1. ภาพรวม
แองเจลา วิสเซอร์ (Angela Visserภาษาอังกฤษ) เกิดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1966 เธอเป็นนักแสดง นางแบบ และนางงามชาวเนเธอร์แลนด์ ผู้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส 1989 ซึ่งทำให้เธอเป็นสตรีชาวดัตช์คนแรกและคนเดียวจนถึงปัจจุบันที่ได้รับมงกุฎอันทรงเกียรตินี้ ก่อนที่จะก้าวสู่เวทีระดับโลก เธอเคยทำงานเป็นนางแบบและช่างเสริมสวยมาก่อน และได้รับตำแหน่งมิสฮอลแลนด์ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1988 นอกจากความสำเร็จด้านการประกวดความงามแล้ว แองเจลา วิสเซอร์ยังได้รับการยอมรับในภาพลักษณ์ของเธอ โดยในปี ค.ศ. 2002 เว็บไซต์ Global Beauties ได้ยกให้เธอเป็น "มิสยูนิเวิร์สที่สวยที่สุดตลอดกาล" อีกทั้งเธอยังมีบทบาทในกิจกรรมสาธารณะ โดยได้ร่วมเปิดถนนแห่งเกียรติยศแห่งยุโรป (European Walk of Fame) ในเมืองรอตเทอร์ดาม เมื่อปี ค.ศ. 1990 และเป็นบุคคลแรก ๆ ที่ได้รับแผ่นป้ายเกียรติยศบนถนนสายนี้
2. ชีวิตช่วงต้นและการเข้าสู่วงการประกวดความงาม
2.1. วัยเด็กและพื้นเพ
แองเจลา วิสเซอร์ เกิดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1966 ที่เมืองนีวแกร์เกอร์อันเดินไอส์เซิล (Nieuwerkerk aan den IJssel) ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เธอเติบโตมาในวัยเด็ก
2.2. การประกวดมิสฮอลแลนด์
ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงการประกวดความงาม แองเจลา วิสเซอร์เคยทำงานเป็นนางแบบและช่างเสริมสวยมาก่อน ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1988 เธอได้เข้าร่วมการประกวดมิสฮอลแลนด์ (Miss Holland) ซึ่งเป็นการประกวดเพื่อเฟ้นหาตัวแทนของประเทศเนเธอร์แลนด์ในการแข่งขันระดับนานาชาติ เธอสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาได้สำเร็จ ซึ่งจากการชนะในครั้งนั้น ทำให้เธอได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนของประเทศในการประกวดมิสยูนิเวิร์สและมิสเวิลด์ โดยมีรายงานว่าหลังจากที่เธอได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส นานดี เฮนดริกซ์ (Nandy Hendrikx) ซึ่งเป็นรองชนะเลิศอันดับหนึ่งในการประกวดมิสฮอลแลนด์ปีนั้น ได้ขึ้นมาครองตำแหน่งมิสฮอลแลนด์แทนตามกฎระเบียบ
3. อาชีพมิสยูนิเวิร์ส
3.1. การเข้าร่วมมิสเวิลด์ 1988
ก่อนที่แองเจลา วิสเซอร์จะเข้าร่วมการประกวดมิสยูนิเวิร์ส เธอได้เป็นตัวแทนของประเทศเนเธอร์แลนด์เข้าร่วมการประกวดมิสเวิลด์ 1988 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1988 ในการประกวดครั้งนั้น แองเจลา วิสเซอร์ไม่สามารถผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายได้ แต่ประสบการณ์จากเวทีนี้ได้เตรียมความพร้อมให้เธอสำหรับความท้าทายในเวทีระดับโลกต่อไป
3.2. ชัยชนะมิสยูนิเวิร์ส 1989
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1989 แองเจลา วิสเซอร์ได้เข้าร่วมการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 1989 ซึ่งจัดขึ้นที่แคนคูน ประเทศเม็กซิโก ในการประกวดครั้งนั้น เธอได้สร้างความประทับใจอย่างมากให้กับคณะกรรมการ โดยเธอสามารถกวาดคะแนนสูงสุดในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศทั้งสามส่วน ได้แก่ การเดินในชุดว่ายน้ำ ชุดราตรี และการตอบคำถาม ทำให้เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นตัวเลือกที่คณะกรรมการเลือกอย่างเป็นเอกฉันท์และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ผลคะแนนที่โดดเด่นของเธอในแต่ละรอบ ทำให้เธอทิ้งห่างผู้เข้าประกวดคนอื่น ๆ อย่างชัดเจน
เธอได้รับมงกุฎจากภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก มิสยูนิเวิร์ส 1988 จากประเทศไทย ผู้เข้าประกวดที่ได้อันดับสองคือลูอีเซอ เดรเวนสตาห์ม (Louise Drevenstam) จากสวีเดน ตามมาด้วยผู้เข้าประกวดจากสหรัฐอเมริกา โปแลนด์ และเม็กซิโก ส่วนผู้เข้าประกวดที่ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ได้แก่ ตัวแทนจากเยอรมนี เวเนซุเอลา ฟินแลนด์ จาเมกา และชิลี ชัยชนะของเธอทำให้เธอเป็นสตรีชาวดัตช์คนแรกและคนเดียวจนถึงปัจจุบันที่คว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สได้สำเร็จ และยังเป็นหนึ่งในสองของมิสยูนิเวิร์สที่มีผมสีบลอนด์ตามธรรมชาติ ร่วมกับเจนนิเฟอร์ ฮอว์กินส์ มิสยูนิเวิร์ส 2004 จากออสเตรเลีย
3.3. บทบาทในฐานะผู้บรรยายการประกวด
หลังจากสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส แองเจลา วิสเซอร์ยังคงมีส่วนร่วมในวงการประกวดความงามอย่างต่อเนื่อง โดยเธอได้กลับมาทำหน้าที่เป็นผู้บรรยาย (color commentator) สำหรับการประกวดมิสยูนิเวิร์สตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 ถึง 1994 นอกจากนี้ เธอยังเคยเป็นผู้บรรยายร่วมสำหรับการประกวดมิสทีนยูเอสเอ (Miss Teen USA) ในปี ค.ศ. 1989 ร่วมกับมาร์เซีย สตราสส์แมน (Marcia Strassman) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผูกพันและการมีส่วนร่วมของเธอในวงการนี้
4. อาชีพการแสดง
4.1. ผลงานภาพยนตร์
แองเจลา วิสเซอร์มีผลงานการแสดงภาพยนตร์หลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงบทบาทในภาพยนตร์ตลกและภาพยนตร์แนวผจญภัย:
- ฮอตอันเดอร์เดอะคอลลาร์ (Hot Under the Collar) ในปี ค.ศ. 1992 เธอรับบทเป็น แคเธอรีน
- คิลเลอร์โทเมโทส์อีตฟรานซ์! (Killer Tomatoes Eat France!) ในปี ค.ศ. 1992 เธอรับบทเป็น มารี ซึ่งในประเทศญี่ปุ่น ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่รู้จักในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า キラートマト/赤いトマトソースの伝説คิราโทมาโตะ/อาคาอิ โทมาโตะ ซอส โนะ เด็นเซ็ตสึภาษาญี่ปุ่น (Killer Tomato / The Legend of Red Tomato Sauce) และมียูโกะ ซาซากิ (Yuko Sasaki) นักพากย์เสียงชื่อดังเป็นผู้พากย์เสียงตัวละครของเธอ
- สายลับฮาร์ด (Spy Hard) ในปี ค.ศ. 1996 เธอรับบทเป็น สาวผมบลอนด์สุดสวย (Gorgeous Blonde)
4.2. บทบาททางโทรทัศน์
แองเจลา วิสเซอร์มีผลงานการแสดงทางโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง โดยปรากฏตัวในรายการและละครหลายเรื่องด้วยบทบาทที่หลากหลาย ดังนี้:
- ปี ค.ศ. 1992:
- แฮร์รีแอนด์เดอะเฮนเดอร์สันส์ (Harry and the Hendersons) ในซีซัน 2 ตอนที่ 13 "Til Theft Do Us Part" เธอรับบทเป็น อิมา
- เดอะเบนสติลเลอร์โชว์ (The Ben Stiller Show) ในซีซัน 1 จำนวน 2 ตอนแรก เธอรับบทเป็น แอนนา และในตอนที่ 12 เธอกลับมารับบทเป็น พนักงานต้อนรับ
- ปี ค.ศ. 1993:
- เบย์วอตช์ (Baywatch) เธอปรากฏตัวใน 2 ตอน โดยรับบทเป็น เอลเกในซีซัน 3 ตอนที่ 13 "Island of Romance" และรับบทเป็น เกรตาในซีซัน 5 ตอนที่ 7 "Someone to Baywatch Over You" ในปี ค.ศ. 1994
- อาคาปุลโกเอช.อี.เอ.ที. (Acapulco H.E.A.T.) เธอรับบทเป็น เมโลดี้ ในตอน "Code Name: Million Dollar Ladies (a.k.a. Vanished)"
- เบเวอร์ลีฮิลส์, 90210 (Beverly Hills, 90210) ในซีซัน 4 จำนวน 2 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 7 "Moving Targets" และตอนที่ 15 "Somewhere in the World It's Christmas" โดยเธอรับบทเป็น นีน่า
- บลอสซัม (ละครโทรทัศน์อเมริกัน) (Blossom) ในซีซัน 4 จำนวน 2 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 19 "Beach Blanket Blossom: Part 1" และตอนที่ 20 "Beach Blanket Blossom: Part 2" เธอรับบทเป็น เอเธล นางเงือก
- เดนเจอร์เธียเตอร์ (Danger Theatre) ในซีซัน 1 ตอนที่ 2 "Phantom of Fashion/Aloha, Rich Man, Goodbye" เธอรับบทเป็น ดาร์ลีน
- ปี ค.ศ. 1995:
- เฟรนส์ (Friends) เธอรับบทเป็น ซาแมนธา ในซีซัน 1 ตอนที่ 19 "The One Where the Monkey Gets Away"
- บอยมีตส์เวิลด์ (Boy Meets World) ในซีซัน 3 ตอนที่ 10 "Train of Fools" เธอรับบทเป็น รีเบคกา-อเล็กซา
- ปี ค.ศ. 1996:
- ทูซัมธิง (Too Something) ในซีซัน 1 ตอนที่ 7 "Evelyn's Blouse" เธอรับบทเป็น ซูเปอร์โมเดล
- ปี ค.ศ. 1997-1999:
- ยูเอสเอไฮ (USA High) เธอมีบทบาทสำคัญในฐานะคุณกาเบรียล ดูเพร (Ms. Gabrielle Dupre) และปรากฏตัวในซีรีส์นี้ถึง 95 ตอน รวมถึงซีซัน 2 ตอนที่ 15 "It's a Wonderful Life"
4.3. งานพากย์เสียง
นอกเหนือจากงานแสดงในภาพยนตร์และโทรทัศน์ แองเจลา วิสเซอร์ยังเคยมีส่วนร่วมในงานพากย์เสียง โดยเธอได้ให้เสียงในวิดีโอเกมแนวสงครามชื่อดังอย่าง เมดัลออฟฮอนเนอร์: ฟรอนต์ไลน์ (Medal of Honor: Frontline) ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2002
5. ชีวิตช่วงหลังและกิจกรรมอื่น ๆ
5.1. ชีวิตส่วนตัว
แองเจลา วิสเซอร์ได้ตัดสินใจถอยห่างจากแสงสีของวงการบันเทิงและย้ายไปพำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในย่านเชอร์แมนโอคส์ (Sherman Oaks) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย เธอแต่งงานกับฟิล มิสซิก (Phil Missig) ซึ่งเป็นทั้งนักแสดงและนายแบบเช่นเดียวกับเธอ และทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคน
5.2. กิจกรรมอาสาสมัคร
หลังจากที่แองเจลา วิสเซอร์เกษียณจากอาชีพในวงการบันเทิง เธอได้ทุ่มเทเวลาให้กับกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเฉพาะงานอาสาสมัคร เธอทำงานเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือและดูแลสุนัขจรจัดในพื้นที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเมตตาและความตั้งใจของเธอในการช่วยเหลือสัตว์ที่ด้อยโอกาส
6. มรดกและภาพลักษณ์สาธารณะ
6.1. ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
แองเจลา วิสเซอร์มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่งในฐานะสตรีชาวดัตช์คนแรกและคนเดียวที่สามารถคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สได้สำเร็จในประวัติศาสตร์ของการประกวด ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ เธอยังเป็นหนึ่งในเพียงสองมิสยูนิเวิร์สที่มีผมสีบลอนด์ตามธรรมชาติ ซึ่งอีกคนคือเจนนิเฟอร์ ฮอว์กินส์ มิสยูนิเวิร์ส 2004 จากออสเตรเลีย ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของความงามอันเป็นเอกลักษณ์
6.2. การยอมรับของสาธารณชนและการเชิดชู
แองเจลา วิสเซอร์ได้รับการยอมรับและการเชิดชูจากสาธารณชนในหลายด้าน ซึ่งตอกย้ำถึงภาพลักษณ์และความสำคัญของเธอ ในปี ค.ศ. 2002 เว็บไซต์ด้านความงามระดับโลก Global Beauties ได้คัดเลือกให้เธอเป็น "มิสยูนิเวิร์สที่สวยที่สุดตลอดกาล" (Most Beautiful Miss Universe of All Time) ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความงามอันเป็นที่ประจักษ์ของเธอ

นอกจากนี้ ในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1990 แองเจลา วิสเซอร์ได้ร่วมกับบราม เปเปอร์ (Bram Peper) นายกเทศมนตรีเมืองรอตเทอร์ดามในขณะนั้น ทำพิธีเปิดถนนแห่งเกียรติยศแห่งยุโรป (European Walk of Fame) ที่เมืองรอตเทอร์ดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเธอเป็นคนแรกที่ได้รับแผ่นป้ายเกียรติยศของตนเองร่วมกับลี ทาวเวอร์ส (Lee Towers) ศิลปินชื่อดัง ซึ่งเป็นการจารึกชื่อของเธอไว้ในประวัติศาสตร์และเป็นที่ระลึกถึงความสำเร็จที่เธอได้สร้างไว้