1. ภาพรวม
วัลเดอีร์ วีเอยรา หรือที่รู้จักกันในชื่อเล่นว่า "บาดู" (Valdeir Vieiraวัลเดอีร์ วีเอยราPortuguese, BadúบาดูPortuguese) เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1944 ที่เมืองมารีเลีย รัฐเซาเปาโล ประเทศบราซิล เป็นอดีตนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนฟุตบอลชาวบราซิล วีเอยราเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากอาชีพผู้ฝึกสอนที่ประสบความสำเร็จในการนำทีมชาติอิหร่านผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 1998 รวมถึงการคุมทีมชาติคอสตาริกาและโอมาน นอกจากนี้ เขายังมีประสบการณ์ในการคุมสโมสรฟุตบอลหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงการเป็นผู้ฝึกสอนของสโมสรชื่อดังในเอเชียอย่างอัล-อะราบีในคูเวต และเอซี นากาโนะ พาร์เซย์โร รวมถึงเกียวโต ซังงะ เอฟซีในประเทศญี่ปุ่น บทความนี้จะสำรวจเส้นทางชีวิตและอาชีพของวีเอยรา ตั้งแต่การเป็นนักฟุตบอลไปจนถึงการเป็นผู้ฝึกสอนที่มีชื่อเสียง รวมถึงความสำเร็จและบทบาทสำคัญของเขาในวงการฟุตบอล
2. ชีวิตช่วงต้นและอาชีพนักฟุตบอล
วัลเดอีร์ วีเอยรามีเส้นทางอาชีพที่น่าสนใจตั้งแต่ชีวิตช่วงต้นในฐานะนักฟุตบอล และค่อยๆ พัฒนาสู่การเป็นผู้ฝึกสอนหลังจากพบกับอุปสรรคจากอาการบาดเจ็บ
2.1. การกำเนิดและชีวิตวัยเด็ก
q=Marília, São Paulo, Brazil|position=right
วัลเดอีร์ วีเอยรา เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1944 ที่เมืองมารีเลีย รัฐเซาเปาโล ประเทศบราซิล ชื่อเล่น "บาดู" ของเขา ได้มาจากวงการฟุตซอล ซึ่งเป็นกีฬาที่เขาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลในช่วงทศวรรษ 1960 โดย "บาดู" เป็นคำที่ใช้อธิบายลักษณะการทำประตูเฉพาะตัวที่เขาถนัด
2.2. อาชีพนักฟุตบอล
เช่นเดียวกับนักฟุตบอลชาวบราซิลหลายคนในยุค 1960 วีเอยราได้รับการค้นพบจากวงการฟุตซอลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เขาเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพฉบับแรกกับสโมสร Dracena F.C. ซึ่งอยู่ในดิวิชั่น 2 ขณะอายุเพียง 17 ปี สองปีต่อมา เขาย้ายไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าในดิวิชั่น 1 ให้กับสโมสร CE Aymoré - São Leopoldo ซึ่งเป็นช่วงที่ลูอิส เฟลีเป สโกลารี เพิ่งเริ่มต้นอาชีพของเขาในฐานะกองหลังของทีมเยาวชน นอกจากนี้ วีเอยรายังเป็นนักฟุตบอลชาวบราซิลคนแรกที่ได้เล่นให้กับสโมสรในต่างประเทศ ได้แก่ เซ็นทรัล เอสปันยอล ในอุรุกวัย, ฮิเบอร์เนียนส์ เอฟ.ซี. ในมอลตา, เซอร์เคิล บรู๊ก ในเบลเยียม และ Croissant Club Sigois ในแอลจีเรีย อย่างไรก็ตาม อาชีพนักฟุตบอลของเขามักประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้เขาเริ่มสนใจในวิทยาศาสตร์การกีฬามากขึ้น และในที่สุดก็ยุติอาชีพการเล่นในลีกที่ไม่ใช่ลีกอาชีพของประเทศเยอรมนี
2.3. การผันตัวสู่การเป็นโค้ช
จากปัญหาอาการบาดเจ็บที่รบกวนอาชีพนักฟุตบอล วีเอยราจึงหันมาสนใจการศึกษาวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างจริงจัง เขาได้สร้างรากฐานสำคัญในฐานะผู้ฝึกสอนฟุตบอลในช่วงปลายทศวรรษ 1970 โดยการศึกษาทฤษฎีการฝึกสอนที่มหาวิทยาลัยกีฬาเยอรมนีโคโลญ ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงด้านการกีฬา เขาได้ศึกษาพร้อมกับฮิเดะทากะ โซมาอิ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกด้านฟุตบอลในประเทศญี่ปุ่นในเวลาต่อมา การศึกษาครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของเขา และเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพผู้ฝึกสอนฟุตบอลที่ยาวนานและประสบความสำเร็จ
3. อาชีพผู้ฝึกสอน
วัลเดอีร์ วีเอยรา มีอาชีพที่โดดเด่นในฐานะผู้ฝึกสอนฟุตบอล โดยมีผลงานที่สำคัญทั้งในการคุมทีมสโมสรและทีมชาติในหลายภูมิภาคทั่วโลก
3.1. การบริหารสโมสรช่วงเริ่มต้น
หลังจากผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอน วีเอยราได้เริ่มต้นอาชีพด้วยการคุมสโมสรหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวเนซุเอลาและบราซิล ในช่วงปี 1987 ถึง 1988 เขาคุมทีมคาราคัส เอฟซี ก่อนจะย้ายไปคุมเดปอร์ติโบ อิตาเลีย (ปัจจุบันคือเดปอร์ติโบ เปตาเร เอฟซี) ในปี 1989-1990 จากนั้นเขากลับมายังบราซิลเพื่อคุมทีมบลูเมเนา เอสปอร์เต คลับ (1991-1992) และบรูซเก เอสปอร์เต คลับ (1992-1994) ซึ่งเป็นช่วงที่เขาเริ่มสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้ฝึกสอน เขายังมีประสบการณ์คุมทีมแอลดี อลาฮูเอเลนเซในคอสตาริกา (1994-1996) หลังจากนั้น เขามีโอกาสคุมทีมในซาอุดีอาระเบีย ได้แก่ อัล-ตาอี (1999) และอัล-คาลิจ (2000) รวมถึงราจา คาซาบลังกา ในโมร็อกโก (2000) และกลับไปคุมทีมเดปอร์ติโบ ซาปริสซาในคอสตาริกาอีกครั้งในปี 2000-2001 ในช่วงปี 2003-2005 เขาย้ายไปคุมทีมโดฟาห์ คลับในโอมาน และในปี 2013 เขากลับมาคุมทีมอัล-รามธา เอสซีในจอร์แดน ซึ่งเข้าร่วมการแข่งขันเอเอฟซีคัพ 2013
3.2. การคุมทีมชาติ
วีเอยรามีบทบาทสำคัญในการคุมทีมชาติหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำทีมชาติอิหร่านไปสู่ฟุตบอลโลก
ในช่วงปี 1996 เขาได้เข้ารับตำแหน่งผู้ฝึกสอนของฟุตบอลทีมชาติคอสตาริกา ซึ่งเป็นประสบการณ์แรกในการคุมทีมชาติ ก่อนที่ในปี 1997 เขาจะได้รับโอกาสสำคัญในการคุมฟุตบอลทีมชาติอิหร่าน และยังคุมฟุตบอลทีมชาติโอมานระหว่างปี 1998 ถึง 1999
3.2.1. ทีมชาติอิหร่านและการผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก
บทบาทที่โดดเด่นที่สุดของวีเอยราในการคุมทีมชาติคือการนำฟุตบอลทีมชาติอิหร่านในช่วงฟุตบอลโลก 1998 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เขาเข้ามารับตำแหน่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของรอบคัดเลือก แม้ว่าทีมจะพ่ายแพ้ต่อฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นในรอบเพลย์ออฟตัดสินอันดับ 3 ของเอเชีย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ジョホールバルの歓喜การฉลองที่ยะโฮร์บาห์รูภาษาญี่ปุ่น แต่ภายใต้การนำของวีเอยรา ทีมชาติอิหร่านก็ยังคงรักษาความหวังในการไปฟุตบอลโลกไว้ได้ โดยการเอาชนะฟุตบอลทีมชาติออสเตรเลียในการแข่งขันรอบเพลย์ออฟระหว่างทวีป ทำให้ทีมชาติอิหร่านสามารถผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 1998 ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของฟุตบอลอิหร่าน
3.3. การคุมทีมสโมสรในเอเชีย
นอกเหนือจากการคุมทีมชาติ วีเอยรายังมีประสบการณ์ที่หลากหลายในการคุมทีมสโมสรในทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในญี่ปุ่น
ในช่วงเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2001 ถึงสิงหาคม ค.ศ. 2003 เขาเข้ารับตำแหน่งผู้ฝึกสอนของสโมสรอัล-อะราบีในคูเวต พรีเมียร์ลีก และนำทีมคว้าแชมป์คูเวต พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2001-02 และอัล คูราฟี คัพ ในฤดูกาลเดียวกัน รวมถึงแชมป์กัลฟ์ คลับ แชมเปียนส์ คัพ ในปี 2003 หลังจากนั้น เขาได้กลับมาคุมทีมอัล-อะราบีอีกครั้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2005 ถึงมิถุนายน ค.ศ. 2006 และนำทีมคว้าแชมป์เอมีร์ คัพ ในปี 2006 ซึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกันที่สโมสรคว้าแชมป์นี้ นอกจากนี้ เขายังพาทีมเข้าร่วมการแข่งขันเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2006
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2006 วีเอยราได้ย้ายไปคุมทีมเอซี นากาโนะ พาร์เซย์โร ซึ่งในขณะนั้นรู้จักกันในชื่อ Nagano Elsa Soccer Club ในประเทศญี่ปุ่น และคุมทีมจนถึงเดือนธันวาคม ค.ศ. 2009 ในช่วงเวลาดังกล่าว เขาพาทีมคว้าแชมป์ฮกุชิน'เอ็ตสึ รีเจียนัลลีก ดิวิชั่น 1 และแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรสมัครเล่นแห่งชาติญี่ปุ่นในปี 2008 รวมถึงเป็นรองแชมป์ฮกุชิน'เอ็ตสึ รีเจียนัลลีก ดิวิชั่น 1 ในปี 2009 ต่อมาในช่วงปี 2010-2013 วีเอยราได้คุมทีมบาห์เรน เอสซีในประเทศบาห์เรนและนำทีมคว้าแชมป์บาห์เรน ดิวิชั่น 2 ในฤดูกาล 2010-2011
3.3.1. การดำรงตำแหน่งและการลาออกจากเกียวโต ซังงะ เอฟซี
q=Kyoto, Japan|position=right
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 2013 วีเอยราได้เซ็นสัญญาเป็นผู้ฝึกสอนของสโมสรเกียวโต ซังงะ เอฟซี ซึ่งเป็นทีมในเจลีก 2 ของญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้เขาเป็นที่รู้จักในนามสกุล "วีเอยรา" หรือ "บิเอยรา" แต่ที่เกียวโต ซังงะ เอฟซี ได้มีการใช้ชื่อเล่นที่เขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กว่า "บาดู" สำหรับการแสดงชื่ออย่างเป็นทางการ วีเอยราคุมทีมเกียวโต ซังงะ เอฟซีจนถึงวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2014 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลงานของทีมไม่เป็นไปตามเป้าหมายและไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง เขาจึงถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้ฝึกสอน
4. สถิติการคุมทีม
นี่คือสถิติการคุมทีมของวัลเดอีร์ วีเอยรา สำหรับทีมชาติอิหร่านและสโมสรเกียวโต ซังงะ เอฟซี:
ทีม | ตั้งแต่ | ถึง | สถิติ | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
จำนวนเกม | ชนะ | เสมอ | แพ้ | อัตราชนะ (%) | |||
อิหร่าน | 1997 | 1997 | 3 | 0 | 2 | 1 | 0.00 |
เกียวโต ซังงะ เอฟซี | 2014 | 2014 | 18 | 7 | 5 | 6 | 38.89 |
รวม | 21 | 7 | 7 | 7 | 33.33 |
5. เกียรติประวัติ
วัลเดอีร์ วีเอยราได้รับเกียรติประวัติและรางวัลมากมายตลอดอาชีพการเป็นผู้ฝึกสอนของเขา:
- โค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีเวเนซุเอลา: 1987
- โกปาเดเวเนซุเอลา: 1988 (กับคาราคัส เอฟซี)
- ผู้มาใหม่ยอดเยี่ยมในกัมเปโอนาโต กาตารินา (ลีกระดับรัฐของบราซิล): 1992
- โค้ชชาวต่างชาติยอดเยี่ยมในคอสตาริกา: 1995
- ชนะเลิศปริเมรา ดิวิชั่น เด คอสตาริกา: 1995-96, 1996-97 (กับแอลดี อลาฮูเอเลนเซ)
- โกปา อินเตอร์คลับเบส ยูเอ็นซีเอเอฟ: 1996 (กับแอลดี อลาฮูเอเลนเซ)
- ชนะเลิศคูเวต พรีเมียร์ลีก: 2001-02 (กับอัล-อะราบี)
- ชนะเลิศอัล คูราฟี คัพ: 2001-02 (กับอัล-อะราบี)
- ชนะเลิศกัลฟ์ คลับ แชมเปียนส์ คัพ: 2003 (กับอัล-อะราบี)
- ชนะเลิศเอมีร์ คัพ: 2006 (กับอัล-อะราบี)
- ชนะเลิศเจเอฟแอล รีเจียนัล ลีกส์ (แชมป์ภูมิภาคญี่ปุ่น): 2008 (กับเอซี นากาโนะ พาร์เซย์โร)
- ชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรสมัครเล่นแห่งชาติญี่ปุ่น: 2008 (กับเอซี นากาโนะ พาร์เซย์โร)
- รองชนะเลิศฮกุชิน'เอ็ตสึ รีเจียนัลลีก ดิวิชั่น 1: 2009 (กับเอซี นากาโนะ พาร์เซย์โร)
- ชนะเลิศบาห์เรน ดิวิชั่น 2: 2010-11 (กับบาห์เรน เอสซี)
6. การประเมินและมรดก
วัลเดอีร์ วีเอยรา ได้ทิ้งมรดกและผลงานสำคัญไว้ในวงการฟุตบอล ทั้งในฐานะนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอน โดยมีทั้งความสำเร็จที่ได้รับการยกย่องและข้อวิพากษ์วิจารณ์บางประการ
6.1. ความสำเร็จสำคัญและการประเมินเชิงบวก
ความสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดของวัลเดอีร์ วีเอยราคือบทบาทสำคัญในการนำฟุตบอลทีมชาติอิหร่านผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 1998 ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอิหร่าน ความสามารถของเขาในการพลิกสถานการณ์และนำทีมไปสู่เวทีระดับโลกได้แสดงให้เห็นถึงทักษะการเป็นผู้ฝึกสอนระดับสูง นอกจากนี้ เขายังประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการพาสโมสรต่างๆ คว้าแชมป์ลีกและถ้วยรางวัลในหลายประเทศ เช่น การคว้าแชมป์ในเวเนซุเอลา, คอสตาริกา, คูเวต และบาห์เรน รวมถึงการนำทีมในญี่ปุ่นคว้าแชมป์ในระดับสมัครเล่น ความสำเร็จเหล่านี้สะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวและใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับบริบททางวัฒนธรรมฟุตบอลที่แตกต่างกัน
ในฐานะนักฟุตบอล เขาเป็นผู้บุกเบิกที่กล้าหาญโดยเป็นนักฟุตบอลชาวบราซิลคนแรกที่ไปค้าแข้งในหลายสโมสรและประเทศที่ไม่ใช่ตลาดหลักในยุคนั้น เช่น อุรุกวัย, มอลตา และแอลจีเรีย ซึ่งแสดงถึงความกล้าหาญและความเป็นมืออาชีพ การที่เขาหันมาศึกษาวิทยาศาสตร์การกีฬาตั้งแต่ช่วงปลายอาชีพนักฟุตบอลยังบ่งชี้ถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าและความมุ่งมั่นในการทำความเข้าใจฟุตบอลในเชิงลึก ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในแนวทางและปรัชญาการฝึกสอนของเขา
6.2. คำวิจารณ์และข้อโต้แย้ง
แม้จะมีผลงานที่น่าประทับใจหลายประการ วีเอยราก็เคยเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายในอาชีพผู้ฝึกสอน หนึ่งในนั้นคือการที่เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้ฝึกสอนของสโมสรเกียวโต ซังงะ เอฟซีในเจลีก 2 ของญี่ปุ่นเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014 สาเหตุหลักมาจากการที่ผลงานของทีมไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้และไม่สามารถนำทีมไปสู่ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ การตัดสินใจและแนวทางของเขาในช่วงเวลานั้นไม่สามารถทำให้ทีมทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การยุติสัญญา อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อโต้แย้งหรือคำวิจารณ์เชิงส่วนตัวที่รุนแรงปรากฏในข้อมูล ทำให้การประเมินโดยรวมยังคงเน้นไปที่ผลงานและผลกระทบทางอาชีพการฝึกสอนของเขา.