1. ภาพรวม

มูซา กิลานิเยวิช เอฟโลเยฟ (Муса Гиланиевич Евлоевมูซา กิลานิเยวิช เยฟโลเยฟภาษารัสเซีย; เกิดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1993) เป็นนักมวยปล้ำเกรโก-โรมันชาวรัสเซียผู้โดดเด่นในวงการกีฬาระดับโลก เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักมวยปล้ำชั้นนำในรุ่นของเขา โดยได้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในประเภทเกรโก-โรมันชาย รุ่นน้ำหนัก 97 กิโลกรัม นอกจากความสำเร็จระดับโอลิมปิกแล้ว เอฟโลเยฟยังเป็นแชมป์โลก 2 สมัย และแชมป์ระดับประเทศ 2 สมัย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องในอาชีพนักมวยปล้ำของเขา
2. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
มูซา เอฟโลเยฟ เริ่มต้นเส้นทางในวงการมวยปล้ำตั้งแต่วัยเด็ก โดยได้รับการฝึกฝนภายใต้การดูแลของโค้ชผู้มากประสบการณ์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ส่งเสริมให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาชั้นนำระดับโลกในปัจจุบัน
2.1. การเกิดและวัยเด็ก
มูซา กิลานิเยวิช เอฟโลเยฟ เกิดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1993 ที่หมู่บ้านเนสเตรอฟสกายา ในสาธารณรัฐอินกูเชเตีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย ภูมิหลังทางเชื้อชาติของเขาเป็นชาวอินกุช ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมืองในภูมิภาคคอเคซัสเหนือ
2.2. การเริ่มต้นเข้าสู่วงการมวยปล้ำ
เอฟโลเยฟเริ่มต้นเข้าสู่วงการมวยปล้ำด้วยการฝึกฝนในสไตล์เกรโก-โรมัน ซึ่งเป็นรูปแบบการต่อสู้ที่เน้นการใช้กำลังและเทคนิคส่วนบนของร่างกาย เขาได้รับการฝึกฝนที่สโมสรสปาร์ตา (Sparta) และมีโค้ชคู่ใจคือ เอฟ. พี. อาวาคอฟ (F. P. Avakov) และ วี. วี. โครมอฟ (V. V. Khromov) ทั้งสองท่านมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะและความสามารถของเอฟโลเยฟตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มอาชีพนักมวยปล้ำอาชีพของเขา มูซา เอฟโลเยฟ มีความสูงประมาณ 1.8 m และน้ำหนักประมาณ 96 kg ในช่วงเวลาที่ทำการแข่งขัน
3. อาชีพการแข่งขัน
อาชีพการแข่งขันของมูซา เอฟโลเยฟ โดดเด่นด้วยผลงานที่สม่ำเสมอและความสำเร็จมากมาย ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นและความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเขาในการแข่งขันมวยปล้ำเกรโก-โรมัน
3.1. ความสำเร็จระดับประเทศและระดับนานาชาติช่วงแรก
มูซา เอฟโลเยฟ สร้างชื่อเสียงในระดับประเทศด้วยการคว้าแชมป์รัสเซีย 2 สมัย ในปี ค.ศ. 2016 และ ค.ศ. 2017 ซึ่งเป็นการยืนยันสถานะของเขาในฐานะนักมวยปล้ำชั้นนำของประเทศ ในระดับนานาชาติ เขาได้รับเหรียญเงินในการแข่งขันมวยปล้ำชิงแชมป์โลก 2017 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยพ่ายแพ้ให้กับอาร์ตูร์ อเล็กซานยาน นักมวยปล้ำจากอาร์มีเนีย ในปีเดียวกันนั้น เขายังคว้าเหรียญทองในการแข่งขันเวิลด์คัพมวยปล้ำ ปี ค.ศ. 2017 ที่กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ในรุ่นน้ำหนัก 98 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการแสดงศักยภาพในเวทีระดับโลก
3.2. การแข่งขันชิงแชมป์โลก
เอฟโลเยฟประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการแข่งขันมวยปล้ำชิงแชมป์โลก โดยสามารถคว้าเหรียญทองได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน:
- ในการแข่งขันมวยปล้ำชิงแชมป์โลก 2018 ที่กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เขาคว้าเหรียญทองในรุ่นน้ำหนัก 97 กิโลกรัม โดยเอาชนะคิริล มีลอฟ จากบัลแกเรียไปด้วยคะแนน 7-2
- ในการแข่งขันมวยปล้ำชิงแชมป์โลก 2019 ที่กรุงนูร์-ซุลตัน (ปัจจุบันคืออัสตานา) ประเทศคาซัคสถาน เขาคว้าเหรียญทองอีกครั้ง โดยสามารถเอาชนะคู่ปรับเก่าอย่างอาร์ตูร์ อเล็กซานยานได้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
3.3. การแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปและรายการสำคัญอื่น ๆ
นอกจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกและโอลิมปิกแล้ว มูซา เอฟโลเยฟยังประสบความสำเร็จในรายการนานาชาติสำคัญอื่น ๆ อีกมากมาย:
- เขาคว้าเหรียญทองในการแข่งขันมวยปล้ำชิงแชมป์ยุโรป 2019 ที่กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ในรุ่นน้ำหนัก 97 กิโลกรัม
- ในปี ค.ศ. 2020 เขาได้รับเหรียญทองในการแข่งขันเวิลด์คัพมวยปล้ำบุคคล ที่กรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย ในรุ่นน้ำหนัก 97 กิโลกรัม
- ในปี ค.ศ. 2019 เอฟโลเยฟคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ทหารโลก ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
- ในปี ค.ศ. 2021 เขาได้รับเหรียญทองในการแข่งขันรายการจัดอันดับมาเตโอ เปลิโคเน (Matteo Pellicone Ranking Series 2021) ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในรุ่นน้ำหนัก 97 กิโลกรัม
3.4. โอลิมปิกเกมส์
ความสำเร็จสูงสุดในอาชีพของมูซา เอฟโลเยฟ คือการคว้าเหรียญทองในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 2021 (เลื่อนมาจากปี 2020 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดทั่วของโควิด-19) โดยเขาลงแข่งขันในนามของคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย (ROC) ในประเภทเกรโก-โรมันชาย รุ่นน้ำหนัก 97 กิโลกรัม การคว้าเหรียญทองโอลิมปิกครั้งนี้เป็นการยืนยันสถานะของเขาในฐานะหนึ่งในนักมวยปล้ำเกรโก-โรมันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
4. การพัฒนาล่าสุดและข้อโต้แย้ง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มูซา เอฟโลเยฟ ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่ออาชีพการแข่งขันของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถูกห้ามเข้าร่วมการแข่งขันสำคัญบางรายการ
4.1. การถูกแบนจากการแข่งขันรอบคัดเลือกโอลิมปิกปี 2024
มูซา เอฟโลเยฟ ถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันรอบคัดเลือกสำหรับโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาถูกถ่ายภาพยืนอยู่ใกล้กับโปสเตอร์ที่มีข้อความว่า "ไม่เอาลัทธินาซี" แม้ว่าข้อความบนโปสเตอร์จะดูเป็นกลางและมีจุดประสงค์เพื่อต่อต้านลัทธินาซี แต่ด้วยบริบททางภูมิรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ตึงเครียดในขณะนั้น ทำให้การกระทำดังกล่าวถูกตีความและนำไปสู่การตัดสินใจของเจ้าหน้าที่กีฬาในการห้ามเขาเข้าร่วมการแข่งขันรอบคัดเลือกโอลิมปิก
5. รายละเอียดส่วนตัว
มูซา เอฟโลเยฟ เป็นนักมวยปล้ำที่เติบโตมาจากสโมสร "สปาร์ตา" (Sparta) ซึ่งเป็นสโมสรที่ได้รับการสนับสนุนอย่างดีสำหรับการฝึกซ้อมกีฬามวยปล้ำ โดยมีโค้ชหลักที่ดูแลเขามาตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มจนถึงปัจจุบันคือ เอฟ. พี. อาวาคอฟ (F. P. Avakov) และ วี. วี. โครมอฟ (V. V. Khromov) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความสามารถและยกระดับฝีมือของเขาให้ก้าวสู่การเป็นนักกีฬาชั้นนำระดับโลก