1. ภาพรวม

ศศลักษณ์ ไหประโคน (เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2539) เป็นนักฟุตบอลชาวไทยผู้เล่นในตำแหน่งวิงแบ็คหรือปีกให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในไทยลีก และทีมชาติไทย เขามีชื่อเล่นว่า "พี" ศศลักษณ์เป็นที่รู้จักในฐานะนักฟุตบอลที่มีความสามารถรอบด้าน สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งแบ็คซ้ายและปีกซ้าย และเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทั้งสโมสรและทีมชาติ
ตลอดเส้นทางอาชีพ ศศลักษณ์ประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับสโมสร โดยคว้าแชมป์ไทยลีกกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้หลายสมัย รวมถึงไทยเอฟเอคัพและไทยลีกคัพ นอกจากนี้ เขายังสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นชาวไทยคนที่สองที่ได้ค้าแข้งในเคลีก ลีกสูงสุดของประเทศเกาหลีใต้กับช็อนบุก ฮุนได มอเตอร์ส และเป็นผู้เล่นชาวไทยคนที่สองที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเกาหลีใต้ได้สำเร็จ ในระดับทีมชาติ ศศลักษณ์เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่คว้าเหรียญทองซีเกมส์ และทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่คว้าแชมป์เอเอฟเอฟ แชมเปียนชิพ และคิงส์คัพ
อย่างไรก็ตาม อาชีพของศศลักษณ์ยังเผชิญกับเหตุการณ์สำคัญเมื่อเขาตกเป็นเป้าของการเหยียดเชื้อชาติจากผู้เล่นทีมคู่แข่งในเคลีก ซึ่งนำไปสู่การตอบสนองจากสโมสรและลีก รวมถึงการลงโทษผู้กระทำผิด เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการต่อต้านการเลือกปฏิบัติในวงการฟุตบอล
2. ข้อมูลส่วนบุคคล
ศศลักษณ์ ไหประโคน มีชื่อเล่นว่า "พี" เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2539 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย เขามีส่วนสูง 173 cm และถนัดเท้าซ้าย ตำแหน่งหลักที่เขาเล่นคือแบ็คซ้ายหรือวิงแบ็ค แต่ก็สามารถเล่นในตำแหน่งปีกได้เช่นกัน ความสามารถในการเล่นหลายตำแหน่งทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่มีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับทั้งสโมสรและทีมชาติ
3. อาชีพสโมสร
ศศลักษณ์ ไหประโคนเริ่มต้นเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรในประเทศ ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญในลีกสูงสุดของไทยและมีโอกาสไปค้าแข้งในต่างประเทศ
3.1. แบงค็อก ยูไนเต็ด เอฟซี
ศศลักษณ์เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลอาชีพกับแบงค็อก ยูไนเต็ด ในปี พ.ศ. 2557 ในฤดูกาลแรกเขาได้ลงสนามเพียง 1 นัดในลีกในฐานะตัวสำรอง อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี พ.ศ. 2558 ถึง พ.ศ. 2560 เขาได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้นและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในฐานะผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจับตามอง ตลอดการค้าแข้งกับแบงค็อก ยูไนเต็ด เขาลงเล่นไปทั้งหมด 13 นัดในลีกและทำประตูแรกและประตูเดียวของเขาให้กับสโมสรในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559 ในนัดที่แบงค็อกเปิดบ้านเอาชนะบีอีซี เทโรศาสน 3-0 นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 ศศลักษณ์ยังเคยเข้าร่วมฝึกซ้อมกับเอฟซี โตเกียว ในเจลีก ญี่ปุ่น อีกด้วย
3.2. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอฟซี
ศศลักษณ์ย้ายมาร่วมทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรบ้านเกิดของเขา โดยเริ่มต้นจากการยืมตัวและต่อมาได้ย้ายมาร่วมทีมถาวร
ในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้ยืมตัวศศลักษณ์ ไหประโคนจากแบงค็อก ยูไนเต็ด ด้วยสัญญา 6 เดือน และเขาได้สวมเสื้อหมายเลข 6 เขาลงเล่นนัดแรกให้กับบุรีรัมย์ในฐานะตัวจริงในวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะราชนาวี 2-0 ศศลักษณ์มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ไทยลีกได้สำเร็จในฤดูกาลนั้น
ในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้ซื้อขาดศศลักษณ์ ไหประโคนจากทรูแบงค็อก ยูไนเต็ดอย่างเป็นทางการ ในฤดูกาล 2561 เขาลงเล่นเกมลีกครั้งแรกในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะบางกอกกล๊าส 1-0 โดยลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 70 ในการแข่งขันโตโยต้า ลีกคัพ วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ศศลักษณ์ทำประตูแรกให้กับสโมสร ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะลำปาง เอฟซี 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ต่อมาในวันที่ 30 มิถุนายน เขาทำประตูแรกในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1 และในวันที่ 29 กันยายน เขาทำประตูที่สองในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะพัทยา ยูไนเต็ด 3-0 ซึ่งเป็นนัดที่มีการฉลองแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 6 ของสโมสร
ในฤดูกาล 2562 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ในนัดชิงชนะเลิศไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดพบกับสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬากองทัพบก ศศลักษณ์ลงเล่นเป็นตัวจริงและช่วยให้บุรีรัมย์พลิกแซงเอาชนะ 3-1 คว้าแชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพสมัยแรกได้สำเร็จ วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ในช้าง เอฟเอคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้าย ศศลักษณ์ทำประตูช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านแซงเอาชนะพีทีที ระยอง 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ต่อมาในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ศศลักษณ์ทำประตูแรกในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 และยังทำประตูได้อีกในวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ในนัดที่บุรีรัมย์เอาชนะพีทีที ระยอง 5-0 และในวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ในนัดที่บุรีรัมย์เอาชนะเชียงใหม่ 4-0
ในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ในโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศศลักษณ์ทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปชนะเจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 2-1 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ในช้าง เอฟเอคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศศลักษณ์ทำหนึ่งประตู ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะระยอง 5-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของช้าง เอฟเอคัพ วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2562 บุรีรัมย์บุกไปเสมอตราด 2-2 และต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ศศลักษณ์เป็นผู้ยิงคนที่สี่ แต่ยิงข้ามคานไป แม้ว่าบุรีรัมย์จะชนะการยิงลูกโทษ 5-4 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2562 ในโตโยต้า ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์พบกับพีที ประจวบ ที่เอสซีจีสเตเดียม ผลจบลงด้วยการเสมอ 1-1 ในเวลา 120 นาที และต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ศศลักษณ์เป็นผู้ยิงคนที่เจ็ดและยิงเข้าประตูไป แต่สุดท้ายบุรีรัมย์พ่ายแพ้ในช่วงลูกโทษ 7-8 พลาดโอกาสคว้าแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย จบฤดูกาล ศศลักษณ์ลงเล่นในลีกครบ 30 นัด ยิงได้ 3 ประตู ช่วยให้สโมสรจบอันดับที่สองของตาราง
ในฤดูกาล 2563-64 วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ศศลักษณ์ยิงหนึ่งประตูในนัดกระชับมิตร ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะขอนแก่น 2-0 ต่อมาในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2563 ในเกมกระชับมิตรนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะโปลิศ เทโร 2-0 ศศลักษณ์ได้เปลี่ยนหมายเลขเสื้อจากเดิม 6 ไปเป็นหมายเลข 2 ซึ่งเป็นหมายเลขเก่าของธีราทร บุญมาทัน เขาลงสนามในไทยลีก ทั้งสิ้น 26 นัด ช่วยให้ทีมจบอันดับที่สองของตาราง
หลังจากกลับมาจากช็อนบุก ฮุนได มอเตอร์ส ในฤดูกาล 2564-65 ศศลักษณ์ได้ลงเล่นและทำประตูให้แก่สโมสรในการแข่งขันรีโว่ ลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะระยอง 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ เขายังมีส่วนสำคัญในการช่วยให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ไทยลีก ไทยเอฟเอคัพ และไทยลีกคัพ ในฤดูกาลนั้น นอกจากนี้ เขายังลงเล่น 1 นัดในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2022 รอบเพลย์ออฟในฤดูกาลนั้นด้วย
ในฤดูกาล 2565-66 ศศลักษณ์ทำประตูแรกในฤดูกาลในการแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะสมุทรปราการ ซิตี้ 5-1 เขายังคงเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ไทยลีก ไทยเอฟเอคัพ และไทยลีกคัพ ได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้ และลงเล่น 1 นัดในไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ
3.3. ช็อนบุก ฮุนได มอเตอร์ส (ยืมตัว)
ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้ประกาศปล่อยยืมตัวศศลักษณ์ให้กับช็อนบุก ฮุนได มอเตอร์ส สโมสรชั้นนำในเคลีก เกาหลีใต้ เป็นระยะเวลา 6 เดือน เขาเข้าร่วมทีมเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2564 การย้ายทีมครั้งนี้ทำให้ศศลักษณ์เป็นผู้เล่นชาวไทยคนที่สองที่ได้เล่นในเคลีก ต่อจากปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่เคยค้าแข้งที่เกาหลีใต้เมื่อปี พ.ศ. 2527 นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้เล่นจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนที่สี่ และเป็นคนแรกที่ได้เล่นในเคลีก 1 ภายใต้โควตานักเตะอาเซียน
ในวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564 ศศลักษณ์ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเป็นครั้งแรกให้กับช็อนบุก ฮุนได มอเตอร์ส ในรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2021 รอบ 16 ทีมสุดท้าย พบกับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด แม้ว่าเขาจะได้รับโอกาสลงสนามน้อยครั้งในลีก แต่เขาก็มีส่วนช่วยให้ช็อนบุกชนะเลิศเคลีก 1 ได้สำเร็จ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นชาวไทยคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเกาหลีใต้ได้สำเร็จ ต่อจากปิยะพงษ์ ผิวอ่อน หลังจากสิ้นสุดสัญญายืมตัว เขากลับสู่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565
4. อาชีพทีมชาติ
ศศลักษณ์ ไหประโคน เริ่มต้นเส้นทางกับทีมชาติไทยในระดับเยาวชน ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติชุดใหญ่
4.1. ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
ในปี พ.ศ. 2560 ศศลักษณ์เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งชนะเลิศดูไบคัพที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเขาทำประตูได้ในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 ในนัดที่เอาชนะมาเลเซีย 4-0 นอกจากนี้ เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมซีเกมส์ 2017 ที่คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ โดยลงเล่นครบทั้ง 6 นัดในทัวร์นาเมนต์นั้น ก่อนหน้านั้น ในระดับทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เขายังเคยทำประตูได้ในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ในนัดที่เอาชนะเวียดนาม 3-1 ในการแข่งขันทันเนียนคัพ
4.2. ทีมชาติไทย
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 ศศลักษณ์ถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในนัดกระชับมิตรที่พบกับจีน และได้ลงเล่นเป็นนัดแรกในฐานะตัวสำรองในนาทีที่ 81 แทนที่อดิศร พรหมรักษ์ ผลการแข่งขันนัดนั้น ทีมชาติไทยแพ้จีนไป 0-2 เขายังถูกเรียกติดทีมชาติสำหรับการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 และเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติไทยในเอเอฟซี เอเชียนคัพ 2019
ในวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ศศลักษณ์มีชื่อติดทีมชาติไทยเบื้องต้น 33 คน และในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2562 เขายังคงมีชื่อติดทีมชาติไทยในรอบที่ตัดตัวเหลือ 23 คนสุดท้าย สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดที่ไทยจะเปิดบ้านพบกับเวียดนามและออกไปเยือนอินโดนีเซีย เขาได้ลงสนามในรอบคัดเลือกนี้ในนัดที่พบกับอินโดนีเซีย (วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2562) และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2562) รวมถึงในนัดที่พบกับอินโดนีเซีย (วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2564) และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (วันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2564) ทำให้เขามีสถิติลงสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่รวม 23 นัด
ศศลักษณ์ยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติไทยที่คว้าแชมป์เอเอฟเอฟ แชมเปียนชิพ 2022 และคิงส์คัพ 2024
5. รางวัลและเกียรติประวัติ
ศศลักษณ์ ไหประโคนได้รับรางวัลและเกียรติประวัติมากมายตลอดเส้นทางอาชีพทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ
5.1. ระดับสโมสร
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
- ไทยลีก (4): พ.ศ. 2560, พ.ศ. 2561, พ.ศ. 2564-65, พ.ศ. 2565-66
- ไทยเอฟเอคัพ (2): พ.ศ. 2564-65, พ.ศ. 2565-66
- ไทยลีกคัพ (2): พ.ศ. 2564-65, พ.ศ. 2565-66
- ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ (1): พ.ศ. 2562
ช็อนบุก ฮุนได มอเตอร์ส
- เคลีก 1 (1): พ.ศ. 2564
5.2. ระดับทีมชาติ
ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
- ซีเกมส์
เหรียญทองในกีฬาฟุตบอลซีเกมส์ เหรียญทอง (1): พ.ศ. 2560
- ดูไบคัพ (1): พ.ศ. 2560
ทีมชาติไทย
- เอเอฟเอฟ แชมเปียนชิพ (1): พ.ศ. 2565
- คิงส์คัพ (1): พ.ศ. 2567
5.3. ส่วนบุคคล
- เอเอฟเอฟ แชมเปียนชิพ ทีมยอดเยี่ยม (1): พ.ศ. 2565
6. เหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติ
ในวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ศศลักษณ์ ไหประโคน ตกเป็นเป้าของการเหยียดเชื้อชาติจากผู้เล่นสามคนของอุลซัน ฮุนได ซึ่งเป็นสโมสรคู่แข่งในเคลีก เกาหลีใต้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย เมื่อพาร์ค ยง-อู และอี กยู-ซอง ได้เรียกอี มยอง-แจ เพื่อนร่วมทีมของพวกเขาว่า "ศศลักษณ์" หรือ "โควตาอาเซียน" เนื่องจากอี มยอง-แจมีผิวคล้ำ เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดความขัดแย้งและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากแฟนบอลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สโมสรอุลซัน ฮุนไดได้ออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการสำหรับความคิดเห็นเหยียดเชื้อชาติที่ผู้เล่นของพวกเขาโพสต์บนอินสตาแกรมต่อศศลักษณ์ และให้คำมั่นว่าจะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในสโมสร พวกเขายังประกาศว่าจะจัดการฝึกอบรมเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการเหยียดเชื้อชาติ และจะสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการทางวินัยเพิ่มเติม
ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2566 คณะกรรมการวินัยของเคลีกได้ประกาศบทลงโทษ โดยสั่งพักการแข่งขันหนึ่งนัดและปรับเงิน 15.00 M KRW แก่ผู้เล่นที่เกี่ยวข้อง
7. สถิติอาชีพนักกีฬา
7.1. สโมสร
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอคัพ | ลีกคัพ | เอเชีย | อื่น ๆ | ทั้งหมด | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ระดับ | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
แบงค็อก ยูไนเต็ด | พ.ศ. 2557-2560 | ไทยลีก | 13 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 13 | 1 |
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | พ.ศ. 2560 (ยืมตัว) | ไทยลีก | 9 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 9 | 0 |
พ.ศ. 2560-2563 | ไทยลีก | 106 | 6 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 106 | 6 | |
พ.ศ. 2563-64 | ไทยลีก | 26 | 0 | 5 | 0 | - | 2 | 0 | - | 33 | 0 | |||
พ.ศ. 2564-65 | ไทยลีก | 15 | 0 | 4 | 0 | 5 | 1 | 1 | 0 | - | 25 | 1 | ||
พ.ศ. 2565-66 | ไทยลีก | 19 | 0 | 3 | 1 | 4 | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | 27 | 1 | |
พ.ศ. 2566-67 | ไทยลีก | 28 | 0 | 2 | 0 | 2 | 0 | 6 | 0 | 1 | 0 | 39 | 0 | |
ช็อนบุก ฮุนได มอเตอร์ส (ยืมตัว) | พ.ศ. 2564 | เคลีก 1 | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 3 | 0 |
7.2. ทีมชาติ
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
ไทย U21 | พ.ศ. 2559 | 2 | 1 |
ไทย U23 | พ.ศ. 2560 | 12 | 1 |
ไทย | พ.ศ. 2561 | 3 | 0 |
พ.ศ. 2562 | 2 | 0 | |
พ.ศ. 2563 | 0 | 0 | |
พ.ศ. 2564 | 4 | 0 | |
พ.ศ. 2565 | 6 | 0 | |
พ.ศ. 2566 | 4 | 0 | |
พ.ศ. 2567 | 2 | 0 | |
ทั้งหมด | 35 | 0 |
7.2.1. การทำประตูในนามทีมชาติ
ลำดับ | วันที่ | สถานที่ | คู่แข่ง | ทำประตู | ผล | การแข่งขัน | |
---|---|---|---|---|---|---|---|
รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี | |||||||
1. | 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559 | นครโฮจิมินห์ เวียดนาม | เวียดนาม U21 | 2-1 | 3-1 | ทันเนียนคัพ | |
รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี | |||||||
1. | 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 | ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | มาเลเซีย U23 | 2-0 | 4-0 | ดูไบคัพ |