1. ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
คาเตีย บูเนียติชวิลีเกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2530 ที่เมืองทบิลิซิ ประเทศจอร์เจีย เธอเริ่มเรียนเปียโนกับมารดาตั้งแต่อายุเพียง 3 ขวบ และแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ทางดนตรีอันโดดเด่นตั้งแต่วัยเด็ก เธอมีโอกาสแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกกับวงออร์เคสตราห้องเครื่องทบิลิซิเมื่ออายุ 6 ขวบ และเริ่มออกแสดงในระดับนานาชาติเมื่ออายุได้ 10 ขวบ ในวัยเด็ก เธอหลงใหลการฟังเรควีเอ็มของโมสาร์ทอย่างมาก แม้จะมีความสามารถในการเล่นไวโอลินได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยทักษะการฟังที่แม่นยำ (perfect pitch) แต่เธอก็เลือกที่จะทุ่มเทให้กับการเล่นเปียโน พี่สาวของเธอชื่อควอนซา บูเนียติชวิลีก็เป็นนักเปียโนเช่นกัน และทั้งสองมักจะเล่นเปียโนคู่กันหลายครั้ง
เธอได้ศึกษาเปียโนกับเทนกิซ อามีเรจิบีที่ทบิลิซิ และต่อมากับโอเลก ไมเซนเบิร์กที่มหาวิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดงเวียนนาในประเทศออสเตรีย นอกจากนี้ ระหว่างอายุ 11 ถึง 15 ปี เธอได้ลาออกจากโรงเรียนในจอร์เจียเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นกับนักเปียโนและนักการศึกษาชาวฝรั่งเศสเชื้อสายฮังการีชื่อมิเชล ซอกนี ที่วิลลาชินด์เลอร์ในออสเตรีย ซึ่งเธอได้ศึกษาเมธอดการสอนเปียโนแบบใหม่ของซอกนี และในปี พ.ศ. 2542 เมื่ออายุ 12 ปี เธอก็ได้เข้าร่วมมูลนิธิ SOS Talent ที่ซอกนีเป็นผู้ก่อตั้ง หลังจากสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนดนตรีกลางทบิลิซิในปี พ.ศ. 2547 เธอได้เข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยดนตรีแห่งรัฐทบิลิซิ ก่อนที่จะย้ายไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดงเวียนนา หลังจากที่โอเลก ไมเซนเบิร์กค้นพบเธอในการแข่งขันเปียโนที่ทบิลิซิ
2. อาชีพ
อาชีพของคาเตีย บูเนียติชวิลีเริ่มต้นอย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การเซ็นสัญญากับค่ายเพลงระดับโลก การออกอัลบั้มเปิดตัวที่ได้รับการยกย่อง การเข้าร่วมเทศกาลดนตรีสำคัญ ไปจนถึงการแสดงร่วมกับวงออร์เคสตราและนักดนตรีชื่อดังมากมายทั่วโลก เธอเป็นที่รู้จักจากสไตล์การเล่นที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ การตีความดนตรีที่โดดเด่น และจุดยืนทางสังคมที่ชัดเจน
2.1. อาชีพช่วงต้นและความสำเร็จที่โดดเด่น
ในปี พ.ศ. 2553 บูเนียติชวิลีได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดเฉพาะกับค่ายโซนี คลาสสิก (Sony Classical) อัลบั้มเปิดตัวของเธอในปี พ.ศ. 2554 ซึ่งมีชื่อว่า Franz Liszt เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีการเกิดของฟรันทซ์ ลิสต์ โดยมีผลงานเด่นอย่างโซนาตาเปียโนในบันไดเสียงบีไมเนอร์ (Sonata in B minor), ลีเบสเทราเมอ (Liebestraum) หมายเลข 3, วัลซ์เมฟิสโต (Mephisto Waltz) หมายเลข 1, ลาคัมปาเนลลา (La Campanella) และฮังกาเรียนแรปโซดี (Hungarian Rhapsody) หมายเลข 2 นิตยสาร Classic FM ได้กล่าวถึงอัลบั้มนี้ว่าบูเนียติชวิลีเป็น "ศิลปินรุ่นใหม่ที่มีอารมณ์ร้อนแรงและเทคนิคที่ชวนให้นึกถึงมาร์ธา อาร์เกอริชในวัยเยาว์"
บูเนียติชวิลีเป็นนักแสดงประจำในเทศกาลแวร์บิเยร์ (Verbier Festival) และได้แสดงผลงานโซนาตาในบันไดเสียงบีไมเนอร์ของลิสต์ในเทศกาลปี พ.ศ. 2554 เธอได้เปิดตัวการแสดงที่คาร์เนกีฮอลล์ (Carnegie Hall) ในปี พ.ศ. 2551 และในปี พ.ศ. 2553 เธอได้รับรางวัล Borletti-Buitoni Trust Award นอกจากนี้ เธอยังได้รับคัดเลือกให้เป็นศิลปินรุ่นใหม่ของบีบีซี (BBC New Generation Artist) ในช่วงปี พ.ศ. 2552-2554 และได้รับการเสนอชื่อให้เป็น "ดาวรุ่ง" (Rising Star) สำหรับฤดูกาล พ.ศ. 2554-2555 โดยสมาคมดนตรีเวียนนา (Wiener Musikverein) และโรงคอนเสิร์ตเวียนนา (Wiener Konzerthaus) ในปี พ.ศ. 2555 เธอก็ได้รับรางวัล Echo Klassik สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
2.2. การแสดงหลักและความร่วมมือ
ในปี พ.ศ. 2555 คาเตีย บูเนียติชวิลีได้ออกอัลบั้มที่สองของเธอชื่อ Chopin ซึ่งประกอบด้วยผลงานเปียโนเดี่ยวและเปียโนคอนแชร์โตหมายเลข 2 ในบันไดเสียงเอฟไมเนอร์ของเฟรเดริก โชแปง โดยมีวงออร์เคสตราแห่งปารีส (Orchestre de Paris) บรรเลงร่วมและกำกับโดยปาโว เยอร์วี (Paavo Järvi) หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ได้รายงานว่า "นี่คือการเล่นที่ตรงมาจากหัวใจของหนึ่งในนักเปียโนรุ่นใหม่ที่น่าตื่นเต้นและมีพรสวรรค์ทางเทคนิคมากที่สุดในปัจจุบัน"
เธอได้ร่วมแสดงกับวงออร์เคสตราที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย เช่น วงออร์เคสตราแห่งปารีส, วงซิมโฟนีลอสแอนเจลิส, วงซิมโฟนีเวียนนา, วงออร์เคสตราแห่งชาติฝรั่งเศส (กำกับโดยดาเนียเล กัตติ), วงดุริยางค์ลอนดอนฟิลฮาร์มอนิก, วงดุริยางค์ฟิลฮาร์โมนิกแห่งอิสราเอล (กำกับโดยซูบิน เมห์ตา) และวงเช็กฟิลฮาร์มอนิก (กำกับโดยปาโว เยอร์วี) เธอยังได้ร่วมงานกับนักไวโอลินชั้นนำอย่างกิดอน เครเมอร์ และเรอโนต์ คาปูซอง
นอกเหนือจากคอนเสิร์ตคลาสสิกแล้ว บูเนียติชวิลียังได้แสดงในงานกิจกรรมพิเศษ เช่น Art on Ice Tour ในปี พ.ศ. 2557 และ Ice Legends ในปี พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นการแสดงเปียโนประกอบการแสดงของนักสเก็ตลีลา เธอได้เดินทางมาแสดงที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2553 ในเทศกาลดนตรีลา ฟอลล์ ชูร์เน (La Folle Journée) ซึ่งเธอได้บรรเลงผลงานของโชแปง นอกจากนี้ เธอยังได้ร่วมแสดงกับวงเครเมราตา บัลติกา (Kremerata Baltica) ที่นำโดยกิดอน เครเมอร์ในญี่ปุ่นระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 และได้ร่วมแสดงกับวงซิมโฟนีออร์เคสตราเอ็นเอชเค (NHK Symphony Orchestra) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เธอก็ได้กลับมาแสดงที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวในเมืองต่างๆ เช่น นาโงยะ, โตเกียว, โอซากะ, และซัปโปะโระ และยังได้ร่วมแสดงกับวงซิมโฟนีออร์เคสตราแห่งญี่ปุ่นใหม่ และวงซิมโฟนีออร์เคสตราฮิโรชิมะ อีกด้วย
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เธอเป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้รับเชิญให้ขึ้นแสดงในพิธีเปิดอาสนวิหารน็อทร์-ดามปารีสอีกครั้ง หลังจากประสบเหตุอัคคีภัยครั้งใหญ่
2.3. ปรัชญาทางศิลปะและภาพลักษณ์สาธารณะ
คาเตีย บูเนียติชวิลีได้กล่าวถึงเปียโนว่าเป็น "สัญลักษณ์ของความโดดเดี่ยวทางดนตรี" เธอมีแนวทางในการตีความบทเพลงอย่างลึกซึ้งและมีเอกลักษณ์ พร้อมด้วยเทคนิคการเล่นที่ยอดเยี่ยม แต่การตีความที่เข้มข้นนี้บางครั้งก็ทำให้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่างในหมู่นักวิจารณ์ ถึงกระนั้น การแสดงคอนแชร์โตของเธอก็ได้รับการยอมรับว่ามีความเป็นหนึ่งเดียวกับวงออร์เคสตราอย่างสูง
นอกจากอาชีพนักเปียโนแล้ว บูเนียติชวิลียังเป็นที่รู้จักจากภาพลักษณ์สาธารณะที่โดดเด่น เธอมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกิจกรรมต่างๆ เช่น การเป็นนางแบบ รายการทอล์กโชว์ และสารคดี ทำให้เธอได้รับฉายาว่า "บียอนเซ่แห่งเปียโน"
บูเนียติชวิลียังมีจุดยืนทางสังคมและการเมืองที่ชัดเจน ซึ่งส่งผลต่ออาชีพและชื่อเสียงของเธอด้วย เธอมีท่าทีต่อต้านวลาดิเมียร์ ปูตินอย่างชัดเจน และเคยปฏิเสธที่จะแสดงในประเทศรัสเซียที่มีปูตินเป็นผู้นำ ในปี พ.ศ. 2560 เธอปฏิเสธที่จะเข้าร่วมคอนเสิร์ตวันบัสตีย์ในกรุงปารีส เนื่องจากวาเลรี เกอร์กิเยฟ (Valery Gergiev) ซึ่งเป็นวาทยกรที่สนับสนุนนโยบายของปูติน รับหน้าที่เป็นวาทยกร การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเธอในการยึดมั่นในหลักการสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอให้ความสำคัญอย่างมาก และไม่ยอมให้ประเด็นทางการเมืองมาบดบังหลักการทางศีลธรรมของตนเอง
3. ผลงานอัลบั้ม
คาเตีย บูเนียติชวิลีได้ออกอัลบั้มและผลงานเพลงหลักมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลงานเปียโนเดี่ยวและเปียโนคอนแชร์โตที่ออกกับค่ายโซนี คลาสสิก
ปี | อัลบั้ม | ลักษณะเด่น |
---|---|---|
พ.ศ. 2554 | Franz Liszt | อัลบั้มเปียโนเดี่ยว, เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีการเกิดของลิสต์ |
พ.ศ. 2555 | Chopin | อัลบั้มเปียโนเดี่ยวและเปียโนคอนแชร์โตหมายเลข 2 ร่วมกับวงออร์เคสตราแห่งปารีส กำกับโดยปาโว เยอร์วี |
พ.ศ. 2557 | Motherland | อัลบั้มเปียโนเดี่ยว, รวบรวมเพลงที่มีความสำคัญส่วนตัว รวมถึงเพลงจากประเทศจอร์เจีย และอุทิศให้กับมารดาของเธอ |
พ.ศ. 2559 | Kaleidoscope | อัลบั้มเปียโนเดี่ยว, รวมถึงผลงาน ภาพจากนิทรรศการ (Pictures at an Exhibition) ของโมเดสต์ มูสซอร์กสกี |
พ.ศ. 2559 | Liszt Beethoven | เปียโนคอนแชร์โต ร่วมกับวงดุริยางค์ฟิลฮาร์โมนิกแห่งอิสราเอล กำกับโดยซูบิน เมห์ตา (เผยแพร่ในรูปแบบ DVD/Blu-ray ด้วย) |
พ.ศ. 2560 | Rachmaninoff | เปียโนคอนแชร์โต ร่วมกับวงเช็กฟิลฮาร์มอนิก กำกับโดยปาโว เยอร์วี |
พ.ศ. 2562 | Schubert | อัลบั้มเปียโนเดี่ยว |
พ.ศ. 2563 | Labyrinth | อัลบั้มเปียโนเดี่ยว |
พ.ศ. 2567 | Mozart Piano Concertos Nos. 20 & 23 | เปียโนคอนแชร์โต ร่วมกับอะแคเดมีออฟเซนต์มาร์ตินอินเดอะฟิลด์ส |
4. รางวัลและการยกย่อง
คาเตีย บูเนียติชวิลีได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมายตลอดอาชีพการงาน ซึ่งเป็นการยืนยันถึงพรสวรรค์และความสามารถทางดนตรีของเธอ:
- พ.ศ. 2546: รางวัลพิเศษจากการแข่งขันเปียโนฮอโรวิตซ์ (Horowitz Piano Competition) และอันดับ 1 ของทุนการศึกษา Elizabeth Leonskaya Scholarship
- พ.ศ. 2548: รางวัลพิเศษ "Special Prize for Art" และรางวัล "Best Georgian Pianist" รวมถึงอันดับ 2 ในการแข่งขันเปียโนนานาชาติทบิลิซิ ครั้งที่ 3
- พ.ศ. 2551: อันดับ 3 ในการแข่งขันเปียโนนานาชาติอาร์เธอร์ รูบินสไตน์ (Arthur Rubinstein International Piano Master Competition) ครั้งที่ 12 พร้อมด้วยรางวัลพิเศษ "Best Chopin Performer" และ "Audience Award" (รางวัลขวัญใจมหาชน)
- พ.ศ. 2553: รางวัล Borletti-Buitoni Trust Award
- พ.ศ. 2555: รางวัล Echo Klassik สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (เปียโน)
- พ.ศ. 2559: รางวัล Echo Klassik สาขาการบันทึกเสียงเดี่ยว (เปียโนศตวรรษที่ 19)
5. ชีวิตส่วนตัว
คาเตีย บูเนียติชวิลีเป็นนักเปียโนคอนเสิร์ตชาวฝรั่งเศสที่เกิดในจอร์เจีย ปัจจุบันเธอพำนักอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พี่สาวของเธอชื่อควอนซา บูเนียติชวิลีก็เป็นนักเปียโนเช่นกัน บูเนียติชวิลีมีความสามารถทางภาษาที่หลากหลาย โดยเธอสามารถพูดภาษาต่างๆ ได้หลายภาษา ได้แก่ ภาษาจอร์เจีย (ภาษาแม่ของเธอ), ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาอังกฤษ, ภาษาเยอรมัน และภาษารัสเซีย
6. การตอบรับเชิงวิจารณ์และข้อถกเถียง
การแสดงของคาเตีย บูเนียติชวิลีมักได้รับการประเมินทั้งในแง่บวกและเชิงวิจารณ์จากนักวิจารณ์และสาธารณะ เธอได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักเปียโนที่ "เล่นตรงมาจากหัวใจ" (ตามที่ เดอะการ์เดียน กล่าวไว้) ซึ่งบ่งบอกถึงการแสดงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกและความสามารถทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม การตีความดนตรีที่ลึกซึ้งและสไตล์การแสดงที่มีเทคนิคสูงของเธอบางครั้งก็ทำให้เกิดการแบ่งความคิดเห็นในหมู่นักวิจารณ์
ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่นิตยสาร Classic FM ได้ชื่นชมอัลบั้ม Franz Liszt ของเธอ แต่ กราโมโฟน (Gramophone) กลับวิจารณ์ว่าเพลง ลีเบสเทราเมอ (Liebestraum) หมายเลข 3 ในอัลบั้มนั้น "ไม่ชัดเจนในโครงสร้างและจังหวะ" และกล่าวถึงลักษณะการเล่นของเธอว่ามี "จังหวะที่ไม่หยุดนิ่ง พลังงานที่คาดไม่ถึง และการขาดการวางแผนโดยรวม" นอกจากนี้ การบันทึกเสียงเปียโนคอนแชร์โตในอัลบั้ม Chopin ของเธอก็ถูก กราโมโฟน วิพากษ์วิจารณ์ว่า "ขาดการหยุดพักและเล่นเร็วเกินไป"
ข้อถกเถียงที่สำคัญและเป็นที่รู้จักของบูเนียติชวิลีคือการที่เธอมีจุดยืนทางสังคมและการเมืองที่แน่วแน่ เธอปฏิเสธที่จะแสดงร่วมกับวาเลรี เกอร์กิเยฟ วาทยกรผู้สนับสนุนนโยบายของวลาดิเมียร์ ปูติน โดยให้เหตุผลว่าเธอจะไม่เล่นดนตรีกับผู้ที่ "โฆษณานโยบายของปูติน" การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแต่เน้นย้ำถึงความเป็นศิลปินที่มีหลักการ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญในการใช้เสียงของเธอเพื่อสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ซึ่งแม้จะนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบางส่วน แต่ก็ได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวางจากผู้ที่เห็นคุณค่าของศิลปินที่กล้ายืนหยัดเพื่ออุดมการณ์ของตนเอง

