1. ช่วงชีวิตในวัยเด็ก
ฮอร์วาธเกิดและเติบโตในไฮแลนด์สแรนช์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐ เขามาจากครอบครัวที่คลุกคลีอยู่กับวงการฟุตบอล โดยปีเตอร์ ผู้เป็นพ่อเคยเล่นฟุตบอลระดับวิทยาลัยให้กับไมด์เวสเทิร์นสเตตมัสแตงส์ และเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้กับสโมสรเดนเวอร์แอวาลานช์ ในเมเจอร์อินดอร์ซอกเกอร์ลีก (พ.ศ. 2521-2535) ขณะที่ดีน่า ผู้เป็นแม่ก็เคยเล่นฟุตบอลในระดับโรงเรียนมัธยม ฮอร์วาธเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลกับทีมเยาวชนเรอัลโคโลราโด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยูเอสซอกเกอร์ดีเวลอปเมนท์อะคาเดมี่ และยังเล่นให้กับโรงเรียนมัธยมอาราพาโฮ นอกจากนี้ เขายังเคยฝึกซ้อมกับสโมสรฟุตบอลในอังกฤษ เช่น บริสตอลซิตี, แมนเชสเตอร์ซิตี และสโตกซิตี ฮอร์วาธมีเชื้อสายฮังการีทางฝั่งพ่อ และถือหนังสือเดินทางฮังการีด้วย
2. อาชีพสโมสร
อีธาน ฮอร์วาธเริ่มต้นเส้นทางอาชีพสโมสรฟุตบอลในนอร์เวย์ ก่อนจะย้ายไปเล่นในเบลเยียม และอังกฤษ ตามลำดับ ซึ่งแต่ละสโมสรมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะและประสบการณ์ของเขา
2.1. มอลเด เอฟเค
ฮอร์วาธเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับสโมสรโมลเด ในนอร์เวย์ เมื่อปี พ.ศ. 2556 หลังจากถูกทาบทามโดยผู้จัดการทีมโมลเดและอดีตนักเตะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อย่างโอเล กุนนาร์ ซูลชาร์ เขาปรากฏตัวในรายชื่อทีมโมลเดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556 และได้ลงสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 โดยลงมาแทนออร์ยัน ไนแลนด์ ในนาทีที่ 55 หลังจากที่ไนแลนด์ถูกขายไปให้กับอิงโกลสตัดท์ 04 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ฮอร์วาธในวัย 20 ปี ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงของโมลเด ในฤดูกาล2015 เขาช่วยให้โมลเดเสียประตูเพียง 31 ลูก ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองของลีกรองจากโรเซนบอร์ก แชมป์ลีก
ฮอร์วาธมีบทบาทสำคัญในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยช่วยให้โมลเดเอาชนะปิยูนิก ด้วยสกอร์รวม 5-1 ในรอบคัดเลือกรอบสอง ก่อนที่จะพ่ายแพ้ให้กับดินาโมซาเกร็บด้วยสกอร์รวม 4-4 จากกฎประตูทีมเยือนในรอบคัดเลือกรอบสาม ต่อมาในรอบเพลย์ออฟของยูฟ่ายูโรปาลีก ฮอร์วาธและโมลเดเอาชนะสตองดาร์ลีแยฌด้วยสกอร์รวม 3-3 จากกฎประตูทีมเยือน ทำให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มยูโรปาลีกกลุ่มเอ ซึ่งทำให้ฮอร์วาธเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูชาวสหรัฐเพียงไม่กี่คน เช่น แบรด ฟรีเดล, เคซีย์ เคลเลอร์, ทิม โฮเวิร์ด และแบรด กุซาน ที่เคยลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่ายูโรปาลีก/ยูฟ่าคัพ
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ฮอร์วาธได้รับการเสนอชื่อติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ของยูโรปาลีก หนึ่งวันหลังจากที่เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด (Man of the Match) ในเกมที่เสมอกับอายักซ์ 1-1 ซึ่งเขาเซฟลูกยิงได้ถึง 10 ครั้ง โดยเฉพาะลูกโหม่งระยะเผาขนของวิกตอร์ ฟิสเชอร์ ฮอร์วาธนำโมลเดจบอันดับหนึ่งในยูโรปาลีกกลุ่มเอ ด้วยผลงานการแข่งขันที่ดีทั้งสองนัดกับอายักซ์, เซลติก และเฟแนร์บาห์เช โดยในเกมกับเฟแนร์บาห์เชนั้น เขาสามารถเซฟลูกยิงของโรบิน ฟัน แปร์ซี ได้สองครั้ง และลูกยิงของนานี่ ได้สามครั้ง ด้วยฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่ง ทำให้เขาไม่เสียประตูหลายลูกในหนึ่งนัดมานานกว่าสองเดือนทั้งในลีกทิปเปลิเก้นและยูโรปาลีก ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ฮอร์วาธเผชิญหน้ากับเซบิยา แชมป์ยูโรปาลีกในที่สุด ในรอบแพ้คัดออก และไม่สามารถป้องกันความพ่ายแพ้ของโมลเดได้ แม้จะสามารถเก็บคลีนชีตได้ในนัดที่สองก็ตาม
2.2. คลับบรูช
เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2560 ฮอร์วาธได้เซ็นสัญญาสี่ปีครึ่งกับคลับบรูช ในเบลเยียม เขาประเดิมสนามในฐานะผู้รักษาประตูตัวจริงของคลับบรูชเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ในรอบเพลย์ออฟชิงแชมป์ หลังจากที่เสียประตูแรกจากการที่เข้าใจผิดคิดว่าเสียงนกหวีดจากอัฒจันทร์เป็นสัญญาณจากผู้ตัดสิน ฮอร์วาธก็สามารถพลิกฟื้นฟอร์มการเล่นได้ดี โดยทำการเซฟสามครั้ง และยังทำแอสซิสต์ให้กับโฮเซ อิซเกียร์โด จากการเตะเปิดเกม ทำให้ทีมชนะชาร์เลอรอย 3-1 ในการแข่งขันนัดถัดมาซึ่งเสมอกับอันเดอร์เลคต์ 1-1 ฮอร์วาธทำได้สี่เซฟ รวมถึงการเซฟลูกจุดโทษจากยูรี ตีเลอมันส์ ฮอร์วาธยังคงเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงจนสิ้นสุดฤดูกาล ช่วยให้คลับบรูชได้ตำแหน่งในรอบคัดเลือกรอบสามของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2017-18 ฮอร์วาธกลับมาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงของคลับบรูช โดยลงเล่นเป็นตัวจริงใน 12 นัดแรกของลีก รวมถึง 10 นัดที่ชนะ นอกจากนี้เขายังได้ลงเล่นในรอบคัดเลือกแชมเปียนส์ลีกกับอิสตันบูลบาชักเชฮีร์ และรอบคัดเลือกยูโรปาลีกกับเออีเคเอเธนส์ ซึ่งทั้งสองรายการทีมพ่ายแพ้ด้วยสกอร์รวม อย่างไรก็ตาม เขาถูกจับนั่งสำรองและถูกกันออกจากทีมเป็นส่วนใหญ่ของฤดูกาล โดยไม่ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงอีกจนกระทั่งเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561 ในรอบเพลย์ออฟเบลเยียมเฟิสต์ดิวิชั่นเอ ซึ่งเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงสามนัดในรอบเพลย์ออฟของลีก และช่วยให้คลับบรูชคว้าแชมป์ จึงผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ในฤดูกาล 2018-19 ฮอร์วาธเริ่มต้นด้วยการนั่งสำรองให้กับผู้รักษาประตูทีมชาติโครเอเชียอย่างคาร์โล เลติกา แต่ในไม่ช้าฮอร์วาธก็กลับมาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริง เขาเก็บคลีนชีตได้สามนัดติดต่อกันในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มกับอาแอสมอนาโก, โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ และอัตเลติโกเดมาดริด เมื่อซิมง มีโญแล ย้ายมาร่วมทีมคลับบรูชก่อนฤดูกาล 2019-20 ฮอร์วาธก็ถูกลดบทบาทลงเป็นผู้รักษาประตูมือสองและถูกใช้งานเพียงเล็กน้อย
2.3. นอตทิงแฮมฟอร์เรสต์
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ฮอร์วาธย้ายมาร่วมทีมนอตทิงแฮมฟอร์เรสต์ ในอีเอฟแอลแชมเปียนชิป ด้วยสัญญาแบบไม่เสียค่าตัว หลังจากที่สัญญาของเขากับคลับบรูชหมดลง ในวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ฮอร์วาธลงสนามในฐานะตัวสำรองในนาทีที่ 90 ในศึกรอบชิงชนะเลิศเพลย์ออฟ ที่นอตทิงแฮมฟอร์เรสต์เอาชนะฮัดเดอร์สฟีลด์ทาวน์ 1-0 ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ เนื่องจากการบาดเจ็บของผู้รักษาประตูตัวจริงอย่างบรีซ ซัมบา ซึ่งการลงสนามของเขามีส่วนช่วยให้ฟอร์เรสต์ได้เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก
2.4. ลูตันทาวน์ (ยืมตัว)
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ฮอร์วาธถูกยืมตัวไปเล่นกับลูตันทาวน์ ในอีเอฟแอลแชมเปียนชิป สำหรับฤดูกาล 2022-23 เขามีส่วนสำคัญในการช่วยให้ลูตันทาวน์เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก ผ่านการแข่งขันเพลย์ออฟ
2.5. คาร์ดิฟฟ์ซิตี
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ฮอร์วาธได้เซ็นสัญญาสามปีครึ่งกับคาร์ดิฟฟ์ซิตี ในอีเอฟแอลแชมเปียนชิปของเวลส์ ด้วยค่าตัวที่ไม่เปิดเผย เขาได้ลงสนามให้กับสโมสรแห่งนี้และกำลังทำผลงานอยู่ในปัจจุบัน
3. อาชีพระดับนานาชาติ
อีธาน ฮอร์วาธเป็นตัวแทนของสหรัฐในระดับนานาชาติมาตั้งแต่ทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี และได้สร้างชื่อเสียงในทีมชาติชุดใหญ่ด้วยผลงานที่โดดเด่น
3.1. ทีมชาติเยาวชน
ฮอร์วาธเป็นตัวแทนของทีมชาติเยาวชนสหรัฐในทุกระดับมาตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี เขาได้รับเลือกให้ติดทีมชาติสหรัฐชุดอายุไม่เกิน 20 ปี เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี 2015 ที่นิวซีแลนด์ในปี พ.ศ. 2558 อย่างไรก็ตาม สโมสรต้นสังกัดของเขาคือโมลเดไม่ได้อนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขัน
ฮอร์วาธเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงของทีมชาติสหรัฐรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในรอบเพลย์ออฟคัดเลือกโอลิมปิกของคอนคาแคฟ-คอนเมบอล กับโคลอมเบีย ซึ่งทีมสหรัฐเสียสองประตูในสองนัดและพ่ายแพ้ด้วยสกอร์รวม เขาได้รับรางวัลเหรียญทองแดงจากการแข่งขันคอนคาแคฟแชมเปียนชิป รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในปี พ.ศ. 2558
3.2. ทีมชาติชุดใหญ่
ฮอร์วาธได้รับเลือกให้ติดทีมชาติสหรัฐ ชุด 23 คน สำหรับการแข่งขันโกปาอาเมริกาเซนเตนาริโอ ที่จัดขึ้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 โดยเยือร์เกิน คลินส์มันน์ หัวหน้าโค้ชในขณะนั้น ได้ยกย่องฮอร์วาธว่าเป็นหนึ่งใน "ความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับอนาคต" ในตำแหน่งผู้รักษาประตูของเขา
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ฮอร์วาธประเดิมสนามให้กับทีมชาติสหรัฐ โดยลงเล่นเต็มเกมและเก็บคลีนชีตได้ในเกมที่ชนะคิวบา 2-0
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ฮอร์วาธได้รับเลือกให้ติดทีมชาติสหรัฐสำหรับคอนคาแคฟเนชันส์ลีก ไฟนอลส์ 2021 ในรอบชิงชนะเลิศคอนคาแคฟเนชันส์ลีกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ฮอร์วาธถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังหลังจากแซ็ค สเตฟเฟน ผู้รักษาประตูตัวจริงได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า การลงสนามของฮอร์วาธมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อชัยชนะ 3-2 ของสหรัฐ โดยเขาได้ทำการเซฟสำคัญหลายครั้ง รวมถึงการเซฟลูกจุดโทษของอันเดรส กวาร์ดาโด ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งอาจจะทำให้เกมเสมอกันและนำไปสู่การยิงลูกโทษ เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด (Man of the Match) จากผลงานอันโดดเด่นนี้
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ฮอร์วาธได้รับการเสนอชื่อให้ติดทีมชาติสหรัฐสำหรับฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ลงสนามในระหว่างการแข่งขัน โดยทำหน้าที่เป็นตัวสำรองให้กับแมตต์ เทอร์เนอร์ เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสหรัฐที่คว้าแชมป์คอนคาแคฟเนชันส์ลีก 2019-20 และ2023-24
4. ชีวิตส่วนตัว
อีธาน ฮอร์วาธเกิดจากพ่อชาวฮังการี ทำให้เขามีเชื้อสายฮังการีและถือหนังสือเดินทางฮังการีด้วย
5. สถิติอาชีพ
ข้อมูลสถิติ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 (สโมสร) และ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2567 (ทีมชาติ)
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ถ้วยในประเทศ (รวมถึงนอร์เวย์คัพ, เบลเยียมคัพ และเอฟเอคัพ) | ลีกคัพ (รวมถึงอีเอฟแอลคัพ) | ระดับทวีป | อื่น ๆ | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | นัด | ประตู | ||
โมลเด | 2013 | ทิปเปลิเก้น | 0 | 0 | 0 | 0 | - | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | |
2014 | ทิปเปลิเก้น | 0 | 0 | 2 | 0 | - | 0 | 0 | - | 2 | 0 | |||
2015 | ทิปเปลิเก้น | 17 | 0 | 2 | 0 | - | 13 (สามนัดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และสิบนัดในยูฟ่ายูโรปาลีก) | 0 | 0 | 0 | 32 | 0 | ||
2016 | ทิปเปลิเก้น | 22 | 0 | 0 | 0 | - | 0 | 0 | - | 22 | 0 | |||
รวม | 39 | 0 | 4 | 0 | - | 13 | 0 | - | 56 | 0 | ||||
คลับบรูช | 2016-17 | เบลเยียมโปรลีก | 4 | 0 | 0 | 0 | - | 0 | 0 | - | 4 | 0 | ||
2017-18 | เบลเยียมโปรลีก | 15 | 0 | 0 | 0 | - | 4 (การลงสนามในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) | 0 | - | 19 | 0 | |||
2018-19 | เบลเยียมโปรลีก | 28 | 0 | 1 | 0 | - | 5 (สามนัดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และสองนัดในยูฟ่ายูโรปาลีก) | 0 | 0 | 0 | 34 | 0 | ||
2019-20 | เบลเยียมโปรลีก | 2 | 0 | 1 | 0 | - | 0 | 0 | - | 3 | 0 | |||
2020-21 | เบลเยียมโปรลีก | 2 | 0 | 1 | 0 | - | 1 (การลงสนามในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) | 0 | - | 4 | 0 | |||
รวม | 51 | 0 | 3 | 0 | - | 10 | 0 | - | 64 | 0 | ||||
นอตทิงแฮมฟอร์เรสต์ | 2021-22 | แชมเปียนชิป | 6 | 0 | 2 | 0 | 2 | 0 | - | 1 (การลงสนามในอีเอฟแอลแชมเปียนชิปเพลย์ออฟ) | 0 | 11 | 0 | |
2023-24 | พรีเมียร์ลีก | 0 | 0 | - | - | - | - | 0 | 0 | |||||
รวม | 6 | 0 | 2 | 0 | 2 | 0 | - | 1 | 0 | 11 | 0 | |||
ลูตันทาวน์ (ยืมตัว) | 2022-23 | แชมเปียนชิป | 44 | 0 | 4 | 0 | - | - | 3 (การลงสนามในอีเอฟแอลแชมเปียนชิปเพลย์ออฟ) | 0 | 51 | 0 | ||
คาร์ดิฟฟ์ซิตี | 2023-24 | แชมเปียนชิป | 16 | 0 | - | - | - | - | 16 | 0 | ||||
2024-25 | แชมเปียนชิป | 5 | 0 | 3 | 0 | - | - | - | 8 | 0 | ||||
รวม | 21 | 0 | 3 | 0 | 0 | 0 | - | 0 | 0 | 24 | 0 | |||
รวมอาชีพ | 161 | 0 | 16 | 0 | 2 | 0 | 23 | 0 | 4 | 0 | 206 | 0 |
ทีมชาติ | ปี | นัด | ประตู |
---|---|---|---|
สหรัฐ | 2016 | 1 | 0 |
2017 | 1 | 0 | |
2018 | 1 | 0 | |
2019 | 1 | 0 | |
2020 | 0 | 0 | |
2021 | 3 | 0 | |
2022 | 1 | 0 | |
2023 | 1 | 0 | |
2024 | 1 | 0 | |
รวม | 10 | 0 |
6. เกียรติประวัติ
โมลเด
- นอร์เวย์พรีเมียร์ลีก: 2014
- นอร์เวย์คัพ: 2014
คลับบรูช
- เบลเยียมโปรลีก: 2017-18, 2019-20, 2020-21
- เบลเยียมซูเปอร์คัพ: 2018
นอตทิงแฮมฟอร์เรสต์
- อีเอฟแอลแชมเปียนชิปเพลย์ออฟ: 2022
ลูตันทาวน์
- อีเอฟแชมเปียนชิปเพลย์ออฟ: 2023
ทีมชาติสหรัฐ อายุไม่เกิน 20 ปี
- คอนคาแคฟแชมเปียนชิป รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี: เหรียญทองแดง 2015
ทีมชาติสหรัฐ
- คอนคาแคฟเนชันส์ลีก: 2019-20, 2023-24