1. ภาพรวม

พัค ซัง-ย็อง (박상영Bak Sangyeongภาษาเกาหลี) เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 1995 เป็นนักฟันดาบชาวเกาหลีใต้ ถนัดมือขวาในประเภทดาบเอเป้ เขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากการคว้าเหรียญทองในประเภทบุคคลชายดาบเอเป้ ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ที่รีโอเดจาเนโร ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่น่าจดจำด้วยการพลิกกลับมาเอาชนะคู่ต่อสู้ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบอย่างมาก นอกจากนี้ เขายังเป็นแชมป์โลกระดับเยาวชนในปี 2012 และเป็นแชมป์เอเชียประเภททีมหลายสมัย รวมถึงคว้าเหรียญทองแดงประเภททีมในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่โตเกียว ความสำเร็จของเขาไม่เพียงแต่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการฟันดาบเกาหลีใต้ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมากด้วยความมุ่งมั่นและสปิริตนักกีฬาของเขา
2. ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
พัค ซัง-ย็อง มีภูมิหลังที่ต้องเผชิญกับความท้าทายตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นชีวิต และอาศัยการสนับสนุนเพื่อสานต่อความฝันในเส้นทางนักฟันดาบ
2.1. วัยเด็กและการเริ่มต้นเข้าสู่วงการฟันดาบ
พัค ซัง-ย็อง เริ่มต้นเข้าสู่วงการฟันดาบตั้งแต่วัยมัธยมศึกษาตอนต้น อย่างไรก็ตาม เขาเกือบจะต้องเลิกเล่นกีฬานี้เนื่องจากครอบครัวประสบปัญหาทางการเงินและไม่สามารถแบกรับค่าอุปกรณ์ฟันดาบที่มีราคาแพงได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือด้านการเงินจากองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร และการที่เขาได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมพลศึกษาคย็องนัม (경남체육고등학교ภาษาเกาหลี) ซึ่งเป็นโรงเรียนรัฐบาล ทำให้เขาสามารถสานต่อการฝึกฝันดาบต่อไปได้ ในปีแรกของการเรียนโรงเรียนมัธยมปลาย เขาคว้าแชมป์ระดับประเทศในประเภทบุคคลดาบเอเป้ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นอาชีพของเขา
2.2. ประวัติการศึกษา
พัค ซัง-ย็อง สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาหลายแห่งในเกาหลีใต้ ซึ่งรวมถึง:
- โรงเรียนประถมศึกษาชินจูแบย็อง
- โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นชินจูเชอิล
- โรงเรียนมัธยมพลศึกษาคย็องนัม
- มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติเกาหลี
3. อาชีพนักฟันดาบ
พัค ซัง-ย็อง มีเส้นทางอาชีพนักฟันดาบที่โดดเด่นตั้งแต่ระดับเยาวชนจนก้าวขึ้นสู่ระดับอาวุโส และประสบความสำเร็จสูงสุดในกีฬาโอลิมปิก
3.1. อาชีพนักฟันดาบระดับเยาวชนและความสำเร็จในช่วงแรก
ในปี ค.ศ. 2012 พัค ซัง-ย็อง สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันฟันดาบเยาวชนชิงแชมป์โลก ที่มอสโก ประเทศรัสเซีย ทำให้เขากลายเป็นนักฟันดาบชายชาวเกาหลีใต้คนแรกที่คว้าเหรียญรางวัลในประเภทดาบเอเป้ระดับเยาวชน ในปี ค.ศ. 2013 แม้จะยังเป็นนักเรียนโรงเรียนมัธยมปลาย พัค ซัง-ย็อง ก็สามารถผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ทีมชาติชุดใหญ่ได้จากการคว้าแชมป์ระดับประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่หาได้ยากมากในขณะนั้น เนื่องจากนักฟันดาบส่วนใหญ่มักจะต้องผ่านการแข่งขันในระดับมหาวิทยาลัยก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ทีมชาติ ด้วยผลงานอันน่าประทับใจนี้ เขาได้รับฉายาว่า "ดาวรุ่งปีศาจ" และเป็นที่จับตามองอย่างมาก หลังจากที่เขาสามารถเอาชนะนักฟันดาบรุ่นเก๋าอย่าง คว็อน ย็อง-จุน และ ช็อง จิน-ซ็อน ได้อย่างเฉียดฉิว
3.2. การพัฒนาอาชีพนักฟันดาบระดับอาวุโส
พัค ซัง-ย็อง ได้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับอาวุโสอย่างเต็มตัวในฤดูกาล 2013-14 ซึ่งเป็นช่วงที่เขาเริ่มสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ในฤดูกาลนี้เขาคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันโดฮา กรังด์ปรีซ์ 2014 และแบร์น กรังด์ปรีซ์ 2014 นอกจากนี้ ในฐานะส่วนหนึ่งของทีมชาติเกาหลีใต้ เขาคว้าเหรียญทองประเภททีมในฟันดาบชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่ซูวอน และเอเชียนเกมส์ 2014 ที่อินช็อน รวมถึงคว้าเหรียญเงินในฟันดาบชิงแชมป์โลก 2014 ซึ่งส่งผลให้เขาจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 3 ของโลกในขณะนั้น
อย่างไรก็ตาม ฤดูกาล 2014-15 กลับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเขา พัค ซัง-ย็อง ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าขณะแข่งขันกับ ปาเวล ปิตรา จากเช็กเกีย ในรอบ 16 คนสุดท้ายของการแข่งขันกรังด์ปรีซ์เดือนมีนาคมที่บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี อาการบาดเจ็บนี้ทำให้เขาไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันฟันดาบชิงแชมป์เอเชีย 2015 และฟันดาบชิงแชมป์โลก 2015 ได้ เขาจึงกลับมาแข่งขันอีกครั้งในอีกหนึ่งปีต่อมา และคว้าเหรียญทองแดงในรายการเวิลด์คัพที่แวนคูเวอร์ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016
3.3. เหรียญทองโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ที่รีโอ
ในการแข่งขันฟันดาบประเภทบุคคลชายดาบเอเป้ ในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ที่รีโอเดจาเนโร พัค ซัง-ย็อง ได้สร้างการแสดงที่น่าตื่นเต้นและน่าจดจำที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟันดาบโอลิมปิก
- ในรอบ 32 คนสุดท้าย เขาเอาชนะ ปาเวล ซูคอฟ จากรัสเซีย ด้วยคะแนน 15-11 (ซูคอฟเคยแพ้ให้กับนักฟันดาบเกาหลีใต้ ช็อง จิน-ซ็อน ในโอลิมปิก 2012)
- ในรอบ 16 คนสุดท้าย เขาต้องเผชิญหน้ากับ เอนรีโก กาโรซโซ จากอิตาลี ซึ่งเป็นผู้ที่เอาชนะ ช็อง จิน-ซ็อน เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกลอนดอนได้ พัค ซัง-ย็อง เอาชนะกาโรซโซไปได้ 15-12 ทั้งที่สถิติการพบกันก่อนหน้านี้เขามีสถิติเป็นรอง 1-2 แพ้ 2 และเคยตกเป็นฝ่ายตามหลัง 7-11 ก่อนจะพลิกกลับมาเสมอ 11-11 และคว้าชัยชนะไปได้ (ดานิเอเล กาโรซโซ น้องชายของเอนรีโก กาโรซโซ ได้รับเหรียญทองในประเภทฟลอยล์บุคคลชายในโอลิมปิก 2016)
- ในรอบ 8 คนสุดท้าย เขาเอาชนะนักฟันดาบสวิตเซอร์แลนด์อย่าง แม็กซ์ ไฮน์เซอร์ ไปได้อย่างขาดลอย 15-4 โดยไฮน์เซอร์ทำผิดพลาดเองตั้งแต่ต้นการแข่งขัน
- ในรอบรองชนะเลิศ เขาเอาชนะเพื่อนร่วมชาติสวิตเซอร์แลนด์ของไฮน์เซอร์ คือ เบนยามิน ชเตฟเฟน ไปได้สบาย ๆ ด้วยคะแนน 15-9
ในรอบชิงชนะเลิศ พัค ซัง-ย็อง เผชิญหน้ากับ อิมเร เกซา นักฟันดาบฮังการีผู้มากประสบการณ์ สถานการณ์เริ่มไม่สู้ดีนักเมื่อคะแนนตามหลังอยู่ถึง 10-14 แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความสงบ เขาสามารถทำคะแนนได้ 5 ครั้งติดต่อกันจนพลิกกลับมาคว้าเหรียญทองได้อย่างน่าทึ่งด้วยคะแนน 15-14
- แต้มที่ 11: เขากดดาบที่พุ่งเข้ามาทางขวาแล้วแทงเข้าที่แขน
- แต้มที่ 12: เขาใช้ท่า "ออกตาฟ ปาราด ริโพสต์" (Octave Parade Riposte) เพื่อทำคะแนน
- แต้มที่ 13: เขาชนะในการต่อสู้ "เรมียส" (Remises) ที่ดาบไขว้กันโดยไม่มีฝ่ายใดมีสิทธิ์โจมตี
- แต้มที่ 14: เขาใช้ท่า "ออกตาฟ" (Octave) ซึ่งเป็นการกวาดดาบจากบนลงล่างทวนเข็มนาฬิกา (สำหรับคนถนัดขวา) และโจมตีสำเร็จ
- แต้มที่ 15: พัค ซัง-ย็อง ใช้การเตรียมท่าที่รวดเร็วและแม่นยำเพียงครั้งเดียว ตามด้วยการโจมตีแบบ "ปองต์" (Pointe) ซึ่งเป็นท่าโจมตีพื้นฐานของการฟันดาบ เพื่อปิดฉากการแข่งขัน
ชัยชนะครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากพัค ซัง-ย็อง เป็นนักฟันดาบชายเอเป้ชาวเกาหลีใต้คนแรกในประวัติศาสตร์โอลิมปิกที่ก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศและคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ (นักฟันดาบเกาหลีใต้คนอื่นที่เคยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในประเภทนี้ได้แก่ โค้ชอี ซัง-กี และนักกีฬาช็อง จิน-ซ็อน)
4. เกียรติประวัติ
การแข่งขัน | ปี | สถานที่ | ประเภท | เหรียญรางวัล |
---|---|---|---|---|
ฟันดาบเยาวชนชิงแชมป์โลก | 2012 | มอสโก, รัสเซีย | บุคคลชายดาบเอเป้ | ทอง |
ฟันดาบชิงแชมป์เอเชีย | 2014 | ซูวอน, เกาหลีใต้ | ทีมชายดาบเอเป้ | ทอง |
เอเชียนเกมส์ | 2014 | อินช็อน, เกาหลีใต้ | ทีมชายดาบเอเป้ | ทอง |
ฟันดาบชิงแชมป์โลก | 2014 | คาซาน, รัสเซีย | ทีมชายดาบเอเป้ | เงิน |
กรังด์ปรีซ์ | 2014 | โดฮา, กาตาร์ | บุคคลชายดาบเอเป้ | ทอง |
กรังด์ปรีซ์ | 2014 | แบร์น, สวิตเซอร์แลนด์ | บุคคลชายดาบเอเป้ | ทอง |
เวิลด์คัพ | 2016 | แวนคูเวอร์, แคนาดา | บุคคลชายดาบเอเป้ | ทองแดง |
โอลิมปิกเกมส์ | 2016 | รีโอเดจาเนโร, บราซิล | บุคคลชายดาบเอเป้ | ทอง |
เวิลด์คัพ | 2016 | บัวโนสไอเรส, อาร์เจนตินา | บุคคลชายดาบเอเป้ | ทอง |
ฟันดาบชิงแชมป์เอเชีย | 2016 | อู๋ซี, จีน | บุคคลชายดาบเอเป้ | เงิน |
ฟันดาบชิงแชมป์เอเชีย | 2016 | อู๋ซี, จีน | ทีมชายดาบเอเป้ | เงิน |
ฟันดาบชิงแชมป์เอเชีย | 2017 | ฮ่องกง, จีน | ทีมชายดาบเอเป้ | ทอง |
กรังด์ปรีซ์ | 2017 | โดฮา, กาตาร์ | บุคคลชายดาบเอเป้ | ทอง |
เวิลด์คัพ | 2017 | แบร์น, สวิตเซอร์แลนด์ | บุคคลชายดาบเอเป้ | ทอง |
ฟันดาบชิงแชมป์โลก | 2018 | อู๋ซี, จีน | ทีมชายดาบเอเป้ | เงิน |
เอเชียนเกมส์ | 2018 | จาการ์ตา, อินโดนีเซีย | บุคคลชายดาบเอเป้ | เงิน |
เอเชียนเกมส์ | 2018 | จาการ์ตา, อินโดนีเซีย | ทีมชายดาบเอเป้ | ทองแดง |
กรังด์ปรีซ์ | 2018 | กาลี, โคลอมเบีย | บุคคลชายดาบเอเป้ | ทองแดง |
ฟันดาบชิงแชมป์เอเชีย | 2019 | โตเกียว, ญี่ปุ่น | ทีมชายดาบเอเป้ | เงิน |
เวิลด์คัพ | 2019 | ปารีส, ฝรั่งเศส | บุคคลชายดาบเอเป้ | ทอง |
เวิลด์คัพ | 2020 | ไฮเดินไฮม์, เยอรมนี | บุคคลชายดาบเอเป้ | เงิน |
โอลิมปิกเกมส์ | 2020 | โตเกียว, ญี่ปุ่น | ทีมชายดาบเอเป้ | ทองแดง |
ฟันดาบชิงแชมป์เอเชีย | 2022 | โซล, เกาหลีใต้ | บุคคลชายดาบเอเป้ | ทองแดง |
ฟันดาบชิงแชมป์เอเชีย | 2022 | โซล, เกาหลีใต้ | ทีมชายดาบเอเป้ | ทอง |
5. ชีวิตส่วนตัว
นอกเหนือจากอาชีพนักกีฬา พัค ซัง-ย็อง ยังมีแง่มุมชีวิตส่วนตัวที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณะและเชิงพาณิชย์
5.1. ชีวิตในมหาวิทยาลัยและความสัมพันธ์
พัค ซัง-ย็อง เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติเกาหลี ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำด้านกีฬาในเกาหลีใต้ ในระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่นั่น เขามีเพื่อนสนิทคนหนึ่งคือ จุน วูง-แท นักกีฬาปัญจกีฬาสมัยใหม่ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของเขา
5.2. กิจกรรมสาธารณะและการค้า
ด้วยชื่อเสียงจากการเป็นนักกีฬาโอลิมปิก พัค ซัง-ย็อง ได้เข้าร่วมในกิจกรรมสาธารณะและเชิงพาณิชย์หลายครั้ง รวมถึงการปรากฏตัวในแคมเปญโฆษณาต่างๆ ในปี 2016 เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ:
- โอโตกี จินราเม็ง
- ธนาคารเอสซีเฟิสต์แบงก์
6. มรดกและการประเมิน
การแสดงของพัค ซัง-ย็อง ในโอลิมปิก 2016 ได้ทิ้งมรดกที่สำคัญไว้ในวงการกีฬา และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
6.1. ผลกระทบและการยอมรับในวงการกีฬา
ชัยชนะของพัค ซัง-ย็อง ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ที่รีโอเดจาเนโร ได้รับความสนใจอย่างมาก ไม่เพียงแค่ในเกาหลีใต้ แต่ยังรวมถึงทั่วโลก ความสามารถในการพลิกกลับมาคว้าชัยชนะในสถานการณ์ที่ตามหลัง 10-14 ได้รับการยกย่องอย่างสูง และวลีที่เขากล่าวกับตัวเองว่า "할 수 있다Hal su itdaภาษาเกาหลี" (ฉันทำได้) ในระหว่างการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ ได้กลายเป็นวลีที่โด่งดังและเป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก การที่เขาสามารถนำเหรียญทองมาสู่ประเทศในประเภทดาบเอเป้ ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับนักฟันดาบชายเกาหลีใต้ในประวัติศาสตร์โอลิมปิก ได้ช่วยยกระดับและเพิ่มความสนใจในกีฬาฟันดาบในเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักฟันดาบที่สร้างแรงบันดาลใจและมีผลกระทบอย่างสูงต่อวงการกีฬาของประเทศ
6.2. คำวิพากษ์วิจารณ์และข้อโต้แย้ง
จากการตรวจสอบข้อมูลที่ปรากฏในแหล่งที่มา ไม่มีรายงานหรือข้อมูลที่ระบุถึงคำวิพากษ์วิจารณ์หรือข้อโต้แย้งที่สำคัญเกี่ยวกับพัค ซัง-ย็อง ในแง่มุมของการกระทำ การตัดสินใจ หรือภาพลักษณ์สาธารณะของเขา