1. อาชีพนักฟุตบอล
โอเลห์ โปรตาซอฟมีเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลที่ยาวนานและประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยเริ่มต้นจากทีมเยาวชนในบ้านเกิด สู่การเป็นหนึ่งในกองหน้าชั้นนำของสหภาพโซเวียตและยุโรป ก่อนจะไปสัมผัสประสบการณ์ในลีกต่างประเทศ

1.1. อาชีพเยาวชน
โอเลห์ โปรตาซอฟเริ่มต้นเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 8 ขวบในบ้านเกิดของเขาที่ดนิโปรเปตรอฟสค์ (ปัจจุบันคือดนิโปร) ในดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟสค์ โดยเขาเล่นให้กับทีมเยาวชนของสโมสรระหว่างปี 1972 ถึง 1981 ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่
1.2. อาชีพสโมสร
โปรตาซอฟสร้างชื่อเสียงอย่างมากในลีกโซเวียต ก่อนจะไปประสบความสำเร็จในกรีซ และมีโอกาสลงเล่นในเจลีกของญี่ปุ่น
1.2.1. กิจกรรมในลีกโซเวียต
โปรตาซอฟเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลอาชีพกับเอฟซี ดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟสค์ ซึ่งเขาค้าแข้งอยู่จนถึงปี 1987 ในช่วงเวลาดังกล่าว เขาคว้าแชมป์โซเวียตท็อปลีกในปี 1983 และยูเอสเอสอาร์เฟเดอเรชันคัพในปี 1986 กับสโมสรนี้ ในปี 1985 และ 1987 เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของโซเวียตท็อปลีกด้วยผลงาน 35 ประตูในปี 1985 และ 18 ประตูในปี 1987
ในปี 1987 โปรตาซอฟได้ย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่แห่งโซเวียต-ยูเครน อย่างดีนาโม เคียฟ ที่นั่น เขาคว้าแชมป์โซเวียตท็อปลีกได้อีกครั้งในปี 1990 และโซเวียตคัพในฤดูกาล 1989-90 เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลีกอีกครั้งในปี 1990 ด้วยผลงาน 12 ประตู และยังได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสหภาพโซเวียตในปี 1987 ตลอดอาชีพในลีกโซเวียต เขายิงไปได้ 125 ประตู ทำให้เขากลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลอันดับ 8 ของการแข่งขัน
1.2.2. กิจกรรมในลีกต่างประเทศ
หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต โอเลห์ โปรตาซอฟได้รับโอกาสในการเล่นฟุตบอลในต่างประเทศ ในปี 1990 เขาย้ายไปร่วมทีมโอลิมเปียกอส สโมสรจากกรีซ ที่นั่นเขาประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์กรีกคัพในฤดูกาล 1991-92 และกรีกซูเปอร์คัพในปี 1992 เขาค้าแข้งกับโอลิมเปียกอสจนถึงปี 1994
หลังจากออกจากโอลิมเปียกอสในปี 1994 โปรตาซอฟได้ย้ายไปเล่นในญี่ปุ่น กับสโมสรกัมบะ โอซาก้า เขายิงประตูแรกในเจลีกได้ในวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1994 ในเกมพบกับนาโกยา แกรมปัส เอต และในวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1995 เขากลายเป็นนักเตะต่างชาติคนแรกของกัมบะ โอซาก้าที่ทำแฮตทริกได้ในเกมพบกับชิมิสุ เอส-พัลส์ เขายิงได้ 13 ประตูจาก 28 นัดในฤดูกาล 1995 ก่อนจะออกจากทีมในปีเดียวกันนั้น
หลังจากประสบการณ์ในญี่ปุ่น เขากลับไปเล่นในกรีซอีกครั้ง โดยลงเล่นให้กับเวเรีย เอฟซี และปรูเดฟติกิ เอฟซี ซึ่งเป็นสโมสรสุดท้ายก่อนที่เขาจะแขวนสตั๊ดในปี 1999
1.3. อาชีพทีมชาติ
โปรตาซอฟเป็นกำลังสำคัญของฟุตบอลทีมชาติสหภาพโซเวียตในยุค 1980 และมีส่วนร่วมในการแข่งขันระดับนานาชาติที่สำคัญ
เขาลงเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติสหภาพโซเวียตทั้งหมด 68 นัด โดยทำได้ 29 ประตู เขามีส่วนร่วมในฟุตบอลโลก 1986 และฟุตบอลโลก 1990 นอกจากนี้ เขายังลงเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1988 ซึ่งเขาทำได้ 2 ประตู และพาทีมชาติสหภาพโซเวียตเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แม้ว่าในรอบชิงชนะเลิศเขาจะถูกฟรังก์ ไรการ์ด ประกบติดจนเล่นได้ไม่ถนัด และทีมพ่ายแพ้ไป 0-2
ในปี 1983 โปรตาซอฟยังได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาสปาร์ตาเกียดฤดูร้อนแห่งประชาชนของสหภาพโซเวียต (Summer Spartakiad of the Peoples of the USSR) โดยเป็นตัวแทนของสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตยูเครน
หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย โปรตาซอฟได้ลงเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติยูเครน 1 นัดในปี 1994
2. อาชีพผู้จัดการทีม
หลังจากการเลิกเล่นฟุตบอล โอเลห์ โปรตาซอฟก็ได้ผันตัวเข้าสู่อาชีพผู้จัดการทีม โดยได้คุมทีมในหลายประเทศทั้งในกรีซ โรมาเนีย ยูเครน รัสเซีย ไซปรัส คาซัคสถาน และเบลารุส
2.1. กิจกรรมผู้จัดการทีมสโมสร
โปรตาซอฟเริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีมในปี 2002 กับโอลิมเปียกอส อดีตต้นสังกัดของเขา ซึ่งเขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกกรีซได้ในฤดูกาล 2002-03
ในปี 2004-2005 เขาย้ายไปคุมทีมเออีแอล ลิมาสซอลในไซปรัส ก่อนจะย้ายไปคุมทีมสเตอัวบูคาเรสต์ สโมสรจากโรมาเนียในปี 2005 ที่นั่นเขาพาทีมทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในยูฟ่าคัพ 2005-06
ในเดือนธันวาคม 2005 โอเลห์ โปรตาซอฟกลับมายังยูเครนเพื่อคุมทีมในบ้านเกิดของเขาคือดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟสค์ ในฤดูกาล 2005-06 เขาพาทีมจบอันดับ 6 ในยูเครเนียนพรีเมียร์ลีก และพัฒนาขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ในฤดูกาลถัดมา (2006-07) ในฤดูกาล 2007-08 ทีมของเขาขึ้นนำการแข่งขันชิงแชมป์ลีกก่อนช่วงพักเบรกฤดูหนาว แต่ฟอร์มตกในครึ่งหลังทำให้จบอันดับ 4 อีกครั้ง ดนิโปรได้ไล่เขาออกเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2008 หลังจากพ่ายแพ้ให้กับเอซี เบลลินโซนา ในการแข่งขันรอบคัดเลือกยูฟ่าคัพ
หลังจากนั้น โปรตาซอฟได้เข้ารับตำแหน่งคุมทีมเอฟซี คูบาน คราสโนดาร์ ในรัสเซีย ซึ่งเพิ่งตกชั้นสู่รัสเซียนเฟิสต์ดิวิชัน ภายใต้การนำของโปรตาซอฟ สโมสรจบอันดับ 2 ในลีก โดยมีคะแนนนำทีมคู่แข่งใกล้ที่สุดถึง 8 คะแนน ทำให้พวกเขาได้สิทธิ์เลื่อนชั้นสู่รัสเซียนพรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตาม เอฟซี คูบานได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกปี 2008-2009 ทำให้งบประมาณของสโมสรลดลงอย่างมาก โปรตาซอฟจึงออกจากสโมสรเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2008 ด้วยความเห็นชอบร่วมกัน
ในฤดูร้อนปี 2009 เขาย้ายไปคุมทีมอีราคลิส เทสซาโลนิกิ ในกรีซ โดยเซ็นสัญญา 2 ปี มูลค่า 400.00 K EUR ต่อปี แต่สัญญาของเขากับอีราคลิส เอฟซี ถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม หลังจากทีมพ่ายแพ้ติดต่อกัน 5 นัดในกรีกซูเปอร์ลีกและกรีกคัพ
โปรตาซอฟยังคงมีบทบาทในฐานะผู้จัดการทีม โดยคุมทีมเอฟซี รอสตอฟในรัสเซียระหว่างปี 2010-2011, เอฟซี อัสตานาในคาซัคสถานในปี 2012, และเอฟซี ดีนาโม มินสค์ในเบลารุสระหว่างปี 2012-2013
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2014 โอเลห์ โปรตาซอฟได้เป็นผู้จัดการทีมของเอฟซี อัสตรา จิออร์จิอู สโมสรในลีกโรมาเนีย อย่างไรก็ตาม เขาถูกปลดจากตำแหน่งในวันที่ 2 มีนาคม 2015 และในปี 2015 เขายังได้ตกลงเซ็นสัญญา 3 ปีกับอาริส เทสซาโลนิกิ แต่ข้อตกลงดังกล่าวถูกยกเลิกหลังจากประกาศได้เพียง 15 นาที เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าฝ่ายฟุตบอลของสโมสร
3. ชีวิตส่วนตัว
โอเลห์ โปรตาซอฟแต่งงานกับนาตาเลีย (นามสกุลเดิม: เลเมชโก) ซึ่งเป็นบุตรสาวของเยฟเฮน เลเมชโก เขาได้รับสัญชาติกรีกโดยการแปลงสัญชาติ และสามารถพูดภาษากรีกได้ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ ภาษารัสเซีย และภาษายูเครนซึ่งเป็นภาษาแม่ของเขา โปรตาซอฟมีความสูง 186 cm และน้ำหนัก 77 kg และถนัดเท้าขวา
4. เกียรติประวัติและรางวัล
โอเลห์ โปรตาซอฟได้รับเกียรติประวัติและรางวัลมากมายตลอดอาชีพนักฟุตบอลและผู้จัดการทีม
4.1. รางวัลสำคัญในฐานะนักฟุตบอล
ในฐานะนักฟุตบอล โปรตาซอฟคว้าแชมป์ในระดับสโมสรและทีมชาติ รวมถึงได้รับรางวัลส่วนตัวอันทรงเกียรติ
4.1.1. เกียรติประวัติระดับสโมสร
- โซเวียตท็อปลีก
- ชนะเลิศ: 1983 (กับดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟสค์)
- ชนะเลิศ: 1990 (กับดีนาโม เคียฟ)
- ยูเอสเอสอาร์เฟเดอเรชันคัพ
- ชนะเลิศ: 1986 (กับดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟสค์)
- โซเวียตคัพ
- ชนะเลิศ: 1989-90 (กับดีนาโม เคียฟ)
- กรีกคัพ
- ชนะเลิศ: 1991-92 (กับโอลิมเปียกอส)
- กรีกซูเปอร์คัพ
- ชนะเลิศ: 1992 (กับโอลิมเปียกอส)
4.1.2. เกียรติประวัติระดับนานาชาติ
- ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
- รองชนะเลิศ: 1988 (กับสหภาพโซเวียต)
4.1.3. รางวัลส่วนตัว
- ADN Eastern European Footballer of the Season: 1985
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสหภาพโซเวียต: 1987
- ดาวซัลโวสูงสุดของโซเวียตท็อปลีก: 1985, 1987, 1990
- รองเท้าเงินยูฟ่า (UEFA Silver Boot): 1984
4.2. รางวัลสำคัญในฐานะผู้จัดการทีม
- กรีกซูเปอร์ลีก
- ชนะเลิศ: 2002-03 (กับโอลิมเปียกอส)
- โค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีของโรมาเนีย (Gazeta Sporturilorกาเซตา สปอร์ตูริลอร์ภาษาโรมาเนีย): 2005
5. สถิติอาชีพ
สถิติการลงสนามและการทำประตูของโอเลห์ โปรตาซอฟ ในอาชีพนักฟุตบอลทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ มีดังนี้
5.1. สถิติสโมสร
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | คัพ | ทวีป | รวม | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ||
ดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟสค์ | 1982 | 4 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 4 | 1 |
1983 | 21 | 7 | 2 | 0 | 0 | 0 | 23 | 7 | |
1984 | 34 | 17 | 2 | 2 | 6 | 0 | 42 | 19 | |
1985 | 33 | 35 | 2 | 1 | 6 | 4 | 41 | 40 | |
1986 | 23 | 17 | 1 | 1 | 2 | 0 | 26 | 18 | |
1987 | 30 | 18 | 4 | 3 | 0 | 0 | 34 | 21 | |
ดีนาโม เคียฟ | 1988 | 29 | 11 | 5 | 2 | 0 | 0 | 34 | 13 |
1989 | 26 | 7 | 6 | 2 | 3 | 1 | 35 | 10 | |
1990 | 16 | 12 | 1 | 1 | 0 | 0 | 17 | 13 | |
โอลิมเปียกอส | 1990-91 | 29 | 11 | 2 | 1 | 0 | 0 | 31 | 12 |
1991-92 | 21 | 15 | 6 | 3 | 0 | 0 | 27 | 18 | |
1992-93 | 24 | 14 | 9 | 3 | 4 | 1 | 37 | 18 | |
1993-94 | 9 | 8 | 4 | 1 | 1 | 0 | 14 | 9 | |
กัมบะ โอซาก้า | 1994 | 27 | 11 | 4 | 4 | 3 | 0 | 34 | 15 |
1995 | 28 | 13 | 0 | 0 | 0 | 0 | 28 | 13 | |
เวเรีย | 1997 | 30 | 4 | 4 | 1 | 0 | 0 | 34 | 5 |
1998 | 32 | 7 | 1 | 0 | 0 | 0 | 33 | 7 | |
ปรูเดฟติกิ | 1998 | 28 | 5 | 0 | 0 | 0 | 0 | 28 | 5 |
รวมอาชีพ | 444 | 213 | 53 | 25 | 25 | 6 | 522 | 244 |
5.2. สถิติทีมชาติ
ทีมชาติ | ปี | ลงสนาม | ประตู |
---|---|---|---|
สหภาพโซเวียต | 1984 | 5 | 2 |
1985 | 12 | 8 | |
1986 | 3 | 0 | |
1987 | 9 | 2 | |
1988 | 18 | 10 | |
1989 | 8 | 3 | |
1990 | 11 | 3 | |
1991 | 2 | 1 | |
รวม (สหภาพโซเวียต) | 68 | 29 | |
ยูเครน | 1994 | 1 | 0 |
รวม (ยูเครน) | 1 | 0 |