1. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
อี ซึง-ฮุน เกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2503 ที่จังหวัดชุงช็องเหนือ เขตชุงวอน ประเทศเกาหลีใต้ เขามีส่วนสูง 172 cm ซึ่งเป็นส่วนสูงที่ได้เปรียบในรุ่นน้ำหนักของเขา
2. อาชีพนักมวยสากลอาชีพ
อี ซึง-ฮุน เริ่มต้นอาชีพนักมวยสากลอาชีพในปี พ.ศ. 2520 และพัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็ว โดยได้แชมป์ระดับประเทศก่อนจะก้าวสู่สังเวียนโลกเพื่อท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลกในหลายรุ่นน้ำหนัก เขาประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการคว้าแชมป์โลก IBF รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท ก่อนจะยุติอาชีพด้วยสถิติการชก 52 ครั้ง ชนะ 45 ครั้ง (ชนะน็อก 25 ครั้ง) เสมอ 1 ครั้ง และแพ้ 6 ครั้ง
2.1. การเปิดตัวและช่วงเริ่มต้น
อี ซึง-ฮุน เปิดตัวในฐานะนักมวยสากลอาชีพเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 โดยชนะคะแนนในการชก 4 ยก แม้จะเริ่มต้นอาชีพได้ไม่นาน เขาก็ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้สองครั้งแรกในอาชีพต่อเนตรน้อย ศ.วรสิงห์ อดีตแชมป์โลกสภามวยโลก (WBC) รุ่นไลต์ฟลายเวท และคิม ฮวาน-จิน ผู้ที่จะเป็นแชมป์โลกสมาคมมวยโลก (WBA) รุ่นไลต์ฟลายเวทในอนาคต ซึ่งการพ่ายแพ้ต่อคิม ฮวาน-จิน ในการชก 6 ยกด้วยคะแนนถือเป็นการพ่ายแพ้ครั้งแรกในอาชีพของเขา อย่างไรก็ตาม อี ซึง-ฮุน สามารถกลับมาคว้าแชมป์ฟลายเวทของเกาหลีใต้ได้ในปี พ.ศ. 2521 โดยเอาชนะคิม ยง-ฮวาน ในการชก 10 ยกด้วยคะแนน และในปี พ.ศ. 2522 เขายังสามารถเอาชนะคะแนนพรูเดนซิโอ คาร์โดนา ผู้ซึ่งต่อมาจะเป็นแชมป์โลก WBC รุ่นฟลายเวทได้อีกด้วย
2.2. การท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลก
หลังจากประสบความสำเร็จในระดับประเทศ อี ซึง-ฮุน ได้ขยับรุ่นน้ำหนักขึ้นมายังรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท และได้มีโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์ฟลายเวทที่ว่างลงกับราฟาเอล โอโรโน ที่การากัส ประเทศเวเนซุเอลา แต่เขาพ่ายแพ้ไปด้วยคะแนนแบบแยก ซึ่งผลการตัดสินครั้งนั้นถือว่าค้านสายตาผู้ชมอย่างมาก
ในปี พ.ศ. 2524 อี ซึง-ฮุน ได้ย้ายขึ้นมาชกในรุ่นแบนตัมเวท หลังจากที่เอาชนะคิม ซุง-จุน อดีตแชมป์โลก WBC รุ่นไลต์ฟลายเวทได้สำเร็จ และได้ขึ้นชิงแชมป์โลก WBC รุ่นแบนตัมเวทกับลูเป ปินตอร์ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2525 ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา แม้ว่าเขาจะแสดงฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจและสามารถชกปินตอร์ลงไปนับได้ในยกที่ 5 แต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายแพ้ไปโดยการหยุดชกในยกที่ 11
หลังจากการพ่ายแพ้ต่อปินตอร์ อี ซึง-ฮุน ได้ขยับรุ่นน้ำหนักขึ้นมาอีกครั้งเป็นรุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท ในรุ่นนี้ เขาเอาชนะริคาร์โด คาร์โดนา อดีตแชมป์โลก WBA รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวทได้ด้วยการชนะน็อกในยกที่ 6 และได้มีโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลก WBA รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวทกับบิกตอร์ กาเยฮาส เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ที่ซานฮวน ปวยร์โตรีโก ในการชกครั้งนี้ อี ซึง-ฮุน ถูกชกลงไปนับในยกที่ 2 และพ่ายแพ้ไปด้วยคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์หลังจากชกครบ 15 ยก
2.3. การครองแชมป์ IBF รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท
โอกาสในการชิงแชมป์โลกครั้งสำคัญมาถึงอีกครั้งในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2529 เมื่อคิม จี-วอน แชมป์โลก IBF รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวทประกาศสละตำแหน่ง ทำให้ตำแหน่งแชมป์ว่างลง อี ซึง-ฮุน ได้ขึ้นชิงแชมป์โลก IBF รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวทที่ว่างลงกับประยูรศักดิ์ เมืองสุรินทร์ แชมป์สหพันธ์มวยภาคตะวันออกและแปซิฟิก (OPBF) รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2530 และเขาก็สามารถคว้าตำแหน่งแชมป์โลกได้สำเร็จด้วยการชนะน็อกในยกที่ 9 ที่เกาหลีใต้
หลังจากคว้าแชมป์โลก อี ซึง-ฮุน ได้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้ถึง 3 ครั้ง:
- การป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 1: วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2530 ชนะน็อกฆอร์เฆ อูร์บินา ดิอัซ ในยกที่ 10 ที่เกาหลีใต้
- การป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2: วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2530 ชนะน็อกลีออน คอลลิน ในยกที่ 5 ที่เกาหลีใต้
- การป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 3: วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ชนะคะแนนโฮเซ ซานาบริอา ซึ่งต่อมาจะเป็นแชมป์โลก IBF รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท ในการชก 15 ยก ที่โพฮัง เกาหลีใต้
อย่างไรก็ตาม อี ซึง-ฮุน ถูกบังคับให้สละตำแหน่งแชมป์โลกในปี พ.ศ. 2531 เนื่องจากเกาหลีใต้ได้ยุติการให้การสนับสนุนการจัดชกมวยชิงแชมป์ IBF ถือเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออาชีพของเขาในขณะนั้น
2.4. ช่วงปลายอาชีพและการแขวนนวม
หลังจากสละตำแหน่งแชมป์โลก IBF อี ซึง-ฮุน ยังคงเดินหน้าชกมวยต่อไป โดยในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2531 เขาเอาชนะฮูเลียน โซลิส อดีตแชมป์โลก WBA รุ่นแบนตัมเวทได้ หลังจากนั้น เขาก็ได้รับโอกาสสุดท้ายในการชิงแชมป์โลก โดยขึ้นชิงแชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวทกับดาเนียล ซาราโกซา อดีตแชมป์โลกสองรุ่นและนักมวยที่จะได้เข้าสู่หอเกียรติยศนักมวยในอนาคต การชกมีขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 ที่ยอซู เกาหลีใต้ การแข่งขันเป็นไปอย่างสูสีและดุเดือด โดยผลการตัดสิน 12 ยกจบลงด้วยผลเสมอแบบไม่เป็นเอกฉันท์ (114-114, 114-112 (ให้อี ซึง-ฮุนชนะ), และ 115-113 (ให้ซาราโกซาชนะ)) ทำให้เขาพลาดโอกาสในการคว้าแชมป์โลกของ WBC
ในช่วงปลายอาชีพ อี ซึง-ฮุน ยังคงขึ้นชกอีกสองครั้ง ในปี พ.ศ. 2532 เขาเอาชนะน็อกนอรี จ็อกกี้ยิม ได้ในยกที่ 6 และการชกครั้งสุดท้ายในอาชีพของเขาคือเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ซึ่งเขาเอาชนะน็อกเอ็ดวิน มอนตาเญส ในยกที่ 10 หลังจากการชกครั้งนั้น อี ซึง-ฮุน ก็ได้ตัดสินใจแขวนนวมยุติอาชีพนักมวยสากลอาชีพอย่างเป็นทางการ
3. ตำแหน่งและเกียรติประวัติที่ได้รับ
ตลอดเส้นทางอาชีพนักมวยสากลอาชีพ อี ซึง-ฮุน ได้รับตำแหน่งและเกียรติประวัติที่สำคัญดังนี้:
- แชมป์เกาหลีใต้รุ่นฟลายเวท (พ.ศ. 2521)
- แชมป์โลก IBF รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท
- ชนะน็อกประยูรศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ยก 9 (ชิงแชมป์โลก) เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2530 ที่เกาหลีใต้
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 1: ชนะน็อกฆอร์เฆ อูร์บินา ดิอัซ ยก 10 เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2530 ที่เกาหลีใต้
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2: ชนะน็อกลีออน คอลลิน ยก 5 เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2530 ที่เกาหลีใต้
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 3: ชนะคะแนนโฮเซ ซานาบริอา ยก 15 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ที่เกาหลีใต้
- สละตำแหน่งในปี พ.ศ. 2531
- เคยขึ้นชิงแชมป์โลกแต่ไม่สำเร็จ:
- ชิงแชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท: แพ้คะแนนราฟาเอล โอโรโน่ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 ที่เวเนซุเอลา
- ชิงแชมป์โลก WBC รุ่นแบนตัมเวท: แพ้น็อกลูเป ปินตอร์ ยก 11 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2525 ที่สหรัฐอเมริกา
- ชิงแชมป์โลก WBA รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท: แพ้คะแนนบิกตอร์ กาเยฮาส เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ที่ปวยร์โตรีโก
- ชิงแชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท: เสมอกับดาเนียล ซาราโกซา เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 ที่เกาหลีใต้
4. อาชีพหลังจากการชกมวย
หลังจากแขวนนวมในปี พ.ศ. 2532 อี ซึง-ฮุน ได้เริ่มต้นบทบาทใหม่ในวงการมวยในฐานะโปรโมเตอร์มวย โดยใช้ประสบการณ์และความรู้ที่สั่งสมมาตลอดอาชีพนักมวยเพื่อส่งเสริมและพัฒนาวงการมวยในเกาหลีใต้ต่อไป
5. มรดกและการประเมิน
อี ซึง-ฮุน ถือเป็นหนึ่งในนักมวยที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของวงการมวยเกาหลีใต้ แม้ว่าเขาจะเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งความพ่ายแพ้ที่น่ากังขาในการชิงแชมป์โลกครั้งแรก และการถูกบังคับให้สละตำแหน่งแชมป์โลก IBF เนื่องด้วยนโยบายของประเทศ แต่ความมุ่งมั่นและความไม่ย่อท้อของเขาในการท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลกหลายครั้งในหลายรุ่นน้ำหนักได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักมวยรุ่นหลังและเป็นที่จดจำในฐานะนักมวยผู้ต่อสู้เพื่อความสำเร็จในระดับสูงสุด การเป็นแชมป์โลก IBF และการป้องกันตำแหน่งได้ถึงสามครั้ง ตอกย้ำถึงความสามารถและวินัยของเขา ในช่วงเวลาที่วงการมวยเกาหลีใต้กำลังเติบโต อี ซึง-ฮุน ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับมาตรฐานและชื่อเสียงของประเทศในสังเวียนมวยระดับโลก