1. ภาพรวม
เอฮิดิโอ ราอุล อาเรบาโล ริโอส (Egidio Raúl Arévalo Ríosเอฮิดิโอ ราอุล อาเรบาโล ริโอสภาษาสเปน; เกิด 1 มกราคม พ.ศ. 2525) มีชื่อเล่นว่า เอล กาชา (El Cachaเอล กาชาภาษาสเปน) และบางครั้งถูกเรียกว่า เอล เปเกญโญ กิกานเต (El pequeño giganteเอล เปเกญโญ กิกานเตภาษาสเปน) เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวอุรุกวัยที่เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ เขายังถือสัญชาติเม็กซิโกด้วย อาเรบาโล ริโอสมีเส้นทางอาชีพที่หลากหลาย โดยเริ่มต้นในอุรุกวัยกับสโมสรเยาวชนไปซันดู เบลลา วิสตา ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับสโมสรชั้นนำหลายแห่งในเม็กซิโก รวมถึงมีประสบการณ์ในอิตาลี, สหรัฐอเมริกา, บราซิล, อาร์เจนตินา, ปารากวัย, เปรู และกัวเตมาลา ในระดับทีมชาติ เขาเป็นกำลังสำคัญของฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย โดยเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกถึงสองครั้งในปี 2010 และ 2014 รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการคว้าแชมป์โกปาอาเมริกา 2011 และเป็นหนึ่งในผู้เล่นอายุเกินในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012
2. ข้อมูลส่วนบุคคล
2.1. ชีวิตช่วงต้นและการเกิด
เอฮิดิโอ ราอุล อาเรบาโล ริโอส เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2525 ที่ไปซันดู ประเทศอุรุกวัย เขามีส่วนสูง 170 cm และน้ำหนัก 68 kg นอกจากสัญชาติอุรุกวัยแล้ว เขายังถือสัญชาติเม็กซิโกด้วย
2.2. อาชีพเยาวชน
อาเรบาโล ริโอสเป็นผลผลิตจากทีมเยาวชนของไปซันดู เบลลา วิสตา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาทักษะฟุตบอลของเขา
3. อาชีพสโมสรอาชีพ
เอฮิดิโอ อาเรบาโล ริโอสมีเส้นทางอาชีพในระดับสโมสรที่ยาวนานและหลากหลาย โดยได้เล่นให้กับสโมสรในหลายประเทศทั่วโลก
3.1. สโมสรอุรุกวัย
อาเรบาโล ริโอสเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรในประเทศบ้านเกิดของเขา อุรุกวัย โดยเริ่มจากไปซันดู เบลลา วิสตา ในช่วงปี พ.ศ. 2543 ถึง พ.ศ. 2544 โดยลงเล่นไป 35 นัด ทำได้ 2 ประตู หลังจากนั้นเขาย้ายไปเล่นให้กับเบลลา วิสตา (มอนเตวิเดโอ) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ถึง พ.ศ. 2549 ลงสนาม 108 นัด ทำได้ 6 ประตู และเป็นส่วนหนึ่งของเปญญาโรล ในช่วงปี พ.ศ. 2549 ถึง พ.ศ. 2550 ลงเล่น 29 นัด ยิงได้ 6 ประตู และกลับมาเล่นให้กับเปญญาโรลอีกครั้งในปี พ.ศ. 2552 ถึง พ.ศ. 2553 โดยลงสนาม 30 นัด ทำได้ 1 ประตู ซึ่งในฤดูกาล 2009-10 เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์พรีเมรา ดิวิซิออน อุรุกวัยได้ นอกจากนี้ เขายังเคยเล่นให้กับดานูบิโอ ในปี พ.ศ. 2551 ลงเล่น 9 นัด และซูด อเมริกา ในช่วงปี พ.ศ. 2563 ถึง พ.ศ. 2564 ลงเล่น 11 นัด
3.2. สโมสรเม็กซิโก
เส้นทางอาชีพของอาเรบาโล ริโอสส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศเม็กซิโก ซึ่งเขาได้เล่นให้กับหลายสโมสร เริ่มต้นกับมอนเตร์เรย์ ในช่วงปี พ.ศ. 2550 ถึง พ.ศ. 2551 ลงเล่น 32 นัด ทำได้ 3 ประตู และซาน ลุยส์ ในปี พ.ศ. 2552 ลงเล่น 7 นัด หลังจากนั้นเขาย้ายไปร่วมทีมติฆัวนา ในช่วงปี พ.ศ. 2554 ถึง พ.ศ. 2557 ลงเล่น 31 นัด ทำได้ 1 ประตู
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2556 มีรายงานว่าอาเรบาโล ริโอสถูกซื้อตัวโดยติเกรส อูเอเอ็นแอล และถูกยืมตัวไปเล่นให้กับโมนาร์คาส โมเรเลีย เป็นเวลาหกเดือน ซึ่งเขาลงเล่น 13 นัด ทำได้ 1 ประตู ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2557 มีการเปิดเผยว่าติฆัวนายังคงเป็นเจ้าของสิทธิ์ในตัวอาเรบาโล ริโอส เมื่อติเกรสระบุว่ากำลังเจรจากับติฆัวนาเพื่อซื้อตัวผู้เล่น หลังจากนั้นในเดือนถัดมาก็มีการประกาศว่าติเกรสได้เซ็นสัญญากับอาเรบาโล ริโอสอย่างเป็นทางการ
สองวันหลังจากที่เขาเสร็จสิ้นภารกิจกับฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัยในฟุตบอลโลก 2014 เขาก็เริ่มฝึกซ้อมกับติเกรสทันที ซึ่งริการ์โด เฟร์เรตติ โค้ชของทีม ได้กล่าวชื่นชมและระบุว่าอาเรบาโลไม่ใช่ "ไอดอล แต่เป็นตัวอย่างของสิ่งที่ผู้เล่นควรจะเป็น" เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 อาเรบาโลลงสนามนัดแรกอย่างเป็นทางการกับติเกรสในการแข่งขันซูเปอร์โกปา เม็กซิโก 2014 พบกับอดีตทีมโมนาร์คาส โมเรเลีย อาเรบาโลเป็นผู้เล่นคนสำคัญในทีมอูเอเอ็นแอลที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศโกปาลิเบร์ตาโดเรส 2015 นอกจากนี้ เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าแชมป์ลิกา เอ็มเอกซ์ในรายการอะเปอร์ตูรา 2015 โดยลงเล่นให้กับติเกรส 38 นัด ทำได้ 1 ประตู
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558 หลังจากคว้าแชมป์อะเปอร์ตูรา 2015 กับติเกรส มีการประกาศว่าอาเรบาโลจะย้ายไปร่วมทีมอาตลัสด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือนโดยไม่มีเงื่อนไขซื้อขาด ซึ่งเขาลงเล่น 14 นัด ในช่วงกลางปี พ.ศ. 2559 เขาย้ายไปเชียปัส ลงเล่น 4 นัด และในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 เขาก็ย้ายอีกครั้งไปยังเบรากรุซ ลงเล่น 14 นัด ทำได้ 1 ประตู ในปี พ.ศ. 2562 เขาย้ายไปร่วมทีมคอร์เรกามิโนส ยูเอที ลงเล่น 11 นัด
3.3. สโมสรนานาชาติอื่นๆ
นอกเหนือจากอุรุกวัยและเม็กซิโก อาเรบาโล ริโอสยังมีประสบการณ์การเล่นในสโมสรต่างประเทศอื่น ๆ อีกหลายแห่ง เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 หลังจากที่มีการคาดการณ์มานานหลายสัปดาห์ ก็มีการประกาศว่าเขาได้เซ็นสัญญาสามปีกับปาแลร์โม สโมสรในเซเรียอาของอิตาลี ซึ่งเขาลงเล่น 27 นัด ทำได้ 2 ประตู
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 อาเรบาโลถูกยืมตัวไปเล่นให้กับชิคาโก ไฟร์ ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ของสหรัฐอเมริกาตลอดฤดูกาล พ.ศ. 2556 ซึ่งเขาลงเล่น 9 นัด และเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ชิคาโก ไฟร์ได้ประกาศเซ็นสัญญาซื้อขาดอาเรบาโล ริโอส อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ถูกเก็บไว้กับทีมหลังจบฤดูกาล
ในปี พ.ศ. 2554 เขายังเคยเล่นให้กับโบตาโฟโกในบราซิล ลงเล่น 1 นัด และในปี พ.ศ. 2560 เขาย้ายไปร่วมทีมราซิง คลับ ในอาร์เจนตินา ลงเล่น 7 นัด ในปี พ.ศ. 2561 เขาย้ายไปลิเบร์ตาด ในปารากวัย ลงเล่น 16 นัด และในปี พ.ศ. 2562 เขาย้ายไปเดปอร์ติโบ มูนิซิปัล ในเปรู ลงเล่น 11 นัด ทำได้ 1 ประตู ปัจจุบันเขาเล่นให้กับซากาชิปัส ในกัวเตมาลา ซึ่งเขาลงเล่น 21 นัด ในช่วงปี พ.ศ. 2564 ถึง พ.ศ. 2565

4. อาชีพทีมชาติ
เอฮิดิโอ อาเรบาโล ริโอสเป็นผู้เล่นคนสำคัญของฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย โดยมีบทบาทในทัวร์นาเมนต์สำคัญหลายรายการ
4.1. การเข้าร่วมการแข่งขันรายการสำคัญ
อาเรบาโล ริโอสลงเล่นในทุกนัดของฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ซึ่งอุรุกวัยคว้าอันดับสี่มาครอง และฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอุรุกวัยที่คว้าแชมป์โกปาอาเมริกา 2011 ที่อาร์เจนตินา นอกจากนี้ เขายังเข้าร่วมการแข่งขันฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2013 และโกปาอาเมริกา 2015 ด้วย

4.2. การเข้าร่วมโอลิมปิก
อาเรบาโล ริโอสได้รับเลือกจากออสการ์ ตาบาเรซ ผู้จัดการทีมชาติ ให้เป็นหนึ่งในสามผู้เล่นอายุเกินสำหรับทีมฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัยชุดโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่ลอนดอน และเขาได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมชาติในรายการนี้ด้วย โดยลงเล่น 5 นัด ทำได้ 0 ประตู
5. สถิติอาชีพ
ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย | ||
---|---|---|
ปี | ลงเล่น | ประตู |
2006 | 1 | 0 |
2007 | 3 | 0 |
2008 | 0 | 0 |
2009 | 0 | 0 |
2010 | 11 | 0 |
2011 | 15 | 0 |
2012 | 9 | 0 |
2013 | 13 | 0 |
2014 | 13 | 0 |
2015 | 10 | 0 |
2016 | 12 | 0 |
2017 | 3 | 0 |
รวม | 90 | 0 |
6. เกียรติประวัติและรางวัล
เอฮิดิโอ อาเรบาโล ริโอส ได้รับเกียรติประวัติและรางวัลมากมายตลอดอาชีพการเป็นนักฟุตบอล ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ
6.1. รางวัลระดับสโมสร
- เปญญาโรล
- พรีเมรา ดิวิซิออน อุรุกวัย ชนะเลิศ: 2009-10
- อูเอเอ็นแอล
- ลิกา เอ็มเอกซ์: อะเปอร์ตูรา 2558
6.2. รางวัลระดับทีมชาติ
- อุรุกวัย
- ฟุตบอลโลก อันดับสี่: 2010
- โกปาอาเมริกา: 2011
7. การประเมินและผลกระทบ
เอฮิดิโอ อาเรบาโล ริโอสได้รับการยกย่องว่าเป็นกองกลางตัวรับที่ขยันและทุ่มเทอย่างมากในสนาม ซึ่งสะท้อนได้จากคำกล่าวของริการ์โด เฟร์เรตติ อดีตโค้ชของเขาที่ติเกรส อูเอเอ็นแอล ซึ่งระบุว่าอาเรบาโลไม่ใช่ "ไอดอล แต่เป็นตัวอย่างของสิ่งที่ผู้เล่นควรจะเป็น" ความมุ่งมั่นและทัศนคติของเขาในการฝึกซ้อมทันทีหลังจากการแข่งขันฟุตบอลโลกสิ้นสุดลง แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและความทุ่มเทให้กับกีฬาฟุตบอล ซึ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเพื่อนร่วมทีมและเป็นแบบอย่างที่ดีในวงการฟุตบอล