1. ภาพรวม

ไทอิจิ โอโนะ (大野耐一โอโนะ ไทอิจิภาษาญี่ปุ่น) เป็นวิศวกรอุตสาหกรรมและนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งระบบการผลิตแบบโตโยต้า (Toyota Production Systemทีพีเอสภาษาอังกฤษ) ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดแนวคิดการผลิตแบบลีน (Lean Manufacturingลีน แมนูแฟคเจอริงภาษาอังกฤษ) ในสหรัฐอเมริกา เขาได้คิดค้นแนวคิดเรื่อง "ความสูญเปล่าทั้งเจ็ด" (ムダมุดะภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบนี้ และได้เขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับระบบการผลิตแบบโตโยต้า รวมถึงหนังสือชื่อ Toyota Production System: Beyond Large-Scale Production (ระบบการผลิตแบบโตโยต้า: เหนือกว่าการผลิตขนาดใหญ่) แนวคิดของเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อการเพิ่มประสิทธิภาพและลดความสูญเปล่าในกระบวนการผลิตทั่วโลก
2. ชีวิต
ไทอิจิ โอโนะมีภูมิหลังที่เชื่อมโยงกับผู้ก่อตั้งโตโยต้า และได้สร้างเส้นทางอาชีพอันโดดเด่นภายในกลุ่มบริษัทโตโยต้า ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาระบบการผลิตที่เป็นนวัตกรรม
2.1. การเกิดและช่วงต้นของชีวิต
ไทอิจิ โอโนะเกิดเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1912 ที่ต้าเหลียน ซึ่งในขณะนั้นเป็นเขตเช่ากวนตงของจักรวรรดิญี่ปุ่นในสาธารณรัฐจีน บิดาของเขามีความสัมพันธ์กับคิอิจิโร โทโยดะ บุตรชายของซากิชิ โทโยดะ ผู้ก่อตั้งบริษัทโตโยต้า
2.2. การศึกษา
โอโนะสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลายคาริยะ จังหวัดไอจิ และจากโรงเรียนเทคนิคชั้นสูงนาโกย่า (ปัจจุบันคือสถาบันเทคโนโลยีนาโกย่า) ในสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล
3. การทำงานที่โตโยต้า
โอโนะ ไทอิจิ เริ่มต้นเส้นทางอาชีพในกลุ่มบริษัทโตโยต้าตั้งแต่ปี ค.ศ. 1932 และค่อย ๆ ก้าวหน้าในตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาระบบการผลิตของเขา
3.1. การเข้าทำงานที่โตโยต้า สปินนิง
ในปี ค.ศ. 1932 ซึ่งเป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ โอโนะ ไทอิจิได้เข้าทำงานที่บริษัทโตโยต้า สปินนิง (ปัจจุบันคือโตโยต้า โบะโชกุ) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือตระกูลโทโยดะ การเข้าทำงานที่นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตการทำงานและกิจกรรมทางสังคมของเขา
3.2. การย้ายไปโตโยต้า มอเตอร์ และความก้าวหน้า
ในปี ค.ศ. 1943 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง โอโนะได้ย้ายไปทำงานที่โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (ปัจจุบันคือโตโยต้า มอเตอร์) เขาเริ่มต้นจากการเป็นหัวหน้างานในสายการผลิตเครื่องยนต์ และค่อย ๆ ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูง ในปี ค.ศ. 1949 เขาได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการโรงงานเครื่องจักร และในปี ค.ศ. 1959 ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารของบริษัท
4. การพัฒนาและจัดระบบการผลิตแบบโตโยต้า (TPS)
ไทอิจิ โอโนะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและจัดระบบระบบการผลิตแบบโตโยต้า (ทีพีเอส) ซึ่งเป็นรากฐานของการผลิตสมัยใหม่ที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพและการลดความสูญเปล่า
4.1. หลักการสำคัญ: Just-In-Time (JIT) และคัมบัง
จุดเริ่มต้นของการจัดระบบทีพีเอสของโอโนะคือหลักการ "จัสต์อินไทม์" (Just-In-TimeJITภาษาอังกฤษ) ซึ่งริเริ่มโดยคิอิจิโร โทโยดะ ผู้ก่อตั้งโตโยต้า หลักการนี้เน้นการผลิตสินค้าในปริมาณที่พอดี ในเวลาที่ต้องการ และส่งมอบในสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อลดสินค้าคงคลังและความสูญเปล่า โดยแตกต่างจากแนวคิด "ออนไทม์" ที่เน้นการตรงต่อเวลาตามตารางอย่างเคร่งครัด แต่ "จัสต์อินไทม์" จะเน้นการผลิตให้ "ทันเวลาพอดี" ตามความต้องการที่ผันผวนของลูกค้า เพื่อให้การผลิตเป็นไปตามความต้องการที่แท้จริง โอโนะได้พัฒนาระบบคัมบัง (かんばんคัมบังภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นระบบบัตรสัญญาณที่ใช้ในการควบคุมการไหลของวัสดุและข้อมูลในกระบวนการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตจะเป็นไปตามหลักการจัสต์อินไทม์
4.2. การจัดระบบแนวคิด 'มุดะ' (ความสูญเปล่า)
โอโนะได้พัฒนากรอบแนวคิดในการระบุและขจัด "มุดะ" (ムダความสูญเปล่าภาษาญี่ปุ่น) ในกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของทีพีเอส เขาเชื่อว่าการลดความสูญเปล่าเป็นหนทางเดียวที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนได้ ตัวอย่างแนวทางปฏิบัติที่เขาเสนอคือ การหยุดสายการผลิตทันทีเมื่อเกิดความผิดปกติ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและป้องกันการผลิตสินค้าที่มีข้อบกพร่อง นอกจากนี้ เขายังเน้นว่าการผลิตเกินความต้องการ 100% ถือเป็นความสูญเปล่า แม้จะมองว่าเป็นการผลิตที่ "ทำได้เกินเป้า" ก็ตาม แนวคิดเหล่านี้ทำให้โตโยต้าสามารถรักษาประสิทธิภาพและคุณภาพในการผลิตได้อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
5. การมีส่วนร่วมและแนวคิดสำคัญ
ไทอิจิ โอโนะได้นำเสนอแนวคิดและวิธีการที่เป็นรูปธรรมหลายประการที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อวงการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการลดความสูญเปล่าและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
5.1. 'มุดะ' ทั้งเจ็ด (ความสูญเปล่า)
โอโนะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนารูปแบบการระบุความสูญเปล่าที่องค์กรต่าง ๆ สามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ความสูญเปล่าทั้งเจ็ด" (Seven Wastesภาษาอังกฤษ) และกลายเป็นหลักการสำคัญในแนวทางวิชาการและปฏิบัติหลายแขนง ความสูญเปล่าเหล่านี้ได้แก่:
- การรอคอย (Delay/Waiting):** เวลาที่เสียไปในการรอคอยโดยไม่มีการเพิ่มคุณค่าใด ๆ เช่น การรอวัสดุ, การรอเครื่องจักร, หรือการรอข้อมูล
- การผลิตส่วนเกิน (Overproduction):** การผลิตสินค้าหรือบริการเกินกว่าความต้องการที่แท้จริง ซึ่งนำไปสู่สินค้าคงคลังส่วนเกินและปัญหาอื่น ๆ
- การแปรรูปเกิน (Over Processing):** การดำเนินกิจกรรมที่ไม่มีคุณค่าเพิ่มให้กับสินค้าหรือบริการ เช่น การตรวจสอบซ้ำซ้อน หรือการใช้กระบวนการที่ซับซ้อนเกินความจำเป็น
- การขนส่ง (Transportation):** การเคลื่อนย้ายวัสดุหรือสินค้าที่ไม่จำเป็น ซึ่งไม่เพิ่มคุณค่าและอาจทำให้เกิดความเสียหาย
- การเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น (Unnecessary Movement/Motion):** การเคลื่อนไหวของพนักงานหรืออุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น เช่น การเดินหาเครื่องมือ หรือการหยิบจับที่ไม่เหมาะสม
- สินค้าคงคลัง (Inventory):** การมีสินค้าคงคลังมากเกินไปในทุกขั้นตอนของกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ งานระหว่างทำ หรือสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งเป็นการปิดบังปัญหาและเพิ่มต้นทุน
- ข้อบกพร่อง (Defects):** ข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องในผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีการแก้ไขหรือผลิตซ้ำ ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียเวลา วัสดุ และแรงงาน
5.2. หลักการสิบประการสำหรับการคิดและการปฏิบัติ
โอโนะยังเป็นที่รู้จักจาก "หลักการสิบประการ" (Ten Preceptsภาษาอังกฤษ) ซึ่งเป็นแนวคิดในการคิดและปฏิบัติเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ หลักการเหล่านี้สะท้อนปรัชญาของเขาในการทำงานและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง:
# คุณคือต้นทุน จงลดความสูญเปล่าเป็นอันดับแรก
# จงพูดว่า "ฉันทำได้" เป็นอันดับแรก และจงพยายามก่อนทุกสิ่ง
# สถานที่ทำงานคือครู คุณจะพบคำตอบได้ในสถานที่ทำงานเท่านั้น
# จงทำทุกสิ่งทันที การเริ่มต้นทำบางสิ่งในตอนนี้คือหนทางเดียวที่จะชนะ
# เมื่อคุณเริ่มต้นบางสิ่ง จงอดทนกับมัน อย่าล้มเลิกจนกว่าจะทำสำเร็จ
# จงอธิบายสิ่งที่ยากให้เข้าใจง่าย และจงพูดซ้ำสิ่งที่เข้าใจง่าย
# ความสูญเปล่าถูกซ่อนอยู่ อย่าซ่อนมัน จงทำให้ปัญหามองเห็นได้
# การเคลื่อนไหวที่ไร้ค่าเท่ากับการทำให้อายุสั้นลง
# จงปรับปรุงสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงแล้วให้ดีขึ้นอีกเพื่อการปรับปรุงที่ต่อเนื่อง
# ปัญญาถูกมอบให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ประเด็นคือแต่ละคนจะสามารถใช้มันได้หรือไม่
6. อิทธิพลและการประเมิน
แนวคิดและวิธีการของไทอิจิ โอโนะได้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อภาคอุตสาหกรรมและสังคมโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการผลิตและการบริหารจัดการ
6.1. อิทธิพลต่อระบบการผลิตแบบลีน
ระบบการผลิตแบบโตโยต้า (ทีพีเอส) ที่โอโนะพัฒนาขึ้น ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้เกิดแนวคิด "การผลิตแบบลีน" (Lean Manufacturingลีน แมนูแฟคเจอริงภาษาอังกฤษ) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งต่อมาได้ขยายอิทธิพลไปทั่วโลก แนวคิดลีนได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตและการบริหารจัดการสมัยใหม่ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความสูญเปล่า และสร้างคุณค่าสูงสุดให้กับลูกค้า
6.2. การขยายตัวนอกเหนือจากการผลิต
หลักการของทีพีเอสไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในภาคการผลิตเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่ภาคส่วนอื่น ๆ อย่างกว้างขวาง ตัวอย่างเช่น ในสาขาวิศวกรรมกระบวนการขาย ได้แสดงให้เห็นว่าแนวคิดจัสต์อินไทม์สามารถนำไปปรับปรุงกระบวนการการขาย, การตลาด, และการบริการลูกค้าได้อย่างไร ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าหลักการของโอโนะสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในหลากหลายอุตสาหกรรม
6.3. รางวัลและเกียรติยศ
ไทอิจิ โอโนะได้รับการยกย่องและได้รับรางวัลเกียรติยศมากมายจากผลงานอันโดดเด่นของเขา:
- ปี ค.ศ. 1973 (ตุลาคม): ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เหรียญเกียรติยศริบบิ้นสีน้ำเงิน (藍綬褒章รันจุโฮโชภาษาญี่ปุ่น) จากรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อยกย่องความพยายามในการพัฒนาระบบการจัดการการผลิตยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์
- ปี ค.ศ. 1974 (กรกฎาคม): ได้รับรางวัลความสำเร็จจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
- ปี ค.ศ. 1982 (พฤษภาคม): ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัย ชั้นที่ 3 สายสะพาย (勲三等旭日中綬章คุนซันโต เคียวคุจิสึ จูจุโชภาษาญี่ปุ่น)
- ปี ค.ศ. 1990 (มิถุนายน): ได้รับการเลื่อนยศเป็นจูชิอิ (従四位จูชิอิภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นตำแหน่งทางราชการที่มอบให้หลังเสียชีวิต
- ปี ค.ศ. 2007: ได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศยานยนต์ญี่ปุ่น (日本自動車殿堂นิฮง จิโดฉะ เด็นโดภาษาญี่ปุ่น)
- ปี ค.ศ. 2022: ได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศยานยนต์สหรัฐอเมริกา (Automotive Hall of Fameออโตโมทีฟ ฮอลล์ ออฟ เฟมภาษาอังกฤษ)
7. ผลงานตีพิมพ์
ไทอิจิ โอโนะได้เขียนหนังสือหลายเล่มเพื่อเผยแพร่แนวคิดและปรัชญาของระบบการผลิตแบบโตโยต้า:
- Toyota Production System: Beyond Large-Scale Production (ระบบการผลิตแบบโตโยต้า: เหนือกว่าการผลิตขนาดใหญ่) ตีพิมพ์โดย Productivity Press ในปี ค.ศ. 1988 (ฉบับแปลภาษาอังกฤษ) และโดย Diamond Inc. ในปี ค.ศ. 1978 (ฉบับภาษาญี่ปุ่น: 『トヨタ生産方式-脱規模の経営をめざして-』)
- Workplace Management (การจัดการสถานที่ทำงาน) ตีพิมพ์โดย Productivity Press ในปี ค.ศ. 1988 และฉบับแปลโดย Jon Miller ตีพิมพ์โดย Gemba Press ในปี ค.ศ. 2007
8. การถึงแก่กรรม
ไทอิจิ โอโนะถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1990 ด้วยวัย 78 ปี ที่นครโตโยต้า ประเทศญี่ปุ่น เขาเสียชีวิตก่อนที่จะได้เห็นความสำเร็จและการเติบโตของแบรนด์เล็กซัส ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์หรูของโตโยต้าที่มุ่งเน้นคุณภาพและการผลิตที่ไร้ที่ติ ซึ่งเป็นผลผลิตโดยตรงจากปรัชญาการผลิตที่เขาได้วางรากฐานไว้