมอลโดวา
มอลโดวายอมรับพันธกรณีควบคุมอาวุธที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของอดีตสหภาพโซเวียต เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 1992 มอลโดวาได้ให้สัตยาบันสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังรบตามแบบในยุโรป (CFE Treaty) ซึ่งกำหนดข้อจำกัดที่ครอบคลุมสำหรับประเภทหลักของยุทโธปกรณ์ทางทหารตามแบบ และกำหนดให้มีการทำลายอาวุธที่เกินขีดจำกัดเหล่านั้น ประเทศได้เข้าร่วมบทบัญญัติของสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) ในเดือนตุลาคม 1994 ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มอลโดวาไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ชีวภาพ เคมี หรือรังสี
ตั้งแต่ปี 2022 กองทัพได้เริ่มกระบวนการปรับปรุงให้ทันสมัย และได้รับเงินสนับสนุนมากกว่า 87.00 M EUR สำหรับการปรับปรุงภาคกลาโหมและการเสริมสร้างความมั่นคงผ่าน European Peace Facility ในเดือนมิถุนายน 2023 โปแลนด์ยังได้ส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารมูลค่า 8.00 M EUR (รวมถึงอากาศยานไร้คนขับ, แล็ปท็อป, อุปกรณ์เก็บกู้วัตถุระเบิด และอุปกรณ์อัลตราซาวนด์) ให้กับตำรวจมอลโดวาเพื่อเพิ่มความมั่นคงภายในประเทศ
4.5. สิทธิมนุษยชน
สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในมอลโดวาได้รับการจับตามองจากองค์การระหว่างประเทศหลายแห่ง โดยมีทั้งพัฒนาการเชิงบวกและความท้าทายที่ยังคงอยู่
- ภาพรวมสถานการณ์:
- ฟรีดอมเฮาส์ (Freedom House) ประเมินในปี 2023 ให้มอลโดวาเป็นประเทศ "กึ่งเสรี" (Partly Free) ด้วยคะแนน 62/100 ระบุว่ามอลโดวามีสภาพแวดล้อมการเลือกตั้งที่มีการแข่งขัน และเสรีภาพในการชุมนุม การพูด และศาสนาส่วนใหญ่ได้รับการคุ้มครอง อย่างไรก็ตาม การทุจริตที่แพร่หลาย ความเชื่อมโยงระหว่างบุคคลสำคัญทางการเมืองกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ทรงอิทธิพล และข้อบกพร่องที่สำคัญในภาคกระบวนการยุติธรรมและหลักนิติธรรมยังคงเป็นอุปสรรคต่อธรรมาภิบาลประชาธิปไตย
- องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ในรายงานปี 2022/23 ชี้ให้เห็นว่าไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนในการลดการทรมานและการปฏิบัติมิชอบอื่น ๆ ในสถานควบคุมตัว การลอยนวลพ้นผิดสำหรับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอดีตโดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยังคงมีอยู่ มีการจำกัด "ชั่วคราว" ใหม่ ๆ เกี่ยวกับการชุมนุมสาธารณะ สิทธิของกลุ่มบุคคล LGBTI ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่ นำไปสู่กรณีการคุกคาม การเลือกปฏิบัติ และความรุนแรง ศูนย์รับผู้ลี้ภัยบางแห่งปฏิเสธผู้ลี้ภัยที่เป็นชนกลุ่มน้อยทางศาสนาและชาติพันธุ์ ในภูมิภาคทรานส์นีสเตรียที่แบ่งแยกดินแดน การดำเนินคดีและจำคุกผู้เห็นต่างอย่างสันติยังคงดำเนินต่อไป
- ประเด็นสิทธิมนุษยชนที่สำคัญ:
- การทุจริตคอร์รัปชัน: เป็นปัญหาเชิงระบบที่สำคัญ ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชัน (Corruption Perceptions Index) ของ องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ สำหรับมอลโดวาในปี 2022 อยู่ที่ 39/100 (ดีขึ้นจาก 34 ในปี 2020 อยู่อันดับที่ 91 จาก 180 ประเทศ)
- ระบบยุติธรรม: ความอ่อนแอในความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการ ประสิทธิภาพ และความรับผิดชอบ ความคืบหน้าในการสอบสวนและดำเนินคดีกับการทุจริตระดับสูงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นไปอย่างเชื่องช้า
- การทรมานและการปฏิบัติมิชอบ: ความกังวลเกี่ยวกับสภาพในสถานควบคุมตัวและการปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย การลอยนวลพ้นผิดของผู้กระทำผิด
- เสรีภาพสื่อ: ผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Borders) จัดอันดับมอลโดวาอยู่ที่ 28 ในดัชนีเสรีภาพสื่อโลกปี 2023 (ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากอันดับที่ 89 ในปี 2020) ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปฏิรูปกฎหมายของรัฐบาลที่ทำให้ผู้สื่อข่าวเข้าถึงข้อมูลทางการได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ภูมิทัศน์สื่อยังคงมีความแตกแยกสูง มักสะท้อนผลประโยชน์ทางการเมืองและกลุ่มผู้มีอิทธิพล การเผยแพร่ข้อมูลเท็จยังคงเป็นความท้าทาย
- สิทธิ LGBTI: แม้จะมีกฎหมายคุ้มครอง แต่การเลือกปฏิบัติและความเกลียดชังในสังคมยังคงมีอยู่ การเดินขบวนไพรด์เคยเผชิญกับการต่อต้าน แต่การเดินขบวนไพรด์ในกรุงคีชีเนาปี 2023 ประสบความสำเร็จด้วยความปลอดภัยที่ดีขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 500 คน และเป็นครั้งแรกที่ไม่ต้องใช้กำลังตำรวจจำนวนมากเพื่อป้องกันจากผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับคริสตจักรออร์ทอดอกซ์
- สิทธิชนกลุ่มน้อย: ประเด็นปัญหาสำหรับชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์และศาสนา รวมถึงการเลือกปฏิบัติ มีความกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยที่เป็นชนกลุ่มน้อยบางกลุ่ม
- การค้ามนุษย์: มอลโดวาเป็นประเทศต้นทางของการค้ามนุษย์
- ทรานส์นีสเตรีย: มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคที่แบ่งแยกดินแดนนี้ รวมถึงการจำกัดเสรีภาพและการประหัตประหารผู้เห็นต่าง
- พัฒนาการเชิงบวกและการปฏิรูป:
- การให้สัตยาบันอนุสัญญาอิสตันบูล (ว่าด้วยการป้องกันและต่อต้านความรุนแรงต่อสตรี)
- การผ่านกฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมจากความเกลียดชัง
- ความพยายามอย่างต่อเนื่องในการปฏิรูปประมวลกฎหมายการเลือกตั้งและภาคกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมักได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรปและนานาชาติ
- การตรวจสอบจากนานาชาติ: สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในมอลโดวาได้รับการตรวจสอบจากสภายุโรป, OSCE/ODIHR, องค์กรสิทธิมนุษยชนของ UN และองค์กรพัฒนาเอกชนต่าง ๆ กระบวนการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปให้ความสำคัญอย่างมากกับการปรับปรุงสถานการณ์สิทธิมนุษยชน
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รายงานว่า แม้เจ้าหน้าที่จะสอบสวนรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการทุจริตที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่ แต่กระบวนการก็ช้าและยุ่งยาก ในระหว่างปี เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาและควบคุมตัวอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคน รวมถึงอดีตประธานาธิบดีอีกอร์ โดดอน อดีตสมาชิกรัฐสภาวลาดิมีร์ อันโดรนาคี สมาชิกรัฐสภาพรรคชอร์ มารีนา เตาเบอร์ และอดีตผู้อำนวยการการรถไฟมอลโดวา อนาโตลี โตปาลา แต่ยังไม่มีคดีใดที่ศาลตัดสินลงโทษเมื่อสิ้นปี OSCE/ODIHR ระบุว่ากฎหมายอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่ผ่านในปี 2022 ส่วนใหญ่สะท้อนคำแนะนำของปี 2016 แต่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายมักไม่บันทึกแรงจูงใจจากอคติเบื้องหลังอาชญากรรม และแนะนำให้พัฒนาระบบสนับสนุนผู้เสียหาย
4.6. เขตการปกครอง
ประเทศมอลโดวาแบ่งเขตการปกครองออกเป็นหลายระดับเพื่อการบริหารจัดการภายในประเทศ:
- เขต (raioaneภาษาโรมาเนีย, เอกพจน์ raion): มีทั้งหมด 32 เขต เป็นหน่วยการปกครองหลักในระดับภูมิภาค
- เทศบาลนคร (municipiiภาษาโรมาเนีย): มีทั้งหมด 13 แห่ง ซึ่งรวมถึงเมืองสำคัญ ๆ เช่น คีชีเนา (เมืองหลวง), บัลตส์, กอมรัต, เบนเดร์ (ตีกีนา), และ ตีรัสปอล
- หน่วยปกครองตนเองทางอาณาเขต (unități teritoriale autonomeภาษาโรมาเนีย): มี 2 หน่วย ได้แก่
- กากาอูซียา (Găgăuziaภาษาโรมาเนีย หรือ UTA Găgăuzia): มีสถานะปกครองตนเองพิเศษ มีสภานิติบัญญัติและฝ่ายบริหารของตนเอง ศูนย์กลางการบริหารคือกอมรัต
- หน่วยบริหาร-อาณาเขตฝั่งซ้ายแม่น้ำนีสเตอร์ (Unitățile Administrativ-Teritoriale din stînga Nistruluiภาษาโรมาเนีย): เป็นชื่อเรียกตามกฎหมายสำหรับภูมิภาคทรานส์นีสเตรีย อย่างไรก็ตาม ในทางพฤตินัย ภูมิภาคนี้ถูกควบคุมโดยพรีดเนสโตรวี (Pridnestrovian Moldavian Republic, PMR) ซึ่งเป็นรัฐแบ่งแยกดินแดนที่ไม่ได้รับการรับรอง ศูนย์กลางการบริหารที่ PMR อ้างสิทธิ์คือตีรัสปอล
- เมืองและเทศบาลตำบล (คอมมูน): มีเมือง (towns) ทั้งหมด 66 แห่ง และเทศบาลตำบล (communes) 916 แห่ง รวมเป็นท้องถิ่นทั้งหมดประมาณ 1,682 แห่งทั่วประเทศ (บางแห่งอาจไม่มีประชากรอาศัยอยู่)
สถานะของทรานส์นีสเตรียยังคงเป็นที่ขัดแย้ง แม้ตามกฎหมายระหว่างประเทศจะถือเป็นส่วนหนึ่งของมอลโดวา แต่รัฐบาลกลางมอลโดวาไม่สามารถควบคุมดินแดนนี้ได้
เมืองที่ใหญ่ที่สุด (ตามจำนวนประชากรโดยประมาณ):
# คีชีเนา (Chișinău) - เมืองหลวง
# บัลตส์ (Bălți)
# ตีรัสปอล (Tiraspol) - อยู่ในทรานส์นีสเตรีย
# เบนเดร์ (Bender/Tighina) - ตามกฎหมายเป็นของมอลโดวา แต่ถูกควบคุมโดยทรานส์นีสเตรีย
# กอมรัต (Comrat) - เมืองหลวงของกากาอูซียา
เมือง | ประชากรโดยประมาณ |
---|---|
คีชีเนา (Chișinău) | 695,400 (รวมเขตปริมณฑล) |
ตีรัสปอล (Tiraspol) | 129,500 |
บัลตส์ (Bălți) | 102,457 |
เบนเดร์ (Bender) | 91,000 |
รึบนิตซา (Rîbnița) | 46,000 |
อุงเกน (Ungheni) | 30,804 |
กาฮุล (Cahul) | 30,018 |
ซอรอกา (Soroca) | 22,196 |
ออร์เฮย์ (Orhei) | 21,065 |
ดูเบอซาร์ (Dubăsari) | 25,700 |
หมายเหตุ: จำนวนประชากรในเมืองที่อยู่ในทรานส์นีสเตรีย (เช่น ตีรัสปอล, เบนเดร์, รึบนิตซา, ดูเบอซาร์) มาจากการประมาณการเนื่องจากไม่ได้เข้าร่วมการสำรวจสำมะโนประชากรของมอลโดวา
4.7. การบังคับใช้กฎหมายและบริการฉุกเฉิน
โครงสร้างการบังคับใช้กฎหมายและบริการฉุกเฉินของมอลโดวาได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ได้รับเอกราช โดยมีการปฏิรูปและได้รับความช่วยเหลือจากนานาชาติ
- การบังคับใช้กฎหมาย:
- สำนักงานตรวจการตำรวจแห่งชาติ (Inspectoratul General al Polițieiภาษาโรมาเนีย - IGP): เป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลัก อยู่ภายใต้กระทรวงกิจการภายใน (MAI) รับผิดชอบความมั่นคงภายใน ความสงบเรียบร้อยของประชาชน การจราจร และการสืบสวนอาชญากรรม ประกอบด้วยตำรวจระดับรัฐและระดับเทศบาล
- กองพลน้อยปฏิบัติการพิเศษ "ฟุลเจอร์" (Brigada de Poliție cu Destinație Specială "Fulger"ภาษาโรมาเนีย): เชี่ยวชาญในการรับมือกับอาชญากรรมองค์กร อาชญากรรมรุนแรง และสถานการณ์ตัวประกัน
- ตำรวจชายแดน (Poliția de Frontierăภาษาโรมาเนีย): รับผิดชอบความมั่นคงชายแดน อยู่ภายใต้ MAI ตั้งแต่ปี 2012 (ก่อนหน้านั้นเป็นหน่วยงานทางทหาร)
- หน่วยข่าวกรองและความมั่นคง (Serviciul de Informații și Securitateภาษาโรมาเนีย - SIS): เป็นหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบด้านความมั่นคงแห่งชาติ การข่าวกรอง และการต่อต้านการข่าวกรอง
- ศูนย์ต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (Centrul Național Anticorupțieภาษาโรมาเนีย - CNA): เชี่ยวชาญในการต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชัน
- สำนักงานตรวจการตำรวจแห่งชาติ (Inspectoratul General al Polițieiภาษาโรมาเนีย - IGP): เป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลัก อยู่ภายใต้กระทรวงกิจการภายใน (MAI) รับผิดชอบความมั่นคงภายใน ความสงบเรียบร้อยของประชาชน การจราจร และการสืบสวนอาชญากรรม ประกอบด้วยตำรวจระดับรัฐและระดับเทศบาล
- ระบบยุติธรรม:
- ประกอบด้วยศาลและสำนักงานอัยการ ความท้าทายในด้านประสิทธิภาพและความเป็นอิสระยังคงเป็นประเด็นที่ต้องปรับปรุง (รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนสิทธิมนุษยชน)
- สถานการณ์อาชญากรรม:
- ประเด็นสำคัญรวมถึงการทุจริต อาชญากรรมองค์กร และการค้ามนุษย์
- บริการฉุกเฉิน:
- สำนักงานตรวจการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ (Inspectoratul General pentru Situații de Urgențăภาษาโรมาเนีย - IGSU): อยู่ภายใต้ MAI ประสานงานด้านการดับเพลิง การป้องกันพลเรือน และปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย
- บริการการแพทย์ฉุกเฉิน: เป็นส่วนหนึ่งของระบบสาธารณสุขแห่งชาติ รวมถึงบริการรถพยาบาล
- โรงพยาบาล: มีเครือข่ายโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน โรงพยาบาลหลักในคีชีเนา เช่น โรงพยาบาลคลินิกสาธารณรัฐ (Republican Clinical Hospital) และโรงพยาบาลนานาชาติเมดพาร์ค (Medpark International Hospital) รวมถึงโรงพยาบาลระดับภูมิภาคในบัลตส์, กาฮุล เป็นต้น มอลโดวามีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าผ่านโครงการประกันสุขภาพภาคบังคับ
- สถานพักพิง: เช่น กาซา มารีโอเรย์ (Casa Mărioareiภาษาโรมาเนีย) เป็นสถานพักพิงสำหรับผู้ประสบภัยความรุนแรงในครอบครัวในคีชีเนา ซึ่งให้ที่พักพิง การดูแลสุขภาพ คำแนะนำทางกฎหมาย และการสนับสนุนทางจิตสังคมแก่สตรีชาวมอลโดวา ผู้อพยพ และผู้ลี้ภัย
ตำรวจมอลโดวามีการแบ่งองค์กรออกเป็นระดับรัฐและเทศบาล กองกำลังตำรวจระดับชาติและเทศบาลมักจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย ตาม "กฎหมายว่าด้วยการใช้กำลังของตำรวจทั่วโลก" มอลโดวาไม่ได้ควบคุมและจำกัดการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายตามที่กฎหมายระหว่างประเทศกำหนด การใช้ปืนของตำรวจจะถูกกฎหมายเฉพาะเมื่อจำเป็นเพื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามต่อชีวิตหรือการบาดเจ็บสาหัสที่ใกล้จะเกิดขึ้น หรือภัยคุกคามร้ายแรงและใกล้จะถึงชีวิต
5. ภูมิศาสตร์
ประเทศมอลโดวาตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันออก ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของประเทศมีความโดดเด่นด้วยที่ราบและเนินเขาเตี้ย ๆ รวมถึงแม่น้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงผืนดินอันอุดมสมบูรณ์
5.1. ลักษณะภูมิประเทศและระบบแหล่งน้ำ


- ที่ตั้ง: ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปยุโรป บริเวณมุมตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรบอลข่าน เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีอาณาเขตทางตะวันตกติดกับโรมาเนีย และทางเหนือ ตะวันออก และใต้ติดกับยูเครน
- พื้นที่: มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 33.84 K km2 ซึ่งรวมถึงพื้นที่ผิวน้ำประมาณ 960 km2
- ลักษณะภูมิประเทศ:
- ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลูกคลื่นและเนินเขาเตี้ย ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ราบสูงมอลเดเวีย (Moldavian Plateauภาษาอังกฤษ) ซึ่งมีต้นกำเนิดทางธรณีวิทยามาจากเทือกเขาคาร์เพเทียน
- ความสูงโดยทั่วไปไม่มากนัก จุดที่สูงที่สุดคือยอดเขาเบอเลอเนชต์ (Dealul Bălăneștiภาษาโรมาเนีย) ซึ่งมีความสูง 430 m เหนือระดับน้ำทะเล
- ภูมิภาคสำคัญ ได้แก่ เนินเขานีสเตอร์ (ทางตอนเหนือ), ที่ราบมอลเดเวีย (รวมถึงทุ่งหญ้าสเตปป์บัลตส์ทางตอนเหนือ-กลาง), ที่ราบสูงมอลเดเวียกลาง (รวมถึงเนินเขากอดรู ซึ่ง "กอดรู" หมายถึง "ป่าไม้"), และที่ราบต่ำบูจัก (ทางตอนใต้)
- ดินแดนทางตะวันออกของแม่น้ำนีสเตอร์ (ทรานส์นีสเตรีย) ประกอบด้วยส่วนหนึ่งของที่ราบสูงโปโดเลียและทุ่งหญ้าสเตปป์ยูเรเชีย
- ดิน: ดินส่วนใหญ่เป็นดินเชอร์โนเซม (Chernozemภาษาอังกฤษ) หรือดินดำที่อุดมสมบูรณ์มาก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 75% ของประเทศ ทำให้เหมาะแก่การเกษตรกรรม
- ระบบแหล่งน้ำ:
- แม่น้ำนีสเตอร์ (Nistruภาษาโรมาเนีย): เป็นแม่น้ำสายหลัก ไหลจากเหนือลงใต้ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ เป็นพรมแดนโดยพฤตินัยกับทรานส์นีสเตรียเป็นระยะทางส่วนใหญ่ และไหลลงสู่ทะเลดำ (ในยูเครน)
- แม่น้ำปรุต (Prutภาษาโรมาเนีย): เป็นพรมแดนทางตะวันตกกับโรมาเนีย เป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำดานูบ
- การเข้าถึงแม่น้ำดานูบ: มอลโดวามีทางออกสู่แม่น้ำดานูบเป็นระยะทางสั้น ๆ (ประมาณ 450 m) ที่เมืองจูร์จูเลสต์ (Giurgiuleștiภาษาโรมาเนีย) ซึ่งได้มาจากยูเครนในปี 1999 ทำให้สามารถเข้าถึงน่านน้ำสากลผ่านท่าเรือจูร์จูเลสต์ได้
- แม่น้ำอื่น ๆ: แม่น้ำเริวต์ (Răutภาษาโรมาเนีย) (แม่น้ำสาขาของนีสเตอร์ เมืองบัลตส์ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำนี้), แม่น้ำบึก (Bîcภาษาโรมาเนีย) (แม่น้ำสาขาของนีสเตอร์ กรุงคีชีเนาตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำนี้)
- ทรัพยากรน้ำ: พึ่งพาน้ำผิวดินจากแม่น้ำเหล่านี้เป็นหลัก และมีแหล่งน้ำใต้ดินบางส่วน

5.2. ภูมิอากาศ

- ลักษณะภูมิอากาศ: เป็นภูมิอากาศแบบภาคพื้นทวีปปานกลาง ได้รับอิทธิพลจากทะเลดำ ทำให้ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวค่อนข้างเย็นสบาย ส่วนฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนค่อนข้างเย็น
- ฤดูกาล:
- ฤดูร้อน: อบอุ่นและยาวนาน อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคมประมาณ 20 °C ถึง 27 °C
- ฤดูหนาว: ค่อนข้างไม่รุนแรงและแห้ง อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนมกราคมประมาณ -4 °C
- ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูใบไม้ผลิ: อากาศเย็นสบาย
- ปริมาณน้ำฝน:
- ปริมาณน้ำฝนรายปีแตกต่างกันไปตั้งแต่ประมาณ 400 mm ทางตอนใต้ ถึง 600 mm ทางตอนเหนือ
- อาจมีความไม่สม่ำเสมอ ภาวะแห้งแล้งเป็นเวลานานไม่ใช่เรื่องแปลก
- ฝนตกหนักที่สุดมักจะเกิดในช่วงต้นฤดูร้อนและอีกครั้งในเดือนตุลาคม อาจมีฝนตกหนักและพายุฝนฟ้าคะนองได้
- อุณหภูมิสุดขั้ว:
- อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึกไว้: 41.5 °C (21 กรกฎาคม 2007 ที่เมืองกาเมนกา Camencaภาษาโรมาเนีย)
- อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึกไว้: -35.5 °C (20 มกราคม 1963 ที่เมืองเบรอตูเชน Brătușeniภาษาโรมาเนีย)
- ความแตกต่างในระดับภูมิภาค: มีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างภูมิภาคทางเหนือ กลาง และใต้
เมือง | กรกฎาคม (°C) | มกราคม (°C) |
---|---|---|
คีชีเนา | 27/17 | 1/-4 |
ตีรัสปอล | 27/15 | 1/-6 |
บัลตส์ | 26/14 | -0/-7 |
5.3. ความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม

- เขตนิเวศวิทยา:
- ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของเขตป่าผสมยุโรปกลาง, เขตป่าสเตปป์ยุโรปตะวันออก และเขตสเตปป์พอนติก-แคสเปียน
- พืชพรรณ: มีพืชมีท่อลำเลียงประมาณ 2,300-2,500 ชนิด ป่าไม้ (เช่น โอ๊ก, ฮอร์นบีม, บีช, ลินเด็น) ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 11-12% ของประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณเนินเขาเช่น กอดรู (Codri) พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้าสเตปป์หรือป่าสเตปป์
- สัตว์ป่า:
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม: ประมาณ 68-70 ชนิด (เช่น กวางโร, หมูป่า, สุนัขจิ้งจอก, แบดเจอร์, เพียงพอน, กระต่ายป่ายุโรป) กวางแดงก็มีอยู่เช่นกัน
- นก: ประมาณ 270-280 ชนิด (ทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพ)
- สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก: หลายสิบชนิด
- ปลา: มีหลายชนิดในแม่น้ำและทะเลสาบ
- สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง: หลายหมื่นชนิด
- พื้นที่คุ้มครอง:
- มีเครือข่ายพื้นที่คุ้มครอง รวมถึงเขตอนุรักษ์ทางวิทยาศาสตร์ (rezervații științificeภาษาโรมาเนีย), อุทยานแห่งชาติ (เช่น อุทยานแห่งชาติออร์เฮย์), เขตอนุรักษ์ภูมิทัศน์ และอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติ
- เขตอนุรักษ์ทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ: เขตอนุรักษ์กอดรู (Codru Reserve), เขตอนุรักษ์ยากอร์ลึก (Iagorlîc), เขตอนุรักษ์ปรุตตอนล่าง (Prutul de Jos - เขตสงวนชีวมณฑลของยูเนสโก), เขตอนุรักษ์ปลายุล ฟากูลุย (Plaiul Fagului), เขตอนุรักษ์เปอดูเรอา ดอมเนอัสเกอ (Pădurea Domnească - ป่าหลวง)
- ปัญหาสิ่งแวดล้อม:
- ความเสื่อมโทรมในอดีต: ความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมากในยุคโซเวียตจากการทำเกษตรกรรมแบบเข้มข้น การใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยมากเกินไป มลพิษจากอุตสาหกรรม และการตัดไม้ทำลายป่า
- ความท้าทายในปัจจุบัน: การพังทลายของดิน (โดยเฉพาะจากฝนตกหนักบนพื้นที่ลาดชันที่ทำการเกษตร), มลพิษทางน้ำจากน้ำไหลบ่าทางการเกษตรและน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัด, การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ, การตัดไม้ทำลายป่า (ในอดีตและแรงกดดันในปัจจุบัน)
- ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ความถี่ที่เพิ่มขึ้นของภัยแล้ง น้ำท่วม และเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว
- ความพยายามในการอนุรักษ์:
- โครงการและกฎหมายของรัฐบาลเพื่อการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
- กิจกรรมขององค์กรพัฒนาเอกชน เช่น ขบวนการนิเวศวิทยาแห่งมอลโดวา (Mișcarea Ecologistă din Moldovaภาษาโรมาเนีย)
- โครงการการปลูกป่าทดแทน
- โครงการนำสัตว์กลับคืนถิ่น: วัวกระทิงยุโรป (European bisonภาษาอังกฤษ หรือ wisent) ได้รับการนำกลับคืนถิ่นสำเร็จในปี 2005 ที่เปอดูเรอา ดอมเนอัสเกอ ในอดีตเคยมีเลียงผาไซกา (Saiga antelopeภาษาอังกฤษ) อาศัยอยู่แต่ได้สูญพันธุ์ไปจากภูมิภาคนี้แล้ว
- ดัชนีความสมบูรณ์ของภูมิทัศน์ป่าไม้ (Forest Landscape Integrity Index) ปี 2019: ได้คะแนน 2.2/10 ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ
ชื่อเขตอนุรักษ์ | ที่ตั้ง (เขต) | ปีที่ก่อตั้ง | พื้นที่ (เฮกตาร์) |
---|---|---|---|
เขตอนุรักษ์กอดรู (Codru Reserve) | สเตรอเชน (Strășeni) | 1971 | 5.18 K ha |
เขตอนุรักษ์ยากอร์ลึก (Iagorlîc) | ดูเบอซาร์ (Dubăsari) (ในทรานส์นีสเตรีย) | 1988 | 836 ha |
เขตอนุรักษ์ปรุตตอนล่าง (Prutul de Jos) | กาฮุล (Cahul) | 1991 | 1.69 K ha |
เขตอนุรักษ์ปลายุล ฟากูลุย (Plaiul Fagului) | อุงเกน (Ungheni) | 1992 | 5.64 K ha |
เขตอนุรักษ์เปอดูเรอา ดอมเนอัสเกอ (Pădurea Domnească) | กลอเดน (Glodeni) | 1993 | 6.03 K ha |
6. เศรษฐกิจ
เศรษฐกิจของมอลโดวาเป็นเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ที่มีรายได้ปานกลางระดับสูง และมีดัชนีการพัฒนามนุษย์ในระดับสูง แม้จะมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา แต่มอลโดวายังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในยุโรป
6.1. ภาพรวมเศรษฐกิจ
นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากสหภาพโซเวียตในปี 1992 มอลโดวาได้เปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกระบุว่ามอลโดวายังคงเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลายประการ
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP): GDP ต่อหัวเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก 2.75 K USD ในปี 2015 เป็น 5.56 K USD ในปี 2022 ในปี 2024 GDP (PPP) อยู่ที่ประมาณ 45.41 B USD และ GDP (ราคาปัจจุบัน) อยู่ที่ประมาณ 18.06 B USD
- การเติบโตทางเศรษฐกิจ: การเติบโตอยู่ในระดับค่อนข้างสูงนับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1990 แต่ปัจจัยด้านประชากร (ประชากรสูงอายุ การย้ายถิ่นจำนวนมาก) และเหตุการณ์ในภูมิภาคล่าสุด (โดยเฉพาะการรุกรานยูเครนของรัสเซีย) ได้สร้างความท้าทายอย่างรุนแรง โดยเฉพาะจากภาวะเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่สูงขึ้น หลังจากการระบาดของโควิด-19 การเติบโตของ GDP ประจำปีฟื้นตัวเป็น 13.9% ในปี 2021 ก่อนที่การรุกรานยูเครนของรัสเซีย วิกฤตพลังงาน และวิกฤตผู้ลี้ภัยจะทำให้การเติบโตลดลงเหลือ -5.9% ในปี 2022 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าในปี 2023 เศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นจากการหดตัว 1.5% เป็นเติบโต 1.5%
- อัตราการว่างงาน: ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 2.3% ในปี 2022
- อัตราเงินเฟ้อ: เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 28.7% ในปี 2022 เนื่องจากวิกฤตพลังงานที่เกิดจากการรุกรานยูเครน
- ดัชนีการพัฒนามนุษย์ (HDI): อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับยุโรป อยู่ที่ 0.763 ในปี 2022 (อันดับที่ 86 ของโลก)
- ความยากจน: ระดับความยากจนลดลง แต่ประชากรจำนวนมากยังคงพึ่งพาเงินบำนาญของรัฐและความช่วยเหลือทางสังคม ดัชนีจีนีอยู่ที่ 25.7 ในปี 2021 แสดงถึงความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ในระดับค่อนข้างต่ำ
- การพึ่งพาปัจจัยภายนอก: เศรษฐกิจมอลโดวามีความเปราะบางสูงต่อความผันผวนของเงินส่งกลับจากแรงงานในต่างประเทศ (คิดเป็น 25% ของ GDP), การส่งออกไปยังเครือรัฐเอกราช (CIS) และสหภาพยุโรป (EU) (88% ของการส่งออกทั้งหมด) และการสนับสนุนจากผู้บริจาค (ประมาณ 10% ของรายจ่ายภาครัฐ)
- ภาคเศรษฐกิจหลัก:
- ภาคบริการ: ครองสัดส่วนใหญ่ที่สุดของ GDP
- เกษตรกรรม: เป็นภาคส่วนสำคัญ มีการส่งออกสินค้าเกษตร ไวน์ เสื้อผ้า และอุปกรณ์กีฬา
- อุตสาหกรรมไวน์: เป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ คิดเป็น 3% ของ GDP และ 8% ของการส่งออกทั้งหมดของประเทศ (ข้อมูลปี 2021)
- เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT): เป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีที่สุด คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 10% ของ GDP บริษัทไอทีส่งออกประมาณ 80% ของการผลิตทั้งหมดไปยังสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และโรมาเนีย
- ดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index): มอลโดวาอยู่ในอันดับที่ 68 ของโลกในปี 2024
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศได้รับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจำนวนมากจากสหภาพยุโรป IMF และธนาคารโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
ปี | GDP (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) |
---|---|
2017 | 9.52 |
2018 | 11.25 |
2019 | 11.74 |
2020 | 11.53 |
2021 | 13.69 |
2022 | 14.51 |
ปี | การนำเข้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) |
---|---|
2017 | 5.37 |
2018 | 6.39 |
2019 | 6.61 |
2020 | 5.92 |
2021 | 7.91 |
2022 | 10.91 |
ปี | การส่งออก (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) |
---|---|
2017 | 3.12 |
2018 | 3.45 |
2019 | 3.66 |
2020 | 3.22 |
2021 | 4.20 |
2022 | 5.98 |
6.2. อุตสาหกรรมหลัก
เศรษฐกิจของมอลโดวาประกอบด้วยอุตสาหกรรมหลักหลายประเภท ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและการแปรรูปสินค้าเกษตร รวมถึงภาคบริการที่กำลังเติบโต
6.2.1. เกษตรกรรม

เกษตรกรรมเป็นภาคส่วนดั้งเดิมและยังคงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจมอลโดวา โดยได้รับประโยชน์จากดินเชอร์โนเซมที่อุดมสมบูรณ์และสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย
- ผลผลิตหลัก: ข้าวโพด, ข้าวสาลี, เมล็ดทานตะวัน, องุ่น (สำหรับไวน์และการบริโภค), แอปเปิล, บีทรูทน้ำตาล, มันฝรั่ง, ข้าวบาร์เลย์, พลัม/สโล นอกจากนี้ยังมีการผลิตนมและผลิตภัณฑ์นม
- พื้นที่เพาะปลูก: มอลโดวามีที่ดินเพื่อการเกษตรประมาณ 2.50 M ha จากพื้นที่ทั้งหมด 3.38 M ha โดยประมาณ 1.81 M ha เป็นที่ดินที่สามารถเพาะปลูกได้ ประเทศนี้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีพื้นที่เพาะปลูกได้มากที่สุดในยุโรป
- เทคโนโลยีการเกษตร: การใช้เทคโนโลยีการเกษตรแบบดั้งเดิมยังคงมีอยู่ แต่มีความพยายามในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพ
- ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ภาคเกษตรกรรมมีความเปราะบางสูงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม และสภาพอากาศสุดขั้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตและความมั่นคงทางอาหารแล้ว คิดเป็นความเสียหายประมาณ 2.13% ของ GDP ต่อปี
- ความท้าทาย: การกระจายตัวของที่ดิน, การเข้าถึงสินเชื่อของเกษตรกรรายย่อย, โครงสร้างพื้นฐานในชนบทที่ยังต้องพัฒนา และการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- การส่งออก: สินค้าเกษตรเป็นส่วนสำคัญของการส่งออกของมอลโดวา ในปี 2021 เกษตรกรรมคิดเป็น 12% ของการส่งออกทั้งหมด และ 21% ของการจ้างงานทั้งหมด
- การพัฒนาล่าสุด: ในเดือนกรกฎาคม 2023 ได้มีการสร้างเครือข่าย "ห้องสมุดเมล็ดพันธุ์" 20 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งประกอบด้วยเมล็ดพันธุ์กว่า 1,000 ชนิด โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐเช็ก, NGOs และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เพื่อปรับปรุงความหลากหลายทางชีวภาพทางการเกษตรในท้องถิ่น ความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ และความสามารถของรัฐบาลท้องถิ่นและเกษตรกรในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ
อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรที่สำคัญในประเทศ ได้แก่ การแปรรูปน้ำตาล, น้ำมันพืช, การแปรรูปอาหาร และเครื่องจักรกลการเกษตร
6.2.2. อุตสาหกรรมไวน์

อุตสาหกรรมไวน์เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่โดดเด่นและมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของมอลโดวา เป็นที่รู้จักในระดับสากลด้านคุณภาพและปริมาณการผลิต
- ประเพณีการผลิตไวน์: มอลโดวามีประเพณีการผลิตไวน์ย้อนหลังไปหลายพันปี สภาพภูมิอากาศที่มีแสงแดดประมาณ 300 วันต่อปีเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปลูกองุ่น
- พื้นที่เพาะปลูกองุ่น: มีพื้นที่เพาะปลูกองุ่นประมาณ 122.00 K ha และเป็นหนึ่งใน 20 ผู้ผลิตไวน์รายใหญ่ที่สุดของโลก (ตามรายงานขององค์การระหว่างประเทศว่าด้วยไวน์และองุ่น - OIV)
- ความสำคัญทางเศรษฐกิจ: อุตสาหกรรมไวน์คิดเป็นประมาณ 3% ของ GDP ของมอลโดวา และ 8% ของการส่งออกทั้งหมดของประเทศ (ข้อมูลปี 2021) ไวน์มอลโดวาส่งออกไปยังกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
- พันธุ์องุ่นสำคัญ: มีการปลูกทั้งพันธุ์องุ่นท้องถิ่นและพันธุ์สากล พันธุ์ที่สำคัญ ได้แก่ เฟเทอัสกา อัลเบ (Fetească Albăภาษาโรมาเนีย), เฟเทอัสกา เรอาลอ (Fetească Regalăภาษาโรมาเนีย), เฟเทอัสกา เนียเกรอะ (Fetească Neagrăภาษาโรมาเนีย), รารา เนียเกรอะ (Rara Neagrăภาษาโรมาเนีย) รวมถึงพันธุ์สากลอย่าง กาแบร์เน โซวีญง (Cabernet Sauvignonภาษาฝรั่งเศส), แมร์โล (Merlotภาษาฝรั่งเศส), ปีโน นัวร์ (Pinot Noirภาษาฝรั่งเศส), ชาร์ดอเน (Chardonnayภาษาฝรั่งเศส) และโซวีญง บล็อง (Sauvignon Blancภาษาฝรั่งเศส)
- โรงผลิตไวน์: มีโรงผลิตไวน์มากกว่า 142 แห่งทั่วประเทศ หลายแห่งมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เช่น:
- โรงไวน์คริโควา (Cricovaภาษาโรมาเนีย): มีห้องเก็บไวน์ใต้ดินยาวกว่า 120 km
- โรงไวน์มิเลสตี มิช (Mileștii Miciภาษาโรมาเนีย): ได้รับการบันทึกในกินเนสส์เวิลด์เรเคิดส์ว่ามีห้องเก็บไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามจำนวนขวด (มากกว่า 2 ล้านขวด) โดยมีความยาวของอุโมงค์ใต้ดิน 200 km (ใช้งานจริง 55 km)
- ปราสาทมีมี่ (Castel Mimiภาษาโรมาเนีย): ปราสาทสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 พร้อมไร่องุ่น พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ สปา โรงแรม และร้านอาหาร ถือเป็นโรงไวน์แห่งแรกในเบสซาเรเบีย
- ตลาดส่งออก: ในอดีต รัสเซียเคยเป็นตลาดส่งออกหลัก แต่หลังจากการคว่ำบาตรของรัสเซียหลายครั้ง มอลโดวาได้หันไปมุ่งเน้นตลาดยุโรปและตลาดอื่น ๆ ในปี 2021 สหภาพยุโรปกลายเป็นผู้ซื้อไวน์มอลโดวารายใหญ่ที่สุด โดยมอลโดวาส่งออกไวน์มากกว่า 120 ล้านลิตรไปยังประเทศในยุโรป เทียบกับ 8.6 ล้านลิตรที่ส่งไปยังรัสเซีย
- ภูมิภาคไวน์: มีภูมิภาคไวน์ทางประวัติศาสตร์ 3 แห่ง คือ วาลุล ลุย ทรายัน (Valul lui Traian) (ตะวันตกเฉียงใต้), ชเตฟัน วอดา (Ștefan Vodă) (ตะวันออกเฉียงใต้) และกอดรู (Codru) (กลาง) ซึ่งผลิตไวน์ที่มีสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์คุ้มครอง (PGI)
- วันไวน์แห่งชาติ: จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 3-4 ตุลาคม ซึ่งผู้ผลิตไวน์จะเปิดโรงไวน์ให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมและมีบริการรถรับส่งระหว่างสถานที่ต่าง ๆ
6.2.3. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในมอลโดวาถือเป็นภาคส่วนที่ค่อนข้างเล็กแต่มีศักยภาพในการเติบโต โดยประเทศนี้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้มาเยือนน้อยที่สุดในยุโรป
- แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ:
- ภูมิทัศน์ธรรมชาติ: เนินเขาที่ปกคลุมด้วยป่าไม้ ทุ่งหญ้าสเตปป์ แม่น้ำสายต่าง ๆ เช่น นีสเตอร์และปรุต
- โบราณสถานและประวัติศาสตร์:
- ออร์เฮย์ เวคี (Orheiul Vechiภาษาโรมาเนีย): แหล่งโบราณคดีและอารามถ้ำสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13 ที่แกะสลักเข้าไปในหน้าผา ยังคงมีการใช้งานอยู่ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุด
- อารามและโบสถ์ต่าง ๆ: มอลโดวามีอารามกว่า 50 แห่ง และโบสถ์กว่า 700 แห่ง ที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์อันยาวนาน เช่น อาสนวิหารแม่พระบังเกิดในคีชีเนา (Nativity Cathedral) ในกรุงคีชีเนา
- โรงผลิตไวน์: การท่องเที่ยวเชิงไวน์เป็นจุดขายสำคัญ โรงไวน์หลายแห่ง เช่น คริโควา, มิเลสตี มิช และปราสาทมีมี่ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ชิมไวน์ และเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิต
- เมืองหลวงคีชีเนา: เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสาขาศิลปะ (National Museum of Fine Arts), พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสาขาประวัติศาสตร์มอลโดวา (National Museum of History of Moldova) ซึ่งมีโบราณวัตถุมากกว่า 236,000 ชิ้น, มหาวิทยาลัยแห่งรัฐมอลโดวา, หอศิลป์บรันกุช (Brancusi Gallery) รวมถึงตลาดที่มีชีวิตชีวาทางตอนเหนือของเมือง และบ้านที่อะเลคซันดร์ พุชกินเคยพำนักขณะลี้ภัย ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์
- สถิตินักท่องเที่ยว: แม้จะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้มาเยือนน้อยที่สุดในยุโรป แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ (ก่อนการระบาดของโควิด-19 และสงครามในยูเครน) ในไตรมาสแรกของปี 2022 มีนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ผู้พำนัก 36,100 คน เทียบกับ 31,000 คนในปี 2019
- ความพยายามในการพัฒนา: รัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศผ่านแบรนด์ "Moldova Travel" สื่อตะวันตกบางแห่งเริ่มให้ความสนใจมอลโดวาและคีชีเนาว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจเนื่องจากภูมิทัศน์ที่สวยงาม แสงแดด 300 วันต่อปี ราคาที่ไม่แพง วัฒนธรรมไวน์โบราณ และการผสมผสานอิทธิพลทางวัฒนธรรมในภูมิภาค
- การเข้าถึง: ท่าอากาศยานนานาชาติคีชีเนาเป็นประตูหลักทางอากาศ มีเที่ยวบินตรงไปยังจุดหมายปลายทางหลายแห่งในยุโรป เช่น อัมสเตอร์ดัม, เบอร์ลิน, ลอนดอน, ปารีส, เทลอาวีฟ, โรม, อิสตันบูล และดูไบ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังบูคาเรสต์, เคียฟ, โอเดซา (ก่อนสงคราม) พลเมืองมอลโดวาสามารถเดินทางไปยังพื้นที่เชงเกนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
- มรดกโลกของยูเนสโก (บัญชีรายชื่อเบื้องต้น): แหล่งโบราณคดีออร์เฮย์ เวคี และดินเชอร์โนเซมในทุ่งหญ้าสเตปป์บัลตส์
6.2.4. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)
ภาคเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่มีพลวัตและมีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุดในมอลโดวา
- การเติบโตและความสำคัญ: ภาค ICT คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 10% ของ GDP ของประเทศ และมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
- การส่งออก: บริษัทไอทีในมอลโดวาส่งออกผลิตภัณฑ์และบริการประมาณ 80% ของการผลิตทั้งหมดไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และโรมาเนีย
- บุคลากร: มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาในมอลโดวาผลิตผู้สำเร็จการศึกษาด้านคอมพิวเตอร์หรือสาขาที่เกี่ยวข้องมากกว่า 2,000 คนต่อปี
- โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล: มอลโดวามีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ค่อนข้างดี อินเทอร์เน็ตในมอลโดวาได้รับการจัดอันดับว่าเร็วและมีราคาถูกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (ข้อมูลปี 2023) ประเทศอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลกด้านความครอบคลุมของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับกิกะบิต โดยประชากรประมาณ 90% สามารถเข้าถึงแผนบรอดแบนด์ใยแก้วนำแสงความเร็วระดับกิกะบิตได้ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประเมินว่ามอลโดวามีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่พัฒนาแล้ว โดยมีความครอบคลุมของเครือข่าย 4G ถึง 98% ของพื้นที่ประเทศ ในเดือนกรกฎาคม 2022 มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 3 ล้านคน หรือประมาณ 76% ของประชากร Starlink เริ่มให้บริการในมอลโดวาในเดือนสิงหาคม 2022
- ความมั่นคงทางไซเบอร์: ดัชนีความมั่นคงทางไซเบอร์โลกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) จัดอันดับมอลโดวาอยู่ที่ 33 ในยุโรป และ 63 ของโลก การเข้าร่วมอนุสัญญาว่าด้วยอาชญากรรมไซเบอร์ของสภายุโรปในปี 2009 และการใช้โครงการความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติสำหรับปี 2016-2020 ได้กำหนดกรอบกฎหมายสำหรับสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น หลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียและการโจมตีทางไซเบอร์ต่อมอลโดวา รัฐบาลมอลโดวาได้ลงทุนเงินและทรัพยากรจำนวนมากในการพัฒนาแนวทางปฏิบัติและกฎระเบียบด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยได้รับความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปยังได้จัดตั้งและให้ทุนสนับสนุนหน่วยช่วยเหลือฉุกเฉินด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ของมอลโดวาเพื่อปรับปรุงความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ขององค์กรภาครัฐและภาคโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของมอลโดวา มอลโดวาได้ผ่านกฎหมายใหม่ซึ่งร่างขึ้นบางส่วนโดยหน่วยงานนี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2025 ประเทศยังได้ผ่านกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบ GDPR ของสหภาพยุโรปมากขึ้น และปัจจุบันส่วนใหญ่สอดคล้องกันแล้ว
- ศักยภาพในอนาคต: ภาค ICT ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ และถูกมองว่าเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการสร้างงานที่มีทักษะสูง
6.3. พลังงาน
สถานการณ์ด้านพลังงานของมอลโดวาเป็นประเด็นสำคัญและท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพึ่งพาการนำเข้าและความพยายามในการเปลี่ยนผ่านสู่แหล่งพลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น
- อุปทานและอุปสงค์: มอลโดวาพึ่งพาการนำเข้าพลังงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
- แหล่งพลังงานหลัก:
- ก๊าซธรรมชาติ: ในอดีต ก๊าซธรรมชาติส่วนใหญ่มาจากรัสเซีย (ผ่านบริษัทก๊าซพรอม) ซึ่งทำให้มอลโดวามีความเปราะบางต่อแรงกดดันทางการเมืองและราคาพลังงานที่ผันผวน หลังจากการการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียในปี 2022 มอลโดวาได้พยายามอย่างจริงจังในการหาแหล่งก๊าซทางเลือกและลดการพึ่งพารัสเซีย รวมถึงการเชื่อมต่อกับเครือข่ายก๊าซของโรมาเนียและยุโรป
- ไฟฟ้า: ส่วนใหญ่ผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนคูซูร์กัน (Cuciurgan) ซึ่งตั้งอยู่ในทรานส์นีสเตรียและใช้ก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเป็นเชื้อเพลิง ทำให้การจัดหาไฟฟ้ามีความซับซ้อนทางการเมือง มอลโดวายังนำเข้าไฟฟ้าจากยูเครนและโรมาเนีย
- น้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม: นำเข้าทั้งหมด
- วิกฤตพลังงาน: มอลโดวาเผชิญกับวิกฤตพลังงานหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวปี 2022-2023 เมื่อรัสเซียลดการจ่ายก๊าซลงอย่างมาก ส่งผลให้ราคาพลังงานพุ่งสูงและเกิดความไม่มั่นคงด้านอุปทาน รัฐบาลต้องใช้มาตรการฉุกเฉินและขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ
- ความพยายามในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน: รัฐบาลมอลโดวามุ่งมั่นที่จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในส่วนผสมพลังงานของประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และปฏิบัติตามพันธสัญญาระหว่างประเทศ
- มีการส่งเสริมการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และชีวมวล
- ได้รับความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปและองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ ในการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
- ความท้าทาย: การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานใหม่ การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การรวมตลาดพลังงานเข้ากับยุโรป และการจัดการกับความเปราะบางทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญ
6.4. การขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน

โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของมอลโดวามีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงภายในประเทศและกับต่างประเทศ
- ทางรถไฟ: เครือข่ายทางรถไฟมีความยาวประมาณ 1.14 K km (ส่วนใหญ่เป็นรางขนาดกว้างแบบรัสเซีย) เส้นทางรถไฟเชื่อมโยงเมืองหลักภายในประเทศและมีเส้นทางระหว่างประเทศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น โรมาเนีย ยูเครน และเคยมีไปยังรัสเซีย (ก่อนสงคราม) การรถไฟมอลโดวา (Calea Ferată din Moldovaภาษาโรมาเนีย - CFM) เป็นผู้ให้บริการหลัก
- ถนน: เครือข่ายถนนมีความยาวรวมประมาณ 12.73 K km โดยส่วนใหญ่ (ประมาณ 10.94 K km) เป็นถนนลาดยาง คุณภาพของถนนแตกต่างกันไป โดยถนนสายหลักเชื่อมเมืองใหญ่มักมีสภาพดีกว่าถนนในชนบท มีความพยายามในการปรับปรุงและขยายเครือข่ายถนนโดยได้รับความช่วยเหลือจากนานาชาติ
- ทางอากาศ: ท่าอากาศยานนานาชาติคีชีเนา (Chișinău International Airport - KIV) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักและเป็นประตูทางอากาศที่สำคัญที่สุดของประเทศ มีเที่ยวบินตรงไปยังจุดหมายปลายทางหลายแห่งในยุโรปและตะวันออกกลาง
- ทางน้ำ:
- ท่าเรือจูร์จูเลสต์ (Portul Giurgiuleștiภาษาโรมาเนีย): ตั้งอยู่บนแม่น้ำดานูบ เป็นท่าเรือเดียวของมอลโดวาที่สามารถเข้าถึงทะเลดำได้โดยตรง มีความสำคัญต่อการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งสินค้าเทกองและตู้คอนเทนเนอร์
- การขนส่งทางแม่น้ำปรุตและแม่น้ำนีสเตอร์มีบทบาทค่อนข้างน้อยในระบบการขนส่งโดยรวมของประเทศ
- โครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม:
- มอลโดวามีโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตที่ค่อนข้างดี โดยมีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงและราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับหลายประเทศ การครอบคลุมของอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์และโทรศัพท์มือถือ (4G) ค่อนข้างกว้างขวาง
- ภาค ICT กำลังเติบโตและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจมากขึ้น (ดูรายละเอียดในหัวข้อ ICT)
ความท้าทายยังคงมีอยู่ในการปรับปรุงและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย โดยเฉพาะถนนในชนบทและทางรถไฟ รวมถึงการเพิ่มการเชื่อมต่อกับเครือข่ายการขนส่งของยุโรป
6.5. การธนาคาร
ระบบการธนาคารของมอลโดวามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีธนาคารกลางเป็นผู้กำกับดูแล
- ธนาคารแห่งชาติมอลโดวา (Banca Națională a Moldoveiภาษาโรมาเนีย - BNM): เป็นธนาคารกลางของประเทศ รับผิดชอบในการกำหนดและดำเนินนโยบายการเงินและอัตราแลกเปลี่ยน การกำกับดูแลภาคการธนาคาร การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน และการจัดการทุนสำรองระหว่างประเทศ ธนาคารแห่งชาติมอลโดวามีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายและรับผิดชอบต่อรัฐสภา
- ธนาคารพาณิชย์: มีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งที่ดำเนินงานในมอลโดวา ทั้งธนาคารที่รัฐเป็นเจ้าของบางส่วน ธนาคารเอกชนในประเทศ และธนาคารที่มีทุนจากต่างประเทศ ธนาคารพาณิชย์ให้บริการทางการเงินที่หลากหลายแก่บุคคลทั่วไปและภาคธุรกิจ เช่น เงินฝาก สินเชื่อ การชำระเงิน และบริการอื่น ๆ
- เสถียรภาพของระบบการเงิน: ในอดีต ภาคการธนาคารของมอลโดวาเคยเผชิญกับความท้าทาย รวมถึงกรณีอื้อฉาวการฉ้อโกงธนาคารครั้งใหญ่ในปี 2014 ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง นับตั้งแต่นั้นมา ได้มีความพยายามในการปฏิรูปและเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคการธนาคาร รวมถึงการปรับปรุงกรอบการกำกับดูแลและการบริหารความเสี่ยง โดยได้รับความร่วมมือและคำแนะนำจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก
- ความท้าทายและการพัฒนา:
- การเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับประชากรในชนบทและธุรกิจขนาดเล็ก
- การเสริมสร้างธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในภาคการธนาคาร
- การพัฒนตลาดทุนและเครื่องมือทางการเงินใหม่ ๆ
- การปรับตัวเข้ากับมาตรฐานสากลและกฎระเบียบของสหภาพยุโรปในบริบทของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ
โดยรวมแล้ว ระบบการธนาคารของมอลโดวากำลังอยู่ในกระบวนการพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของประเทศ
7. ประชากร
ประชากรของมอลโดวาประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลายกลุ่ม โดยมีลักษณะทางประชากรศาสตร์ที่น่าสนใจและเผชิญกับความท้าทายบางประการ ข้อมูลล่าสุดและเชื่อถือได้มากที่สุดสามารถดูได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติสาธารณรัฐมอลโดวา ซึ่งมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องเป็นรายเดือนและรายปี การสำรวจสำมะโนประชากรแห่งชาติครั้งล่าสุดของมอลโดวาจัดทำขึ้นในปี 2014 (ไม่รวมทรานส์นีสเตรีย) และครั้งถัดไปมีกำหนดจัดทำในปี 2024
7.1. สถิติประชากร
- จำนวนประชากรทั้งหมด: ประมาณ 2.42 ล้านคน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2024, ไม่รวมทรานส์นีสเตรีย)
- ความหนาแน่นของประชากร: ประมาณ 82.8 คนต่อตารางกิโลเมตร (ข้อมูลปี 2022)
- การขยายตัวของเมือง: ประชากรประมาณ 43.4% อาศัยอยู่ในเขตเมือง (ข้อมูลปี 2022) โดยมีอัตราการขยายตัวของเมืองอยู่ที่ 0.09% ประมาณหนึ่งในสามของประชากรอาศัยอยู่ในเขตมหานครของกรุงคีชีเนา
- อัตราการเกิด: 10.6 การเกิดมีชีพต่อประชากร 1,000 คน (ปี 2022) ลดลงจาก 12.2 ในปี 2019
- อัตราการตาย: 14.2 การตายต่อประชากร 1,000 คน (ปี 2022) เพิ่มขึ้นจาก 13.7 ในปี 2019 แต่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 17.5 ในปี 2019 (ซึ่งอาจรวมผลกระทบจากโควิด-19) จำนวนผู้เสียชีวิตโดยรวมในปี 2022 ลดลง 20.5% เมื่อเทียบกับปี 2021
- อายุคาดเฉลี่ย: 71.5 ปี (ปี 2022) (ชาย 67.2 ปี, หญิง 75.7 ปี)
- อัตราการเจริญพันธุ์รวม: 1.69 คนต่อสตรีในวัยเจริญพันธุ์ (ปี 2022) ลดลงจาก 1.78 ในปี 2019 ซึ่งต่ำกว่าอัตราการทดแทนที่ 2.1
- แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของประชากร: มอลโดวากำลังเผชิญกับปัญหาประชากรลดลงในระยะยาวเนื่องจากการย้ายถิ่นออกนอกประเทศในอัตราที่สูงและอัตราการเจริญพันธุ์ที่ต่ำ ข้อมูลจาก Balkan Insight ระบุว่าประชากรลดลงเกือบ 33% ตั้งแต่ปี 1990 และภายในปี 2035 ประชากรทั้งหมดอาจเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของปี 1990 ตั้งแต่ปี 2018 จำนวนผู้เสียชีวิตสูงกว่าจำนวนการเกิดมีชีพ แม้ว่าช่องว่างนี้จะลดลงตั้งแต่ปี 2021
- สัดส่วนเพศ: มีผู้หญิง 100 คนต่อผู้ชาย 90 คน ผู้หญิงวัยทำงานมีระดับการศึกษาสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังคงมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่าผู้ชาย 13.6%
- ประชากรสูงอายุ: จำนวนผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ต่อประชากร 100 คนเพิ่มขึ้นทุกปี
7.2. กลุ่มชาติพันธุ์

จากการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2014 (ไม่รวมทรานส์นีสเตรีย) กลุ่มชาติพันธุ์หลักในมอลโดวาประกอบด้วย:
- ชาวมอลโดวา (Moldovans): 75.1%
- ชาวโรมาเนีย (Romanians): 7.0% (มีความขัดแย้งเกี่ยวกับการระบุตนเองของชาวมอลโดวา โดยนักวิชาการบางคนมองว่าพวกเขาเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เดียวกับชาวโรมาเนีย)
- ชาวยูเครน (Ukrainians): 6.6%
- ชาวกากาอุซ (Gagauzes): 4.6% (เป็นกลุ่มชาติพันธุ์เติร์กที่นับถือศาสนาคริสต์ออร์ทอดอกซ์ อาศัยอยู่ส่วนใหญ่ในเขตกึ่งปกครองตนเองกากาอูซียาทางตอนใต้)
- ชาวรัสเซีย (Russians): 4.1%
- ชาวบัลแกเรีย (Bulgarians): 1.9%
- ชาวโรม (Roma): 0.34%
- อื่น ๆ: 0.36% (เช่น ชาวเบลารุส, ชาวยิว, ชาวโปแลนด์, ชาวเยอรมัน)
7.3. ภาษา
สถานการณ์ทางภาษาในมอลโดวามีความซับซ้อนและเป็นประเด็นถกเถียงทางการเมืองและวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน
- ภาษาโรมาเนีย: ณ เดือนมีนาคม 2023 ภาษาโรมาเนียเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียวของมอลโดวา การอ้างอิงถึง "ภาษามอลโดวา" ในรัฐธรรมนูญและร่างกฎหมายทั้งหมดได้ถูกแก้ไขให้เป็นภาษาโรมาเนีย
- ประเด็นถกเถียงเรื่องชื่อภาษา: มีความขัดแย้งว่า "ภาษามอลโดวา" และ "ภาษาโรมาเนีย" ควรพิจารณาเป็นภาษาที่แตกต่างกันหรือไม่ รัฐบาลมอลโดวาปฏิเสธความแตกต่างใด ๆ อย่างไรก็ตาม การสำรวจสำมะโนประชากรปี 2014 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับภาษาที่ผู้พำนักในมอลโดวาใช้ อนุญาตให้ผู้ตอบแบบสอบถามระบุชื่อภาษาตามความต้องการ ผลลัพธ์คือ:
- ภาษามอลโดวา: 54.6%
- ภาษาโรมาเนีย: 24.0%
- ภาษารัสเซีย: 14.5% (จากการสำรวจสำมะโนปี 2014) ภาษารัสเซียเคยมีสถานะเป็น "ภาษาเพื่อการสื่อสารระหว่างชาติพันธุ์" และยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายในสังคมและในบางส่วนของภาครัฐ โดยเฉพาะในกลุ่มชนกลุ่มน้อยและในภูมิภาคทรานส์นีสเตรียและกากาอูซียา
- ภาษาของชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ:
- ภาษายูเครน: 2.7%
- ภาษากากาอุซ: 2.7% (เป็นภาษาราชการในเขตกึ่งปกครองตนเองกากาอูซียา)
- ภาษาบัลแกเรีย: 1.7%
- ภาษาอื่น ๆ : 0.5%
- นโยบายทางภาษา: รัฐบาลมอลโดวาส่งเสริมนโยบายภาษาเดียวคือภาษาโรมาเนีย แต่ก็ยังคงให้การคุ้มครองการใช้ภาษาของชนกลุ่มน้อยตามกฎหมาย
7.4. ศาสนา

รัฐธรรมนูญมอลโดวารับรองเสรีภาพในการนับถือศาสนาและการแยกศาสนจักรออกจากรัฐโดยสมบูรณ์ แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะอ้างถึง "ความสำคัญเป็นพิเศษ" ของศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ การเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของความผูกพันทางศาสนาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และการปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังทางศาสนาและชาติพันธุ์กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายในเดือนพฤษภาคม 2022
ศาสนาในมอลโดวาส่วนใหญ่เป็นศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ จากการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2014 ประชากร 90% ของประเทศระบุว่านับถือศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ โดยแบ่งออกเป็นสองสังกัดหลัก:
- คริสตจักรออร์ทอดอกซ์มอลโดวา (Moldovan Orthodox Churchภาษาอังกฤษ หรือ สังฆมณฑลคีชีเนาและมอลโดวาทั้งปวง Metropolis of Chișinău and All Moldovaภาษาอังกฤษ): สังกัดคริสตจักรรัสเซียออร์ทอดอกซ์ (Russian Orthodox Churchภาษาอังกฤษ) ชาวมอลโดวาออร์ทอดอกซ์ประมาณ 80-90% อยู่ในสังกัดนี้ คริสตจักรนี้มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างอิทธิพลของรัสเซียในมอลโดวา
- สังฆมณฑลเบสซาเรเบีย (Metropolis of Bessarabiaภาษาอังกฤษ): สังกัดคริสตจักรโรมาเนียออร์ทอดอกซ์ (Romanian Orthodox Churchภาษาอังกฤษ) ชาวมอลโดวาออร์ทอดอกซ์ที่เหลืออีก 10-20% อยู่ในสังกัดนี้
สำหรับประชากรที่ไม่ใช่ออร์ทอดอกซ์ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประเมินว่า ณ ปี 2022:
- ประมาณ 7% ระบุว่าไม่มีศาสนา
- กลุ่มแบปทิสต์, พยานพระยะโฮวา และเพนเทคอสต์ มีจำนวนระหว่าง 15,000 ถึง 30,000 คนต่อกลุ่ม
- องค์กรชุมชนชาวยิวแห่งสาธารณรัฐมอลโดวาประเมินว่ามีประชากรชาวยิวประมาณ 20,000 คน
- สันนิบาตอิสลามแห่งมอลโดวา (องค์กรพัฒนาเอกชนที่กระทรวงยุติธรรมมอลโดวารับรองในปี 2011 ว่าเป็นตัวแทนของชาวมุสลิมมอลโดวา) ประเมินว่ามีจำนวนชาวมุสลิมประมาณ 15,000-17,000 คน
มีโบสถ์ยิว 6 แห่งในคีชีเนา, 1 แห่งในออร์เฮย์, 1 แห่งในซอรอกา และ 1 แห่งในตีรัสปอล และมีมัสยิด 1 แห่งในคีชีเนา ประชากรมอลโดวาที่เหลือน้อยกว่า 5% เป็นคริสตจักรเซเวนต์เดย์แอดเวนทิสต์, คริสเตียนอีแวนเจลิคัล, โรมันคาทอลิก, ลูเธอรัน และผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ทางการทรานส์นีสเตรียประเมินว่า 80% ของประชากรในภูมิภาคนี้สังกัดคริสตจักรออร์ทอดอกซ์มอลโดวา
7.5. การศึกษา

ระบบการศึกษาของมอลโดวาครอบคลุมตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงอุดมศึกษา โดยมีความพยายามในการปฏิรูปและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
- โครงสร้างระบบการศึกษา:
- การศึกษาภาคบังคับ: โดยทั่วไปเริ่มตั้งแต่อายุ 6 หรือ 7 ปี จนถึงเกรด 9 (เทียบเท่ามัธยมศึกษาตอนต้น)
- ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา: ณ ปีการศึกษา 2022/23 มอลโดวามีโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา 1,218 แห่ง
- อาชีวศึกษา: มีโรงเรียนอาชีวศึกษา 90 แห่ง
- อุดมศึกษา: มีสถาบันอุดมศึกษา 21 แห่ง และสถาบันอุดมศึกษาเอกชนอีก 12 แห่ง
- จำนวนนักเรียนนักศึกษา: มีนักเรียนและนักศึกษาทั้งหมด 437,000 คน (ปีการศึกษา 2022/23)
- อัตราการรู้หนังสือ: ประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปมีอัตราการรู้หนังสือประมาณ 99.6%
- มหาวิทยาลัยสำคัญ:
- มหาวิทยาลัยแห่งรัฐมอลโดวา (Universitatea de Stat din Moldovaภาษาโรมาเนีย - USM): ก่อตั้งปี 1946 ตั้งอยู่ในคีชีเนา
- บัณฑิตยสถานวิทยาศาสตร์มอลโดวา (Academia de Științe a Moldoveiภาษาโรมาเนีย - AȘM): ก่อตั้งปี 1961
- บัณฑิตยสถานเศรษฐศาสตร์ศึกษาแห่งมอลโดวา (Academia de Studii Economice a Moldoveiภาษาโรมาเนีย - ASEM): ก่อตั้งปี 1991 เคยติดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของ Times Higher Education และเป็นสถาบันที่ผลิตผู้นำระดับชาติหลายคน รวมถึงประธานาธิบดีไมอา ซานดู และอดีตประธานาธิบดีอีกอร์ โดดอน
- มหาวิทยาลัยครุศาสตร์แห่งรัฐอีออน เครอันเกอ แห่งคีชีเนา (Universitatea Pedagogică de Stat "Ion Creangă" din Chișinăuภาษาโรมาเนีย): ก่อตั้งปี 1940
- มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์และเภสัชศาสตร์แห่งรัฐนีกอลาเอ เตสเตมีตซานู (Universitatea de Stat de Medicină și Farmacie "Nicolae Testemițanu"ภาษาโรมาเนีย): ก่อตั้งปี 1945
- มหาวิทยาลัยเทคนิคมอลโดวา (Universitatea Tehnică a Moldoveiภาษาโรมาเนีย - UTM): ก่อตั้งปี 1964
- ความช่วยเหลือด้านการศึกษา: ณ ปี 2015 โรมาเนียจัดสรรทุนการศึกษา 5,000 ทุนในระดับมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียนมอลโดวา นอกจากนี้ เด็กก่อนวัยเรียนมากกว่าครึ่งหนึ่งในมอลโดวาได้รับประโยชน์จากโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากโรมาเนียเพื่อปรับปรุงและจัดหาอุปกรณ์ให้โรงเรียนอนุบาล
- สถิติที่น่าสนใจ: สตรีคิดเป็น 59.1% ของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา และ 70.1% ของนักศึกษาต่างชาติทั้งหมดในหลักสูตรปริญญาเอกในมอลโดวา สตรีวัยทำงาน 32.3% ในมอลโดวาสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา เทียบกับ 24.5% ของผู้ชาย และ 16.9% สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาเฉพาะทาง เทียบกับ 11.3% ของผู้ชาย
7.6. สาธารณสุข
มอลโดวามีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าผ่านโครงการประกันสุขภาพภาคบังคับ
- บุคลากรทางการแพทย์และสถานพยาบาล: จากข้อมูลล่าสุดปี 2022 ต่อประชากร 10,000 คน มีแพทย์ 48.4 คน และบุคลากรทางการแพทย์ระดับกลาง 91 คน ประเทศมีโรงพยาบาล 86 แห่ง, ร้านขายยาและสาขา 1,524 แห่ง, แพทย์ 12,600 คน, บุคลากรทางการแพทย์เสริม 23,687 คน และเตียงผู้ป่วย 17,293 เตียง
- การประเมินสุขภาพตนเอง: ประมาณ 53% ของผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปในเขตเมืองอธิบายว่าสุขภาพของตนเอง 'ดี' หรือ 'ดีมาก' เทียบกับประมาณ 33% ของคนในวัยเดียวกันในเขตชนบท
- ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ: มอลโดวาใช้จ่าย 6% ของ GDP ประจำปีสำหรับด้านสุขภาพ เพิ่มขึ้นจาก 4.9% ในปี 2019
- อายุคาดเฉลี่ยและอัตราการเจริญพันธุ์:
- อายุคาดเฉลี่ยปี 2022 คือ 71.5 ปี (ชาย 67.2 ปี, หญิง 75.7 ปี)
- อัตราการเจริญพันธุ์รวมต่อสตรีหนึ่งคนในปี 2022 คือ 1.69 ซึ่งต่ำกว่าอัตราการทดแทนที่ 2.1
- สถิติชีพ:
- อัตราการเกิดมีชีพต่อประชากร 1,000 คนในปี 2022 คือ 10.6 (ลดลงจาก 12.2 ในปี 2019)
- อัตราการตายต่อประชากร 1,000 คนในปี 2022 คือ 14.2 (เพิ่มขึ้นจาก 13.7 ในปี 2019 แต่ลดลงอย่างมากจาก 17.5 ในปี 2021)
- อัตราการตายของทารกต่อการเกิดมีชีพ 1,000 คนคือ 9.0 (เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 8.7 ในปี 2020)
- สาเหตุการตายหลัก: ตามข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติ สาเหตุการตายหลักในปี 2022 ได้แก่ โรคระบบไหลเวียนโลหิต (58%), เนื้องอกมะเร็ง (15.8%), โรคทางเดินอาหาร (7.5%), สาเหตุภายนอก (4.8%) และสาเหตุอื่น ๆ (13.9%) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจจากความดันโลหิตสูง, โรคตับแข็ง และมะเร็งหลอดลม หลอดลมฝอย และปอด เป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ในปี 2019
- อายุเกษียณ: ในวันที่ 19 ธันวาคม 2016 รัฐสภามอลโดวาได้อนุมัติการเพิ่มอายุเกษียณเป็น 63 ปี จากระดับปัจจุบันที่ 57 ปีสำหรับผู้หญิงและ 62 ปีสำหรับผู้ชาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการช่วยเหลือระยะ 3 ปีที่ตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ อายุเกษียณจะถูกปรับขึ้นทีละน้อยทุกปีจนมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ในปี 2028
- การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: มอลโดวามีอัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อหัวสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (15.2 L ของแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ในปี 2016) แม้จะลดลงบ้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ
7.7. การย้ายถิ่นและชาวมอลโดวาโพ้นทะเล
การย้ายถิ่นเป็นปรากฏการณ์สำคัญในมอลโดวาและมีผลกระทบอย่างมากต่อประชากรศาสตร์และเศรษฐกิจของประเทศ คาดการณ์ว่ามีพลเมืองมอลโดวามากกว่า 1.2 ถึง 2 ล้านคน (มากกว่า 25% ของประชากร) อาศัยและทำงานอยู่ในต่างประเทศ
- อัตราการย้ายถิ่นออก: สูงอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจมอลโดวายังคงพึ่งพาเงินส่งกลับจากแรงงานในต่างประเทศเป็นอย่างมาก
- ประเทศปลายทางหลัก: ชาวมอลโดวาพบได้ทั่วคาบสมุทรบอลข่าน ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ กลุ่มประชากรชาวมอลโดวาโพ้นทะเลที่สำคัญ ได้แก่:
- แนวโน้ม: ประชากรของมอลโดวาคาดว่าจะยังคงลดลง โดยการย้ายถิ่นออกยังคงมีอัตราสูงกว่าการย้ายถิ่นเข้าหรืออัตราการเกิดตามธรรมชาติ ในปี 2020 การย้ายถิ่นสุทธิลดลงเหลือ 7,000 คน แต่ภายในปี 2022 มีผู้คนเดินทางออกจากประเทศมากกว่าเข้ามาถึง 43,000 คน (ลดลงเล็กน้อยจาก 45,000 คนในปี 2021) การรุกรานยูเครนของรัสเซียและผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อมอลโดวาอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นจากปี 2020 ถึง 2022
- การกลับประเทศ: มีข้อบ่งชี้ว่าการรุกรานยูเครนและการที่ประเทศกำลังมุ่งสู่การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอาจทำให้จำนวนผู้อพยพชาวมอลโดวากลับสู่มาตุภูมิเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้ประเทศเข้าร่วมสหภาพยุโรป
- อิทธิพลทางการเมือง: ชาวมอลโดวาโพ้นทะเลมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเลือกตั้งในมอลโดวาครั้งล่าสุด โดยลงคะแนนเสียงท่วมท้นให้ไมอา ซานดู เป็นประธานาธิบดีในปี 2020 และพรรคกิจการและความเป็นปึกแผ่นของเธอในการเลือกตั้งรัฐสภาปี 2021
7.8. ความแตกต่างและความตึงเครียดในระดับภูมิภาค
นับตั้งแต่ได้รับเอกราช มอลโดวามีความแตกต่างและความตึงเครียดในระดับภูมิภาคที่ลึกซึ้งหลายประการภายในอาณาเขตที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ประเทศต้องต่อสู้กับปัญหาอัตลักษณ์แห่งชาติ ยุทธศาสตร์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเป็นพันธมิตร ซึ่งมักจะถูกดึงระหว่างโรมาเนียและสหภาพยุโรปทางตะวันตกกับสหพันธรัฐรัสเซียทางตะวันออก
- ทรานส์นีสเตรีย:
- เป็นภูมิภาคที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องความขัดแย้ง ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำนีสเตอร์และมีพรมแดนติดกับยูเครน ได้ดำเนินนโยบายความสัมพันธ์ทางการทูต การทหาร และเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับรัสเซียนับตั้งแต่สงครามทรานส์นีสเตรียในปี 1992 โดยมีทหารรัสเซียมากกว่าหนึ่งพันนายประจำการอยู่ในภูมิภาค
- สถานการณ์นี้สร้างความซับซ้อนอย่างยิ่งหลังจากการการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียในปี 2022 เนื่องจากตำแหน่งของทรานส์นีสเตรียทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครนและการมีทหารรัสเซียประจำการอยู่อาจเป็นภัยคุกคามต่อความพยายามในการทำสงครามของยูเครน
- ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง โจเซฟ บอร์เรลล์ ยืนยันว่าเส้นทางการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของมอลโดวาไม่ขึ้นอยู่กับการแก้ไขความขัดแย้งทรานส์นีสเตรีย
- กากาอูซียา:
- เป็นหน่วยปกครองตนเองทางอาณาเขต ชาวกากาอุซเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดภาษาเติร์ก กระจายตัวอยู่ระหว่างตอนใต้ของมอลโดวาและตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน แม้ว่าต้นกำเนิดที่แท้จริงของพวกเขาจะยังไม่ชัดเจน แต่พวกเขามีความรู้สึกถึงอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ที่แข็งแกร่งซึ่งแตกต่างจากมอลโดวา โรมาเนีย และยูเครน โดยมีภาษาและประเพณีวัฒนธรรมที่โดดเด่น อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นกลุ่มที่ได้รับอิทธิพลจากความเป็นรัสเซีย (Russified) อย่างมาก
- การสนับสนุนการรวมกลุ่มกับโรมาเนียและสหภาพยุโรปในหมู่ชาวกากาอุซต่ำกว่าประชากรมอลโดวาส่วนใหญ่มาก ในปี 2014 ก่อนที่สาธารณรัฐมอลโดวาจะลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับสหภาพยุโรป ชาวกากาอุซเกือบ 99% ลงคะแนนเสียงในประชามติ "ปฏิเสธความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับยุโรปเพื่อสนับสนุนการเข้าร่วมสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชียที่นำโดยรัสเซีย" ในปี 2015 ชาวกากาอุซกว่าครึ่งหนึ่งลงคะแนนให้อีรีนา วลาห์ ผู้สมัครที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย เป็นผู้ว่าการ
- กากาอูซียายังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญทั้งต่ออธิปไตยในดินแดนและเสถียรภาพทางการเมืองของมอลโดวา เนื่องจากการมีส่วนร่วมอย่างเป็นระบบของรัสเซียในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนพรรคการเมืองท้องถิ่นและผู้สมัครผู้นำที่นิยมรัสเซีย ผู้นำท้องถิ่นคนปัจจุบัน เอฟเกเนีย กูตซุล ในเดือนกรกฎาคม 2023 ได้ขอบคุณอิลัน ชอร์ ผู้มีอิทธิพลชาวมอลโดวาที่หลบหนีคดีและเป็นผู้นำพรรคชอร์ฝ่ายค้านที่นิยมรัสเซียซึ่งถูกสั่งยุบ สำหรับการสนับสนุนส่วนตัวและการเงิน และแสดงความปรารถนาที่จะมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับรัสเซีย
- ประเด็นการรวมชาติมอลโดวา-โรมาเนีย:
- มีความขัดแย้งอย่างมากเกี่ยวกับอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์และภาษาในมอลโดวา ว่าภาษามอลโดวาและชาวมอลโดวาเป็นกลุ่มภาษาและชาติพันธุ์ที่แยกจากภาษาโรมาเนียและชาวโรมาเนียหรือไม่
- ความเป็นไปได้ในการรวมชาติมอลโดวาและโรมาเนียยังคงเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมในทั้งสองประเทศนับตั้งแต่เอกราชของมอลโดวาในปี 1991
- โรมาเนียและมอลโดวามีความสัมพันธ์ทางการทูตที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ โรมาเนียสนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างรวดเร็วของมอลโดวา ให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจำนวนมากแก่เศรษฐกิจที่กำลังดิ้นรนของมอลโดวา และจัดหาความต้องการด้านพลังงานของมอลโดวาได้มากถึง 80-90% ผ่านราคาสูงสุดที่มีส่วนลด ในขณะที่มอลโดวาพยายามลดการพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
- ประชาชนโรมาเนียมากถึง 74% และประชาชนมอลโดวามากกว่า 40% สนับสนุนการรวมมอลโดวาเข้ากับโรมาเนียในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แม้ว่าคนส่วนใหญ่ในแต่ละประเทศเชื่อว่า 'ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม' ผลสำรวจในปี 2022 ระหว่างการรุกรานยูเครนของรัสเซียระบุว่ามีเพียง 11% ของประชากรโรมาเนียที่สนับสนุนการรวมชาติทันที ในขณะที่กว่า 42% คิดว่ายังไม่ใช่เวลา
ความแตกต่างและความตึงเครียดเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสิทธิของชนกลุ่มน้อยในมอลโดวา และเป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องเผชิญอย่างต่อเนื่อง
8. วัฒนธรรม


วัฒนธรรมของมอลโดวาเป็นผลพวงจากการผสมผสานอิทธิพลทางประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย โดยมีรากฐานสำคัญจากวัฒนธรรมโรมาเนีย ร่วมด้วยอิทธิพลจากกลุ่มชนสลาฟและวัฒนธรรมอื่น ๆ ในภูมิภาคโดยรอบ
8.1. ประเพณีและขนบธรรมเนียม

ประเพณีและขนบธรรมเนียมของมอลโดวามีรากฐานมาจากวัฒนธรรมโรมาเนียเป็นหลัก ซึ่งย้อนกลับไปได้ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 2 ในช่วงการตั้งอาณานิคมของโรมันในดาเชีย วัฒนธรรมนี้ยังได้รับอิทธิพลจากจักรวรรดิไบแซนไทน์ ประชากรเพื่อนบ้านชาวฮังการีและสลาฟ และต่อมาโดยชาวเติร์กออตโตมัน ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 อิทธิพลจากยุโรปตะวันตกที่แข็งแกร่งในวรรณกรรมและศิลปะของมอลโดวาเป็นที่แพร่หลาย ในช่วงปี 1812-1917 และ 1944-89 ชาวมอลโดวาได้รับอิทธิพลจากการควบคุมของฝ่ายบริหารรัสเซียและโซเวียต รวมถึงการอพยพเข้ามาของชาวรัสเซีย
มรดกทางวัฒนธรรมของประเทศโดดเด่นด้วยโบสถ์และอารามจำนวนมากที่สร้างโดยผู้ปกครองมอลเดเวีย ชเตฟันมหาราช ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 รวมถึงผลงานของมุขนายกในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการในภายหลัง เช่น วาร์ลาอัม และ โดซอฟเตย์ และผลงานของนักปราชญ์ เช่น กริกอเร อูเรเก, มีรอน กอสติน, นีกอลาเอ มีเลสกู, ดิมิตรีเอ กันเตมีร์ (เจ้าชายดิมิตรีเอ กันเตมีร์ เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่สุดของวัฒนธรรมมอลเดเวียในคริสต์ศตวรรษที่ 18 เขาเขียนคำอธิบายทางภูมิศาสตร์ ชาติพันธุ์วิทยา และเศรษฐกิจของประเทศเป็นครั้งแรกใน Descriptio Moldaviaeภาษาละติน (เบอร์ลิน, 1714)) และ อีออน เนกุลเช
ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ชาวมอลเดเวียจากดินแดนของราชรัฐมอลเดเวียในยุคกลาง ซึ่งแบ่งออกเป็นเบสซาเรเบีย, บูโควีนา และมอลเดเวียตะวันตก (หลังปี 1859 คือโรมาเนีย) มีส่วนสำคัญในการก่อตั้งวัฒนธรรมโรมาเนียสมัยใหม่ ในจำนวนนี้มีชาวเบสซาเรเบียหลายคน เช่น อาเล็กซันดรู ดอนิช, อาเล็กซันดรู ฮึจเดว, บอกดาน เปตรีเชยกู ฮัชเดว, กอนสตันติน สตามาตี, กอนสตันติน สตามาตี-ชูเรอา, กอสตอเก เนกรุซซี, อาเลกู รุสโซ, กอนสตันติน สเตเร
มีไฮ เอมีเนสกู (Mihai Eminescuภาษาโรมาเนีย) กวีโรแมนติกตอนปลาย และ อีออน เครอันเกอ (Ion Creangăภาษาโรมาเนีย) นักเขียน เป็นศิลปินภาษาโรมาเนียที่มีอิทธิพลมากที่สุด ถือเป็นนักเขียนแห่งชาติทั้งในโรมาเนียและมอลโดวา
วันที่ 1 มีนาคม มีการมอบของขวัญ เมร์ตซิชอร์ (mărțișorภาษาโรมาเนีย) ซึ่งเป็นประเพณีที่ผู้หญิงจะได้รับเครื่องรางชนิดหนึ่งเพื่อความเป็นสิริมงคล
8.2. อาหาร

ดินที่อุดมสมบูรณ์ของมอลโดวา (ดินเชอร์โนเซม) ให้ผลผลิตองุ่น ผลไม้ ผัก ธัญพืช เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์นมจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกนำมาใช้ในอาหารประจำชาติ อาหารมอลโดวาคล้ายคลึงกับอาหารโรมาเนีย ยูเครน และโปแลนด์ โดยหลายภูมิภาคมีอาหารแบบดั้งเดิมร่วมกัน ซึ่งมักจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ในอดีต อาหารมอลโดวาได้รับอิทธิพลโดยเฉพาะจากองค์ประกอบของอาหารรัสเซีย ตุรกี และยูเครน อาหารจานหลักมักประกอบด้วยเนื้อวัว เนื้อหมู มันฝรั่ง กะหล่ำปลี และธัญพืชหลากหลายชนิด
อาหารมอลโดวาแบบดั้งเดิมหลายอย่าง ได้แก่:
- เปลอชินเต (Plăcinteภาษาโรมาเนีย): ขนมอบหรือทอดสอดไส้ เช่น ชีสนุ่ม (มักเป็น อูร์เดอ), กะหล่ำปลี, มันฝรั่ง, แอปเปิล, เชอร์รี่เปรี้ยว และอื่น ๆ ทั้งแบบคาวและหวาน
- ซาร์มาเล (Sarmaleภาษาโรมาเนีย): อาหารมอลโดวาแบบดั้งเดิม มักประกอบด้วยใบกะหล่ำปลียัดไส้ข้าว พริก แครอท เนื้อสัตว์ และอบในน้ำมัน
- เมอเมอลิเกอ (Mămăligăภาษาโรมาเนีย): โจ๊กชนิดหนึ่งทำจากแป้งข้าวโพดสีเหลือง เป็นที่นิยมในประเทศอื่น ๆ ในชื่อ โพเลนตา และมักเสิร์ฟพร้อมชีสนมแกะและครีมเปรี้ยว
- ปลาคีนดี (Plachyndyภาษาโรมาเนีย): ขนมปังแบนชนิดหนึ่งมักทำด้วยเคเฟอร์หรือบัตเตอร์มิลค์ ห่อด้วยสมุนไพร และทอดในน้ำมัน
- เซอาเมอ (Zeamăภาษาโรมาเนีย): ซุปไก่ใส โดยทั่วไปประกอบด้วยน้ำซุปไก่ทำเองที่ปรุงด้วยไก่ทั้งตัวขนาดเล็ก น้ำ เส้นก๋วยเตี๋ยวไข่ทำเองแบบบาง (tăiței de casăภาษาโรมาเนีย) และผักและสมุนไพรสับละเอียดหลากหลายชนิด
- บรึนเซอ (Brânzăภาษาโรมาเนีย): ชีสนมแกะ/แพะเนื้อนุ่ม มีเนื้อสัมผัสร่วนและรสเปรี้ยว ส่วนใหญ่ผลิตและเป็นที่นิยมในสโลวาเกีย โรมาเนีย และมอลโดวา และมักใช้ในสลัด พาย และเกี๊ยว
- บอร์ช (Borschtภาษาอังกฤษ): ซุปเปรี้ยวแบบยุโรปตะวันออกทำจากบีทรูท น้ำสต็อกเนื้อ และผัก ก็เป็นที่นิยมและเสิร์ฟทั่วไปในมอลโดวา
- กีรอชเต (Chiroșteภาษาโรมาเนีย): หรือที่รู้จักในภูมิภาคอื่นว่า ปิเอโรกี เป็นอาหารหลักแบบดั้งเดิมอีกอย่างหนึ่ง มักยัดไส้ด้วยชีสนุ่มในมอลโดวา แป้งทำจากแป้งสาลีและต้มในน้ำเกลือ ทอดในน้ำมัน หรืออบในเตาอบ
- เมโดวิก (Медовикภาษารัสเซีย): เค้กที่มีต้นกำเนิดจากรัสเซีย (และเรียกว่า Tort Smetanik ในมอลโดวา) เป็นเค้กชั้นที่ได้รับความนิยม มีส่วนผสมของน้ำผึ้งและสเมทานา (ครีมเปรี้ยว) หรือนมข้น
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมคือ ดีวิน (divinภาษาโรมาเนีย - บรั่นดีมอลโดวา), เบียร์ และไวน์ ซึ่งประเทศนี้มีชื่อเสียงเนื่องจากมีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับผู้ใหญ่โดยรวมแบ่งออกเป็นสุรา เบียร์ และไวน์อย่างเท่าเทียมกัน มอลโดวามีอัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อหัวสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยดื่มแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 15.2 L ในปี 2016 แม้ว่าตัวเลขนี้จะลดลงบ้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง
8.3. ดนตรีและศิลปะการแสดง

ดนตรีพื้นบ้านดั้งเดิมของมอลโดวามีความไพเราะและหลากหลาย สะท้อนอิทธิพลจากวัฒนธรรมโรมาเนียและสลาฟ เครื่องดนตรีพื้นบ้านที่สำคัญ ได้แก่ ไน (naiภาษาโรมาเนีย - ขลุ่ยแพน), โกบซา (cobzăภาษาโรมาเนีย - ลูท), ไวโอลิน และซิมบาลอม (țambalภาษาโรมาเนีย)
ในด้านดนตรีสมัยนิยม มอลโดวาได้สร้างศิลปินและวงดนตรีที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ตัวอย่างเช่น:
- โอโซน (O-Zoneภาษาอังกฤษ): วงดนตรีป๊อปที่โด่งดังในปี 2003 ด้วยเพลงฮิต "Dragostea Din Tei" (หรือที่รู้จักในชื่อ "Numa Numa song") ซึ่งติดอันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงหลายแห่งทั่วโลก
- ซดอบ ชี ซดุบ (Zdob și Zdubภาษาโรมาเนีย): วงดนตรีโฟล์ก-ร็อกยอดนิยม เป็นตัวแทนของมอลโดวาในการประกวดเพลงยูโรวิชันหลายครั้ง รวมถึงปี 2005 (ได้อันดับที่ 6) และปี 2011
- นาตาเลีย บาร์บู (Natalia Barbuภาษาโรมาเนีย): เป็นตัวแทนมอลโดวาในการประกวดเพลงยูโรวิชันปี 2007 ด้วยเพลง "Fight" ได้อันดับที่ 10
- ซันสโตรกโพรเจกต์ (SunStroke Projectภาษาอังกฤษ): ร่วมกับ โอเลีย ตีรา (Olia Tiraภาษาโรมาเนีย) เป็นตัวแทนประเทศในการประกวดเพลงยูโรวิชันปี 2010 ด้วยเพลง "Run Away" การแสดงของพวกเขาได้รับความสนใจในระดับนานาชาติจากท่าเต้นของ เซอร์เกย์ สเตฟานอฟ (Сергей Степановภาษารัสเซีย) นักแซกโซโฟนของวง ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "Epic Sax Guy" วง SunStroke Project ยังเข้าร่วมการประกวดเพลงยูโรวิชันปี 2017 อีกครั้งด้วยเพลง "Hey Mama" ซึ่งได้อันดับที่ 3
- คาร์ลาส์ดรีมส์ (Carla's Dreamsภาษาอังกฤษ): โครงการดนตรีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในมอลโดวาตั้งแต่ปี 2015 เพลง "Sub Pielea Mea" ของพวกเขาขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตหลายประเทศในยุโรปในปี 2016 วงนี้ยังคงมีผลงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีเอกลักษณ์คือการปกปิดใบหน้าขณะแสดง
นักประพันธ์เพลงคลาสสิกที่มีชื่อเสียงของมอลโดวา ได้แก่ กาฟรีอิล มูซีเชสกู (Gavriil Musicescuภาษาโรมาเนีย), ชเตฟัน เนอากา (Ștefan Neagaภาษาโรมาเนีย) และ เอวเจน ดอกา (Eugen Dogaภาษาโรมาเนีย)
มาเรีย บีเอชู (Maria Bieșuภาษาโรมาเนีย) เป็นหนึ่งในนักร้องโซปราโนชั้นนำของโลกและผู้ชนะการแข่งขันนานาชาติของญี่ปุ่น นักเปียโน มาร์ก เซลต์เซอร์ (Mark Zeltserภาษาอังกฤษ) เป็นผู้ชนะการแข่งขันระดับชาติของสหภาพโซเวียต, การแข่งขัน Long-Thibaud-Crespin ในปารีส และการแข่งขัน Busoni ในโบลซาโน อิตาลี
ศิลปะการแสดงอื่น ๆ เช่น ละครและบัลเลต์ ก็มีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมมอลโดวา โดยมีโรงละครและคณะแสดงที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในกรุงคีชีเนา
8.4. สื่อและภาพยนตร์
ภูมิทัศน์สื่อในมอลโดวามีความหลากหลายแต่ก็เผชิญกับความท้าทายหลายประการ รวมถึงการแบ่งขั้วทางการเมืองและอิทธิพลจากกลุ่มผู้มีอำนาจ
- สื่อสิ่งพิมพ์: มีหนังสือพิมพ์รายวันและรายสัปดาห์หลายฉบับตีพิมพ์ในมอลโดวา เช่น Timpul de dimineață และ Moldova Suverană แต่สื่อสิ่งพิมพ์โดยรวมมีผู้ชมจำนวนน้อย
- โทรทัศน์และวิทยุ: โทรทัศน์ยังคงเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือได้มากที่สุด สถานีวิทยุ FM ส่วนตัวส่วนใหญ่ถ่ายทอดรายการจากสถานีของรัสเซียและโรมาเนีย
- เตเลราดีโอ-มอลโดวา (Teleradio-Moldovaภาษาโรมาเนีย, TRM): เป็นสถานีวิทยุและโทรทัศน์สาธารณะแห่งชาติ ออกอากาศช่องโทรทัศน์ มอลโดวา 1 (Moldova 1)
- ราดีโอมอลโดวา (Radio Moldovaภาษาโรมาเนีย): เป็นสถานีวิทยุแห่งชาติที่ได้รับทุนสนับสนุนจากภาครัฐ ออกอากาศมาตั้งแต่ปี 1939 จากกรุงคีชีเนา
- สถานีวิทยุยุโรปเสรี/สถานีวิทยุเสรีภาพ (Radio Free Europe/Radio Liberty) ก็สามารถรับฟังได้อย่างกว้างขวาง
- สื่อออนไลน์: สื่อสังคมออนไลน์มีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้น มอลโดวามีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 3 ล้านคนภายในเดือนกรกฎาคม 2022 หรือประมาณ 76% ของประชากร และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลได้รับการพัฒนาอย่างดี โดยมีความครอบคลุมของ 4G ถึง 98% ของพื้นที่ประเทศ
- เสรีภาพสื่อ: สิทธิในเสรีภาพในการพูดและสิทธิในข้อมูลข่าวสารได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญมอลโดวา ผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Borders) ได้ปรับปรุงอันดับเสรีภาพสื่อของมอลโดวาขึ้นเป็นอันดับที่ 28 ในปี 2023 จากอันดับที่ 89 ในปี 2020 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปฏิรูปกฎหมายของรัฐบาลที่ทำให้ผู้สื่อข่าวเข้าถึงข้อมูลทางการได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม สื่อของมอลโดวามีความหลากหลายแต่ก็มีการแบ่งขั้วอย่างมาก เช่นเดียวกับประเทศเอง ซึ่งมีลักษณะเด่นคือความไม่มั่นคงทางการเมืองและอิทธิพลที่มากเกินไปจากกลุ่มผู้มีอำนาจทางเศรษฐกิจ สื่อของมอลโดวาแบ่งออกเป็นค่ายที่สนับสนุนรัสเซียและค่ายที่สนับสนุนตะวันตก และตามแนวทางการเมืองของพรรคต่าง ๆ
- ปัญหาการแบ่งขั้วของสื่อและการโฆษณาชวนเชื่อ: สื่อมักถูกครอบงำโดยกลุ่มผู้มีอิทธิพลและผู้นำทางการเมือง ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อจุดยืนของกองบรรณาธิการ สื่ออิสระกำลังดิ้นรนเพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนทางการเงินเมื่อเผชิญกับรายได้จากการโฆษณาที่ลดลงเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ ความซบเซาทางเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอนที่เกิดจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
- ในปี 2022 รัฐบาลได้เพิกถอนใบอนุญาตออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ 6 แห่งเนื่องจากเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อที่สนับสนุนรัสเซียและข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซึ่งละเมิดประมวลกฎหมายบริการโสตทัศนูปกรณ์ของประเทศ รัฐบาลระบุว่าการดำเนินการนี้เพื่อ "ป้องกันความเสี่ยงจากข้อมูลเท็จหรือความพยายามที่จะบิดเบือนความคิดเห็นของประชาชน" สถานีทั้ง 6 แห่งเป็นของหรือมีความเกี่ยวข้องกับอิลัน ชอร์ นักการเมืองและนักธุรกิจที่สนับสนุนรัสเซียซึ่งหลบหนีไปยังอิสราเอลในปี 2019 หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน และถูกตัดสินจำคุก 15 ปีโดยไม่ปรากฏตัว ในเดือนตุลาคม 2023 สถานีโทรทัศน์ Orizont TV, ITV, Prime, Publika TV, Canal 2 และ Canal 3 ก็ถูกสั่งห้ามออกอากาศเช่นกันเนื่องจากบ่อนทำลายการเลือกตั้งท้องถิ่น รวมถึงมีการปิดกั้นสื่อรัสเซียจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึงสำนักข่าว TASS และ Interfax
- อุตสาหกรรมภาพยนตร์: ภาพยนตร์มอลโดวาพัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960 ในสมัยโซเวียต โดยมีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ขนาดเล็กแต่มีชีวิตชีวา หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตและความซบเซาทางเศรษฐกิจทำให้วงการภาพยนตร์ซบเซาลง อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์บางเรื่องประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ เช่น Lăutarii (1972) กำกับโดย เอมิล ลอเตอานู และ Wedding in Bessarabia (2009) ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์มอลโดวาได้รับความสนใจจากนานาชาติมากขึ้น เช่น Carbon (2022) กำกับโดย อียอน บอร์ช ได้รับคำชมจากนิตยสารอย่าง Variety และได้รับรางวัล Audience Award จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติทรานซิลเวเนีย ในเดือนกรกฎาคม 2022 โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้ประกาศว่าจะใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยในการแปลงฟิล์มภาพยนตร์กว่า 1,600 เรื่องจากคลังภาพยนตร์ Moldova-Film ให้เป็นดิจิทัลเพื่อการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม สหรัฐอเมริกาได้ให้ความช่วยเหลือโดยจัดตั้งห้องปฏิบัติการดิจิทัลในปี 2021 เพื่อบูรณะและอนุรักษ์ภาพยนตร์สารคดีและภาพยนตร์เรื่องยาวในคลัง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของมรดกทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศิลปะของมอลโดวา และภาพยนตร์หลายเรื่องได้ออกอากาศทางโทรทัศน์แห่งชาติพร้อมคำบรรยายภาษาโรมาเนีย
8.5. กีฬา

ฟุตบอลเป็นกีฬาประเภททีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในมอลโดวา หน่วยงานกำกับดูแลคือสหพันธ์ฟุตบอลมอลโดวา (Federația Moldovenească de Fotbalภาษาโรมาเนีย, FMF) ซึ่งเป็นสมาชิกของยูฟ่า (UEFA) ฟุตบอลทีมชาติมอลโดวาลงเล่นนัดแรกในปี 1994 แต่ยังไม่เคยผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (UEFA European Championship) สโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ เอฟซีเชริฟฟ์ตีรัสปอล (FC Sheriff Tiraspol) ซึ่งเป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวของมอลโดวาที่ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและยูฟ่ายูโรปาลีก ผู้ชนะรายอื่น ๆ ของลีกแห่งชาติมอลโดวา (Divizia Naționalăภาษาโรมาเนีย) ได้แก่ เอฟซีซิมบรูคีชีเนา (FC Zimbru Chișinău), เอฟซีดาเชียคีชีเนา (FC Dacia Chișinău), เอฟซีตีรัสปอล (FC Tiraspol) และเอฟซีมิลซามีออร์เฮย์ (FC Milsami Orhei)
ตรึนเตอ (Trântăภาษาโรมาเนีย) ซึ่งเป็นมวยปล้ำรูปแบบหนึ่ง เป็นกีฬาประจำชาติของมอลโดวา
รักบี้ยูเนียนก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ผู้สนับสนุนมากกว่า 10,000 คนเข้าร่วมชมการแข่งขันระดับนานาชาติในประเทศ ตั้งแต่ปี 2004 จำนวนผู้เล่นในทุกระดับเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเป็น 3,200 คน แม้จะมีความยากลำบาก ทีมชาติก็อยู่ในอันดับที่ 34 ของโลก
การแข่งขันจักรยานที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ มอลโดวาเพรสซิเดนท์สคัพ (Moldova President's Cup) ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2004
ในกีฬาหมากรุก สาธารณรัฐมอลโดวามีปรมาจารย์ระดับนานาชาติหลายคน เช่น วิโอเรล ยอร์ดอเคสกู (Viorel Iordăchescuภาษาโรมาเนีย), ดมิทรี สเวตูชกิน (Дмитрий Светушкинภาษารัสเซีย) และ วิกตอร์ โบโลกัน (Victor Bologanภาษาโรมาเนีย)
ราดู อัลบอต (Radu Albotภาษาโรมาเนีย) เป็นหนึ่งในนักเทนนิสชาวมอลโดวาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยคว้าแชมป์ประเภทเดี่ยวของสมาคมนักเทนนิสอาชีพ (ATP) (เดลเรย์บีชโอเพน ปี 2019) และประเภทคู่ (อิสตันบูลโอเพน ปี 2015)
นักกีฬาจากมอลโดวาได้รับเหรียญรางวัลระดับยุโรปในกีฬากรีฑา, ไบแอธลอน, ฟุตบอล และยิมนาสติก; เหรียญรางวัลระดับโลกในกีฬายิงธนู, ยูโด, ว่ายน้ำ และเทควันโด; รวมถึงเหรียญรางวัลโอลิมปิกในกีฬามวยสากล, เรือแคนู, ยิงปืน, ยกน้ำหนัก และมวยปล้ำ มอลโดวาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกในโอลิมปิกฤดูหนาว 1994 ที่ลิลเลฮัมเมอร์ ผู้ที่ได้รับเหรียญรางวัลโอลิมปิก ได้แก่ เซอร์เกย์ มูเรย์โก (Sergei Mureikoภาษาโรมาเนีย), โอเลก มอลโดวัน (Oleg Moldovanภาษาโรมาเนีย), วิตาลี กรูชัก (Vitalie Grușacภาษาโรมาเนีย), เวียเชสลาฟ โกจัน (Veaceslav Gojanภาษาโรมาเนีย) และ เซอร์เกย์ ตาร์นอฟสกี (Serghei Tarnovschiภาษาโรมาเนีย) นีกอลาเอ จูราฟสกี (Nicolae Juravschiภาษาโรมาเนีย) เป็นตัวแทนของสหภาพโซเวียตในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 1988 ที่โซล โดยได้รับสองเหรียญรางวัล
8.6. วันหยุดราชการ
ธุรกิจค้าปลีกส่วนใหญ่ปิดทำการในวันขึ้นปีใหม่และวันประกาศอิสรภาพ แต่ยังคงเปิดทำการในวันหยุดอื่น ๆ ทั้งหมด คริสต์มาสมีการเฉลิมฉลองในวันที่ 7 มกราคม ซึ่งเป็นวันตามประเพณีของคริสตจักรอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ที่ใช้ปฏิทินเก่า หรือในวันที่ 25 ธันวาคม โดยทั้งสองวันได้รับการยอมรับให้เป็นวันหยุดราชการ
วันที่ | ชื่อภาษาไทย | ชื่อภาษาโรมาเนีย | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
1 มกราคม | วันขึ้นปีใหม่ | Anul Nou | |
7-8 มกราคม | คริสต์มาส (ตามปฏิทินเก่า) | Crăciunul pe stil vechi | ตามปฏิทินจูเลียน |
1 มีนาคม | เมร์ตซิชอร์ | Mărțișor | วันแรกของฤดูใบไม้ผลิ เป็นวันเฉลิมฉลอง ไม่ใช่วันหยุด |
8 มีนาคม | วันสตรีสากล | Ziua internațională a femeilor | |
(เคลื่อนที่: มีนาคม-พฤษภาคม) | อีสเตอร์ | Paștele Blajinilor / Paștele | ตามปฏิทินออร์ทอดอกซ์ (3 วัน) วันจันทร์อีสเตอร์เป็นวันระลึกถึงผู้ล่วงลับ (Memorial Day) |
1 พฤษภาคม | วันแรงงานสากล | Ziua Muncii | |
9 พฤษภาคม | วันแห่งชัยชนะและวันรำลึกถึงวีรบุรุษผู้เสียสละเพื่ออิสรภาพของปิตุภูมิ | Ziua Victoriei și a comemorării eroilor căzuți pentru independența Patriei | รำลึกถึงการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองในยุโรป |
1 มิถุนายน | วันเด็กสากล | Ziua Copilului | |
27 สิงหาคม | วันประกาศอิสรภาพ | Ziua Independenței | ประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียตในปี 1991 |
31 สิงหาคม | วันภาษาของเรา | Limba noastră | เฉลิมฉลองภาษาโรมาเนีย |
25 ธันวาคม | คริสต์มาส (ตามปฏิทินใหม่) | Crăciunul pe stil nou | ตามปฏิทินกริกอเรียน |