1. ชีวิตช่วงต้นและอาชีพเยาวชน
เตโอ แอร์น็องแดซเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลตั้งแต่วัยเด็ก โดยมีภูมิหลังครอบครัวที่เชื่อมโยงกับวงการฟุตบอล และผ่านการฝึกฝนจากสถาบันเยาวชนชั้นนำ
1.1. การเกิดและภูมิหลังครอบครัว
เตโอ แอร์น็องแดซเกิดที่มาร์แซย์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1997 และย้ายมาอยู่ที่ประเทศสเปนเมื่ออายุได้ 2 ขวบ ครอบครัวของเขามีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับวงการฟุตบอล โดยบิดาของเขาคือฌ็อง-ฟร็องซัว แอร์น็องแดซ อดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวฝรั่งเศสที่เคยเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กให้กับอัตเลติโกมาดริด ส่วนพี่ชายของเขาคือลูว์กา แอร์น็องแดซ ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน ปัจจุบันเล่นให้กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็งและฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส และเคยพัฒนาฝีเท้าในระบบเยาวชนของอัตเลติโกมาดริดเช่นเดียวกับน้องชาย นอกจากนี้ ครอบครัวของแอร์น็องแดซยังมีเชื้อสายชาวสเปนด้วย
1.2. การพัฒนาอาชีพเยาวชน
แอร์น็องแดซเริ่มต้นอาชีพเยาวชนกับสโมสรราโยมาฆาดาออนดาในปี ค.ศ. 2006 ก่อนที่จะย้ายเข้าสู่สถาบันฝึกสอนเยาวชนของอัตเลติโกมาดริดในปี ค.ศ. 2007 ขณะอายุ 9 ขวบ หรือบางแหล่งข้อมูลระบุว่าอายุ 10 ขวบ ในปี ค.ศ. 2008 หลังจากผ่านการพัฒนาฝีเท้าในระดับเยาวชน เขาได้รับการเลื่อนชั้นสู่ทีมสำรองของอัตเลติโกมาดริด หรือที่เรียกว่าอัตเลติโกมาดริด เบ ซึ่งเล่นอยู่ในลีกเตร์เซราดิบิซิออน ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 2015 ในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2015 เขาได้ประเดิมสนามให้กับทีมสำรองในการแข่งขันกระชับมิตรกับเซเด ปูเอร์ตา โบนิตา ซึ่งอัตเลติโกมาดริด เบเอาชนะไป 4-3
2. อาชีพสโมสร
เส้นทางอาชีพของเตโอ แอร์น็องแดซในฐานะนักฟุตบอลอาชีพนั้นได้ผ่านสโมสรชั้นนำหลายแห่งในประเทศสเปนและประเทศอิตาลี ซึ่งแต่ละช่วงเวลาได้หล่อหลอมให้เขากลายเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่โดดเด่นที่สุดในยุคปัจจุบัน
2.1. อัตเลติโกมาดริด
เตโอ แอร์น็องแดซเริ่มต้นการพัฒนาฝีเท้าในระบบเยาวชนของอัตเลติโกมาดริดตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 โดยเขาได้แสดงศักยภาพอย่างต่อเนื่องจนได้รับการเลื่อนชั้นสู่ทีมสำรองของสโมสรในลีกเตร์เซราดิบิซิออนในฤดูร้อนปี ค.ศ. 2015 ความก้าวหน้าของเขาทำให้เขาได้ต่อสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 เพียงสองวันหลังจากนั้น แอร์น็องแดซก็ถูกเรียกตัวติดทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกสำหรับการแข่งขันลาลิกากับเอสเด ไอบาร์ เนื่องจากปัญหานักเตะบาดเจ็บ แต่เขายังคงเป็นเพียงตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนามในเกมที่อัตเลติโกมาดริดเปิดบ้านเอาชนะไป 3-1
2.2. เดปอร์ติโบอาลาเบส (ยืมตัว)
ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2016 เตโอ แอร์น็องแดซได้ขยายสัญญากับอัตเลติโกมาดริดไปจนถึงปี ค.ศ. 2021 ก่อนจะถูกยืมตัวไปเล่นให้กับเดปอร์ติโบอาลาเบส ซึ่งเป็นสโมสรในลีกเดียวกันเป็นระยะเวลาหนึ่งปี เขาประเดิมสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเมื่อปลายเดือนสิงหาคม โดยลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมที่อาลาเบสเสมอกับสปอร์ติงเดฆิฆอนไป 0-0 ในบ้านของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2016 แอร์น็องแดซได้รับใบแดงโดยตรงในเกมที่อาลาเบสเสมอกับมาลากา 1-1 ในบ้าน หลังจากที่เข้าปะทะอย่างรุนแรงกับอิกนาซิโอ กามาโช เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในข้อโต้แย้งในช่วงเริ่มต้นอาชีพของเขา เขาทำประตูแรกในอาชีพนักฟุตบอลได้ในวันที่ 7 พฤษภาคมปีถัดมา โดยยิงประตูเดียวในเกมที่อาลาเบสเปิดบ้านเอาชนะอัตเลติกบิลบาโอไปได้
ในช่วงที่ถูกยืมตัว แอร์น็องแดซได้กลายเป็นผู้เล่นตัวหลักและมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ทีมจากแคว้นบาสก์ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศโกปาเดลเรย์ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 91 ปีของสโมสร ในนัดชิงชนะเลิศเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 เขายิงประตูตีเสมอจากฟรีคิกโดยตรงในเกมที่อาลาเบสพ่ายแพ้ให้กับบาร์เซโลนาไป 1-3
2.3. เรอัลมาดริด

ในวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 เตโอ แอร์น็องแดซได้ย้ายมาร่วมทีมเรอัลมาดริดด้วยสัญญา 6 ปี หลังจากที่เรอัลมาดริดจ่ายค่าฉีกสัญญาของเขาจำนวน 24.00 M EUR การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นการย้ายทีมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก และถูกขนานนามว่าเป็น "การย้ายทีมต้องห้าม" เนื่องจากความสัมพันธ์อันเป็นปรปักษ์กันระหว่างสองสโมสรในเมืองมาดริด และการที่มีข้อตกลงสุภาพบุรุษระหว่างกันที่ห้ามซื้อขายผู้เล่น ทำให้อัตเลติโกมาดริดแสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผย
แอร์น็องแดซประเดิมสนามให้กับเรอัลมาดริดในเกมการแข่งขันอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม โดยถูกส่งลงมาแทนมาร์โก อาเซนซิโอ ในเกมที่เรอัลมาดริดเปิดบ้านเอาชนะบาร์เซโลนาไป 2-0 ในศึกซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 2017 ในฤดูกาลแรกของเขากับสโมสร เขามีโอกาสลงสนามในลาลิกาเพียง 13 นัด เนื่องจากไม่สามารถแย่งตำแหน่งตัวจริงจากมาร์เซโลได้
แม้จะมีโอกาสลงสนามไม่มากนัก แอร์น็องแดซได้ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017-18 จำนวน 3 นัด ซึ่งมีส่วนช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นสมัยที่สามติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 13 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร
2.4. เรอัลโซซิเอดัด (ยืมตัว)
ในวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 2018 เตโอ แอร์น็องแดซถูกเรอัลมาดริดปล่อยตัวให้เรอัลโซซิเอดัดยืมตัวเป็นระยะเวลาหนึ่งปี เพื่อให้เขาได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น หลังจากหมดสัญญายืมตัว เขากลับมายังเรอัลมาดริด แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างผลงานได้อย่างที่คาดหวัง และเมื่อสโมสรได้เซ็นสัญญาคว้าตัวเฟอร์แลนด์ เมนดี ทำให้แอร์น็องแดซหลุดจากแผนการทำทีมและมีข่าวการย้ายทีมอีกครั้ง
2.5. เอซี มิลาน
ในวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 เตโอ แอร์น็องแดซย้ายจากเรอัลมาดริดมาร่วมทีมเอซี มิลาน สโมสรจากเซเรียอา ด้วยค่าตัวสูงสุด 20.00 M EUR และเซ็นสัญญา 5 ปี การย้ายทีมครั้งนี้ได้รับการอนุมัติและดำเนินการโดยเปาโล มัลดีนี ซึ่งได้พบปะพูดคุยกับแอร์น็องแดซอย่างไม่เป็นทางการที่อิวิซา เพื่อโน้มน้าวให้เขาย้ายมาร่วมทีม แอร์น็องแดซลงสนามประเดิมให้มิลานเมื่อวันที่ 21 กันยายน โดยลงเล่น 18 นาทีในเกมที่พ่ายแพ้ต่ออินเตอร์มิลานไป 0-2 ในศึกเดร์บีเดลลามาดอนนีนา เขาทำประตูแรกให้กับ โรซโซเนรี ในวันที่ 5 ตุลาคม ช่วยให้ทีมพลิกกลับมาชนะเจนัวไป 2-1
2.5.1. ช่วงเวลาสำคัญและความสำเร็จ
ในช่วงฤดูกาลแรกของเขากับเอซี มิลาน เตโอ แอร์น็องแดซทำได้ 7 ประตู และ 3 แอสซิสต์ จากทุกรายการแข่งขัน ในวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 2020 ลูกยิงในนาทีที่ 93 ของแอร์น็องแดซนำพาเอซี มิลานเอาชนะลาซิโอไปอย่างน่าตื่นเต้น ทำให้พวกเขารั้งจ่าฝูงของเซเรียอาต่อไป
ในฤดูกาล 2020-21 แอร์น็องแดซเป็นกองหลังเพียงคนเดียวใน 5 ลีกสูงสุดของยุโรปที่ทำประตูได้สองครั้ง (ทำประตูเป็นคู่) และยังเป็นกองหลังที่เลี้ยงบอลสำเร็จมากที่สุดในเซเรียอาฤดูกาลนั้นด้วยจำนวน 73 ครั้ง ในฤดูกาลที่สองของเขากับทีม แอร์น็องแดซทำได้ 8 ประตู และ 7 แอสซิสต์ในทุกรายการแข่งขัน
ในวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2022 แอร์น็องแดซได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมเป็นครั้งแรกในเกมกับโรมา สามวันต่อมา เขายิงคนเดียว 2 ประตูในเกมที่ชนะเวเนเซียไป 3-0 ทำให้เขากลายเป็นกองหลังคนแรกที่ยิงได้อย่างน้อย 3 ครั้งในประวัติศาสตร์ของเอซี มิลานในเซเรียอา ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ แอร์น็องแดซได้ต่อสัญญากับมิลานไปจนถึงปี ค.ศ. 2026

ในวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 ในเกมกับอาตาลันตา แอร์น็องแดซได้เลี้ยงบอลตะลุยกว่า 95 m ก่อนจะยิงประตูที่สองในเกมที่ชนะไป 2-0 และเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกหลังจากรอคอยมา 11 ปี โดยในสัปดาห์ต่อมา มิลานก็ได้รับการสคูเด็ตโตสมัยแรกในรอบ 11 ปี ซึ่งแอร์น็องแดซมีผลงาน 5 ประตู 6 แอสซิสต์ ซึ่งมากที่สุดสำหรับกองหลังคนใดในเซเรียอาฤดูกาลนั้น
ในวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 2023 แอร์น็องแดซต้องเผชิญหน้ากับลูว์กา แอร์น็องแดซพี่ชายของเขาเป็นครั้งแรกในฐานะคู่ต่อสู้ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม นัดเยือนที่พบกับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ซึ่งมิลานพ่ายไป 0-3 ทั้งสองกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งในอีกสองสัปดาห์ต่อมา โดยมิลานเอาชนะไป 2-1 ในบ้าน และเตโอได้ทำแอสซิสต์ในลูกยิงประตูชัยที่ทำโดยออลีวีเย ฌีรู
ในวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2023 ท่ามกลางวิกฤตอาการบาดเจ็บของกองหลังตัวกลางในทีมมิลาน แอร์น็องแดซได้เสนอตัวเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กเป็นครั้งแรกในอาชีพอาวุโสของเขา และได้รับการชื่นชมอย่างสูงจากสื่อฟุตบอลอิตาลีสำหรับการแสดงของเขาในเกมที่มิลานเอาชนะโฟรซิโนเนไป 3-1
ในวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 2024 แอร์น็องแดซมีส่วนร่วมในชัยชนะ 3-0 เหนือเลชเชด้วยการทำประตู ซึ่งเป็นประตูที่ 29 ของเขาในเซเรียอา ทำให้เขามีจำนวนประตูเท่ากับสถิติของเปาโล มัลดีนีในเซเรียอาของเอซี มิลาน และได้รับการชื่นชมบนสื่อสังคมออนไลน์จากสโมสรและตัวมัลดีนีเอง
ในวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 2024 ซึ่งเป็นวันเกิดอายุ 27 ปีของเขา แอร์น็องแดซมีเกมที่น่าถกเถียงในฟลอเรนซ์ ซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 2-1 ของมิลานต่อฟีออเรนตีนา ตามมาด้วยการโต้เถียงหลังเกมกับผู้ตัดสิน ซึ่งทำให้เขาได้รับใบแดงและถูกแบนสองนัด ในครึ่งแรก แอร์น็องแดซเป็นเหตุให้เกิดลูกโทษ (แต่ไมก์ แมญ็องเซฟไว้ได้) และพลาดการยิงลูกโทษเอง โดยลูกยิงของเขาถูกดาบิด เด เฆอาเซฟไว้ได้ ในครึ่งหลัง เขาแอสซิสต์ประตูตีเสมอที่ทำโดยคริสเตียน พูลิซิคด้วยการครอสจากด้านซ้าย และเกือบเป็นเหตุให้เกิดลูกโทษอีกครั้งจากการเข้าปะทะที่เสี่ยงอันตรายในกรอบเขตโทษของมิลาน แต่ผู้ตัดสินตัดสินใจไม่ให้ลูกโทษหลังจากตรวจสอบวิดีโอ
ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2025 แอร์น็องแดซทำประตูที่ 30 ของเขาในเซเรียอาให้กับมิลานในเกมเยือนที่ชนะโกโมไป 2-1 ทำให้เขากลายเป็นกองหลังที่ทำประตูได้สูงสุดของสโมสร ทำลายสถิติเดิมของเปาโล มัลดีนี
3. อาชีพระหว่างประเทศ
เตโอ แอร์น็องแดซมีเส้นทางอาชีพกับฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสที่โดดเด่น ทั้งในระดับเยาวชนและทีมชาติชุดใหญ่ โดยมีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์สำคัญหลายรายการ
3.1. ทีมชาติเยาวชน
เตโอ แอร์น็องแดซได้ลงเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสในรุ่นอายุต่างๆ ได้แก่ ทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี โดยลงสนาม 4 นัดและไม่ทำประตูได้ ทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี โดยลงสนาม 9 นัดและไม่ทำประตูได้ และทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี โดยลงสนาม 3 นัดและทำได้ 1 ประตู แม้ในระยะแรกมีข่าวลือว่าเขาอาจจะเลือกเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติสเปนเหมือนพี่ชายลูว์กา แอร์น็องแดซ เนื่องจากทั้งคู่เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายเหมือนกัน แต่ในที่สุดเตโอ แอร์น็องแดซก็ได้ประเดิมสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่ของฝรั่งเศส
3.2. ทีมชาติชุดใหญ่
ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2018 เตโอ แอร์น็องแดซได้รับเรียกตัวติดฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม การประเดิมสนามอย่างเป็นทางการของเขาเกิดขึ้นในวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2021 ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก กับฟินแลนด์ ซึ่งฝรั่งเศสชนะไป 2-0 ในบ้าน โดยเขาลงเล่นเป็นตัวจริงตลอดทั้งเกม
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2021 ก่อนรอบรองชนะเลิศยูฟ่าเนชันส์ลีก 2021กับเบลเยียม เตโอได้รับเรียกตัวติดทีมชาติพร้อมกับลูว์กา แอร์น็องแดซพี่ชายของเขาเป็นครั้งแรกจากดีดีเย เดช็อง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้เล่นร่วมกันในเกมการแข่งขันระดับอาวุโส โดยเตโอเล่นในตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย และลูว์กาเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กซ้าย ในวันที่ 7 ตุลาคม เขายิงประตูชัยในช่วงท้ายเกมในชัยชนะ 3-2 เหนือเบลเยียม ส่งทีมของเขาเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นประตูแรกของเขากับทีมชาติ
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022 แอร์น็องแดซมีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดสุดท้ายสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022ที่ประเทศกาตาร์ ในเกมเปิดสนามรอบแบ่งกลุ่มกับออสเตรเลีย เขาถูกส่งลงมาแทนลูว์กา แอร์น็องแดซที่บาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกม และได้ทำแอสซิสต์ให้อาดรีแย็ง ราบีโยทำประตูตีเสมอ นอกจากนี้ในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดที่สองกับเดนมาร์ก เขายังทำแอสซิสต์ให้กับกีลียาน อึมบาเปทำประตูได้อีกด้วย ในวันที่ 14 ธันวาคม เขายิงประตูได้ในเกมที่ชนะโมร็อกโกไป 2-0 ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ ซึ่งถือเป็นประตูที่สองของเขากับทีมชาติ
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2024 แอร์น็องแดซมีชื่อติดทีมชาติสำหรับการแข่งขันยูฟ่ายูโร 2024ที่ประเทศเยอรมนี ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศกับโปรตุเกส ในวันที่ 5 กรกฎาคม เขายิงลูกโทษตัดสินชัยชนะในการดวลลูกโทษส่งประเทศของเขาเข้าสู่รอบต่อไป
4. รูปแบบการเล่น
เตโอ แอร์น็องแดซเป็นแบ็กซ้ายที่มีรูปแบบการเล่นที่โดดเด่นและมีอิทธิพลอย่างมากต่อเกมรุก เขามีชื่อเสียงในด้านความเร็ว, การเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม และความสามารถในการทำประตู ซึ่งทำให้เขาถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในรุ่นของเขา แอร์น็องแดซมักจะโอเวอร์แลปขึ้นไปทางปีกซ้ายเพื่อสร้างสรรค์โอกาสในการทำประตู และมีความเข้าใจอย่างดีกับกีลียาน อึมบาเป โดยการประสานงานของทั้งคู่ทำให้เกมรุกทางฝั่งซ้ายของฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสรวดเร็วและอันตรายอย่างยิ่ง นอกจากนี้ เขายังแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในการเล่น โดยเคยเสนอตัวลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กเป็นครั้งแรกในอาชีพอาวุโสของเขาให้กับเอซี มิลานในช่วงที่ทีมประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นทางยุทธวิธีของเขา
5. ชีวิตส่วนตัว
ชีวิตส่วนตัวของเตโอ แอร์น็องแดซนั้นมีความน่าสนใจและมีบางเหตุการณ์ที่สร้างความสนใจจากสาธารณะ
พ่อของแอร์น็องแดซคือฌ็อง-ฟร็องซัว แอร์น็องแดซ ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกันและเคยเล่นให้กับอัตเลติโกมาดริด พี่ชายของเขาคือลูว์กา แอร์น็องแดซ ก็เป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน ปัจจุบันเล่นให้กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส
ในช่วงปี ค.ศ. 2022 หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส แลกิป ได้เปิดเผยว่า ฌ็อง-ฟร็องซัว ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 ได้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย และถูกอดีตคู่ครอง (แม่ของเตโอและลูว์กา) กีดกันทางกฎหมายไม่ให้พบลูกๆ ของเขา
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 แอร์น็องแดซเริ่มออกเดทกับนางแบบชาวอิตาลี โซเอ คริสโตโฟลี (Zoe Cristofoliภาษาอิตาลี) และทั้งคู่มีบุตรชายหนึ่งคนชื่อ เตโอ ฌูว์นียอร์ แอร์น็องแดซ (Théo Junior Hernandezภาษาฝรั่งเศส) เกิดเมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2022 ในโอกาสวันเกิดครบรอบ 1 ขวบของลูกชายในวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 2023 แอร์น็องแดซได้โพสต์ภาพบนอินสตาแกรม แต่กลับมีแฟนบอลของนาโปลีเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงลบและคุกคามทางออนไลน์ต่อตัวเขาและลูกชาย ซึ่งเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางออนไลน์
ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 มีรายงานว่าสุนัขพันธุ์อเมริกันพิตบูลเทร์เรียของแอร์น็องแดซได้ก่อเหตุจู่โจมและกัดสุนัขของเพื่อนบ้านจนตาย และยังกัดเจ้าของสุนัขคนดังกล่าวด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในข้อโต้แย้งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัวของเขา
ในวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 2024 ซึ่งเป็นวันเกิดครบรอบ 27 ปีของเขา แอร์น็องแดซมีเกมที่น่าถกเถียงในฟลอเรนซ์ โดยเอซี มิลานพ่ายแพ้ให้กับฟีออเรนตีนาไป 2-1 หลังจบเกม เขามีปากเสียงกับผู้ตัดสินจนได้รับใบแดงและถูกแบน 2 นัด ในครึ่งแรกของเกม เขาทำให้ทีมเสียลูกโทษ (แต่ไมก์ แมญ็องเซฟไว้ได้) และยังพลาดการยิงลูกโทษของตัวเองด้วยลูกยิงที่ถูกดาบิด เด เฆอาเซฟไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ในครึ่งหลัง เขาสามารถแอสซิสต์ประตูตีเสมอที่ทำโดยคริสเตียน พูลิซิค และเกือบจะทำให้ทีมเสียลูกโทษอีกครั้งจากการเข้าปะทะที่เสี่ยงอันตรายในกรอบเขตโทษ
6. มรดกและการประเมินผล
ตลอดอาชีพนักฟุตบอลของเตโอ แอร์น็องแดซ เขาได้รับการประเมินผลอย่างสูงจากความสามารถและผลงานในสนาม ขณะเดียวกันก็มีข้อโต้แย้งบางประการที่เกิดขึ้น
6.1. เกียรติประวัติและความสำเร็จ
เตโอ แอร์น็องแดซได้สร้างเกียรติประวัติและความสำเร็จที่โดดเด่นตลอดเส้นทางอาชีพของเขา ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ รวมถึงรางวัลส่วนตัวที่ยืนยันถึงความสามารถของเขา
เดปอร์ติโบอาลาเบส
- รองชนะเลิศโกปาเดลเรย์: 2016-17
เรอัลมาดริด
- ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา: 2017
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2017-18
- ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2017
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก: 2017
เอซี มิลาน
- เซเรียอา: 2021-22
- ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา: 2024-25
ฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส
- ยูฟ่าเนชันส์ลีก: 2020-21
- รองชนะเลิศฟุตบอลโลก: 2022
รางวัลส่วนตัว
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของเอซี มิลาน: 2019-20
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของเซเรียอา: 2019-20, 2020-21, 2021-22, 2022-23
- ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของเซเรียอา: พฤษภาคม ค.ศ. 2022, พฤษภาคม ค.ศ. 2023
- ประตูยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของเซเรียอา: 2021-22
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของยูโรเปียนสปอร์ตส์มีเดีย: 2022-23
6.2. คำวิจารณ์และข้อโต้แย้ง
ตลอดอาชีพของเตโอ แอร์น็องแดซ นอกจากความสำเร็จแล้ว ยังมีเหตุการณ์และข้อโต้แย้งที่ได้รับความสนใจจากสาธารณะ:
- การย้ายทีมไปยังเรอัลมาดริด: การย้ายจากอัตเลติโกมาดริดไปเรอัลมาดริดในปี ค.ศ. 2017 ถูกมองว่าเป็นการ "ย้ายทีมต้องห้าม" เนื่องจากความสัมพันธ์อันเป็นปรปักษ์ของสองสโมสร และการที่เรอัลมาดริดจ่ายค่าฉีกสัญญาโดยตรงทำให้อัตเลติโกมาดริดไม่พอใจอย่างมาก ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงสุภาพบุรุษระหว่างสโมสรในเมืองเดียวกัน
- ใบแดงที่เดปอร์ติโบอาลาเบส: ในช่วงที่ถูกยืมตัวกับเดปอร์ติโบอาลาเบส เขาได้รับใบแดงโดยตรงจากการเข้าปะทะอย่างรุนแรงในเกมกับมาลากาในวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2016
- เหตุการณ์สุนัขทำร้าย: ในปี ค.ศ. 2022 สุนัขพันธุ์อเมริกันพิตบูลเทร์เรียของแอร์น็องแดซได้ทำร้ายและกัดสุนัขของเพื่อนบ้านจนตาย และยังกัดเจ้าของสุนัขคนดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความขัดแย้งทางกฎหมาย
- การคุกคามทางออนไลน์ต่อบุตรชาย: ในวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 2023 แอร์น็องแดซและบุตรชายของเขาถูกแฟนบอลของนาโปลีคุกคามทางออนไลน์บนอินสตาแกรมในโอกาสวันเกิดครบรอบ 1 ขวบของลูกชาย
- เกมที่น่าถกเถียงและใบแดง: ในวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 2024 ซึ่งตรงกับวันเกิด 27 ปีของเขา แอร์น็องแดซมีส่วนเกี่ยวข้องในเกมที่เอซี มิลานแพ้ฟีออเรนตีนา เขาเป็นเหตุให้ทีมเสียลูกโทษ (ที่ถูกเซฟ) พลาดการยิงลูกโทษเอง และได้รับใบแดงหลังโต้เถียงกับผู้ตัดสิน ซึ่งทำให้เขาถูกแบน 2 นัด
- การโต้เถียงกับผู้ตัดสิน: แอร์น็องแดซเคยได้รับใบเหลืองหลายครั้งจากการประท้วงการตัดสินของผู้ตัดสิน ตัวอย่างเช่นในเกมกับโบโลญญาในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2023
- การปะทะในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: ในรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกนัดที่สองกับนาโปลี เขามีการปะทะและโต้เถียงกับอีร์บิง โลซาโน ซึ่งทำให้บรรยากาศของเกมตึงเครียด
7. สถิติอาชีพ
7.1. สถิติสโมสร
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ถ้วยภายในประเทศ | ยุโรป | อื่น ๆ | รวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | |||
อัตเลติโกมาดริด เบ | 2015-16 | 9 | 0 | - | - | 1 | 0 | 10 | 0 | |||
อาลาเบส (ยืมตัว) | 2016-17 | 32 | 1 | 6 | 1 | - | - | 38 | 2 | |||
เรอัลมาดริด | 2017-18 | 13 | 0 | 6 | 0 | 3 | 0 | 1 | 0 | 23 | 0 | |
เรอัลโซซิเอดัด (ยืมตัว) | 2018-19 | 24 | 1 | 4 | 0 | - | - | 28 | 1 | |||
เอซี มิลาน | 2019-20 | 33 | 6 | 3 | 1 | - | - | 36 | 7 | |||
2020-21 | 33 | 7 | 2 | 0 | 10 | 1 | - | 45 | 8 | |||
2021-22 | 32 | 5 | 4 | 0 | 5 | 0 | - | 41 | 5 | |||
2022-23 | 32 | 4 | 1 | 0 | 11 | 0 | 1 | 0 | 45 | 4 | ||
2023-24 | 32 | 5 | 2 | 0 | 12 | 0 | - | 46 | 5 | |||
2024-25 | 23 | 3 | 1 | 0 | 9 | 0 | 2 | 1 | 35 | 4 | ||
รวม | 185 | 30 | 13 | 1 | 47 | 1 | 3 | 1 | 248 | 33 | ||
รวมตลอดอาชีพ | 263 | 32 | 29 | 2 | 50 | 1 | 5 | 1 | 347 | 36 |
7.2. สถิติระหว่างประเทศ
ทีมชาติ | ปี | ลงสนาม | ประตู |
---|---|---|---|
ฝรั่งเศส | 2021 | 4 | 1 |
2022 | 9 | 1 | |
2023 | 10 | 0 | |
2024 | 13 | 0 | |
รวม | 36 | 2 |
ประตูและผลการแข่งขันของฝรั่งเศสจะถูกระบุไว้ก่อน คอลัมน์คะแนนระบุคะแนนหลังประตูของแอร์น็องแดซแต่ละประตู
ลำดับ | วันที่ | สถานที่ | การลงสนาม | คู่แข่ง | คะแนน | ผลการแข่งขัน | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 7 ตุลาคม ค.ศ. 2021 | ยูเวนตุสสเตเดียม, ตูริน, ประเทศอิตาลี | 2 | เบลเยียม | 3-2 | 3-2 | ยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020-21 |
2 | 14 ธันวาคม ค.ศ. 2022 | อัลไบต์สเตเดียม, อัลคอร์, ประเทศกาตาร์ | 12 | โมร็อกโก | 1-0 | 2-0 | ฟุตบอลโลก 2022 |