1. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
โอ ยอน-จี มีภูมิหลังที่สำคัญซึ่งหล่อหลอมเส้นทางสู่การเป็นนักมวยระดับชาติของเธอ ตั้งแต่สถานที่เกิด การศึกษา ไปจนถึงจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการมวยด้วยแรงบันดาลใจจากบุคคลในครอบครัว
1.1. การเกิดและการศึกษา
โอ ยอน-จี เกิดที่คุนซัน จังหวัดช็อลลาเหนือ ประเทศเกาหลีใต้ เธอสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนประถมชินฮึงคุนซัน (Gunsan Shinheung Elementary School), โรงเรียนมัธยมจินโพคุนซัน (Gunsan Jinpo Middle School), โรงเรียนพาณิชยกรรมคุนซัน (Gunsan Commercial High School) และมหาวิทยาลัยฮอว็อน (Howon University) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการศึกษาที่ดำเนินไปควบคู่กับการพัฒนาเส้นทางอาชีพนักกีฬาของเธอ
1.2. จุดเริ่มต้นในวงการมวย
แรงบันดาลใจในการเข้าสู่วงการมวยของโอ ยอน-จี เกิดขึ้นเมื่อเธออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยการชักชวนของช็อน จิน-ช็อล (전진철ช็อน จิน-ช็อลภาษาเกาหลี) ผู้เป็นลุงซึ่งเคยเป็นนักมวยทีมชาติเกาหลีใต้และได้เข้าร่วมโอลิมปิกฤดูร้อน 1988 ที่โซล โอ ยอน-จีเริ่มต้นฝึกซ้อมมวยที่ค่ายของลุงของเธอในเมืองคุนซัน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอเอง การสนับสนุนจากครอบครัวและโอกาสในการฝึกฝนในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเริ่มต้นและพัฒนาทักษะการชกมวยของเธอ
2. อาชีพนักมวยสมัครเล่น
โอ ยอน-จี สร้างชื่อเสียงในฐานะนักมวยสากลสมัครเล่นที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยคว้าเหรียญรางวัลสำคัญจากการแข่งขันทั้งในระดับนานาชาติและระดับประเทศ

2.1. ผลงานในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย
โอ ยอน-จี มีผลงานที่โดดเด่นในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์เอเชีย โดยเธอสามารถคว้าเหรียญทองได้ถึงสามสมัยในรุ่นไลต์เวต ได้แก่:
2.2. เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2018
ในปี พ.ศ. 2561 โอ ยอน-จี ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการมวยเกาหลีใต้ด้วยการคว้าเหรียญทองในรุ่นไลต์เวต (60 kg) ในการแข่งขันมวยในเอเชียนเกมส์ 2018 ที่จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นเหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์มวยหญิงของเกาหลีใต้ในเอเชียนเกมส์
ในรอบ 16 คนสุดท้าย เธอเอาชนะ ลือว ถิ เซวียน (Lưu Thị Duyênลือว ถิ เซวียนภาษาเวียดนาม) จากเวียดนาม และในรอบ 8 คนสุดท้าย เธอได้โค่นหยาง เหวิน-ลู่ (杨文璐หยาง เหวิน-ลู่Chinese) จากจีน ซึ่งเป็นแชมป์โลกสองสมัยด้วยคะแนน 3-2 ในรอบรองชนะเลิศ เธอเอาชนะชเว ฮเย-ซง (최혜송ชเว ฮเย-ซงภาษาเกาหลี) จากเกาหลีเหนือไปอย่างขาดลอย 5-0 และในรอบชิงชนะเลิศ เธอสามารถเอาชนะสุดาพร สีสอนดี จากไทยด้วยคะแนน 4-1 ทำให้เธอคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์มาครองได้สำเร็จ
2.3. ผลงานในการแข่งขันชิงแชมป์โลก
โอ ยอน-จี ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในเวทีระดับโลกเช่นกัน โดยเธอสามารถคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันมวยสากลหญิงชิงแชมป์โลกของ AIBA/IBA ได้สองครั้ง:
- เหรียญทองแดงในการแข่งขันมวยสากลหญิงชิงแชมป์โลกปี พ.ศ. 2561 ที่นิวเดลี ประเทศอินเดีย ในรอบ 8 คนสุดท้าย เธอเอาชนะอักเนส อเล็กซิอุสซอน (Agnes Alexiussonอักเนส อเล็กซิอุสซอนภาษาสวีเดน) จากสวีเดนด้วยคะแนน 5-0 แต่ในรอบรองชนะเลิศ เธอได้พบกับสุดาพร สีสอนดี จากไทยอีกครั้งและเป็นฝ่ายแพ้ไป 1-4
- เหรียญทองแดงในการแข่งขันมวยสากลหญิงชิงแชมป์โลกปี พ.ศ. 2566 ที่นิวเดลี ประเทศอินเดีย
2.4. การเข้าร่วมโอลิมปิก
โอ ยอน-จี ได้รับเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติเกาหลีใต้เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันมวยสากลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในอาชีพนักมวยของเธอ
2.5. การแข่งขันภายในประเทศและแมตช์สำคัญ
โอ ยอน-จี ยังคงเป็นกำลังสำคัญในวงการมวยภายในประเทศเกาหลีใต้ เธอเข้าร่วมการแข่งขันและสร้างสีสันให้กับรายการต่าง ๆ
ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติเกาหลีประจำปี พ.ศ. 2567 ซึ่งจัดขึ้นหลังโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ไม่นาน โอ ยอน-จี ได้มีโอกาสเผชิญหน้ากับอิม แอ-จี (임애지อิม แอ-จีภาษาเกาหลี) ผู้ที่เพิ่งคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันมวยในโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ในรอบชิงชนะเลิศรุ่น 60 กิโลกรัม แม้ว่าอิม แอ-จี โดยปกติจะแข่งขันในรุ่น 54 กิโลกรัมในการแข่งขันระดับนานาชาติ แต่เนื่องจากในการแข่งขันภายในประเทศเกาหลีใต้ไม่มีการจัดประเภทน้ำหนัก 54 กิโลกรัม ทำให้อิม แอ-จี ต้องขยับรุ่นขึ้นมาแข่งขันในรุ่น 60 กิโลกรัม การแข่งขันระหว่างสองนักมวยดาวเด่นนี้ถือเป็นหนึ่งในแมตช์ที่น่าสนใจอย่างยิ่งในเวทีภายในประเทศ
3. มรดกและผลกระทบ
โอ ยอน-จี ได้ทิ้งมรดกอันสำคัญไว้ให้กับวงการมวยเกาหลีใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับสถานะของมวยหญิงในประเทศ ความสำเร็จของเธอในการคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับนักมวยหญิงเกาหลีใต้ ได้เปิดประตูและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่จำนวนมากที่สนใจในกีฬามวย เธอกลายเป็นแบบอย่างของผู้หญิงที่มุ่งมั่นและแข็งแกร่ง แสดงให้เห็นว่านักมวยหญิงชาวเกาหลีใต้สามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดได้ ความสม่ำเสมอในการทำผลงานระดับนานาชาติของเธอทั้งในเอเชียนเกมส์และชิงแชมป์โลกยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดความสนใจต่อวงการมวยหญิงในเกาหลีใต้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น