1. ภาพรวม
ยูโกะ คาวากุจิ (川口 悠子Kawaguchi Yūkoภาษาญี่ปุ่น) หรือที่รู้จักในชื่อ Юко КаваกูติYuko Kavagutiภาษารัสเซีย เป็นอดีตนักสเกตลีลาประเภทคู่ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเคยเป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นและรัสเซียในการแข่งขันระดับนานาชาติ เธอเกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524 ที่ ฟุนาบาชิ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ตลอดอาชีพการงานของเธอ คาวากุจิได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและพรสวรรค์ที่โดดเด่น ซึ่งนำพาเธอไปสู่ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ในกีฬา สเกตลีลา
ในปี พ.ศ. 2549 เธอเริ่มจับคู่กับ อเล็กซานเดอร์ สเมียร์นอฟ เพื่อเป็นตัวแทนของรัสเซีย ทั้งคู่สร้างผลงานอันน่าประทับใจ โดยเป็นแชมป์ยุโรป 2 สมัย (พ.ศ. 2553, พ.ศ. 2558) เหรียญทองแดงโลก 2 สมัย (พ.ศ. 2552, พ.ศ. 2553) และเหรียญทองแดง ไอเอสยู กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล 2 สมัย (พ.ศ. 2554-55 และ พ.ศ. 2558-59) นอกจากนี้ พวกเขายังเป็นแชมป์ระดับประเทศของรัสเซีย 3 สมัยติดต่อกัน (พ.ศ. 2551-2553)
ความสำเร็จที่สำคัญที่สุดของคาวากุจิและสเมียร์นอฟคือการเป็นคู่แรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถกระโดดควอดรูเพิลทรีทโทว์และควอดรูเพิลทรีทลูปได้สำเร็จถึงสองครั้งในโปรแกรมเดียวในปี พ.ศ. 2558 การเดินทางของเธอสะท้อนให้เห็นถึงการอุทิศตนและความสามารถในการปรับตัว ตั้งแต่การเปลี่ยนจากนักสเกตเดี่ยวมาเป็นนักสเกตคู่ การย้ายประเทศเพื่อแสวงหาโอกาส ไปจนถึงการต้องสละสัญชาติเดิมเพื่อทำตามความฝันในการแข่งขันระดับโอลิมปิก ความสำเร็จของเธอไม่ได้เป็นเพียงชัยชนะส่วนตัว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเพียรพยายามและความกล้าหาญในการก้าวข้ามอุปสรรคทางอาชีพและส่วนตัว
2. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
ยูโกะ คาวากุจิเกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524 ที่เมือง ฟุนาบาชิ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าแหล่งข้อมูลบางแห่งจะระบุว่าเธอมีพื้นเพมาจากจังหวัดไอจิ แต่เธอเติบโตและใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในวัยเด็กที่ฟุนาบาชิ
2.1. วัยเด็กและการฝึกฝนช่วงต้น
คาวากุจิเริ่มเล่นสเกตตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เนื่องจากมารดาของเธอชื่นชอบการเต้นรำบนน้ำแข็ง เธอเริ่มฝึกสเกตอย่างจริงจังตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในช่วงแรก เธอแข่งขันในฐานะนักสเกตเดี่ยวให้กับประเทศญี่ปุ่นและได้รับการยอมรับว่าเป็นนักกีฬาที่มีอนาคต เธอเข้าร่วมการแข่งขัน ไอเอสยู จูเนียร์ กรังด์ปรีซ์ ในฤดูกาล 1998-1999 และสามารถคว้าเหรียญทองได้ในการแข่งขัน จูเนียร์ กรังด์ปรีซ์ เม็กซิโกคัพ นอกจากนี้ เธอยังได้อันดับ 3 ในการแข่งขัน ออลเจแปนจูเนียร์แชมเปี้ยนชิป ในปี พ.ศ. 2540
แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้คาวากุจิเปลี่ยนมาแข่งขันประเภทคู่คือการได้เห็นนักสเกตคู่ชาวรัสเซีย เอเลนา เบเรชนายา ในโอลิมปิกฤดูหนาว 1998 ที่นางาโนะ ประเทศญี่ปุ่น เธอตัดสินใจเขียนจดหมายถึงโค้ชชื่อดังชาวรัสเซีย ทามารา มอสควินา และยังคงติดต่อร้องขอให้โค้ชมาฝึกสอนเธออย่างต่อเนื่อง แม้ว่ามอสควินาจะพยายามให้คาวากุจิล้มเลิกความตั้งใจโดยอ้างถึงความยากลำบากในการย้ายมายังรัสเซียและสถานการณ์ความปลอดภัยที่ไม่เอื้ออำนวย เธอยังได้ตั้งบททดสอบที่ยากถึงสองครั้งเพื่อให้คาวากุจิเห็นถึงความท้าทายของการฝึกภายใต้การดูแลของเธอ แต่คาวากุจิก็สามารถผ่านบททดสอบเหล่านั้นได้สำเร็จ ทำให้เธอได้รับอนุญาตให้มาฝึกกับมอสควินา ในปี พ.ศ. 2542 เธอจึงได้ย้ายไปที่แฮคเคนแซ็ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นที่ที่มอสควินากำลังฝึกสอนอยู่ในขณะนั้น
2.2. การศึกษาและความสามารถทางภาษา
คาวากุจิให้ความสำคัญกับการศึกษาควบคู่ไปกับการเล่นสเกตลีลา เธอสำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนมัธยมปลายเทศบาลฟุนาบาชิ ในปี พ.ศ. 2546 เธอได้ย้ายตามโค้ชทามารา มอสควินาไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ซึ่งเธอได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยศึกษาในสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550
จากประสบการณ์การศึกษาและการใช้ชีวิตในหลายประเทศ ทำให้คาวากุจิมีความสามารถในการสื่อสารหลายภาษา โดยเธอสามารถพูดได้คล่องแคล่วทั้งภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นภาษาแม่ของเธอ ภาษาอังกฤษ และภาษารัสเซีย ซึ่งเป็นภาษาที่เธอใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวันและการแข่งขัน นอกจากนี้ คาวากุจิยังได้แสดงความสนใจในอาชีพการทูตระหว่างประเทศหลังจากเลิกเล่นสเกตลีลา
3. อาชีพช่วงต้นในญี่ปุ่น
ในช่วงเริ่มต้นอาชีพการเล่นสเกตลีลา ยูโกะ คาวากุจิได้เป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น ทั้งในฐานะนักสเกตเดี่ยวและนักสเกตประเภทคู่คนแรกของเธอ
3.1. อาชีพนักสเกตเดี่ยว
ก่อนที่จะเปลี่ยนมาแข่งขันประเภทคู่ คาวากุจิเริ่มต้นอาชีพในฐานะนักสเกตเดี่ยว เธอเข้าร่วมการแข่งขันระดับเยาวชนในประเทศญี่ปุ่น โดยเคยได้อันดับ 3 ในการแข่งขันออลเจแปนจูเนียร์แชมเปี้ยนชิป ในปี พ.ศ. 2540 และเข้าแข่งขันไอเอสยู จูเนียร์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งเธอได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันจูเนียร์ กรังด์ปรีซ์ เม็กซิโกคัพ ในฤดูกาล 1998-1999
3.2. การเป็นหุ้นส่วนกับอเล็กซานเดอร์ มาร์คุนต์ซอฟ
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2542 คาวากุจิได้จับคู่กับ อเล็กซานเดอร์ มาร์คุนต์ซอฟ เพื่อแข่งขันในประเภทคู่โดยเป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น ทั้งคู่ฝึกซ้อมเป็นหลักที่เมืองแฮคเคนแซ็ก โดยมี ทามารา มอสควินา และ อีกอร์ มอสควิน เป็นโค้ช และมี ทาเทียนา ดรูชินินา อีกอร์ บอบริน และมอสควินาเป็นผู้ออกแบบท่าเต้น
คาวากุจิและมาร์คุนต์ซอฟสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการสเกตลีลาของญี่ปุ่นด้วยการเป็นคู่แรกที่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันไอเอสยู แชมเปี้ยนชิปส์ โดยพวกเขาคว้าเหรียญเงินในการแข่งขัน เวิลด์จูเนียร์ฟิกเกอร์สเกตติงแชมเปี้ยนชิปส์ 2001 นอกจากนี้ยังได้เหรียญทองแดงในไอเอสยู จูเนียร์ กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล 2000-2001
อย่างไรก็ตาม การเป็นหุ้นส่วนของคาวากุจิและมาร์คุนต์ซอฟได้สิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2546 คาวากุจิให้เหตุผลว่า "เรามีความสัมพันธ์ในการทำงานที่ดี แต่เป็นเรื่องยากมากสำหรับอเล็กซานเดอร์ที่จะได้รับสัญชาติญี่ปุ่น ทำให้เราไม่สามารถเป็นตัวแทนของญี่ปุ่นในโอลิมปิกได้ ดังนั้นหลังจากนั้นไม่นาน เราจึงตัดสินใจแยกทางกัน"
4. การเปลี่ยนผ่านสู่รัสเซียและการเป็นหุ้นส่วนใหม่
หลังจากการแยกทางกับอเล็กซานเดอร์ มาร์คุนต์ซอฟ ยูโกะ คาวากุจิได้ตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะย้ายถิ่นฐานไปยังรัสเซีย เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ในอาชีพสเกตลีลา ซึ่งนำไปสู่การก่อตั้งความร่วมมือระยะยาวที่ประสบความสำเร็จ
4.1. การย้ายไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและการค้นหาคู่
ในปี พ.ศ. 2546 คาวากุจิได้ย้ายตามโค้ชของเธอ ทามารา มอสควินา กลับไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ซึ่งเธอได้ลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัย นอกเหนือจากการฝึกสเกต ในช่วงเวลานี้ เธอพยายามค้นหาคู่สเกตคนใหม่เพื่อสานต่อความฝันในการแข่งขัน เธอเริ่มต้นจับคู่กับนักสเกตชาวอเมริกัน จอช มาร์ติน แต่ความร่วมมือนี้ต้องจบลงอย่างน่าเสียดายในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2547 เมื่อมาร์ตินประสบอุบัติเหตุถูกรถชนขณะเล่นโรลเลอร์เบลดไปฝึกซ้อม ทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง รวมถึงข้อศอกหัก และตัดสินใจเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา
หลังจากนั้น คาวากุจิได้จับคู่กับนักสเกตชาวอเมริกันอีกคนคือ เดวิน แพทริค คาวากุจิกล่าวว่า "เขา (แพทริค) สอนฉันเรื่องการกระโดดทรีทควอดรูเพิล (ซาลคาว) เขาทำทรีทได้ดีมาก แต่ส่วนประกอบอื่นๆ บางอย่างกลับไม่ค่อยดีเท่าที่ควร" ทั้งคู่ลงแข่งขันในเจแปนแชมเปี้ยนชิปส์ และยูเอสแชมเปี้ยนชิปส์ โดยได้อันดับที่ 15 ในสหรัฐฯ ก่อนที่จะตัดสินใจแยกทางกัน คาวากุจิอธิบายเหตุผลว่า "เขาต้องการอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ แต่ฉันไม่อยากทิ้งทามารา นิโคลาเยฟนา (มอสควินา) ฉันไม่สามารถละทิ้งการเรียน โค้ชของฉัน แล้วกลับไปอเมริกาได้" ในช่วงเวลานั้น เธอรู้สึกกังวลว่าจะไม่สามารถหาคู่คนใหม่ได้ แต่ก็ตั้งใจที่จะเรียนให้จบปริญญาของเธอเป็นอย่างน้อย
4.2. การก่อตั้งความร่วมมือกับอเล็กซานเดอร์ สเมียร์นอฟ
ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2549 คาวากุจิได้จับคู่กับ อเล็กซานเดอร์ สเมียร์นอฟ เพื่อแข่งขันในนามของประเทศรัสเซีย เธอตัดสินใจที่จะเป็นตัวแทนของประเทศอื่นเนื่องจากความยากลำบากในการหาคู่สเกตที่มีฝีมือ สเมียร์นอฟกล่าวถึงคาวากุจิว่า "เรามักจะฝึกซ้อมที่ลานสเกตเดียวกัน และผมเห็นว่าเธอทำงานหนักแค่ไหน ผมคิดว่าผมเป็นคนทำงานหนัก แต่หลังจากดูเธอแล้ว ผมก็ทึ่งกับระดับการทำงานของเธอจริงๆ"

ทั้งคู่ฝึกซ้อมที่ยูบิเลย์นีย์ สปอร์ตพาเลซในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ในช่วงแรก พวกเขาทำงานร่วมกับ นิโคไล เวลิคอฟ แต่คาวากุจิได้ฝึกฝนกับ ทามารา มอสควินา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 และต้องการที่จะอยู่กับเธอต่อไป ดังนั้น ทั้งคู่จึงเริ่มฝึกซ้อมกับมอสควินาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 การเริ่มต้นความร่วมมือนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จอันยาวนานในอาชีพการแข่งขันของคาวากุจิ
4.3. การได้มาซึ่งสัญชาติรัสเซีย
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 ยูโกะ คาวากุจิได้มาซึ่งสัญชาติรัสเซียอย่างเป็นทางการ เพื่อให้มีคุณสมบัติเหมาะสมในการเข้าร่วมทีมชาติรัสเซียในโอลิมปิกฤดูหนาว ประเทศญี่ปุ่นไม่ยอมรับการถือสองสัญชาติ ดังนั้นเธอจึงจำเป็นต้องสละสัญชาติญี่ปุ่นเดิมของเธอ โดยเธออาจสามารถยื่นเรื่องขอสัญชาติญี่ปุ่นคืนได้หลังจากผ่านไป 10 ปี
การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่สำหรับคาวากุจิ เธอได้กล่าวว่า "การที่สัญชาติญี่ปุ่นของฉันจะหมดไปนั้นเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ดังนั้นเมื่อฉันทำเช่นนี้แล้ว ฉันก็อยากจะคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกให้ได้" เมื่อชื่อสกุลของเธอถูกถอดเสียงจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษารัสเซียและจากภาษารัสเซียเป็นอักษรละติน "Kawaguchi" จึงกลายเป็น "Kavaguti"
5. อาชีพการแข่งขันกับอเล็กซานเดอร์ สเมียร์นอฟ
ยูโกะ คาวากุจิและอเล็กซานเดอร์ สเมียร์นอฟได้สร้างผลงานอันโดดเด่นในฐานะนักสเกตคู่ตัวแทนของรัสเซีย แม้จะเผชิญกับอุปสรรคและอาการบาดเจ็บหลายครั้ง ทั้งคู่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในคู่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคของพวกเขา
5.1. ฤดูกาล 2006-07
ฤดูกาล 2006-07 เป็นการเริ่มต้นอาชีพของคาวากุจิและสเมียร์นอฟในฐานะคู่สเกตคนใหม่ การแข่งขันกรังด์ปรีซ์ครั้งแรกของพวกเขาคือรายการ คัพออฟรัสเซีย 2006 ซึ่งพวกเขาคว้าเหรียญทองแดงมาได้ นอกจากนี้ พวกเขายังเข้าร่วมการแข่งขัน คูเปเดอนีซ 2006 ที่ฝรั่งเศส และคว้าเหรียญทองในการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งแรกนี้
อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนี้ก็มาพร้อมกับความท้าทาย คาวากุจิหัวไหล่หลุดหลังจากล้มในการกระโดดควอดรูเพิลทรีทโทว์เมื่อปี พ.ศ. 2549 ซึ่งอาการบาดเจ็บนี้ยังคงเป็นปัญหาซ้ำๆ ในอีกหลายปีต่อมา นอกจากนี้ ในระหว่างการฝึกซ้อมเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2549 คาวากุจิข้อเท้าหัก ทำให้ทั้งคู่ต้องถอนตัวจากการแข่งขัน รัสเซียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2007 และ ยูโรเปียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2007
แม้จะมีอาการบาดเจ็บ แต่พวกเขาก็ยังคงเข้าร่วมการแข่งขัน เวิลด์แชมเปี้ยนชิปส์ 2007 ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกของพวกเขาในฐานะคู่ พวกเขาทำได้อันดับที่ 4 หลังจากโปรแกรมสั้น และจบอันดับที่ 10 ในโปรแกรมยาว ทำให้ได้อันดับ 9 โดยรวม
5.2. ฤดูกาล 2007-08
ในฤดูกาล 2007-08 คาวากุจิและสเมียร์นอฟยังคงทำผลงานได้ดีในการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ โดยคว้าเหรียญทองแดงอีกครั้งในการแข่งขัน คัพออฟรัสเซีย 2007 และได้เหรียญทองแดงที่ สเกตแคนาดา 2007 พวกเขายังคงครองแชมป์ในการแข่งขัน คูเปเดอนีซ เป็นปีที่สองติดต่อกัน ด้วยการชนะทั้งโปรแกรมสั้นและโปรแกรมยาว
ทั้งคู่ได้เข้าแข่งขัน กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล 2007-08 เป็นครั้งแรก โดยจบอันดับที่ 6 ในโปรแกรมสั้น หลังจากถูกหักคะแนน 2 คะแนนเนื่องจากองค์ประกอบที่ไม่ถูกต้อง และในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ พวกเขาถูกหัก 1 คะแนนจากการล้มในท่าทรีทควอดรูเพิลซาลคาว ทำให้จบอันดับ 5 โดยรวม
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 ทั้งคู่คว้าแชมป์ รัสเซียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2008 เป็นครั้งแรก โดยชนะทั้งโปรแกรมสั้นและโปรแกรมยาว พวกเขาเอาชนะคู่ของ มาเรีย มูคอร์โทวา และ มักซิม ทรันคอฟ ไปถึง 10.43 คะแนน แม้ว่าคาวากุจิจะล้มและหัวไหล่หลุดอีกครั้งหลังจากการกระโดดทรีทควอดรูเพิลซาลคาวในโปรแกรมยาว สเมียร์นอฟตัดสินใจหยุดโปรแกรมชั่วคราวเพื่อให้คาวากุจิฟื้นตัว ซึ่งกฎอนุญาตให้หยุดได้ 2 นาที หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลับมาทำโปรแกรมต่อจนจบ โดยสามารถทำทริปเปิลโทลูปได้สองครั้ง ทริปเปิลทวิสต์ และทริปเปิลทรีทลูป ซึ่งเป็นผลให้พวกเขาคว้าแชมป์ระดับประเทศได้
การแข่งขัน ยูโรเปียนแชมเปี้ยนชิปส์ ครั้งแรกของพวกเขาจัดขึ้นที่เมืองซาเกร็บ โครเอเชีย พวกเขาทำทรีทควอดรูเพิลซาลคาวได้สำเร็จในโปรแกรมยาว แต่การล้มในการกระโดดทริปเปิล และการกระโดดดับเบิลแอ็กเซลที่กลายเป็นการกระโดดเดี่ยว ทำให้ได้เพียงเหรียญทองแดงเท่านั้น
ที่ เวิลด์แชมเปี้ยนชิปส์ 2008 ในเมืองกอเทนเบิร์ก สวีเดน คาวากุจิและสเมียร์นอฟทำคะแนนโปรแกรมสั้นได้ดีที่สุดส่วนตัวที่ 71.42 คะแนน ซึ่งทำให้พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 3 พวกเขาทำทรีทควอดรูเพิลซาลคาวได้สำเร็จและองค์ประกอบหลายอย่างได้รับระดับสี่ แต่สุดท้ายพวกเขาหล่นไปอยู่อันดับที่ 4 โดยห่างจากอันดับ 3 เพียง 1.45 คะแนน
5.3. ฤดูกาล 2008-09
ในฤดูกาล 2008-09 คาวากุจิและสเมียร์นอฟยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขาคว้าเหรียญทองรายการ คูเปเดอนีซ 2008 ได้เป็นครั้งที่สามติดต่อกัน จากนั้นพวกเขาคว้าแชมป์การแข่งขันนานาชาติระดับ ไอเอสยู กรังด์ปรีซ์ ครั้งแรกที่ สเกตแคนาดา 2008 หลังจากนั้น พวกเขาเข้าแข่งขันที่ คัพออฟรัสเซีย 2008 ซึ่งพวกเขาได้อันดับ 2 หลังโปรแกรมสั้น และได้อันดับ 1 ในฟรีสเกต ทำให้จบอันดับ 2 โดยรวม ทั้งคู่ผ่านเข้าสู่ กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล 2008-09 เป็นครั้งที่สอง โดยได้อันดับ 6 ในโปรแกรมสั้น และอันดับ 5 ในฟรีสเกต ทำให้จบอันดับ 5 โดยรวมอีกครั้ง
คาวากุจิและสเมียร์นอฟยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์ในการแข่งขัน รัสเซียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2009 ไว้ได้ แม้จะอยู่อันดับ 2 ก่อนเข้าฟรีสเกต แต่พวกเขาก็สามารถเอาชนะคู่ของมูคอร์โทวาและทรันคอฟไปได้มากกว่า 15 คะแนน ในการแข่งขัน ยูโรเปียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2009 คู่ที่อยู่อันดับ 3 หลังจากโปรแกรมสั้นก็สามารถทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดยคว้าเหรียญเงินมาครอง

ที่ เวิลด์แชมเปี้ยนชิปส์ 2009 ในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย คาวากุจิและสเมียร์นอฟอยู่ในอันดับที่ 2 หลังจากโปรแกรมสั้น ในฟรีสเกต คาวากุจิหกล้มอย่างแรงบนแก้มของเธอหลังจากการกระโดดควอดรูเพิลทรีทซาลคาว แต่เธอก็ลุกขึ้นมาในไม่กี่วินาทีต่อมาและทั้งคู่ก็ยังคงเล่นต่อไป พวกเขาได้รับเหรียญทองแดงโลกเหรียญแรก โดยแพ้ให้กับ จาง ตาน และ จาง เฮ่า เพียง 0.13 คะแนนเท่านั้น พวกเขาได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของรัสเซียในการแข่งขัน ไอเอสยู เวิลด์ทีมโทรฟี ครั้งแรกของไอเอสยูที่ญี่ปุ่น ทั้งคู่ได้อันดับ 2 ทั้งในโปรแกรมสั้นและฟรีสเกต ทำให้จบอันดับ 2 โดยรวม และทีมรัสเซียจบอันดับ 5
5.4. ฤดูกาล 2009-10 (โอลิมปิกฤดูหนาวแวนคูเวอร์)
ในฤดูกาล 2009-10 คาวากุจิและสเมียร์นอฟได้รับเลือกให้แข่งขันที่ เอ็นเอชเค โทรฟี 2009 ในญี่ปุ่น หลังจากโปรแกรมสั้น พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 1 นำหน้า ผาง ชิง และ ถง เจี้ยน ในฟรีสเกต คาวากุจิหัวไหล่หลุดอีกครั้งจากการล้มในการกระโดดควอดรูเพิลทรีท ทำให้โปรแกรมต้องหยุดลงเพื่อพักรักษาอาการบาดเจ็บ 2 นาที และทั้งคู่ตัดสินใจเล่นต่อ แม้จะถูกหัก 3 คะแนนจากการล้มและ "การหยุดชะงักที่เกินกำหนด" เนื่องจากมีการหยุดพักทางการแพทย์ พวกเขาก็ยังสามารถคว้าเหรียญเงินมาได้
ที่ รอสเตเลคอมคัพ 2009 พวกเขาได้อันดับ 2 ทั้งในโปรแกรมสั้นและฟรีสเกต คว้าเหรียญเงินตามหลังผางและถง ทั้งคู่ทำคะแนนได้เพียงพอในซีรีส์กรังด์ปรีซ์เพื่อเข้าสู่ กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล 2009-10 ซึ่งพวกเขาได้อันดับ 6 ในโปรแกรมสั้น และอันดับ 5 ในฟรีสเกต ทำให้จบอันดับ 5 โดยรวมเป็นปีที่สามติดต่อกัน
คาวากุจิและสเมียร์นอฟเข้าร่วมการแข่งขัน รัสเซียนแชมเปี้ยนชิปส์ เป็นครั้งที่สาม และทำได้อันดับ 1 ในทั้งสองโปรแกรม เพื่อคว้าแชมป์ติดต่อกันเป็นสมัยที่สาม โดยเอาชนะมูคอร์โทวาและทรันคอฟไปได้มากกว่า 11 คะแนน พวกเขาแข่งขันที่ ยูโรเปียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2010 ในทาลลินน์ เอสโตเนีย และอยู่อันดับ 2 หลังจากโปรแกรมสั้น โดยมีคะแนนห่างกันไม่ถึง 1 คะแนนกับสามอันดับแรก พวกเขาทำฟรีสเกตได้เกือบจะไร้ที่ติ โดยมีเพียงคาวากุจิที่ก้าวพลาดในการกระโดดทริปเปิลโทลูปเป็นข้อผิดพลาดเดียว ในระหว่างโปรแกรม หัวไหล่ของคาวากุจิหลุดแต่เธอก็สามารถกลับเข้าที่และเล่นโปรแกรมที่เหลือต่อไปได้ พวกเขาคว้าแชมป์ยุโรป โดยได้รับคะแนน 139.29 ซึ่งเป็นคะแนนฟรีสเกตที่ทำลายสถิติโลก


คาวากุจิและสเมียร์นอฟได้เข้าร่วม โอลิมปิกฤดูหนาว 2010 ที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เป็นครั้งแรก พวกเขาอยู่อันดับ 3 หลังจากโปรแกรมสั้นด้วยคะแนนดีที่สุดในฤดูกาลที่ 74.16 คะแนน ห่างจากทีมอันดับ 1 ของ เชน ซู และ จ้าว หงปอ เพียง 2.5 คะแนน ในระหว่างการอบอุ่นร่างกาย โค้ชของพวกเขาบอกไม่ให้พยายามทำควอดรูเพิลทรีท การกระโดดทรีทครั้งแรกเป็นทริปเปิลซาลคาว คาวากุจิวางมือลงและสะดุดหลังจากกระโดด สเมียร์นอฟก้าวพลาดในการกระโดดดับเบิลแอ็กเซล และเนื่องจากไม่มีความเร็วในการทำแอ็กเซลตัวที่สอง ทั้งคู่จึงไม่สามารถทำลำดับให้เสร็จสมบูรณ์ คาวากุจิล้มในการกระโดดทรีทสุดท้าย ทำให้หัวไหล่หลุด ทั้งคู่เล่นต่อแต่ไม่สามารถทำระดับเต็มในการเล่นหลายๆ องค์ประกอบได้ แม้จะอยู่อันดับ 1 แต่ก็ยังเหลืออีกสามคู่ที่ต้องเล่น พวกเขาจบอันดับ 4 โดยรวม และเป็นนักสเกตคู่ชาวรัสเซียที่ได้อันดับสูงสุด การไม่ได้รับเหรียญทองในประเภทนี้ถือเป็นการสิ้นสุดการครองเหรียญทองของรัสเซีย/สหภาพโซเวียตที่ยาวนานตั้งแต่โอลิมปิกฤดูหนาว 1964

เวิลด์แชมเปี้ยนชิปส์ 2010 จัดขึ้นที่ตูริน อิตาลี เช่นเดียวกับการแข่งขันชิงแชมป์โลกในปี พ.ศ. 2552 พวกเขาอยู่อันดับ 2 หลังจากโปรแกรมสั้น และหลังจากล้ม พวกเขาก็หล่นไปอยู่อันดับ 3 ในฟรีสเกต โดยห่างจากอันดับ 2 ไม่ถึง 1 คะแนน นี่เป็นเหรียญทองแดงโลกเหรียญที่สองติดต่อกันของพวกเขา
5.5. ฤดูกาล 2010-11
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 คาวากุจิเข้ารับการผ่าตัดที่หัวไหล่ สเมียร์นอฟก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่ขาหนีบและได้รับการรักษาในเยอรมนี หลังจากเขากลับมา เขาก็ข้อเท้าแพลง ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้ลงน้ำแข็งเป็นเวลาสามเดือน พวกเขาได้รับมอบหมายให้แข่งขันในรายการสเกตแคนาดาและคัพออฟรัสเซียในฤดูกาลกรังด์ปรีซ์ 2010-11 แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บของทั้งคู่ พวกเขาจึงถอนตัวจากการแข่งขันสเกตแคนาดา
คาวากุจิและสเมียร์นอฟแข่งขันกรังด์ปรีซ์เพียงรายการเดียวคือ คัพออฟรัสเซีย 2010 ซึ่งพวกเขาได้อันดับ 1 ในโปรแกรมสั้นและชนะฟรีสเกตด้วยคะแนนมากกว่า 17 คะแนน นี่เป็นเหรียญที่ 5 ของพวกเขาในคัพออฟรัสเซีย และพวกเขาได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันนี้มากกว่าคู่ใดๆ แม้จะชนะ แต่พวกเขาก็ไม่มีคะแนนเพียงพอที่จะแข่งขันในกรังด์ปรีซ์ ไฟนอล เนื่องจากการถอนตัวจากสเกตแคนาดา ในรัสเซียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2011 พวกเขาได้อันดับ 2 หลังจากโปรแกรมสั้น การผิดพลาดในการกระโดดคู่ขนานและการยกที่ไม่ถนัดทำให้พวกเขาตามหลังอันดับ 1 เกือบ 4.50 คะแนน ในโปรแกรมยาว พวกเขาเล่นเป็นคู่สุดท้ายและรั้งอันดับ 2 ไว้ได้
ที่เบิร์น สวิตเซอร์แลนด์ ในการแข่งขัน ยูโรเปียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2011 คาวากุจิและสเมียร์นอฟอยู่อันดับ 2 ตามหลัง อาลิโอนา ซาฟเชนโก และ โรบิน ซอลโควี หลังจากโปรแกรมสั้น ในฟรีสเกต พวกเขาเล่นเป็นคู่สุดท้าย แม้จะชนะฟรีสเกต แต่ก็ไม่สามารถทำคะแนนที่ตามหลัง 2.82 คะแนน เพื่อคว้าเหรียญทองได้ และต้องยอมรับเหรียญเงิน ทั้งสองโปรแกรมของพวกเขาทำคะแนนได้ดีที่สุดในฤดูกาล
เวิลด์แชมเปี้ยนชิปส์ 2011 เดิมมีกำหนดจัดขึ้นที่โตเกียวในเดือนมีนาคม แต่เนื่องจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่รุนแรง การแข่งขันจึงถูกย้ายไปจัดที่มอสโกในปลายเดือนเมษายน คาวากุจิและสเมียร์นอฟเล่นเป็นคู่สุดท้ายจาก 22 ทีมในโปรแกรมสั้น แต่การล้มของสเมียร์นอฟในลำดับสเต็ปทำให้พวกเขาอยู่อันดับ 5 ก่อนเข้าฟรีสเกต ในระหว่างฟรีสเกต พวกเขาได้รับคะแนน 124.82 โดยมีเพียงการล้มในการกระโดดทรีทเป็นข้อผิดพลาดเดียว พวกเขาจบอันดับ 4
5.6. ฤดูกาล 2011-12

สำหรับฤดูกาล 2011-12 คาวากุจิและสเมียร์นอฟได้เลือกเข้าร่วมการแข่งขัน ไอเอสยู กรังด์ปรีซ์ 2011-12 สามรายการ พวกเขาคว้าแชมป์รายการแรกได้อย่างง่ายดายใน คัพออฟไชน่า 2011 โดยได้อันดับ 1 ทั้งโปรแกรมสั้นและฟรีสเกต ทำให้ชนะรายการด้วยคะแนนรวม 186.74 คะแนน รายการถัดไปของพวกเขาคือ เอ็นเอชเค โทรฟี 2011 ที่ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ในโปรแกรมสั้น การล้มของคาวากุจิในการกระโดดทริปเปิลโทลูปที่หมุนไม่ครบ และองค์ประกอบหลายอย่างที่ได้ระดับต่ำกว่า ทำให้ทั้งคู่อยู่อันดับ 5 ด้วยคะแนน 55.02 พวกเขาได้อันดับ 1 ในฟรีสเกตและคว้าเหรียญทองด้วยคะแนนรวม 177.51 คะแนน เอาชนะแชมป์โลกปัจจุบันอย่าง อาลิโอนา ซาฟเชนโก และ โรบิน ซอลโควี ชัยชนะนี้ทำให้พวกเขามีคุณสมบัติเข้ารอบ กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล 2011-12 ที่ คัพออฟรัสเซีย 2011 ทั้งคู่อยู่อันดับ 2 หลังจากโปรแกรมสั้นด้วยคะแนน 65.17 พวกเขาจบอันดับ 2 ด้วยคะแนนรวม 197.84 ซึ่งเป็นเหรียญที่หกติดต่อกันของพวกเขาในคัพออฟรัสเซีย ที่ กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล 2011-12 พวกเขาได้อันดับ 4 ในโปรแกรมสั้นด้วยคะแนน 61.37 และอันดับ 3 ในฟรีสเกตด้วยคะแนน 126.40 ทำให้คว้าเหรียญทองแดงด้วยคะแนนรวม 187.77 ซึ่งเป็นเหรียญแรกของทั้งคู่ในกรังด์ปรีซ์ ไฟนอล
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554 มอสควินาเปิดเผยว่าทั้งคู่ได้ขอถอนตัวจากการแข่งขัน รัสเซียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2012 เพื่อให้สเมียร์นอฟได้ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่เข่า ซึ่งเกิดขึ้นก่อนกรังด์ปรีซ์ ไฟนอล เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555 สเมียร์นอฟเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งและไส้เลื่อนในลำไส้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากเขาไม่สามารถฟื้นตัวได้ทันเวลาสำหรับการแข่งขัน ยูโรเปียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2012 ที่เชฟฟิลด์ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 23 ถึง 29 มกราคม พวกเขาจึงถูกแทนที่โดย คเซเนีย สโตลโบวา และ ฟีดอร์ คลิมอฟ
ที่ เวิลด์แชมเปี้ยนชิปส์ 2012 ในนีซ ฝรั่งเศส คาวากุจิและสเมียร์นอฟทำได้ดีในช่วงโปรแกรมสั้น จนกระทั่งเกิดการล้มอย่างรุนแรงในช่วงท้ายของการยก ทำให้พวกเขาอยู่อันดับ 11 ด้วยคะแนน 59.59 ซึ่งเป็นเวลา 12 สัปดาห์พอดีหลังจากที่สเมียร์นอฟเข้ารับการผ่าตัด ในระหว่างโปรแกรมยาวของพวกเขา การยกที่ถูกยกเลิกไม่ได้รับคะแนน และทั้งคู่ได้รับคะแนน 122.83 และได้อันดับ 4 ในฟรีสเกต ด้วยข้อผิดพลาดของการยกทั้งสองครั้งในสองโปรแกรม พวกเขาไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ และได้รับคะแนนรวม 182.42 อยู่ในอันดับ 7 โดยห่างจากเหรียญรางวัล 7.28 คะแนน
5.7. ฤดูกาล 2012-13
ในช่วงฤดูร้อนปี พ.ศ. 2555 สเมียร์นอฟเข้ารับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกที่เข่าขวา หลังจากทดสอบการเล่นสเกตในเดือนสิงหาคม ทั้งคู่ตัดสินใจเปลี่ยนโปรแกรมสั้นที่วางแผนไว้เป็นเพลงจาก "แคทส์" ไปใช้เพลง เดอะบลูดานูบ ของโยฮันน์ ชเตราสส์ที่ 2 แทน
การแข่งขันกรังด์ปรีซ์ครั้งแรกของคาวากุจิและสเมียร์นอฟในปีนี้คือ คัพออฟไชน่า 2012 พวกเขาได้อันดับ 2 ทั้งในโปรแกรมสั้นและโปรแกรมยาว คว้าเหรียญเงินตามหลังคู่ของจีน ผาง ชิง และ ถง เจี้ยน นี่เป็นเหรียญที่สองติดต่อกันของพวกเขาในรายการนี้ ก่อนหน้านี้เคยคว้าเหรียญทองมาแล้ว ที่ โทรฟีอีริคบอมปาร์ด 2012 ในฝรั่งเศส พวกเขาได้อันดับ 1 ในโปรแกรมสั้นด้วยคะแนน 66.78 แม้จะอยู่อันดับ 2 ในฟรีสเกตด้วยคะแนน 121.21 ตามหลังคู่ของแคนาดา เมแกน ดูฮาเมล และ อีริค แรดฟอร์ด แต่พวกเขาก็มีคะแนนเพียงพอที่จะคว้าเหรียญทองแรกในฝรั่งเศส ที่ กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล 2012-13 คาวากุจิและสเมียร์นอฟทำคะแนนได้ 58.02 หลังจากโปรแกรมสั้น ส่วนหนึ่งเนื่องจากการล้มของคาวากุจิในการกระโดดทรีท และความผิดพลาดของทั้งคู่ในการกระโดดทริปเปิลโทลูป ในฟรีสเกต คาวากุจิและสเมียร์นอฟเล่นเป็นคู่แรก แม้ว่าข้อผิดพลาดเดียวของพวกเขาคือการกระโดดทริปเปิลโทลูปที่คาวากุจิทำผิดพลาดจนเป็นดับเบิลโทลูป ระดับที่ต่ำในองค์ประกอบบางอย่างทำให้พวกเขาได้อันดับ 5 ในฟรีสเกตด้วยคะแนน 120.70 พวกเขาจบอันดับ 6 โดยรวม
คาวากุจิและสเมียร์นอฟจากนั้นได้เข้าแข่งขันใน รัสเซียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2013 ที่โซชี ประเทศรัสเซีย พวกเขาเล่นเป็นคู่แรกในโปรแกรมสั้นและได้รับระดับสามในการบิดตัวทริปเปิลทวิสต์ ระดับสองในการหมุนตัวเดธสไปรัล และองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งหมดได้รับระดับสี่ พวกเขาได้รับคะแนน 70.19 และอยู่อันดับ 2 ก่อนเข้าฟรีสเกต พวกเขาทำฟรีสเกตได้เกือบไร้ที่ติ โดยมีเพียงมือของคาวากุจิที่แตะน้ำแข็งในการกระโดดทรีทเป็นข้อผิดพลาดเดียว พวกเขาทำคะแนนได้ 137.18 และคว้าเหรียญเงินตามหลังแชมป์ ทาเทียนา โวโลโซฌาร์ และ มักซิม ทรันคอฟ ด้วยคะแนนรวม 207.37
ในการแข่งขัน ยูโรเปียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2013 คาวากุจิและสเมียร์นอฟมีโปรแกรมสั้นที่เลวร้าย โดยสเมียร์นอฟล้มในการกระโดดทริปเปิลโทลูป และคาวากุจิก้าวพลาดในการกระโดดทริปเปิลลูปทรีท การจบที่ไม่ดีของเดธสไปรัลพร้อมกับระดับที่ต่ำทำให้พวกเขาอยู่อันดับ 5 ด้วยคะแนน 56.20 ในฟรีสเกต สเมียร์นอฟทำดับเบิลแอ็กเซลเป็นซิงเกิลแอ็กเซลและล้มลง พวกเขาได้อันดับ 5 ในฟรีสเกตด้วยคะแนน 119.28 และจบอันดับ 5 โดยรวม ซึ่งเป็นครั้งแรกในห้าครั้งที่พวกเขาไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลในยูโรเปียนแชมเปี้ยนชิปส์ได้
คาวากุจิและสเมียร์นอฟเข้าแข่งขันที่ เวิลด์แชมเปี้ยนชิปส์ 2013 ในลอนดอน รัฐออนแทรีโอ พวกเขาได้อันดับ 4 ในโปรแกรมสั้นด้วยคะแนนดีที่สุดในฤดูกาลที่ 69.98 ในระหว่างฟรีสเกต ทั้งคู่กำลังทำท่าลิฟต์สุดท้ายเมื่อสเมียร์นอฟชนกับขอบลานและต้องละทิ้งท่าลิฟต์ ทำให้องค์ประกอบนั้นไม่ได้รับคะแนน มอสควินากล่าวว่าลานแข่งขันแคบผิดปกติ ด้วยการไม่ได้รับคะแนนสำหรับการยกดังกล่าว ทำให้พวกเขาหล่นจากอันดับ 4 ไปอยู่อันดับ 6 ด้วยคะแนนรวม 191.59
5.8. ฤดูกาล 2013-14
สำหรับซีรีส์กรังด์ปรีซ์ 2013-14 คาวากุจิและสเมียร์นอฟได้รับมอบหมายให้เข้าแข่งขันที่เอ็นเอชเค โทรฟี และ สเกตแคนาดา ซึ่งทั้งสองรายการนี้พวกเขาเคยชนะมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 สเมียร์นอฟประสบอาการเอ็นสะบ้าฉีกขาดจากการล้มขณะแข่งขันพานิน เมโมเรียลที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก พวกเขาจึงต้องถอนตัวจากการแข่งขันที่ได้รับมอบหมายและพลาดการแข่งขันตลอดฤดูกาลนี้
ในตอนแรก ยูโกะ คาวากุจิมีแผนที่จะเกษียณจากการแข่งขันเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2013-14 นี้ อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2557 ทั้งคู่กล่าวว่าพวกเขาตั้งใจที่จะแข่งขันต่อในฤดูกาล 2014-15 โดยมีเป้าหมายคือการเข้าร่วมโอลิมปิกฤดูหนาวที่พย็องชัง ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความปรารถนาที่จะก้าวข้ามอุปสรรคจากอาการบาดเจ็บและยังคงไล่ตามความฝันในการแข่งขันระดับสูงสุด
5.9. ฤดูกาล 2014-15
คาวากุจิและสเมียร์นอฟกลับมาแข่งขันอีกครั้งในรายการ ชาลเลนเจอร์ซีรีส์ เนเบลฮอร์น โทรฟี 2014 โดยคว้าเหรียญทองด้วยคะแนนรวม 195.89 และสามารถทำท่าควอดรูเพิลซาลคาวทรีทในฟรีสเกตได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการทำท่านี้โดยไม่ได้รับคะแนนติดลบเป็นครั้งแรกในอาชีพของคาวากุจิ
พวกเขาคว้าเหรียญทองที่ สเกตอเมริกา 2014 ซึ่งเป็นการแข่งขันกรังด์ปรีซ์รายการแรกของฤดูกาล ในฟรีสเกต ทั้งคู่ประสบความสำเร็จในการลงจอดท่าควอดรูเพิลซาลคาวทรีทและทำคะแนนได้ 140.00 คะแนน ซึ่งเป็นสถิติส่วนตัวใหม่ และจากการชนะรายการนี้ ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่ที่ 5 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันไอเอสยู กรังด์ปรีซ์ได้ครบทั้ง 6 รายการ
จากนั้นพวกเขาคว้าเหรียญเงินที่ เอ็นเอชเค โทรฟี 2014 และจบอันดับ 6 ที่ กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล 2014-15 ทีมของพวกเขาได้อันดับ 3 ในรัสเซียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2015 ก่อนที่จะคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่สองใน ยูโรเปียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2015 พวกเขาปิดท้ายฤดูกาลด้วยการจบอันดับ 5 ที่ เวิลด์แชมเปี้ยนชิปส์ 2015
5.10. ฤดูกาล 2015-16
คาวากุจิและสเมียร์นอฟเริ่มต้นฤดูกาล 2015-16 ด้วยการคว้าเหรียญทองในรายการ ชาลเลนเจอร์ซีรีส์ มอร์โดเวียน ออร์นาเมนต์ 2015 จากนั้นคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกรังด์ปรีซ์รายการแรกของฤดูกาลที่ คัพออฟไชน่า 2015 ซึ่งพวกเขาเอาชนะคู่เจ้าบ้านที่เป็นตัวเต็งอย่าง สุย เหวินจิง และ หาน ชง พวกเขาสร้างสถิติคะแนนรวมส่วนตัวใหม่ที่ 216.00 คะแนน และทำท่าควอดรูเพิลทรีทได้สองครั้งในฟรีสเกตที่ประเทศจีน
ในการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ครั้งถัดไปที่ รอสเตเลคอมคัพ 2015 พวกเขาคว้าเหรียญเงินตามหลังเพื่อนร่วมทีม คเซเนีย สโตลโบวา และ ฟีดอร์ คลิมอฟ และมีคุณสมบัติเข้ารอบ กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล 2015-16 ในเดือนธันวาคม พวกเขาคว้าเหรียญทองแดงที่กรังด์ปรีซ์ ไฟนอลในบาร์เซโลนา หลังจากได้อันดับ 2 ในโปรแกรมสั้น และอันดับ 3 ในฟรีสเกต ในปลายเดือนเดียวกัน พวกเขาคว้าเหรียญเงินในรัสเซียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2016 หลังจากได้อันดับ 2 ในทั้งสองช่วง
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2559 คาวากุจิได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายฉีกขาดในการฝึกซ้อม ทำให้ทั้งคู่ต้องถอนตัวจากการแข่งขัน ยูโรเปียนแชมเปี้ยนชิปส์ 2016 และเธอต้องเข้ารับการผ่าตัด
5.11. ฤดูกาล 2016-17 และการเกษียณ
ในฤดูกาล 2016-17 คาวากุจิและสเมียร์นอฟกลับมาแข่งขันระดับนานาชาติอีกครั้งในรายการ ไอเอสยู ชาลเลนเจอร์ซีรีส์ ที่ อนด์เรจ เนเพลา เมโมเรียล 2016 ระหว่างวันที่ 30 กันยายนถึง 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559 โดยคว้าเหรียญเงินตามหลังเพื่อนร่วมทีม เอฟเกเนีย ทาราโซวา และ วลาดิมีร์ โมโรซอฟ
อย่างไรก็ตาม ในซีรีส์กรังด์ปรีซ์ 2016-17 พวกเขาไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ในการแข่งขันสองรายการ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ไม่ได้รับเหรียญรางวัลนับตั้งแต่จับคู่กันมา ในรัสเซียนแชมเปี้ยนชิปส์ พวกเขาก็จบอันดับ 5 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พลาดโพเดียมในรายการระดับประเทศ
ในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560 โค้ชของพวกเขา ทามารา มอสควินา ได้เปิดเผยว่าคาวากุจิและสเมียร์นอฟได้ประกาศเกษียณจากการแข่งขันสเกตลีลาแล้ว
6. กิจกรรมหลังเกษียณ
หลังจากเกษียณจากการแข่งขันสเกตลีลา ยูโกะ คาวากุจิยังคงมีส่วนร่วมในวงการสเกตลีลาและได้ขยายบทบาทไปยังสาขาอาชีพอื่น ๆ
6.1. อาชีพนักสเกตอาชีพและกิจกรรมการฝึกสอน
คาวากุจิยังคงแสดงในไอซ์โชว์ในฐานะนักสเกตอาชีพ รวมถึงมีส่วนร่วมในการฝึกสอนนักกีฬาสเกตลีลารุ่นเยาว์ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ให้กับนักกีฬาในอนาคต
นอกจากนี้ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เธอได้รับการอนุมัติจากสหพันธ์สเกตลีลาแห่งเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Technical Specialist) ซึ่งเป็นบทบาทที่สำคัญในการตัดสินและการพัฒนาองค์ประกอบทางเทคนิคของการเล่นสเกตลีลา เธอได้บรรยายและให้ความเห็นเกี่ยวกับฟิกเกอร์สเกตติ้งผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงเป็นผู้บรรยายการแข่งขันในรายการ เอ็นเอชเค โทรฟี สำหรับประเภทคู่และรายการแสดงในญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2561 และ พ.ศ. 2562 รวมถึงจัดชั้นเรียนที่ศูนย์วัฒนธรรมอาซาฮีในชินจูกุ
6.2. กิจกรรมทางวิชาชีพอื่น ๆ
ในปี พ.ศ. 2564 คาวากุจิให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RIA โนวอสติ โดยเปิดเผยว่านอกเหนือจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเล่นสเกตลีลาแล้ว อาชีพหลักของเธอในปัจจุบันคือการเป็นผู้ให้บริการนวดหน้าในซาลอนเสริมความงามใจกลางเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เธออธิบายว่าการระบาดของโรคโควิด-19ทำให้เธอตระหนักถึงความสำคัญของการมีอาชีพอื่นนอกเหนือจากการเล่นสเกตลีลา และประสบการณ์ส่วนตัวในฐานะนักกีฬาที่รู้สึกสดชื่นและมีกำลังใจมากขึ้นหลังจากได้รับการนวดหน้าก่อนลงสนาม ทำให้เธอตัดสินใจเลือกเส้นทางอาชีพนี้
7. รางวัลและเกียรติยศ
ตลอดอาชีพการแข่งขัน ยูโกะ คาวากุจิได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมาย ซึ่งเป็นการยกย่องความสำเร็จและการมีส่วนร่วมของเธอในวงการสเกตลีลา ได้แก่:
- เครื่องอิสริยาภรณ์จากประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย** "เพื่อการพัฒนาวัฒนธรรมทางกายภาพและกีฬา ความสำเร็จด้านกีฬาที่โดดเด่นในโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่ XXI ปี 2010 ที่แวนคูเวอร์" (5 มีนาคม พ.ศ. 2553)
- บุคคลดีเด่นด้านกีฬาแห่งเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก** (กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553)
- ปรมาจารย์แห่งกีฬาผู้ทรงเกียรติแห่งรัสเซีย** (Honored Master of Sports of Russia) (พ.ศ. 2552)
8. โปรแกรม
ยูโกะ คาวากุจิได้แสดงผลงานผ่านโปรแกรมการแข่งขันหลากหลายรูปแบบ โดยมีเพลงและการออกแบบท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละฤดูกาล
8.1. โปรแกรมกับอเล็กซานเดอร์ สเมียร์นอฟ
| ฤดูกาล | โปรแกรมสั้น | ฟรีสเกต | โปรแกรมแสดง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2016-2017 |
>
| | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2015-2016 |
>rowspan=3 |
|
----
----
|- | 2014-2015 |
>
----
|- | 2013-2014 |
>
|- | 2012-2013 |
>
|
----
|- | 2011-2012 |
>rowspan=2 |
|
|- | 2010-2011 |
>
----
----
|- | 2009-2010 |
|
|
----
|- | 2008-2009 |
>
----
----
|- | 2007-2008 |
|
|
----
----
|- | 2006-2007 |
----
>
|} | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ฤดูกาล | โปรแกรมสั้น | ฟรีสเกต | โปรแกรมแสดง |
|---|---|---|---|
| 2002-2003 |
>
| | ||
| 2001-2002 |
>
|
|- | 2000-2001 |
>
| |
9. ผลการแข่งขัน
| การแข่งขันระดับนานาชาติ | |||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| รายการ | 06-07 | 07-08 | 08-09 | 09-10 | 10-11 | 11-12 | 12-13 | 13-14 | 14-15 | 15-16 | 16-17 |
| โอลิมปิก | 4th | ||||||||||
| เวิลด์แชมเปี้ยนชิปส์ | 9th | 4th | 3rd | 3rd | 4th | 7th | 6th | 5th | |||
| ยูโรเปียนแชมเปี้ยนชิปส์ | 3rd | 2nd | 1st | 2nd | WD | 5th | 1st | WD | |||
| GP กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล | 5th | 5th | 5th | 3rd | 6th | 6th | 3rd | ||||
| GP โทรฟีอีริคบอมปาร์ด | 1st | ||||||||||
| GP คัพออฟไชน่า | 1st | 2nd | 1st | 6th | |||||||
| GP เอ็นเอชเค โทรฟี | 2nd | 1st | WD | 2nd | |||||||
| GP คัพออฟรัสเซีย | 3rd | 3rd | 2nd | 2nd | 1st | 2nd | 2nd | ||||
| GP สเกตอเมริกา | 1st | ||||||||||
| GP สเกตแคนาดา | 3rd | 1st | WD | WD | 5th | ||||||
| CS มอร์โดเวียน ออร์นาเมนต์ | 1st | ||||||||||
| CS เนเบลฮอร์น โทรฟี | 1st | ||||||||||
| CS อนด์เรจ เนเพลา เมโมเรียล | 2nd | ||||||||||
| คูเปเดอนีซ | 1st | 1st | 1st | ||||||||
| การแข่งขันระดับประเทศ | |||||||||||
| รัสเซียนแชมเปี้ยนชิปส์ | WD | 1st | 1st | 1st | 2nd | WD | 2nd | 3rd | 2nd | 5th | |
| การแข่งขันประเภททีม | |||||||||||
| ไอเอสยู เวิลด์ทีมโทรฟี | 5th T (2nd P) | 2nd T (3rd P) | |||||||||
| TBD = ได้รับมอบหมาย; WD = ถอนตัว T = ผลการแข่งขันทีม; P = ผลการแข่งขันส่วนบุคคล; เหรียญรางวัลมอบให้เฉพาะผลการแข่งขันทีม | |||||||||||
9.1. ผลการแข่งขันกับอเล็กซานเดอร์ มาร์คุนต์ซอฟ (เป็นตัวแทนของญี่ปุ่น)
| ผลการแข่งขัน | |||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|
| การแข่งขันระดับนานาชาติ | |||||||
| รายการ | 2000-2001 | 2001-2002 | 2002-2003 | ||||
| เวิลด์แชมเปี้ยนชิปส์ | 15th | 13th | 14th | ||||
| โฟร์คอนทิเนนท์สแชมเปี้ยนชิปส์ | 8th | 9th | 7th | ||||
| GP เอ็นเอชเค โทรฟี | WD | 5th | |||||
| GP สเกตอเมริกา | 6th | 5th | |||||
| GP โทรฟีอีริคบอมปาร์ด | 6th | ||||||
| การแข่งขันระดับนานาชาติ: ระดับเยาวชน | |||||||
| รายการ | 2000-2001 | 2001-2002 | 2002-2003 | ||||
| เวิลด์จูเนียร์แชมเปี้ยนชิปส์ | 2nd | ||||||
| JGP ไอเอสยู จูเนียร์ กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล | 3rd | ||||||
| JGP ไชน่า | 3rd | ||||||
| JGP เม็กซิโก | 1st | ||||||
| การแข่งขันระดับประเทศ | |||||||
| รายการ | 2000-2001 | 2001-2002 | 2002-2003 | ||||
| เจแปนแชมเปี้ยนชิปส์ | 1st | 1st | |||||
| เจแปนจูเนียร์แชมเปี้ยนชิปส์ | 1st | ||||||
| WD = ถอนตัว | |||||||
9.2. ผลการแข่งขันกับเดวิน แพทริค (เป็นตัวแทนของสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น)
| การแข่งขันระดับประเทศ | ||
|---|---|---|
| รายการ | 2004-05 | 2005-06 |
| ยูเอสแชมเปี้ยนชิปส์ | 15th | |
| เจแปนแชมเปี้ยนชิปส์ | 1st | |
| มิดเวสเทิร์น เซคชันแนล แชมเปี้ยนชิปส์ | 2nd | |
9.3. ผลการแข่งขันอาชีพนักสเกตเดี่ยว (เป็นตัวแทนของญี่ปุ่น)
| การแข่งขันระดับนานาชาติ | |||
|---|---|---|---|
| รายการ | 1996-97 | 1997-98 | 1998-99 |
| JGP ฮังการี | 8th | ||
| JGP เม็กซิโก | 1st | ||
| การแข่งขันระดับประเทศ | |||
| รายการ | 1996-97 | 1997-98 | 1998-99 |
| เจแปนจูเนียร์แชมเปี้ยนชิปส์ | 10th | 3rd | 10th |