1. ประวัติ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงชีวิตของฮงอินโบ ชูซะกุ ตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก การศึกษา ไปจนถึงการเข้าสู่วงการหมากล้อมและการสร้างเส้นทางอาชีพของเขา
1.1. วัยเด็กและการศึกษา
ชูซะกุเกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1829 ในชื่อคุวะบะระ โทะระจิโร เป็นบุตรชายคนที่สองของคุวะบะระ วาโซ พ่อค้าชาวญี่ปุ่น และภรรยาชื่อคาเมะ บนเกาะอินโนชิมะ ใกล้เมืองโอโนมิชิ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ในวัยเด็ก เขาได้แสดงพรสวรรค์อันโดดเด่นในเกมหมากล้อม อาซาโนะ ทาดาฮิโระ เจ้าเมืองปราสาทมิฮาระ ได้กลายเป็นผู้อุปถัมภ์ของเขาหลังจากที่ได้เล่นหมากล้อมกับชูซะกุ และอนุญาตให้เขาศึกษาภายใต้การฝึกสอนของพระโฮชิน ผู้ฝึกสอนส่วนตัวของท่านอาซาโนะ ซึ่งเป็นผู้เล่นระดับมืออาชีพ
ในปี ค.ศ. 1837 ขณะอายุ 8 ปี ชูซะกุมีฝีมือเกือบเทียบเท่าผู้เล่นมืออาชีพแล้ว เขาออกจากบ้านเพื่อเข้าร่วมสำนักฮงอินโบ ซึ่งเป็นสถาบันหมากล้อมที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่นขณะนั้น และได้ผลิตปราชญ์หมากล้อมอย่างฮงอินโบ โดซาคุ และเมจินจำนวนมาก เขาเข้าเรียนอย่างเป็นทางการในฐานะลูกศิษย์ของฮงอินโบ โจวะ แต่การศึกษาหลักของเขาจะอยู่กับนักเรียนอาวุโสมากกว่า
1.2. การเข้าสู่สำนักฮงอินโบและเส้นทางอาชีพช่วงต้น
ในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1840 ชูซะกุได้รับประกาศนียบัตรมืออาชีพระดับดั้งแรก (โชดัน) ในปีเดียวกันนั้น เขาก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นชูซะกุ และได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับสองดั้ง จากนั้นในปี ค.ศ. 1841 เขาได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับสามดั้ง และในปี ค.ศ. 1842 ก็ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับสี่ดั้ง
ในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ค.ศ. 1846 ชูซะกุเดินทางกลับเอโดะ และได้แข่งขันกับเก็นอัน อินเซกิ ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันว่าเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น ชูซะกุเริ่มต้นด้วยการต่อหมากสองเม็ด แต่เก็นอันพบว่าชูซะกุแข็งแกร่งเกินไป จึงได้ยุติเกมนั้นลง และเริ่มเกมใหม่โดยชูซะกุเล่นหมากดำเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งต่อมากลายเป็นที่รู้จักในชื่อ "แมตช์หูแดง" หลังจากชัยชนะครั้งสำคัญนี้ เก็นอัน อินเซกิ ได้กล่าวว่าฝีมือของชูซะกุในเวลานั้นไม่ต่ำกว่าระดับเจ็ดดั้ง
เมื่อชูซะกุกลับมายังเอโดะ เขาไม่เพียงแต่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับห้าดั้งเท่านั้น แต่ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดอย่างเป็นทางการของฮงอินโบ ชูวะ ซึ่งกำลังจะขึ้นเป็นหัวหน้าสำนักฮงอินโบ ชูซะกุปฏิเสธในตอนแรก โดยอ้างถึงภาระผูกพันที่มีต่อท่านอาซาโนะ ผู้เป็นนายของเขา การปฏิเสธตำแหน่งผู้สืบทอดของสำนักฮงอินโบ ซึ่งเป็นสำนักหมากล้อมชั้นนำ ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ หลังจากปัญหานั้นได้รับการแก้ไข ชูซะกุก็ยอมรับตำแหน่งดังกล่าว ในฐานะผู้สืบทอดอย่างเป็นทางการของหัวหน้าสำนักฮงอินโบ ชูซะกุมีตำแหน่งที่โดดเด่นอย่างมาก ระดับฝีมือของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในที่สุดเขาก็ไปถึงระดับเจ็ดดั้ง แม้ว่าจะไม่ทราบแน่ชัดว่าเมื่อใด บางคนคิดว่าในปี ค.ศ. 1849 ในขณะที่คนอื่น ๆ กล่าวว่าในปี ค.ศ. 1853 หลังจากที่เขาบังคับให้โอตะ ยูโซ คู่แข่งและเพื่อนคนสำคัญของเขาต้องรับการต่อหมาก ชูซะกุได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด ยกเว้นเพียงชูวะเท่านั้น ชูซะกุด้วยความเคารพอาจารย์อย่างสูง จึงปฏิเสธที่จะเล่นหมากขาวกับชูวะ ทำให้ไม่มีการวัดความแตกต่างของฝีมือระหว่างทั้งสองอย่างชัดเจน
2. อาชีพและผลงานระดับมืออาชีพ
ส่วนนี้จะเจาะลึกถึงความสำเร็จและผลงานสำคัญในอาชีพการเป็นนักหมากล้อมของฮงอินโบ ชูซะกุ
2.1. การแข่งขันโอะชิโระโงะและสถิติไร้พ่าย
ชูซะกุเริ่มเข้าร่วมการแข่งขันโอะชิโระโงะ (御城碁, การแข่งขันหน้าปราสาทโชกุน) ประจำปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1849 และสร้างสถิติอันน่าทึ่งด้วยการชนะ 19 เกมรวดโดยไม่แพ้ใครเลย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของฉายา "ชูซะกุ ผู้คงกระพัน" ของเขา ชูซะกุให้ความสำคัญกับสถิติการชนะติดต่อกันนี้อย่างมาก ถึงขั้นปฏิเสธการเล่นเกมแบบต่อหมาก (เช่น การต่อสองเม็ด) แม้จะได้รับการเสนอจากชูวะ โดยกล่าวว่าเขาไม่สามารถรับประกันชัยชนะได้หากมีการต่อหมาก อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าหากเป็นการเล่นหมากขาวแบบไม่มีคอมิ (แต้มต่อ) เขายินดีที่จะเล่นกับใครก็ได้
ตารางด้านล่างนี้แสดงสถิติการแข่งขันโอะชิโระโงะ 19 เกมของชูซะกุ:
สถิติ | ปี | คู่แข่ง | สำนัก | ผล |
---|---|---|---|---|
1 | 1849 | ยาสุอิ ซันจิ | สำนักยาสุอิ | หมากดำชนะ 11 แต้ม |
2 | ซากากุจิ เซ็นโทกุ | สำนักซากากุจิ | หมากดำชนะน็อก | |
3 | 1850 | ซากากุจิ เซ็นโทกุ | สำนักซากากุจิ | หมากดำชนะ 8 แต้ม |
4 | อิโตะ โชวะ | หมากดำชนะ 3 แต้ม | ||
5 | 1851 | ฮายาชิ มอนนิว | สำนักฮายาชิ | หมากดำชนะ 7 แต้ม |
6 | ยาสุอิ ซันจิ | สำนักยาสุอิ | หมากดำชนะน็อก | |
7 | 1852 | อิโนอุเอะ เซ็ตสึซัง อินเซกิ | สำนักอิโนอุเอะ | หมากขาวชนะ 2 แต้ม |
8 | อิโตะ โชวะ | หมากดำชนะ 6 แต้ม | ||
9 | 1853 | ซากากุจิ เซ็นโทกุ | สำนักซากากุจิ | หมากดำชนะน็อก |
10 | ยาสุอิ ซันจิ | สำนักยาสุอิ | หมากขาวชนะ 1 แต้ม | |
11 | 1854 | อิโนอุเอะ เซ็ตสึซัง อินเซกิ | สำนักอิโนอุเอะ | หมากขาวชนะน็อก |
12 | 1856 | อิโตะ โชวะ | หมากขาวชนะน็อก | |
13 | 1857 | ยาสุอิ ซันจิ | สำนักยาสุอิ | หมากดำชนะน็อก |
14 | 1858 | ซากากุจิ เซ็นโทกุ | สำนักซากากุจิ | หมากขาวชนะ 3 แต้ม |
15 | 1859 | อิโตะ โชวะ | หมากดำชนะ 9 แต้ม | |
16 | ฮัตโตริ เซเต็ตสึ | สำนักฮัตโตริ | หมากดำชนะ 13 แต้ม | |
17 | 1860 | ฮายาชิ ยูมิ | สำนักฮายาชิ | หมากขาวชนะ 4 แต้ม |
18 | 1861 | ฮายาชิ มอนนิว | สำนักฮายาชิ | หมากขาวชนะ 14 แต้ม |
19 | ฮายาชิ ยูมิ | สำนักฮายาชิ | หมากขาวชนะน็อก |
2.2. แมตช์สำคัญและความสัมพันธ์กับคู่แข่ง
ในปี ค.ศ. 1853 กลุ่มนักหมากล้อมได้รวมตัวกันที่คฤหาสน์แห่งหนึ่งในเอโดะ ซึ่งประกอบด้วยยาสุอิ ซันจิ, อิโตะ โชวะ, ซากากุจิ เซ็นโทกุ, ฮัตโตริ เซเต็ตสึ และโอตะ ยูโซ พวกเขาหารือกันเกี่ยวกับชูซะกุ และเห็นพ้องต้องกันว่าชูซะกุเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น แต่โอตะไม่เห็นด้วย เขาอ้างว่าเขากำลังอยู่ในระหว่างการแข่งขันกับชูซะกุ ซึ่งเสมอกันอยู่ 3-3 เกม อาคาอิ โกโรซากุ ผู้สนับสนุนหมากล้อมที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ได้ยินเรื่องนี้จึงตัดสินใจสนับสนุนการแข่งขันหมากล้อม 30 เกมที่ไม่เคยมีมาก่อน (เรียกว่า ซันจูบังโงะ) ระหว่างโอตะและชูซะกุ
การแข่งขันชุดนี้เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1853 โดยโอตะมีอายุ 46 ปีและเป็นระดับเจ็ดดั้ง ขณะที่ชูซะกุอายุ 24 ปีและเป็นระดับหกดั้ง เกมการแข่งขันจัดขึ้นสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งเร็วกว่าการแข่งขัน 10 เกมทั่วไป โอตะทำผลงานได้ดีจนกระทั่งเกมที่ 11 เมื่อชูซะกุเริ่มโต้กลับ โอตะตามหลังอยู่ 4 เกมหลังจากเกมที่ 17 เกมที่ 21 เล่นในเดือนกรกฎาคม แต่เกมที่ 22 ไม่ได้เล่นจนกระทั่งเดือนตุลาคมของปีเดียวกัน โดยไม่ทราบสาเหตุ เกมที่ 22 เล่นที่บ้านของโอตะ ซึ่งแตกต่างจากเกมอื่น ๆ ที่เล่นในสถานที่ที่เป็นกลางมากกว่า โอตะแพ้อีกครั้ง และสถานที่จัดงานจึงถูกเปลี่ยนไปเป็นสถานที่ที่เป็นกลางมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่าเกมที่ 23 นั้นมีการกำหนดผลล่วงหน้า มันกินเวลานานเกือบ 24 ชั่วโมงติดต่อกัน และจบลงด้วยการเสมอ ซึ่งช่วยให้โอตะรอดพ้นจากความอับอาย การเสมอกันหลังจากได้เล่นหมากขาวถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาก จนกระทั่งถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการเลื่อนการแข่งขันออกไป พร้อมกับการเรียกตัวชูซะกุเข้าร่วมการแข่งขันหน้าปราสาท
2.3. แมตช์อันโดดเด่นและรูปแบบการเล่น
ชูซะกุมีชื่อเสียงจากรูปแบบการเล่นที่ "เรียบง่ายและงดงาม" (平明秀麗) และการตัดสินสถานการณ์ที่แม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมที่เขาเล่นหมากดำนั้นได้รับการยกย่องว่า "มั่นคงและไร้เทียมทาน" มีเรื่องเล่าว่าเมื่อมีคนถามถึงผลการแข่งขันหน้าปราสาท ชูซะกุตอบเพียงว่า "ผมเล่นหมากดำ" (ซึ่งหมายถึงชัยชนะที่ง่ายดาย แม้บางคนมองว่าเป็นคำตอบที่แสดงความถ่อมตน)
- แมตช์หูแดง (耳赤の一局, Ear-reddening game): แมตช์นี้เล่นเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1846 กับเก็นอัน อินเซกิ ในการเปิดหมากแบบโอ-นานะโจเซกิ ชูซะกุ (ผู้เล่นหมากดำ) ได้ทำผิดพลาด และเก็นอันได้เดินหมากที่เป็นความลับ ทำให้ชูซะกุตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ ชูซะกุพยายามต่อสู้อย่างหนัก แต่เมื่อถึงช่วงกลางเกม ผู้ชมส่วนใหญ่คิดว่าเก็นอันกำลังจะชนะ ยกเว้นแพทย์คนหนึ่งที่สังเกตการณ์อยู่ แพทย์ผู้นี้ยอมรับว่าเขาไม่เชี่ยวชาญหมากล้อม แต่สังเกตเห็นว่าหูของเก็นอันแดงขึ้นหลังจากที่ชูซะกุเดินหมากเม็ดที่ 127 (หมากดำรูป ▲) ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเก็นอันประหลาดใจและเสียความมั่นใจ เม็ดนี้เป็น "เม็ดหูแดง" ที่โด่งดัง ซึ่งเป็นเม็ดอัจฉริยะที่พลิกสถานการณ์ของเกมได้อย่างรวดเร็ว เม็ดนี้ขยายขอบเขตของพื้นที่ด้านบน ลดความแข็งแกร่งของหมากขาวด้านขวา ช่วยเหลือหมากอ่อนด้านล่างทางอ้อม และเล็งการรุกเข้าด้านซ้าย ถือเป็นเม็ดที่ได้ประโยชน์สี่ประการในคราวเดียว ในท้ายที่สุด ชูซะกุชนะเกมนี้ไป 2 แต้ม
- การประเมินโดยปัญญาประดิษฐ์: ปัญญาประดิษฐ์หมากล้อมสมัยใหม่ เช่น ไฟน์อาร์ต (FineArt) และคาตาโกะ (KataGo) ไม่ถือว่าเม็ดหูแดงเป็นเม็ดที่ดีที่สุด โดยจัดว่าเป็น "เม็ดที่ผ่อนคลาย" (緩手) และเสนอเม็ดอื่น ๆ ที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม นักหมากล้อมมืออาชีพบางคน เช่น โอฮาชิ ทาคุฟุมิ ได้ชี้ให้เห็นว่าเม็ดนี้อาจเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาเพื่อทำลายจังหวะของคู่ต่อสู้ ทำให้ AI ประเมินค่าต่ำลง
- การประเมินโดยปัญญาประดิษฐ์: ก่อนยุค AI การเปิดหมากแบบชูซะกุถูกมองว่า "เชื่องช้า" สำหรับเกมหมากล้อมสมัยใหม่ที่มีการใช้คอมิ (แต้มต่อ) อย่างไรก็ตาม AI หมากล้อมอย่างไฟน์อาร์ตและคาตาโกะได้ประเมินใหม่ว่าการเปิดหมากแบบนี้เป็นเม็ดที่ดีที่สุด ทำให้มันกลับมาได้รับความนิยมในการเล่นระดับมืออาชีพอีกครั้ง

3. การยอมรับและตำแหน่ง
ส่วนนี้จะกล่าวถึงการยกย่องและตำแหน่งที่ฮงอินโบ ชูซะกุได้รับทั้งในช่วงชีวิตและหลังเสียชีวิต
3.1. การประเมินและตำแหน่งหลังเสียชีวิต
หลังจากเสียชีวิต ชูซะกุได้รับการขนานนามว่าเป็น "ปราชญ์หมากล้อม" (棋聖) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เคยมีเพียงฮงอินโบ โดซาคุ และฮงอินโบ โจวะ เท่านั้นที่ได้รับ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งของโจวะถูกเพิกถอนในภายหลังเนื่องจากมีรายงานว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผนเพื่อให้ได้ตำแหน่งเมจิน โกโดโคโระ หลังยุคเมจิ ความนิยมของชูซะกุเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเขาก็ได้รับการเรียกขานว่าเป็นปราชญ์หมากล้อมแทนโจวะ แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้รับตำแหน่งเมจิน แต่หลายคนก็ยังคงยกให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์หมากล้อม
ในปี ค.ศ. 2004 ชูซะกุได้รับการเชิดชูเกียรติในหอเกียรติยศหมากล้อมแห่งแรก พร้อมกับโทกูงาวะ อิเอยาซุ, ฮงอินโบ ซันสะ และฮงอินโบ โดซาคุ ในปัจจุบัน ชื่อเสียงของชูซะกุในญี่ปุ่นมีความสมดุลมากขึ้น โดยมีตำราจำนวนมากเกี่ยวกับชูซะกุและโจวะได้รับการตีพิมพ์ แต่ในโลกตะวันตก ชื่อเสียงของเขายังคงถูกยกย่องเกินจริงอยู่บ้าง เนื่องจากมีแหล่งข้อมูลที่จำกัด
4. ชีวิตส่วนตัว
ชูซะกุได้แต่งงานกับฮานะ บุตรสาวของฮงอินโบ โจวะ เขามีชื่อเสียงในด้านบุคลิกภาพที่ยอดเยี่ยมและคุณธรรมอันสูงส่ง
5. การเสียชีวิต
ในปี ค.ศ. 1862 เกิดการระบาดของอหิวาตกโรคไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ชูซะกุได้ดูแลผู้ป่วยในสำนักฮงอินโบอย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่าฮงอินโบ ชูวะ ผู้เป็นอาจารย์จะห้ามปรามก็ตาม จากการดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ชูซะกุก็ล้มป่วยด้วยโรคอหิวาตกโรคและเสียชีวิตลงในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 1862 ขณะมีอายุได้ 33 ปี การเสียชีวิตของเขาทำให้การแข่งขันหน้าปราสาทในปีนั้นถูกยกเลิก ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดการแข่งขันอันทรงเกียรตินี้ในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ด้วยความทุ่มเทในการดูแลผู้ป่วยของชูซะกุ ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอหิวาตกโรคในสำนักฮงอินโบอีกเลยนอกจากตัวเขาเอง
6. มรดกและอิทธิพล
ส่วนนี้จะสำรวจผลกระทบที่ฮงอินโบ ชูซะกุมีต่อวงการหมากล้อม วัฒนธรรม และการประเมินทางประวัติศาสตร์
6.1. ผลกระทบต่อวงการหมากล้อม
การเปิดหมากแบบชูซะกุที่เขาพัฒนาให้สมบูรณ์แบบได้กลายเป็นรูปแบบการเปิดหมากที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและเป็นพื้นฐานของกลยุทธ์การเปิดเกมจนถึงทศวรรษที่ 1930 เกมของชูซะกุประมาณ 400 เกม ได้รับการรวบรวมไว้ในหนังสือ เคียวเงียวกุ โยอิน (敲玉餘韵) โดยอิชิตานิ ฮิโรซากุ ในปี ค.ศ. 1900 นักหมากล้อมมืออาชีพจำนวนมากยังคงศึกษาเกมของเขาอย่างจริงจัง ตัวอย่างเช่น อี ชางโฮ นักหมากล้อมชาวเกาหลีใต้ผู้ยิ่งใหญ่ เคยกล่าวไว้ว่า "ผมคงไม่มีวันเทียบเท่าอาจารย์ชูซะกุได้ตลอดชีวิต" นอกจากนี้ ยังมีแนวคิด "หมายเลขชูซะกุ" ซึ่งคล้ายคลึงกับหมายเลขแอร์ดิชสำหรับนักหมากล้อม เพื่อแสดงความเชื่อมโยงระหว่างผู้เล่นกับชูซะกุ
6.2. ผลกระทบทางวัฒนธรรม
ชูซะกุเป็นที่รู้จักในหมู่สาธารณชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เด็ก ๆ ในฐานะ "ผู้เล่นหมากล้อมที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์" ผ่านมังงะและอนิเมะซีรีส์เรื่อง ฮิคารุเซียนโกะ ซึ่งในเรื่อง วิญญาณของฟูจิวาระ โนะ ซาอิ ได้เข้าสิงร่างของชูซะกุ
เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ยังคงมีอนุสรณ์สถานหินที่ระลึกถึงชีวิตของชูซะกุตั้งอยู่ที่ศาลเจ้าอิโตะซากิในเมืองมิฮาระ จังหวัดฮิโรชิมะ ซึ่งปรากฏในมังงะเรื่อง ฮิคารุเซียนโกะ ด้วย นอกจากนี้ บ้านเกิดของเขาบนเกาะอินโนชิมะยังได้รับการปรับปรุงให้เป็น "พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์หมากล้อมฮงอินโบ ชูซะกุ" ในปัจจุบัน เมืองโอโนมิชิ ซึ่งเป็นเขตปกครองของอินโนชิมะ ได้ยกให้หมากล้อมเป็น "กีฬาประจำเมือง" และจัดงาน "เทศกาลหมากล้อมฮงอินโบ ชูซะกุ" ปีละสองครั้ง


6.3. การประเมินทางประวัติศาสตร์และข้อถกเถียง
การประเมินรูปแบบการเล่นที่มีชื่อเสียงของชูซะกุโดยปัญญาประดิษฐ์หมากล้อมสมัยใหม่ (เช่น เม็ดหูแดงและการเปิดหมากแบบชูซะกุ) ได้นำไปสู่ความสนใจและการถกเถียงใหม่ ๆ เกี่ยวกับกลยุทธ์ของเขา
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2014 กูเกิล ดูเดิล ได้ฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 185 ปีของชูซะกุ เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสหราชอาณาจักร เนื่องจากบางคนรู้สึกว่าการให้เกียรติบุคคลชาวญี่ปุ่นในวันดังกล่าวเป็นการละเลยการฉลองครบรอบ 70 ปีของการยกพลขึ้นบกที่นอร์ม็องดี ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้มีการแก้ไขหน้าเว็บ Google.uk อย่างเร่งด่วน
7. ผลงานที่เกี่ยวข้อง
มีสื่อและผลงานหลายชิ้นที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและผลงานของฮงอินโบ ชูซะกุ ได้แก่:
- หนังสือ:
- John Power, Invincible: The Games of Shusaku
- Honinbo Shusaku - Complete Game Collection
- Kougyoku Yoin (รวบรวมโดย อิชิตานิ ฮิโรซากุ)
- Shusaku (ในชุด Nihon Igo Taikei 15, โดย อิชิดะ โยชิโอะ)
- อิชิดะ โยชิโอะ, Dosaku, Shusaku, Go Seigen: Three Great Stars Who Paved the Way
- ฟุกุอิ มาซาอากิ, Shurei Shusaku (Igo Koten Meikyoku Senshu)
- ฟุกุอิ มาซาอากิ, Meijin Meikyoku Sen Shusaku
- ทากากิ โชอิจิ, Shusaku Kiwami no Itte
- มังงะและอนิเมะ:
- ฮิคารุเซียนโกะ (Hikaru no Go)
- วิดีโอเกมสำหรับคอมพิวเตอร์:
- Honinbo Shusaku Igo Trainer (โดย Nihon Soft & Hard, สำหรับ PC-8800 series, ค.ศ. 1983)
- Shusaku Oshirogo Shu (โดย Athena Software, สำหรับ FM-8)
8. แหล่งข้อมูลอื่น
- [http://senseis.xmp.net/?Shusaku Sensei's Library]
- [http://www.yomiuri.co.jp/igo_e/021.htm Daily Yomiuri article]
- [http://gobase.org/information/players/?pp=Shusaku Gobase player stats and games listing]
- [https://honinbo.shusaku.in/index.html พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์หมากล้อมฮงอินโบ ชูซะกุ]