1. ภาพรวม
เวอร์จิลิอุส อเลกนา (Virgilijus Aleknavʲɪrʲˈɡʲɪlʲɪjʊs ɐlʲɛkˈnɐLithuanian; เกิด 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1972) เป็นอดีตนักขว้างจักรชาวลิทัวเนียที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ และเป็นบุคคลสำคัญในเวทีกรีฑาระดับโลก เขาประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นด้วยการคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกฤดูร้อนถึงสามครั้ง รวมถึงสองเหรียญทอง และยังเป็นเจ้าของสถิติส่วนบุคคลที่เคยอยู่ในอันดับสองของโลกยาวนานก่อนที่บุตรชายของเขาจะสร้างสถิติใหม่ นอกจากบทบาทอันยิ่งใหญ่ในวงการกีฬาแล้ว อเลกนายังได้ผันตัวเข้าสู่เส้นทางการเมือง โดยได้รับเลือกเป็นสมาชิกรัฐสภาลิทัวเนีย (เซย์มัส) ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการรับใช้สาธารณะและส่งเสริมคุณค่าประชาธิปไตยในสังคม
บทความนี้จะครอบคลุมชีวิตและเส้นทางอาชีพของอเลกนาอย่างละเอียด ตั้งแต่ภูมิหลังในวัยเด็ก การศึกษา ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในฐานะนักกีฬา ไปจนถึงบทบาททางการเมืองและชีวิตส่วนตัว รวมถึงมรดกที่เขาทิ้งไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่บุตรชายของเขาสืบทอดเจตนารมณ์ด้านกรีฑาและสร้างความสำเร็จระดับโลกต่อไป
2. ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
เวอร์จิลิอุส อเลกนา มีภูมิหลังที่สำคัญซึ่งหล่อหลอมเส้นทางชีวิตและการเป็นนักกีฬาของเขา ตั้งแต่การเกิดและวัยเด็ก ไปจนถึงการศึกษาที่เน้นด้านพลศึกษา
2.1. การเกิดและวัยเด็ก
เวอร์จิลิอุส อเลกนา เกิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1972 ณ หมู่บ้านเทอร์ไปไค ในเขตเทศบาลคูปิชกิส ซึ่งตั้งอยู่ในเทศมณฑลปาเนเวฌีส ประเทศลิทัวเนีย ชีวิตในวัยเด็กของเขาถูกปลูกฝังในสภาพแวดล้อมที่เรียบง่าย แต่เป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่ความหลงใหลในกีฬาของเขา
2.2. การศึกษา
อเลกนาเริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนประถมลูโคเนีย จากนั้นเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมซูวาชาส ด้วยความสนใจในด้านกีฬา เขาได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนมัธยมพลศึกษาปาเนเวฌีส ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 ถึง ค.ศ. 1990 ซึ่งเป็นการวางรากฐานทางวิชาการและทักษะด้านกีฬาให้แก่เขา หลังจากนั้น เขาได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยลิทัวเนียเพื่อวิทยาศาสตร์การศึกษาในกรุงวิลนีอุส โดยมุ่งเน้นในสาขาพลศึกษา ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่เสริมสร้างความเชี่ยวชาญด้านกีฬาและการเคลื่อนไหวทางกายภาพให้กับเขาอย่างลึกซึ้ง
3. อาชีพนักกีฬา
เวอร์จิลิอุส อเลกนา สร้างชื่อเสียงระดับโลกในฐานะนักกีฬาขว้างจักร อาชีพของเขาครอบคลุมการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการ รวมถึงการคว้าเหรียญโอลิมปิกและแชมป์โลก
3.1. ช่วงเริ่มต้นอาชีพและการเปิดตัวในทีมชาติ
อเลกนาเริ่มต้นอาชีพนักกีฬาขว้างจักรในปี ค.ศ. 1990 และด้วยความสามารถที่โดดเด่น เขาได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกทีมชาติลิทัวเนียในปี ค.ศ. 1994 ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกันนั้น เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งแรกในกรีฑาชิงแชมป์ยุโรป 1994 ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยทำสถิติได้ 56.38 m และอยู่ในอันดับที่ 17 ในปีต่อมา (ค.ศ. 1995) เขาได้เข้าร่วมกรีฑาชิงแชมป์โลก 1995 ที่เยอเตอบอร์ย ประเทศสวีเดน โดยทำสถิติ 59.2 m ได้อันดับที่ 19
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1996 อเลกนาคว้าชัยชนะในการแข่งขันกรีฑานานาชาติที่เมืองเรเด ประเทศเยอรมนี และได้อันดับสามในการแข่งขันนานาชาติที่เมืองเยนา ประเทศเยอรมนี ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน เขาคว้าเหรียญทองแดงในรายการบิสเล็ตเกมส์ ที่ออสโล ประเทศนอร์เวย์ และได้เข้าร่วมโอลิมปิกฤดูร้อน 1996 ที่แอตแลนตา สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการปรากฏตัวในโอลิมปิกครั้งแรกของเขา โดยทำสถิติ 65.3 m ได้อันดับที่ 5
ในปี ค.ศ. 1997 อเลกนาได้เข้าร่วมการแข่งขันกรีฑาในร่มชิงแชมป์โลก 1997 ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในรายการทุ่มน้ำหนัก โดยทำสถิติ 18.9 m และได้อันดับที่ 17 ในเดือนพฤษภาคม เขาคว้าแชมป์กรีฑากรังด์ปรีซ์ ที่รีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล และรายการกรันเปรมีโอ ดิปูตาซิออน ที่เซบิยา ประเทศสเปน จากนั้นในเดือนมิถุนายน เขาได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศในการแข่งขันโกลเดนกาลา ที่โรม ประเทศอิตาลี, การแข่งขันนานาชาติบราติสลาวา ที่บราติสลาวา ประเทศสโลวาเกีย และการแข่งขันนานาชาติเนือร์นแบร์ค ที่เนือร์นแบร์ค ประเทศเยอรมนี
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1997 อเลกนาคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันบัลติกซีเกมส์ 1997 ที่คาวนัส ประเทศลิทัวเนีย ด้วยสถิติ 65.26 m ซึ่งตามหลังวัชลาวัส คิดิคัส เพื่อนร่วมทีม จากนั้นในเดือนสิงหาคม เขาคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก 1997 ที่เอเธนส์ ประเทศกรีซ โดยทำสถิติ 66.7 m ซึ่งตามหลังลาร์ส รีเดล จากเยอรมนี หลังการแข่งขันชิงแชมป์โลก เขาคว้าหนึ่งเหรียญทองและสองเหรียญเงินจากการแข่งขันนานาชาติในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงรายการเวลต์คลาสเซ ซือริช
ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงกรกฎาคม ค.ศ. 1998 อเลกนาคว้า 10 เหรียญทองและ 1 เหรียญเงินจากการแข่งขันระดับนานาชาติ รวมถึงรายการฟอร์ริตคลาสสิก ที่แฮมิลตัน ประเทศนิวซีแลนด์ ในเดือนสิงหาคม เขาคว้าเหรียญเงินในรายการเวลต์คลาสเซก่อนกรีฑาชิงแชมป์ยุโรป 1998 ที่บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี โดยทำสถิติ 66.46 m คว้าเหรียญทองแดง ตามหลังรีเดลและเยือร์เกิน ชูลต์ จากเยอรมนี หลังจากการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรป อเลกนาคว้าชัยชนะในรายการไอเอสทีเอเอฟเบอร์ลิน ที่เบอร์ลิน และกรีฑาเวิลด์คัพ ที่เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้
ในเดือนมกราคมถึงสิงหาคม ค.ศ. 1999 เขาคว้า 7 เหรียญทองและ 1 เหรียญเงิน รวมถึงชัยชนะในรายการฟอร์ริตคลาสสิก ในเดือนสิงหาคม เขาได้อันดับที่ 4 ในกรีฑาชิงแชมป์โลก 1999 ที่เซบิยา ประเทศสเปน ด้วยสถิติ 67.53 m ตามหลังแอนโทนี วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา, ชูลต์ และรีเดล จากนั้นในเดือนกันยายน เขาคว้าเหรียญทองแดงในรายการเมโมเรียลฟันดัม ที่บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และเหรียญเงินในรายการไอเอสทีเอเอฟเบอร์ลิน นอกจากนี้ เขายังคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ไฟนอล ที่มิวนิก ประเทศเยอรมนี ด้วยสถิติ 66.65 m ตามหลังรีเดล
3.2. ความสำเร็จระดับนานาชาติที่สำคัญ
เวอร์จิลิอุส อเลกนา ได้สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะนักกีฬาขว้างจักรด้วยผลงานที่โดดเด่นในการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก กรีฑาชิงแชมป์โลก และกรีฑาชิงแชมป์ยุโรป
3.2.1. ความสำเร็จในโอลิมปิก
อเลกนาสร้างชื่อเสียงระดับโลกจากการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน โดยเขาคว้าเหรียญทองสองเหรียญในรายการขว้างจักรชาย เริ่มต้นด้วยโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ด้วยสถิติ 69.3 m เอาชนะรีเดลและฟรานซ์ ครูเกอร์ จากแอฟริกาใต้
ต่อมาในโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่เอเธนส์ ประเทศกรีซ อเลกนาได้เหรียญทองอีกครั้ง ในการแข่งขันครั้งนั้น โรแบร์ต ฟาเซคัส นักกีฬาจากประเทศฮังการี ทำสถิติได้ดีที่สุดและคว้าเหรียญทองไปในตอนแรก แต่ถูกตัดสิทธิ์หลังจากถูกจับได้ว่าบิดเบือนตัวอย่างปัสสาวะในการตรวจสารกระตุ้นหลังการแข่งขัน ทำให้เหรียญทองถูกมอบให้กับเวอร์จิลิอุส อเลกนาแทน ซึ่งเขาสร้างสถิติโอลิมปิกใหม่ด้วยระยะ 69.89 m สถิติโอลิมปิกนี้คงอยู่มา 20 ปี ก่อนจะถูกทำลายสองครั้งในโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ที่ปารีส โดยครั้งแรกคือมีโกลัส อเลกนา บุตรชายของเขาที่ขว้างได้ 69.97 m และต่อมาถูกทำลายอีกครั้งโดยโรเฌ สโตนา ที่ขว้างได้ 70 m
ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน อเลกนาคว้าเหรียญทองแดงในรายการเดียวกัน โดยขว้างได้ 67.79 m ในการโยนครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่ลอนดอน เขาเป็นผู้ถือธงของคณะผู้แทนโอลิมปิกของลิทัวเนียในพิธีเปิดและจบการแข่งขันในอันดับที่ 4
3.2.2. กรีฑาชิงแชมป์โลกและกรีฑาชิงแชมป์ยุโรป
อเลกนาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกและกรีฑาชิงแชมป์ยุโรป โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- กรีฑาชิงแชมป์โลก:**
- ค.ศ. 1997 (เอเธนส์): เหรียญเงิน
- ค.ศ. 1999 (เซบิยา): อันดับ 4
- ค.ศ. 2001 (เอดมันตัน ประเทศแคนาดา): เหรียญเงิน
- ค.ศ. 2003 (ปารีส): เหรียญทอง
- ค.ศ. 2005 (เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์): เหรียญทอง
- ค.ศ. 2007 (โอซากะ ประเทศญี่ปุ่น): อันดับ 4
- ค.ศ. 2009 (เบอร์ลิน): อันดับ 4
- ค.ศ. 2011 (แทกู ประเทศเกาหลีใต้): อันดับ 6
- ค.ศ. 2013: อันดับ 16
- กรีฑาชิงแชมป์ยุโรป:**
- ค.ศ. 1994 (เฮลซิงกิ): อันดับ 17
- ค.ศ. 1998 (บูดาเปสต์): เหรียญทองแดง
- ค.ศ. 2002 (มิวนิก ประเทศเยอรมนี): เหรียญเงิน
- ค.ศ. 2006 (เยอเตอบอร์ย): เหรียญทอง
- ค.ศ. 2010 (บาร์เซโลนา ประเทศสเปน): อันดับ 5
- ค.ศ. 2014: อันดับ 21
3.2.3. การแข่งขันสำคัญอื่น ๆ และผลงาน
อเลกนายังคงทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอในการแข่งขันระดับนานาชาติอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการสำคัญของกรีฑาสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (IAAF) และไดมอนด์ลีก
ในปี ค.ศ. 2000 อเลกนาได้เดินทางไปยังประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันแอฟริกาใต้แบงก์คัพ และคว้าหนึ่งเหรียญทองและหนึ่งเหรียญเงิน ระหว่างเดือนมีนาคมถึงสิงหาคมในปีเดียวกัน เขาเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ 15 รายการและคว้าชัยชนะทั้งหมด จากนั้นในเดือนกันยายน เขาได้รับเหรียญเงินในการแข่งขันไอเอสทีเอเอฟเบอร์ลิน และในโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 ที่ซิดนีย์ เขาก็คว้าเหรียญทอง
ในปี ค.ศ. 2001 อเลกนาคว้าชัยชนะในรายการกรีฑากรังด์ปรีซ์ ที่พริทอเรีย แอฟริกาใต้ และโดฮา ประเทศกาตาร์ ในเดือนกรกฎาคม เขาได้รับเหรียญเงินในกีฬาฟรังโกโฟนี 2001 ที่ออตตาวา ประเทศแคนาดา จากนั้นในเดือนสิงหาคม เขาคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก 2001 ที่เอดมันตัน และในเดือนกันยายน เขาคว้าเหรียญทองแดงในกู๊ดวิลเกมส์ 2001 ที่บริสเบน ประเทศออสเตรเลีย และคว้าชัยชนะในการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ไฟนอล ที่เมลเบิร์น
ระหว่างปี ค.ศ. 2003 ถึง ค.ศ. 2009 อเลกนาแสดงความโดดเด่นในไอเอเอเอฟ เวิลด์ แอธเลติกส์ ไฟนอล โดยคว้าเหรียญทองถึง 4 ครั้ง (ค.ศ. 2003, 2005, 2006, 2009) และเหรียญเงิน 1 ครั้ง (ค.ศ. 2007) เขายังคว้าเหรียญทองในการแข่งขันไอเอเอเอฟ เวิลด์คัพ ในปี ค.ศ. 1998 และ ค.ศ. 2006 นอกจากนี้ ในปี ค.ศ. 2007 เขายังถูกแต่งตั้งให้เป็นทูตกีฬาของยูเนสโก
ปี | การแข่งขัน | สถานที่ | ระยะทาง (เมตร) |
---|---|---|---|
1994 | กรีฑาชิงแชมป์ยุโรป | 17 | 56.38 m |
1995 | กรีฑาชิงแชมป์โลก | 19 | 59.2 m |
1996 | โอลิมปิกฤดูร้อน | 5 | 65.3 m |
1997 | กรีฑาชิงแชมป์โลก | 2 ! เหรียญเงิน | 66.7 m |
1997 | ไอเอเอเอฟ กรังด์ปรีซ์ไฟนอล | 5 | 63.76 m |
1998 | กรีฑาชิงแชมป์ยุโรป | 3 ! เหรียญทองแดง | 66.46 m |
1998 | ไอเอเอเอฟ เวิลด์คัพ | 1 ! เหรียญทอง | 69.66 m |
1999 | กรีฑาชิงแชมป์โลก | 4 | 67.53 m |
1999 | ไอเอเอเอฟ กรังด์ปรีซ์ไฟนอล | 2 ! เหรียญเงิน | 66.65 m |
2000 | กรีฑาชิงแชมป์ลิทัวเนีย | 1 ! เหรียญทอง (สถิติประเทศ) | 73.88 m |
2000 | โอลิมปิกฤดูร้อน | 1 ! เหรียญทอง | 69.3 m |
2001 | กรีฑาชิงแชมป์โลก | 2 ! เหรียญเงิน | 69.4 m |
2001 | ไอเอเอเอฟ กรังด์ปรีซ์ไฟนอล | 1 ! เหรียญทอง | 64.42 m |
2002 | กรีฑาชิงแชมป์ยุโรป | 2 ! เหรียญเงิน | 66.62 m |
2003 | กรีฑาชิงแชมป์โลก | 1 ! เหรียญทอง | 69.69 m |
2003 | ไอเอเอเอฟ เวิลด์ แอธเลติกส์ ไฟนอล | 1 ! เหรียญทอง | 68.3 m |
2004 | โอลิมปิกฤดูร้อน | 1 ! เหรียญทอง (สถิติโอลิมปิก) | 69.89 m |
2004 | ไอเอเอเอฟ เวิลด์ แอธเลติกส์ ไฟนอล | 4 | 63.64 m |
2005 | กรีฑาชิงแชมป์โลก | 1 ! เหรียญทอง | 70.17 m |
2005 | ไอเอเอเอฟ เวิลด์ แอธเลติกส์ ไฟนอล | 1 ! เหรียญทอง | 67.64 m |
2006 | กรีฑาชิงแชมป์ยุโรป | 1 ! เหรียญทอง | 68.67 m |
2006 | ไอเอเอเอฟ เวิลด์ แอธเลติกส์ ไฟนอล | 1 ! เหรียญทอง | 68.63 m |
2006 | ไอเอเอเอฟ เวิลด์คัพ | 1 ! เหรียญทอง | 67.19 m |
2007 | กรีฑาชิงแชมป์โลก | 4 | 65.24 m |
2007 | ไอเอเอเอฟ เวิลด์ แอธเลติกส์ ไฟนอล | 2 ! เหรียญเงิน | 65.94 m |
2008 | โอลิมปิกฤดูร้อน | 3 ! เหรียญทองแดง | 67.79 m |
2008 | ไอเอเอเอฟ เวิลด์ แอธเลติกส์ ไฟนอล | 8 | 61.03 m |
2009 | กรีฑาชิงแชมป์โลก | 4 | 66.36 m |
2009 | ไอเอเอเอฟ เวิลด์ แอธเลติกส์ ไฟนอล | 1 ! เหรียญทอง | 67.63 m |
2010 | กรีฑาชิงแชมป์ยุโรป | 5 | 64.64 m |
2011 | กรีฑาชิงแชมป์โลก | 6 | 64.06 m |
2012 | โอลิมปิกฤดูร้อน | 4 | 67.38 m |
2013 | กรีฑาชิงแชมป์โลก | 16 | 61.91 m |
2014 | กรีฑาชิงแชมป์ยุโรป | 21 | 59.35 m |
3.3. สถิติและลักษณะทางกายภาพ
สถิติส่วนตัวที่ดีที่สุดของเวอร์จิลิอุส อเลกนาในการขว้างจักรคือ 73.88 m ซึ่งทำได้เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ. 2000 และเป็นสถิติที่เคยอยู่ในอันดับสองของโลก รองจากสถิติโลกเดิมที่ 74.08 m ของเยือร์เกิน ชูลต์ ที่ทำไว้ในปี ค.ศ. 1986 ก่อนที่มีโกลัส อเลกนา บุตรชายของเขาจะทำลายสถิติโลกใหม่ที่ 74.35 m ในปี ค.ศ. 2024 อเลกนายังมีสถิติส่วนตัวในการทุ่มน้ำหนักที่ 19.99 m ซึ่งทำได้เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1997
ด้วยส่วนสูง 2.02 m อเลกนามีช่วงแขนที่ยาวผิดปกติ โดยวัดได้ถึง 2.24 m (ประมาณ 7 ฟุต 4 นิ้ว) ซึ่งเป็นลักษณะทางกายภาพที่เอื้อต่อการขว้างจักรอย่างมาก เขาสามารถทิ้งรอยนิ้วมือไว้บนหน้าต่างรถโดยสารที่อยู่ตรงข้ามกันได้พร้อมกัน
ในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก 2007 อเลกนาต้องลงแข่งขันทั้งที่มีอาการบาดเจ็บ ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม แต่เขาก็ยังลงสนามในรอบคัดเลือกเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ผลจากการบาดเจ็บนี้ทำให้เขาพ่ายแพ้ ซึ่งเป็นการสิ้นสุดสถิติชนะติดต่อกัน 37 ครั้งตลอดสองปีที่ผ่านมาของเขา
3.4. การอำลาวงการกีฬา
เดิมทีเวอร์จิลิอุส อเลกนา มีแผนจะอำลาวงการกีฬาหลังจากการแข่งขันไดมอนด์ลีกรอบสุดท้ายที่เมโมเรียลฟันดัม ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2012 อย่างไรก็ตาม เขาได้เปลี่ยนใจและยังคงแข่งขันต่อไปจนกระทั่งปี ค.ศ. 2013 และประกาศยุติอาชีพนักกีฬาอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2014 หลังจากการแข่งขันไอเอสทีเอเอฟเบอร์ลิน
4. อาชีพทางการเมือง
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงามในฐานะนักกีฬา เวอร์จิลิอุส อเลกนา ได้ตัดสินใจผันตัวเข้าสู่เส้นทางการเมือง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญในการรับใช้สาธารณะ เขาเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกีฬาให้กับกระทรวงกิจการภายในลิทัวเนียตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 ถึง ค.ศ. 2016
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2016 อเลกนาได้ประกาศเข้าร่วมการเลือกตั้งรัฐสภาลิทัวเนีย ค.ศ. 2016 ซึ่งจัดขึ้นในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน โดยเขาร่วมกับพรรคขบวนการเสรีนิยม (ลิทัวเนีย) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านในขณะนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ แต่การเข้าร่วมกับพรรคเสรีนิยมสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจในแนวคิดเสรีนิยมที่เน้นการพัฒนาและประชาธิปไตย
แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งรอบสองในเขตเลือกตั้งเนาวามิเอสติส แต่เขาก็ได้รับเลือกเป็นสมาชิกรัฐสภาลิทัวเนียสมัยที่ 12 ผ่านบัญชีรายชื่อของพรรค โดยได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับสองในรายชื่อของพรรคนี้ นอกจากนี้ เขายังได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในปี ค.ศ. 2020 และยังคงดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาลิทัวเนียสมัยที่ 13 ซึ่งยืนยันถึงความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อเขาในบทบาททางการเมือง
5. ชีวิตส่วนตัว
เวอร์จิลิอุส อเลกนา แต่งงานกับคริสตินา ซาโบลอฟสกิเต-อเลกนิเอเน ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬากระโดดไกล ทั้งคู่มีบุตรสามคน ได้แก่ บุตรชายสองคนชื่อมาร์ตีนาส และมีโกลัส อเลกนา และบุตรีหนึ่งคนชื่อกาบรีเอเล อเลกไนเต บุตรชายทั้งสองคนของเขายังคงสืบทอดพรสวรรค์ด้านกีฬา โดยเป็นนักขว้างจักรเช่นเดียวกับบิดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีโกลัส อเลกนา ที่ได้สร้างสถิติโลกใหม่ในการขว้างจักรในปี ค.ศ. 2024
นอกจากบทบาทในฐานะนักกีฬาและนักการเมืองแล้ว อเลกนายังมีบทบาทในการรับใช้สังคมในด้านอื่น ๆ โดยในปี ค.ศ. 2007 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตกีฬาของยูเนสโก ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมค่านิยมและประโยชน์ของกีฬาให้กับเยาวชนทั่วโลก ก่อนหน้าที่จะเข้าสู่วงการการเมือง เขาเคยทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดประจำนายกรัฐมนตรีลิทัวเนียมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 จนถึงปี ค.ศ. 2011
6. รางวัลและเกียรติยศ
เวอร์จิลิอุส อเลกนา ได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมายตลอดอาชีพนักกีฬาและในช่วงชีวิตสาธารณะของเขา ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จที่โดดเด่นของเขา
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์เกดิมินาสมหาราชแห่งลิทัวเนีย:
- ชั้นที่ 1 (มหาสังวาล): 28 สิงหาคม ค.ศ. 2003
- ชั้นที่ 2 (มหาปรมาภรณ์): 24 สิงหาคม ค.ศ. 2001
- ชั้นที่ 3 (ตติยาภรณ์): 28 สิงหาคม ค.ศ. 1997
- ชั้นที่ 5 (เบญจมาภรณ์): 12 สิงหาคม ค.ศ. 1996
- นักกีฬาแห่งปี:
- ได้รับเลือกเป็นนักกรีฑาแห่งปีของ "แทร็ก & ฟิลด์ นิวส์" สำหรับปี ค.ศ. 2000
- ได้รับเลือกเป็นนักกีฬาแห่งปีของลิทัวเนียถึง 4 ครั้ง ในปี ค.ศ. 2000, 2004, 2005 และ 2006
- ได้รับเลือกเป็นนักกีฬาแห่งปีของยุโรปชายในปี ค.ศ. 2005
- รางวัลความสำเร็จตลอดชีวิตกรีฑายุโรป: ในปี ค.ศ. 2017 อเลกนาได้รับรางวัลนี้ ซึ่งเป็นการยกย่องอาชีพที่ยาวนานและความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเขาในวงการกรีฑา
7. มรดกและอิทธิพล
เวอร์จิลิอุส อเลกนา ไม่เพียงแต่เป็นนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับลิทัวเนียในระดับโลกเท่านั้น แต่เขายังมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อวงการกรีฑาของประเทศและสังคมโดยรวม มรดกที่สำคัญที่สุดของเขาคือการเป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุตรชายของเขา
การที่บุตรชายสองคนของเขา ทั้งมาร์ตีนาสและมีโกลัส อเลกนา ได้เจริญรอยตามในฐานะนักขว้างจักร แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลโดยตรงของเขาในการส่งต่อความหลงใหลและความสามารถทางกีฬา มีโกลัส อเลกนา ได้สร้างความสำเร็จที่โดดเด่นด้วยการทำลายสถิติโลกในการขว้างจักรในปี ค.ศ. 2024 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่แม้แต่เวอร์จิลิอุส อเลกนา ผู้เป็นบิดาก็ไม่เคยทำได้ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำถึงความสำเร็จของตระกูลอเลกนาในวงการกรีฑา แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการสืบทอดพรสวรรค์และจิตวิญญาณของนักกีฬาขว้างจักรระดับโลกจากรุ่นสู่รุ่น
นอกเหนือจากความสำเร็จด้านกีฬาแล้ว การที่อเลกนาผันตัวเข้าสู่วงการการเมืองและได้รับเลือกเป็นสมาชิกรัฐสภาลิทัวเนีย ยังสะท้อนถึงการอุทิศตนเพื่อสาธารณะและส่งเสริมคุณค่าของการมีส่วนร่วมในประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมให้การยกย่องโดยรวม
โดยสรุปแล้ว เวอร์จิลิอุส อเลกนา คือสัญลักษณ์ของความสำเร็จทั้งในด้านกีฬาและการรับใช้สังคม เขาเป็นหนึ่งในนักกีฬาขว้างจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และมรดกของเขาจะยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาและประชาชนในลิทัวเนียไปอีกนานเท่านาน โดยมีบุตรชายของเขาเป็นผู้สานต่อความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจนี้ต่อไป