1. ภาพรวม

แอนดรูว์ แนบเบาท์ (เกิดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวออสเตรเลียเชื้อสายเลบานอน ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งปีกให้กับสโมสรเมลเบิร์นซิตีในเอลีก โดยมีประวัติการเล่นให้กับหลายสโมสร รวมถึงเมลเบิร์นวิกตอรี (สองช่วง), เนอเกอรีเซิมบีลันในประเทศมาเลเซีย, นิวคาสเซิลเจ็ตส์ และอูราวะเรดไดมอนส์ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ เขายังเคยเป็นตัวแทนของทีมชาติออสเตรเลีย โดยเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก บทความนี้จะนำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตช่วงต้น, อาชีพในระดับสโมสรและทีมชาติ, สถิติ, เกียรติประวัติ และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจในเส้นทางอาชีพของเขา
2. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
แอนดรูว์ แนบเบาท์ เกิดในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในครอบครัวที่มีเชื้อสายเลบานอน เขาสามารถพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาอาหรับเลบานอนได้อย่างคล่องแคล่ว แนบเบาท์เข้าศึกษาที่วิทยาลัยเซนต์โจเซฟในเมลเบิร์น ก่อนที่จะเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอล
2.1. ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
แนบเบาท์เริ่มเล่นฟุตบอลเยาวชนให้กับหลายสโมสร ได้แก่ บรันสวิกซิตี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 ถึง 2007, กรีนกัลลี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 ถึง 2009 และซันไชน์จอร์จครอส ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 ถึง 2011 หลังจากนั้น เขายังคงพัฒนาฝีเท้าในระดับเยาวชนโดยเข้าร่วมทีมเยาวชนของเมลเบิร์นวิกตอรีในช่วงฤดูกาล 2012-13
2.2. อาชีพฟุตบอลช่วงแรก
ก่อนที่จะก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว แอนดรูว์ แนบเบาท์ ได้เล่นให้กับสโมสรในลีกท้องถิ่นหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับซันไชน์จอร์จครอสในปี ค.ศ. 2010-2011 ตามด้วยไฮเดิลเบิร์กยูไนเต็ดตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 ถึง 2012 และโมเรแลนด์ซีบราส์ในช่วงปี ค.ศ. 2012 การได้ลงสนามในระดับที่หลากหลายนี้เป็นรากฐานสำคัญในการเตรียมตัวสำหรับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขา
3. อาชีพสโมสร
แอนดรูว์ แนบเบาท์ มีเส้นทางอาชีพในระดับสโมสรที่น่าสนใจ โดยได้ลงเล่นในลีกชั้นนำหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย, มาเลเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและทำประตูในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
3.1. สโมสรเมลเบิร์นวิกตอรี (ช่วงแรก)
แนบเบาท์เซ็นสัญญากับทีมเยาวชนของเมลเบิร์นวิกตอรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2012 หลังจากที่เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันกระชับมิตรกับอัลโตนาเมจิก โดยยิงได้ 2 ประตู และคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ เขาได้ประเดิมสนามในระดับอาชีพให้กับเมลเบิร์นวิกตอรีในศึกเอลีกเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 2012 ในการแข่งขันกับบริสเบนโรอาร์ ซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 5-0
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ในการแข่งขันกับซิดนีย์เอฟซี ซึ่งเป็นคู่ปรับสำคัญ ขณะที่ทีมตามหลัง 2-0 แนบเบาท์ถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 66 และได้สร้างชื่อเสียงให้กับเมลเบิร์นวิกตอรีโดยทำประตูสุดสวยในนาทีที่ 78 และยิงประตูชัยในนาทีที่ 91 ช่วยให้ทีมพลิกกลับมาเอาชนะไปได้ 3-2 หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ในวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 แนบเบาท์ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในบ้าน และทำประตูแรกในบ้านได้สำเร็จในการแข่งขันกับเซ็นทรัลโคสต์มาริเนอร์ส ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้เซ็นสัญญาอาชีพกับสโมสรเป็นระยะเวลา 3 ปี
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2012 แนบเบาท์ได้ลงเล่นครบ 90 นาทีเป็นครั้งแรกให้กับเมลเบิร์นวิกตอรีในการแข่งขันกับแอดิเลดยูไนเต็ด เขาทำประตูที่สี่ของฤดูกาลได้สำเร็จจากการช่วยเหลือของมาร์โก โรฮาส แม้ว่าเมลเบิร์นจะพ่ายแพ้ไป 2-4 ในฤดูกาลแรกของเขา (2012-13) แนบเบาท์ลงสนามไปทั้งหมด 21 นัด (รวม 2 นัดในรอบเพลย์ออฟ) ใช้เวลาในสนามรวม 786 นาที และทำได้ 4 ประตู
สำหรับฤดูกาล 2013-14 แนบเบาท์ได้รับเสื้อหมายเลข 13 ซึ่งสืบทอดมาจากดิโอโก เฟอร์เรราที่ย้ายไปบริสเบนโรอาร์ ภายใต้การคุมทีมของผู้ฝึกสอนคนใหม่ เควิน มัสกัต เขามีโอกาสลงสนามน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงที่เล่นภายใต้การคุมทีมของอังเก ปอสเตโกกลู แนบเบาท์ลงสนามให้กับสโมสรไปทั้งหมด 19 นัด ทำได้ 1 ประตูในการเสมอกับนิวคาสเซิลเจ็ตส์ 1-1 เมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 2014 และทำอีก 2 แอสซิสต์ ใช้เวลาในสนามรวม 462 นาที ในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2014 เขาเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เมลเบิร์นทำประตูที่สองได้ในนัดที่ชนะกว่างโจวเอเวอร์แกรนด์ 2-0 เมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 2014 โดยมีเจมส์ โทรอีซีเป็นผู้ทำประตู และคอสตา บาร์บารูเซสเป็นผู้แอสซิสต์อย่างเป็นทางการ
ในฤดูกาล 2014-15 แนบเบาท์มีชื่อเป็นตัวสำรองในนัดแรกของฤดูกาลในการพบกับคู่ปรับอย่างเมลเบิร์นซิตีในรอบที่สามของลีก แต่ไม่ได้ถูกส่งลงสนาม การลงสนามในนัดทางการครั้งแรกของเขาในฤดูกาล 2014-15 และเป็นการประเดิมสนามในเอฟเอฟเอคัพ เกิดขึ้นในรอบก่อนรองชนะเลิศกับเพิร์ทกลอรีเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2014 โดยแนบเบาท์ถูกส่งลงสนามแทนเบซาร์ต เบอริชาที่บาดเจ็บโคนขาหนีบในนาทีที่ 44 แต่ทีมพ่ายแพ้ไป 4-2 หลังช่วงต่อเวลาพิเศษ เมลเบิร์นวิกตอรีได้ปล่อยตัวเขาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2015
3.2. สโมสรเนอเกอรีเซิมบีลัน
ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ค.ศ. 2015 มีการประกาศว่า แนบเบาท์จะย้ายไปร่วมทีมเนอเกอรีเซิมบีลัน ในมาเลเซียพรีเมียร์ลีก สำหรับฤดูกาล 2016 โดยเขาได้ร่วมงานกับแกรี ฟิลลิปส์ อดีตผู้ฝึกสอนที่เคยพาทีมคว้าแชมป์เนชันแนลซอกเกอร์ลีก รวมถึงผู้เล่นจากเอลีกอีกหลายคน ในช่วงที่เขาเล่นให้กับเนอเกอรีเซิมบีลัน แนบเบาท์ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของทีม โดยยิงได้ 9 ประตูจากการลงสนาม 14 นัดในทุกรายการ (8 ประตูจาก 12 นัดในลีก และ 1 ประตูจาก 2 นัดในบอลถ้วย) แม้จะทำผลงานได้น่าประทับใจ แต่สัญญาของเขาก็ถูกยกเลิกกลางฤดูกาล เนื่องจากสโมสรต้องการนำผู้เล่นแนวรุกคนใหม่เข้ามา
3.3. สโมสรนิวคาสเซิลยูไนเต็ดเจ็ตส์
หลังจากเล่นไปครึ่งฤดูกาลกับเนอเกอรีเซิมบีลัน แอนดรูว์ แนบเบาท์ ก็กลับมายังออสเตรเลียและเข้าร่วมทีมนิวคาสเซิลเจ็ตส์เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 เขาประเดิมสนามให้กับนิวคาสเซิลในเกมเอฟเอฟเอคัพที่พ่ายแพ้ต่ออดีตสโมสรของเขาอย่างเมลเบิร์นวิกตอรี 3-1 โดยเขาได้ลงเล่นเต็มเกม
แนบเบาท์เริ่มต้นฤดูกาล 2016-17 กับสโมสรใหม่ได้ไม่ดีนัก โดยไม่สามารถทำประตูได้เลยจนกระทั่งถึงรอบที่ 6 อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2017 แนบเบาท์ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของพีเอฟเอ และถูกยกให้เป็นผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่งสำหรับจอห์นนีวอร์เรนเมดัล อีกทั้งยังมีการพูดถึงความเป็นไปได้ที่เขาจะถูกเรียกติดทีมชาติออสเตรเลียของอังเก ปอสเตโกกลู สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขายิง 2 ประตูใส่เมลเบิร์นซิตีในเกมที่ชนะ 2-1 ที่ซี.เอกซ์คอฟฟ์สอินเตอร์เนชันแนลสเตเดียม ฟอร์มของแนบเบาท์ก็ลดลง เช่นเดียวกับฟอร์มของทีม เขาไม่สามารถทำประตูได้อีกเลยในฤดูกาลนั้น ทำให้ความคาดหวังในการประเดิมสนามให้ทีมชาติหมดไป
ในรอบที่ 27 ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของฤดูกาล กับซิดนีย์เอฟซีที่ซิดนีย์ฟุตบอลสเตเดียม นิวคาสเซิลอยู่อันดับสุดท้ายของตารางเอลีก และต้องการชัยชนะหรือเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงตำแหน่งบ๊วย ทีมเริ่มต้นเกมด้วยการป้องกันที่แข็งแกร่ง ก่อนที่แอนดรูว์ ฮูลจะถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษของซิดนีย์ในนาทีที่ 40 ทำให้เจ็ตส์ได้ลูกจุดโทษ แนบเบาท์ก้าวมายิงจุดโทษ แต่กลับยิงออกเสาขวาไป ซิดนีย์จึงทำได้ 2 ประตูในครึ่งหลัง ทำให้นิวคาสเซิลได้รับตำแหน่งบ๊วยเป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์สโมสร ซึ่งเป็นการปิดฉากฤดูกาลแรกของแนบเบาท์กับนิวคาสเซิล ที่งานประกาศรางวัลประจำปีของนิวคาสเซิลเจ็ตส์ในเดือนเดียวกันนั้น แนบเบาท์ได้รับรางวัลรองเท้าทองคำของเจ็ตส์ด้วย 8 ประตู และเรย์บาร์ตซ์เมดัล
สองวันก่อนที่แนบเบาท์และนิวคาสเซิลเจ็ตส์จะลงเล่นนัดแรกในฤดูกาล 2017-18 มีข่าวออกมาว่าสโมสรอัล-ดัฟราในยูเออีโปรลีกได้ยื่นข้อเสนอซื้อตัวแนบเบาท์ด้วยจำนวนเงินมหาศาล อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่านิวคาสเซิลปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวเนื่องจากมูลค่าการโอนไม่สูงเท่าที่พวกเขาต้องการ วันต่อมา ลอว์รี แมคคินนา ซีอีโอของเจ็ตส์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่านิวคาสเซิลไม่ได้รับข้อเสนอใด ๆ เลย แต่ยืนยันว่าอัล-ดัฟราได้แสดงความสนใจเมื่อสี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ และจำนวนเงินที่เสนอมาก็เป็นที่ยอมรับได้
เมื่อเรื่องการย้ายทีมคลี่คลายลง แนบเบาท์ก็มีผลงานช่วงปรีซีซันที่แข็งแกร่งที่สุด โดยทำได้ 8 ประตู รวมถึงการทำแฮตทริกถึงสองครั้ง เขายังตั้งเป้าหมายส่วนตัวในฤดูกาลนั้นว่าจะทำประตูและแอสซิสต์ให้ได้ถึงตัวเลขสองหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่เขายังไม่เคยทำได้ในอาชีพการงาน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน หลังจากสร้างความประทับใจให้กับผู้ฝึกสอนคนใหม่อย่างเออร์นี เมอร์ริค ใน 9 นัดแรก โดยทำได้ 4 ประตู (รวม 2 ประตูใน 2 นัด) และ 3 แอสซิสต์ แนบเบาท์ได้เซ็นสัญญาขยายเวลาออกไปอีกสองปี ทำให้เขาอยู่กับสโมสรจนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 2019-20 แม้ว่าเขาจะย้ายออกจากนิวคาสเซิลเจ็ตส์และเอลีกไปได้กว่าหนึ่งเดือนแล้ว แต่ในงานประกาศรางวัลเอลีกประจำปี 2018 หรือดอแลนวอร์เรนอะวอดส์ (Dolan Warren Awards) แนบเบาท์ก็ยังคงได้รับรางวัล 'ประตูยอดเยี่ยมแห่งปี' จากการยิงประตูด้วยการปั่นบอลนอกเท้าในเกมกับเวสเทิร์นซิดนีย์วอนเดอเรอร์สในรอบที่ 20 และเขายังถูกจัดอยู่ในทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพีเอฟเอ เอลีก ประจำฤดูกาล 2017-18 อีกด้วย
3.4. สโมสรอูราวะเรดไดมอนส์
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2018 แอนดรูว์ แนบเบาท์ ได้ย้ายออกจากนิวคาสเซิลเจ็ตส์ เพื่อไปร่วมทีมอูราวะเรดไดมอนส์ในเจลีก 1 ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยค่าตัวที่มีรายงานว่าประมาณ 500.00 K USD แนบเบาท์ประเดิมสนามให้กับอูราวะเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2018 ในการแข่งขันเจลีก 1 รอบที่ 5 กับจูบิโลอิวาตะ โดยถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 70 ในเกมที่แพ้ไป 2-1 สามวันต่อมา เขาได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกและเล่นเต็มเกมให้กับอูราวะในเจลีกคัพ รอบที่ 3
หลังจากที่ออซวัลโด เด โอลิเวยรา อดีตผู้ฝึกสอนของคาชิมะแอนท์เลอส์และโค้ชชาวบราซิลผู้มีประสบการณ์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ของอูราวะในเดือนเมษายน แนบเบาท์ถูกถอดออกจากรายชื่อผู้เล่นในวันแข่งขัน พร้อมกับผู้เล่นต่างชาติอีกสองคน ในเกมที่พบกับฮอกไกโดคอนซาโดเลซัปโปโระ ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายที่สึโยชิ โอตสึกิ รักษาการผู้ฝึกสอนจะคุมทีมก่อนที่โอลิเวยราจะเข้ามา อย่างไรก็ตาม ในการประเดิมสนามของโอลิเวยราในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนของอูราวะ แนบเบาท์ถูกเรียกกลับมาอยู่ในรายชื่อผู้เล่นในวันแข่งขันในเกมที่แพ้คาชิวะเรย์โซล 1-0 แต่เขาก็เป็นเพียงตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม
ในเจลีก 1 รอบที่ 12 กับคาวาซากิฟรอนตาเล แนบเบาท์ได้ประเดิมสนามเป็นตัวจริงในเจลีก 1 ในเกมที่อูราวะชนะไป 2-0 แนบเบาท์เป็นผู้จ่ายบอลให้ชินโซ โคโรกิ กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น ทำประตูที่สองของอูราวะในนัดนั้น ซึ่งเป็นแอสซิสต์แรกของแนบเบาท์สำหรับอูราวะในทุกรายการ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 75 ในระหว่างการแข่งขันกับคาวาซากิฟรอนตาเล เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม แนบเบาท์ได้รับบาดเจ็บไหล่ขวาหลุดจากการปะทะกับจอง ซอง-รยอง ผู้รักษาประตูของคาวาซากิ ซึ่งทำให้จอง ซอง-รยองถูกไล่ออกจากสนาม การบาดเจ็บนี้ทำให้แนบเบาท์ต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน แม้ว่าเขาจะฟื้นตัวในช่วงพักเบรกฟุตบอลโลก แต่ก็เกิดการบาดเจ็บซ้ำในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกของออสเตรเลียกับเดนมาร์ก ทำให้เขาต้องออกจากสนามอีกครั้ง เขาหายจากอาการบาดเจ็บและกลับมาลงสนามได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2018 ในเกมที่พบกับเวกัลตะเซ็นได หลังจากพักไปนานถึงห้าเดือน ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับอูราวะเรดไดมอนส์ในช่วงปี ค.ศ. 2018 และ 2019 แนบเบาท์ทำได้ 1 ประตูจากการลงสนาม 16 นัด
3.5. สโมสรเมลเบิร์นวิกตอรี (ช่วงที่สอง)
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2019 หลังจากที่ทำได้ 1 ประตูจากการลงสนาม 16 นัดกับอูราวะเรดไดมอนส์ แนบเบาท์ได้กลับมายังเอลีกของออสเตรเลียอีกครั้ง โดยเซ็นสัญญาหนึ่งปีกับอดีตสโมสรของเขา นั่นคือเมลเบิร์นวิกตอรี เมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2020 เขาทำประตูเดียวในเกมที่ชนะคาชิมะแอนท์เลอส์อย่างพลิกความคาดหมาย 1-0 ในรอบคัดเลือกเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ซึ่งทำให้เมลเบิร์นวิกตอรีผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มของเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2020 และสามารถเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ ในฤดูกาล 2019-20 แนบเบาท์ลงเล่นในลีก 22 นัด ทำได้ 8 ประตู นอกจากนี้ยังทำได้ 2 ประตูจาก 1 นัดในฟุตบอลถ้วย และ 1 ประตูจาก 4 นัดในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก รวมทั้งหมด 11 ประตูจาก 27 นัด
3.6. สโมสรเมลเบิร์นซิตี
เมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2020 มีการประกาศเบื้องต้นว่า แนบเบาท์จะเข้าร่วมทีมเพิร์ทกลอรีสำหรับฤดูกาล 2020-21 ที่กำลังจะมาถึง โดยเซ็นสัญญา 2 ปีกับทีมรองแชมป์ฤดูกาล 2019 อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2020 มีการยืนยันว่าเขาจะไม่เข้าร่วมทีมเพิร์ทกลอรีเนื่องจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงด้านแรงงาน (CBA) และการย้ายที่อยู่ และในวันถัดมา คือวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2020 มีการประกาศว่าแนบเบาท์ได้ย้ายไปร่วมทีมเมลเบิร์นซิตีซึ่งเป็นคู่แข่งร่วมเมือง แทนด้วยสัญญา 1 ปี
กับเมลเบิร์นซิตี เขาประสบความสำเร็จอย่างมาก ในฤดูกาล 2020-21 เขาลงเล่นในลีก 17 นัด ทำได้ 3 ประตู ในฤดูกาล 2021-22 เขาลงเล่นในลีก 28 นัด ทำได้ 5 ประตู และยังทำได้อีก 2 ประตูจากการลงสนาม 5 นัดในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก รวมเป็น 7 ประตูจากการลงสนาม 35 นัด สำหรับฤดูกาล 2022-23 เขาลงเล่นในลีก 28 นัด ทำได้ 3 ประตู รวมลงสนามทั้งหมด 29 นัด และในฤดูกาล 2023-24 เขาลงเล่นในลีก 10 นัด แต่ยังไม่มีประตู
4. อาชีพระดับชาติ
เส้นทางอาชีพระดับชาติของแอนดรูว์ แนบเบาท์ ส่วนใหญ่คือการเป็นตัวแทนของทีมชาติออสเตรเลีย แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยได้รับโอกาสในการเป็นตัวแทนของทีมชาติเลบานอนก็ตาม เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2013 มีการยืนยันว่าจูเซปเป จันนินี หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมชาติเลบานอน ได้เสนอตำแหน่งในทีมชาติให้กับแนบเบาท์เพื่อเสริมทัพในแนวรุก ซึ่งเป็นไปได้เนื่องจากเชื้อสายเลบานอนของเขา อย่างไรก็ตาม แนบเบาท์ได้ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดยแสดงความหวังที่จะได้ติดทีมทีมชาติออสเตรเลียและได้ลงสนามในฟุตบอลโลก 2014ที่ประเทศบราซิล แม้กระนั้น อังเก ปอสเตโกกลู หัวหน้าผู้ฝึกสอนในขณะนั้น ก็ไม่ได้เลือกเขาเข้าร่วมทีมสำหรับฟุตบอลโลก 2014
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2018 ในที่สุดแนบเบาท์ก็มีชื่ออยู่ในรายชื่อผู้เล่นทีมชาติออสเตรเลีย สำหรับการแข่งขันกระชับมิตรกับนอร์เวย์และโคลอมเบียภายใต้การคุมทีมของเบิร์ต ฟาน มาร์ไวก์ เขาประเดิมสนามในนามทีมชาติในการแข่งขันกระชับมิตรกับนอร์เวย์เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2018 โดยลงเล่นในตำแหน่งกองหน้า ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 67 ในเกมที่แพ้ไป 4-1 สี่วันต่อมา แนบเบาท์ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมกระชับมิตรนัดที่สองของออสเตรเลีย ซึ่งเสมอกับโคลอมเบีย 0-0 โดยเขาเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายและได้รับคำชมเชยจากผลงาน ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 73
สองเดือนต่อมาในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2018 แนบเบาท์ได้รับเลือกให้ติดทีมชุดเบื้องต้นสำหรับฟุตบอลโลก 2018ที่ประเทศรัสเซีย ในสัปดาห์ถัดมา เบิร์ต ฟาน มาร์ไวก์ ได้ประกาศรายชื่อผู้เล่นที่ถูกตัดออกเหลือ 26 คน และแนบเบาท์พร้อมกับดิมิทรี เพตราทอส อดีตเพื่อนร่วมทีมจากนิวคาสเซิลเจ็ตส์ ก็ยังคงติดทีม
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2018 แนบเบาท์ทำประตูแรกในนามทีมชาติได้สำเร็จในชัยชนะ 4-0 ของออสเตรเลียเหนือเช็กเกีย ที่เอ็นวีอารีนาในซังคท์เพิลเทิน ประเทศออสเตรีย ต่อมาเขาได้รับเลือกให้ติดทีมชุดสุดท้าย 23 คนของออสเตรเลียสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก แนบเบาท์ประเดิมสนามในฟุตบอลโลกครั้งแรกในนัดที่พบกับฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2018 เขายังได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดที่พบกับเดนมาร์กเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2018 แต่ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 75 หลังจากได้รับบาดเจ็บไหล่หลุด ซึ่งเป็นอาการบาดเจ็บที่กำเริบจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับสโมสร นอกจากนี้ เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติออสเตรเลียในการแข่งขันเอเชียนคัพ 2019 โดยรวมแล้ว แนบเบาท์ลงสนามให้กับทีมชาติออสเตรเลียไป 10 นัด ทำได้ 2 ประตู ระหว่างปี ค.ศ. 2018 ถึง 2021
5. สถิติอาชีพ
สถิติอาชีพของแอนดรูว์ แนบเบาท์ นำเสนอภาพรวมโดยละเอียดเกี่ยวกับผลงานของเขาในสโมสรต่าง ๆ และกับทีมชาติออสเตรเลียในการแข่งขันหลากหลายรายการ
5.1. สถิติสโมสร
สโมสร | ฤดูกาล | ดิวิชัน | ลีก | บอลถ้วย | ลีกคัพ | ระดับทวีป | อื่น ๆ | รวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | |||
ซันไชน์จอร์จครอส | 2010 | วิคตอเรียนพรีเมียร์ลีก | 16 | 0 | - | - | - | - | 16 | 0 | ||||
ไฮเดิลเบิร์กยูไนเต็ด | 2011 | วิคตอเรียนพรีเมียร์ลีก | 21 | 1 | 1 | 0 | - | - | - | 22 | 1 | |||
2012 | 11 | 2 | 1 | 3 | - | - | - | 12 | 5 | |||||
รวม | 32 | 3 | 2 | 3 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 34 | 6 | ||
โมเรแลนด์ซีบราส์ | 2012 | วิคตอเรียนพรีเมียร์ลีก | 8 | 0 | - | - | - | - | 8 | 0 | ||||
เมลเบิร์นวิกตอรี | 2012-13 | เอลีก | 21 | 4 | - | - | - | - | 21 | 4 | ||||
2013-14 | 14 | 1 | - | - | 5 | 0 | - | 19 | 1 | |||||
2014-15 | 5 | 0 | 1 | 0 | - | - | - | 6 | 0 | |||||
รวม | 40 | 5 | 1 | 0 | 0 | 0 | 5 | 0 | 0 | 0 | 46 | 5 | ||
เนอเกอรีเซิมบีลัน | 2016 | มาเลเซียพรีเมียร์ลีก | 12 | 8 | 2 | 1 | - | - | - | 14 | 9 | |||
นิวคาสเซิลเจ็ตส์ | 2016-17 | เอลีก | 24 | 8 | 1 | 0 | - | - | - | 25 | 8 | |||
2017-18 | 22 | 10 | 1 | 0 | - | - | - | 23 | 10 | |||||
รวม | 46 | 18 | 4 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 48 | 18 | ||
อูราวะเรดไดมอนส์ | 2018 | เจลีก 1 | 12 | 0 | 1 | 0 | 2 | 0 | - | - | 15 | 0 | ||
2019 | 8 | 1 | 1 | 0 | 0 | 0 | 4 | 0 | 1 | 0 | 14 | 1 | ||
รวม | 20 | 1 | 2 | 0 | 2 | 0 | 4 | 0 | 1 | 0 | 29 | 1 | ||
เมลเบิร์นวิกตอรี | 2019-20 | เอลีก | 22 | 8 | 1 | 2 | - | 4 | 1 | - | 27 | 11 | ||
เมลเบิร์นซิตี | 2020-21 | เอลีก | 17 | 3 | - | - | - | - | 17 | 3 | ||||
2021-22 | 28 | 5 | 2 | 0 | - | 5 | 2 | - | 35 | 7 | ||||
2022-23 | 28 | 3 | 1 | 0 | - | - | - | 29 | 3 | |||||
2023-24 | 10 | 0 | 1 | 0 | - | 0 | 0 | - | 11 | 0 | ||||
รวม | 83 | 11 | 4 | 0 | 0 | 0 | 5 | 2 | 0 | 0 | 92 | 13 | ||
รวมตลอดอาชีพ | 279 | 54 | 14 | 6 | 2 | 0 | 18 | 3 | 1 | 0 | 314 | 63 |
5.2. สถิติทีมชาติ
ปี | ลงสนาม | ประตู |
---|---|---|
2018 | 8 | 2 |
2019 | 1 | 0 |
2021 | 1 | 0 |
รวม | 10 | 2 |
ประตูในนามทีมชาติ:
อันดับ | วันที่ | สถานที่ | คู่แข่ง | ผลคะแนน | ผลการแข่งขัน | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 1 มิถุนายน 2018 | เอ็นวีอารีนา, ซังคท์เพิลเทิน, ออสเตรีย | Czech Republic national football teamฟุตบอลทีมชาติเช็กเกียภาษาอังกฤษ | 2-0 | 4-0 | กระชับมิตร |
2 | 30 ธันวาคม 2018 | สนามกีฬามาคตูมบินราชิดอัลมาคตูม, ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | Oman national football teamฟุตบอลทีมชาติโอมานภาษาอังกฤษ | 1-0 | 5-0 | กระชับมิตร |
6. เกียรติประวัติ
แอนดรูว์ แนบเบาท์ได้รับรางวัลทั้งในระดับทีมและส่วนตัวมากมายตลอดเส้นทางอาชีพ ซึ่งสะท้อนถึงผลงานที่เขามีส่วนช่วยในการคว้าแชมป์ของทีม รวมถึงความเป็นเลิศส่วนบุคคลของเขา
6.1. เกียรติประวัติระดับทีม
- เมลเบิร์นวิกตอรี**
- เอลีก พรีเมียร์ชิป: 2014-15
- เอลีก แชมเปียนชิป: 2014-15
- อูราวะเรดไดมอนส์**
- ถ้วยพระจักรพรรดิ (Emperor's Cup): 2018
- เมลเบิร์นซิตี**
- เอลีก พรีเมียร์ชิป: 2020-21, 2021-22, 2022-23
- เอลีก แชมเปียนชิป: 2020-21
6.2. เกียรติประวัติส่วนตัว
- เอลีก ประตูยอดเยี่ยมแห่งปี: 2017-18
- พีเอฟเอ เอลีก ทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล (PFA A-League Team of the Season): 2017-18
- รางวัลรองเท้าทองคำ นิวคาสเซิลเจ็ตส์ (Jets Golden Boot): 2016-17
- รางวัล เรย์บาร์ตซ์เมดัล (Ray Baartz Medal): 2016-17
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของพีเอฟเอ (Professional Footballers Australia Player of the Month): มกราคม 2017
7. เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
หนึ่งในเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 2018 ซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้นหลังจากมีข่าวการย้ายทีมของเขาไปยังอูราวะเรดไดมอนส์ ระหว่างการแข่งขันกับซิดนีย์เอฟซี แนบเบาท์ทำประตูชัยได้ในนาทีที่ 11 ของครึ่งหลัง เมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม แฟนบอลในสนามต่างลุกขึ้นยืนปรบมือให้เขาอย่างกึกก้อง ซึ่งเขาเล่าภายหลังว่าทำให้เขาถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความซาบซึ้งใจที่เขาได้รับจากแฟนบอลนิวคาสเซิลเจ็ตส์