1. ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
เติ้งชุ่ยเหวินมีชีวิตวัยเด็กที่โดดเดี่ยวและได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการเลี้ยงดูของปู่ย่าตายาย ซึ่งมีส่วนหล่อหลอมบุคลิกและเส้นทางชีวิตของเธอ
1.1. วัยเด็กและภูมิหลังครอบครัว
เติ้งชุ่ยเหวินลืมตาดูโลกที่ฮ่องกงเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2509 โดยที่มารดาของเธอมีอายุเพียง 17 ปี ด้วยความไม่พร้อมด้านต่าง ๆ และปัญหาทางการเงิน บิดามารดาของเธอจึงตัดสินใจแยกทางกันเมื่อเธออายุได้ 5 ขวบ เธอจึงเติบโตภายใต้การเลี้ยงดูของปู่ย่าตายายที่เคร่งครัดและดิ้นรนอย่างมากเพื่อส่งเสียเธอจนสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนหญิงล้วนที่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม ด้วยความดุดันและช่องว่างระหว่างวัยของปู่ย่าตายาย ประกอบกับสภาพแวดล้อมที่พักอาศัยซึ่งไม่ค่อยมีเด็กวัยเดียวกัน ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวลำพัง ต้องเล่นและพูดคุยกับตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ประสบการณ์เหล่านี้หล่อหลอมให้เธอเติบโตมาเป็นคนขาดความรักความอบอุ่น มีโลกส่วนตัวสูง และชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวมากกว่าการเข้าสังคมขนาดใหญ่
1.2. การศึกษาและอิทธิพลช่วงแรก
หลังสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา เติ้งชุ่ยเหวินซึ่งโหยหาอิสระจากการถูกควบคุมอย่างเข้มงวดจากครอบครัว ได้ตัดสินใจที่จะไม่ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่กลับหันไปหางานทำทันที งานแรกที่เธอใฝ่ฝันคือการเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แต่โชคชะตากำหนดให้เธอไปอีกเส้นทางหนึ่ง เมื่อเธอผิดหวังจากการถูกปฏิเสธ เธอจึงบังเอิญไปพบป้ายรับสมัครนักเรียนการแสดงรุ่นใหม่ของTVB ด้วยความที่เธอเป็นคนชอบดูละครโทรทัศน์และมีหน้าตาดี เธอจึงลองเสี่ยงสมัครและได้กลายเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ของช่องในที่สุด ในปี พ.ศ. 2527 เธอเข้าร่วมหลักสูตรฝึกอบรมนักแสดงของ TVB รุ่นที่ 13 ด้วยการเสนอชื่อจากหลิว เต๋อหัว ซึ่งในปีนั้น TVB ได้ลดระยะเวลาหลักสูตรจากหนึ่งปีเหลือครึ่งปี โดยแบ่งเป็นสองภาคเรียน เติ้งชุ่ยเหวินอยู่ในภาคเรียนที่สองร่วมกับคิตตี้ ไล่ (Kitty Lai), แอรอน กว็อก (Aaron Kwok), แม็กกี้ ซิว (Maggie Shiu) และไมเคิล เซ (Michael Tse) ไม่นานหลังจากที่เธอเข้าสู่วงการ ปู่ย่าตายายผู้เป็นที่พึ่งเดียวของเธอก็ได้เสียชีวิตลงในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้เติ้งชุ่ยเหวินต้องใช้ชีวิตอยู่ลำพังนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในปี พ.ศ. 2534 เธอเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่านักเรียนเพื่อศึกษาด้านการออกแบบภายใน โดยยังคงถ่ายทำละครให้กับ TVB ในช่วงพักการเรียน ในช่วงเวลานี้ เธอเคยพิจารณาที่จะเลิกอาชีพนักแสดงและย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาอย่างถาวร อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอกลับมาฮ่องกงในปี พ.ศ. 2537 เธอตัดสินใจที่จะอยู่ในฮ่องกงและแสดงต่อไป เนื่องจากมีบทบาทที่น่าสนใจสำหรับผู้หญิงมากขึ้นในขณะนั้น การเปลี่ยนแปลงชีวิตและประสบการณ์ในต่างประเทศมีอิทธิพลอย่างมากต่อบุคลิกภาพและตัวตนของเธอในปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2548 เติ้งชุ่ยเหวินตัดสินใจเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ซึ่งเธอให้เหตุผลว่าเกิดจากความเลื่อมใสศรัทธาในหลักคำสอนของพระคริสต์เกี่ยวกับความรักและการให้อภัย การเปลี่ยนศาสนานี้มีส่วนช่วยเยียวยาความสัมพันธ์ที่เหินห่างกับบิดามารดาของเธอในวัยผู้ใหญ่
2. อาชีพการแสดง
เติ้งชุ่ยเหวินมีเส้นทางอาชีพการแสดงที่ยาวนานและโดดเด่น โดยผ่านช่วงเวลาสำคัญที่แตกต่างกันในแต่ละสังกัด
2.1. การเข้าสู่วงการและอาชีพช่วงแรก (พ.ศ. 2528-2538)
หลังจากสำเร็จหลักสูตรฝึกอบรม เติ้งชุ่ยเหวินก็ได้รับบทนางเอกทันทีในผลงานการแสดงเรื่องแรกของเธอคือ ซิยิ่นกุ้ย ผู้พิชิตตะวันออก (The Legend of the General Who Never Was) ในปี พ.ศ. 2528 ซึ่งนอกจากจะเป็นผลงานแจ้งเกิดแล้ว ยังทำให้เธอได้พบรักกับว่าน จื่อเหลียงพระเอกของเรื่องอีกด้วย ในช่วงที่ละครเรื่องนี้ออกอากาศ นักแสดงหญิงเบอร์หนึ่งในขณะนั้นคือองเหม่ยหลิงได้เสียชีวิตกะทันหันจากการฆ่าตัวตาย ส่งผลให้ TVB คาดหวังให้เติ้งชุ่ยเหวินมาเป็นตัวแทนขององเหม่ยหลิง โดยมีการตั้งฉายาให้เธอว่า "องเหม่ยหลิงน้อย" เพื่อใช้ในการผลักดันและส่งเสริมเธอ
หลังจากนั้น เธอก็มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 ทั้งละครกำลังภายใน เช่น ดาบมังกรหยก ตอน เทพบุตรมังกรฟ้า (New Heavenly Sword and Dragon Sabre) ในปี พ.ศ. 2529 ซึ่งเธอรับบทเป็น จิวจี้เยียก และ ฤทธิ์นางจิ้งจอก (The Vixen's Tale) ในปี พ.ศ. 2532 รวมถึงละครคอมเมดี้อย่าง สาวสองหน้าป่วนหัวใจ (Happy Spirit) ที่เธอแสดงร่วมกับแครอล เจิ้งในบทน้องสาว และ ขบวนการซ่าขรึม (Ode to Gallantry) ในปี พ.ศ. 2532 ซึ่งเป็นละครกำลังภายในแนวคอมเมดี้ที่สร้างจากนวนิยายชื่อดัง โดยเธอแสดงร่วมกับเหลียง เฉาเหว่ยอีกครั้ง
ในปี พ.ศ. 2533 เธอได้รับบทเป็น ฟาง ซีถง ในซีรีส์ คู่กัด คู่รัก (Friends and Lovers) ร่วมกับเทเรซ่า หมอ (Teresa Mo) ซึ่งเธอเคยแสดงความสนใจที่จะร่วมงานกับหมอก่อนหน้านี้ และรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกให้แสดงในเรื่องนี้
บทสมทบแรกของเธอคือซีรีส์ในปี พ.ศ. 2537 เรื่อง ทนายใจเพชร (The Intangible Truth) ที่เธอรับบทเป็นพี่สาวของตัวละครที่แสดงโดยโรเจอร์ กว็อก (Roger Kwok) ซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงบทรับเชิญ แต่ภายหลังได้กลายเป็นตัวละครสำคัญในช่วงครึ่งแรกของซีรีส์ ในปีเดียวกันนั้น เติ้งชุ่ยเหวินยังรับบท ถัง หมั่นหย่ง เพื่อนสนิทของตัวละครที่แสดงโดยเอมี่ ชาน (Amy Chan) ในซีรีส์ยอดนิยมในขณะนั้นอย่าง สามีคนที่สอง (Fate of the Clairvoyant) และแสดงเป็น กัม หยิกหลิน ในละครคอมเมดี้เรื่อง ขุนนางจำเป็น (Filthy Rich)
ในปี พ.ศ. 2538 เติ้งชุ่ยเหวินแสดงเป็น จอยซ์ เหยียน นักพยาธิวิทยานิติเวชใน แฟ้มคดีปริศนา (File of Justice IV) ซึ่งเป็นภาคที่สี่ของซีรีส์ยอดนิยม นอกจากนี้เธอยังแสดงเป็น พั้น เหว่ยเหยียน เจ้าหน้าที่ICAC ในละครที่นำแสดงโดยนักแสดงหญิงอย่าง มือปราบสาวใจเด็ด (Corruption Doesn't Pay) ร่วมกับเอสเธอร์ กวาน (Esther Kwan) และกิกี้ ชัง (Kiki Sheung)
2.2. การย้ายไปอยู่กับ ATV (พ.ศ. 2539-2542)
ในปี พ.ศ. 2539 เติ้งชุ่ยเหวินตัดสินใจเซ็นสัญญาหนึ่งปีกับสถานีโทรทัศน์ATV ซึ่งเป็นคู่แข่งของ TVB โดยเธอได้ถ่ายทำละครมากกว่า 200 ตอนภายในหนึ่งถึงสองปี เธอได้แสดงนำในละครเรื่อง ดรุณีรักนี้ไม่แปรเปลี่ยน (I Have a Date with Spring) ในบทเหยา เสี่ยวเตี๋ยบ ซึ่งแม้ละครจะไม่ได้รับความนิยมมากนักในฮ่องกง แต่กลับประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในจีนแผ่นดินใหญ่และได้รับความนิยมแบบลัทธิ (cult following) บทบาทนี้ถือเป็นหนึ่งในผลงานสร้างชื่อของเธอในจีนแผ่นดินใหญ่และทำให้เติ้งชุ่ยเหวินยังคงปรากฏตัวในรายการวาไรตี้และงานประกาศรางวัลมากมายเพื่อร้องเพลงจากซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากนี้เธอยังได้ร่วมงานกับเพื่อนนักแสดงอย่างเอมี่ ชาน (Amy Chan), กิกี้ ชัง (Kiki Sheung) และแม็กกี้ ชิว (Maggie Shiu) อีกครั้งในซีรีส์ยอดนิยมของ ATV เรื่อง สายใยรัก (The Good Old Days) เธอยังร่วมแสดงในละครเรื่อง สืบจากแฟ้ม (Interpol) ซึ่งออกฉายในปี พ.ศ. 2540
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่อยู่กับ ATV ได้นำมาซึ่งจุดพลิกผันครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ เนื่องจากเธอมีความสัมพันธ์กับเจียง หัว (Jiang Hua) ซึ่งมีภรรยาอยู่แล้ว เหตุการณ์นี้ถูกปาปารัสซี่ขุดคุ้ยและกลายเป็นข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้ความสัมพันธ์ต้องจบลงด้วยความเจ็บปวด เติ้งชุ่ยเหวินกล่าวว่าฝ่ายชายไม่ได้แสดงความรับผิดชอบและโยนความผิดทั้งหมดให้เธอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว เหตุการณ์อื้อฉาวในครั้งนั้นทำให้เธอตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ ATV และหันกลับมาซบอก TVB อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นช่วงตกต่ำที่สุดในชีวิตการแสดงของเธอ
เมื่อสิ้นสุดสัญญาของเธอกับ ATV เธอยังได้ไปแสดงในละครชุดไต้หวันหลายเรื่อง ในปี พ.ศ. 2541 เธอปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง เหลียงโปโป: เดอะ มูฟวี่ (Liang Po Po: The Movie) ในบทบาทผู้เชี่ยวชาญจากฮ่องกงที่มาให้ความรู้เกี่ยวกับไตรแอด (Triad) แก่แก๊งสเตอร์ท้องถิ่น และในปี พ.ศ. 2542 เติ้งชุ่ยเหวินยังได้รับบทสมทบในภาพยนตร์ยอดนิยมอย่าง ดาวหลุดฟ้ามาหารัก (Fly Me to Polaris)
2.3. การกลับมายัง TVB และความนิยม (พ.ศ. 2543-2551)
ในปี พ.ศ. 2543 เติ้งชุ่ยเหวินได้กลับมายัง TVB และแสดงในละครชุดช่วงสุดสัปดาห์เรื่อง มิติรัก มิติพิศวาส (The Threat of Love) ซึ่งแต่ละตอนมีโครงเรื่องใหม่ ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับละครช่วงสุดสัปดาห์ และได้รับคำชมสำหรับเนื้อเรื่องที่ไม่เหมือนใครและมีความก้าวหน้า ภาคต่อของซีรีส์นี้ออกฉายในปี พ.ศ. 2546
ในปี พ.ศ. 2544 เติ้งชุ่ยเหวินรับบทเป็น ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ก้อย หยิงจิง ในเรื่อง แผนร้ายละครรัก (Screen Play) และรับบทเป็น กู หยิว ในละครพีเรียดเรื่อง รอยรักรอยบาป (Country Spirit) ในปี พ.ศ. 2545 เธอได้รับบทสมทบในละครเรื่อง คนดีปะทะคนเลว (Good Against Evil) และในปี พ.ศ. 2546 ในละครวัยรุ่นเรื่อง พลังบุญ พลังบารมี (Aqua Heroes) เติ้งชุ่ยเหวินยังปรากฏตัวในบท ซู เทียนซิน ในละครไต้หวันปี พ.ศ. 2546 เรื่อง ลิขิตรักนางฟ้า (Eternity: A Chinese Ghost Story) ซึ่งมีนักแสดงจำนวนมากจากจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน และฮ่องกง
ถึงแม้ TVB จะอ้าแขนรับการกลับมาของเธอ แต่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญหรืองานที่ดีแก่เธอมากนัก หากจะกล่าวว่าเธอถูกลดลำดับจากนักแสดงเกรด A ก็ไม่ถือว่าเกินไปนัก ผลงานส่วนใหญ่ในช่วงนั้นจึงค่อนข้างล่อแหลมและเต็มไปด้วยฉากรักที่ร้อนแรงรุนแรง ตัวอย่างเช่น Quick Step of Passion ซึ่งเป็นละครโทรทัศน์เรต R ของทางช่อง หรือ Loving You 1-2 เกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์ของคนฮ่องกงในสังคมหลากหลายรูปแบบซึ่งเป็นซีรีส์จบในตอน อย่างไรก็ตาม ผลงานในช่วงนั้นกลับมีส่วนช่วยในการพัฒนาฝีมือทางการแสดงให้กับเธอเป็นอย่างมาก ทั้งยังเปิดโอกาสให้เธอได้แสดงในบทบาทที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวพราวเสน่ห์ ตำรวจสุดแกร่ง คุณหมอสุดเฉิ่ม แม่บ้านลูกติด แม่ค้าหาบเร่ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พนักงานอาบอบนวด สาวขี้ยา เด็กเสี่ย ไปจนถึงบทรักร่วมเพศที่หาดูได้ยากในวงการบันเทิงฮ่องกง
ในปี พ.ศ. 2546 เธอได้รับรางวัล "My Favourite Powerhouse Actress" (ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมในปี พ.ศ. 2548) จากงานTVB Anniversary Awards สำหรับบทบาทต่าง ๆ ที่เธอแสดงในเรื่อง มิติรัก มิติพิศวาส ภาค 2 (The Threat of Love 2) ในปี พ.ศ. 2547 เธอได้รับรางวัลนี้อีกครั้ง และยังได้รับรางวัลหนึ่งใน "My Favourite Television Character Awards" จากบทบาทของเธอในเรื่อง ศึกรักจอมราชันย์ (War and Beauty)
จุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอกลับมารุ่งโรจน์ในวงการบันเทิงอีกครั้ง คือบทบาทของ หยูเฟย (如妃Chinese) สนมเอกผู้ถูกโปรดปรานแต่ภายหลังตกอับในละครพีเรียดชื่อดังแห่งปี พ.ศ. 2547 อย่าง ศึกรักจอมราชันย์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายทั้งในฮ่องกง ไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ และประเทศไทย แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ตัวเลือกแรกสำหรับบทบาทนี้ แต่ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ประกอบกับบทหยูเฟยที่มีลักษณะเป็นหญิงแกร่ง ฉลาดเฉลียว โหดเหี้ยม แต่ก็มีความน่ารักอ่อนโยน ทำให้เธอถูกใจผู้ชมยุคใหม่ที่เริ่มเบื่อนางเอกเรียบร้อยน่าเบื่อ ไม่เว้นแม้กระทั่งฉงเหยา นักเขียนนวนิยายชื่อดัง ทำให้เธอเป็นนักแสดงหญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในละครเรื่องนั้นไปโดยปริยาย
การแสดงของเธอในบทหยูเฟยได้รับคำวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทำให้เธอเป็นตัวเก็งอันดับหนึ่งสำหรับรางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" ในปี พ.ศ. 2547 อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับรางวัลนี้ โดยรางวัลตกเป็นของจีจี้ ไล่ (Gigi Lai) แทน การโหวตถูกปิดก่อนพิธีมอบรางวัลหนึ่งคืน โดยเติ้งชุ่ยเหวินมีคะแนนนำอย่างถล่มทลาย ทำให้หลายคนเชื่อว่ารางวัลจะตกเป็นของเธออย่างแน่นอน แต่เธอกลับได้รางวัล "My Favourite Powerhouse Actress" แทน เหตุการณ์นี้สร้างกระแสต่อต้านจากสาธารณชนอย่างมาก จนทำให้ICAC ต้องเข้ามาสอบสวนงานประกาศรางวัลดังกล่าว การที่เธอไม่ได้รับรางวัลนี้ถูกจดจำว่าเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ค้านสายตาที่สุดในประวัติศาสตร์ของงานประกาศรางวัล เติ้งชุ่ยเหวินกล่าวว่าแม้เธอจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในขณะนั้นเนื่องจากได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้น และยอมรับว่า "ใคร ๆ ก็ได้รับผลกระทบจากคำพูดของผู้คนได้" แต่เธอก็กล่าวว่าเธอแสดงได้ดีที่สุดแล้วซึ่งผู้ชมก็รับรู้และนั่นก็เพียงพอสำหรับเธอ โดยเปรียบเทียบรางวัลเหมือนกับของหวาน ซึ่งเป็นสิ่งเสริมเพิ่มเติม
ในปี พ.ศ. 2548 เธอขยายอาชีพไปยังจีนแผ่นดินใหญ่และแสดงในละครสองเรื่อง ในปีเดียวกัน เติ้งชุ่ยเหวินแสดงเป็น ซอ แซม ในละครพีเรียดเรื่อง เงาบัลลังก์ (The Prince's Shadow) และยังร่วมแสดงในภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่อง ผอมสยอง (Slim Till Dead) เธอปรากฏตัวในฉากย้อนอดีตในบทบาทแม่ของตัวละครดราก้อนที่แสดงโดยดอนนี่ เยน (Donnie Yen) ในภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่อง ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า (Dragon Tiger Gate) ในปี พ.ศ. 2549
ในปี พ.ศ. 2549 เติ้งชุ่ยเหวินรับบทเป็น ฮิลดา ฮอย ซีอีโอการตลาดที่เข้มแข็งในเรื่อง น่ารักนะแต่ไม่แสดงออก (La Femme Desperado) ซึ่งได้รับเรตติ้งผู้ชมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในฮ่องกงปีนั้น และได้รับรางวัล "ละครยอดเยี่ยม" (Best Drama Award) จากงาน TVB Anniversary Awards เติ้งชุ่ยเหวินยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" และ "ตัวละครหญิงยอดนิยม" ในห้าอันดับแรก
ในปี พ.ศ. 2550 เติ้งชุ่ยเหวินแสดงในเรื่อง สะใภ้ป่วน ตำรวจจับกิ๊ก (The Family Link) ซึ่งทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" ในห้าอันดับแรกอีกครั้ง ละครเรื่องนี้ได้รับเรตติ้งผู้ชมเฉลี่ยสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในฮ่องกงปีนั้น และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล "ละครยอดเยี่ยม" ในงาน TVB Anniversary Awards ในปี พ.ศ. 2550 ในปีเดียวกันนั้น เธอยังรับบทในเรื่อง พยัคฆ์ร้ายเดือดทะลุพิกัด (The Drive of Life) ซึ่งเป็นการสร้างร่วมกันระหว่าง TVB และ ซีซีทีวี (CCTV)
เธอแสดงเป็น เคลลี่ ยิม (Kelly Yim) ในเรื่อง คุณครูคนใหม่ (Your Class or Mine) ในปี พ.ศ. 2551 โดยได้กลับมาร่วมงานกับบ๊อบบี้ เอาหยาง (Bobby Au-yeung) นักแสดงร่วมจากเรื่อง แฟ้มคดีปริศนา และ แผนร้ายละครรัก ในปีเดียวกัน นอกเหนือจาก ยอดหญิงจอมทระนง (Rosy Business) เติ้งชุ่ยเหวินยังได้ถ่ายทำละครจีนอีกสองเรื่อง
2.4. ช่วงเวลาสูงสุดกับ "ยอดหญิงจอมทระนง" และ "ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2" (พ.ศ. 2552-2558)
ในปี พ.ศ. 2552 บทบาทของเติ้งชุ่ยเหวินในฐานะ "ซื่อไหน่ไหน่" (四奶奶) หรือภรรยาคนที่สี่ของเจ้าของธุรกิจข้าวในเรื่อง ยอดหญิงจอมทระนง (Rosy Business) ได้สร้างความนิยมอย่างมาก ทำให้เธอเป็นตัวเก็งอันดับต้น ๆ สำหรับรางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" อีกครั้ง มีข่าวลือว่า TVB เลื่อนการจัดงานประกาศรางวัลไปเป็นเดือนธันวาคม เพื่อให้ละครฟอร์มยักษ์อย่าง ครอบครัววุ่น วายใจ (Born Rich) และ ศึกบุปผาวังมังกร (Beyond the Realm of Conscience) สามารถรวมอยู่ในรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อได้ ซึ่งอาจลดโอกาสการชนะรางวัลของเติ้งชุ่ยเหวิน มีข่าวลือว่า TVB ต้องการผลักดันทาเวีย เยิ้ง (Tavia Yeung) นักแสดงนำหญิงจาก ศึกบุปผาวังมังกร ให้เป็นนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม เนื่องจากเติ้งชุ่ยเหวินไม่ได้เซ็นสัญญาถาวรกับสถานี อย่างไรก็ตาม ทาเวีย เยิ้ง ได้กล่าวอย่างเปิดเผยว่า หากเติ้งชุ่ยเหวินไม่ได้รับรางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" เธอจะเข้าร่วมการประท้วงของชาวเน็ตต่อการตัดสินใจของ TVB โชคดีที่ในครั้งนี้ ด้วยการสนับสนุนจาก โปรดิวเซอร์ของ TVB แคเธอรีน ซาง (Catherine Tsang) เติ้งชุ่ยเหวินจึงได้รับรางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งสร้างความยินดีอย่างมากแก่ชาวฮ่องกง โดยมีการยื่นคำร้องจากประชาชนให้ TVB มอบรางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" ที่ค้างคามานานให้แก่เธอ หากไม่ทำตามก็จะมีการประท้วงนอกสำนักงานใหญ่ของสถานี
ในงาน TVB Anniversary Awards ปี พ.ศ. 2553 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเธอในบทเจิ้ง เก่าหมุย (鄭九妹Chinese) ลูกสาวที่ซับซ้อนของเจ้าพ่อยาเสพติด ซึ่งวางแผนที่จะทำลายธุรกิจของบิดาจากภายใน ในละครภาคต่ออย่างไม่เป็นทางการของ ยอดหญิงจอมทระนง เรื่อง ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2 (No Regrets) เติ้งชุ่ยเหวินถูกมองว่าเป็นตัวเก็งสำหรับรางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" อีกครั้ง นอกจากได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากชาวเน็ตแล้ว เติ้งชุ่ยเหวินยังได้รับรางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" ที่ใฝ่ฝันอีกครั้ง ทำให้เธอเป็นนักแสดงหญิงคนแรกในฮ่องกงที่ได้รับรางวัลสูงสุดนี้สองปีติดต่อกัน การแสดงและบทบาทของเธอในภาคนี้ได้รับคำชมและเสียงวิพากษ์วิจารณ์เชิงบวกมากยิ่งกว่าใน ยอดหญิงจอมทระนง และทำให้เติ้งชุ่ยเหวินเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของ TVB เติ้งชุ่ยเหวินกล่าวว่าบทบาทของเธอใน ยอดหญิงจอมทระนง และ ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2 เป็นบทบาทที่เธอชื่นชอบที่สุดในบรรดาตัวละครทั้งหมดที่เธอเคยแสดง
เติ้งชุ่ยเหวินและนักแสดงร่วมหลี เย่าเสียง (Wayne Lai) ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน และชุมชนชาวจีนกวางตุ้งในต่างประเทศ หลังจากที่ละครทั้งสองเรื่องประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยหลายคนยกให้พวกเขาเป็นคู่จิ้นบนหน้าจอที่ดีที่สุดคู่หนึ่งในวงการโทรทัศน์ และยังคงร่วมงานกันเป็นครั้งคราวในกิจกรรมการกุศล งานสาธารณะ และรายการวาไรตี้มาตลอดหลายปี
ในปี พ.ศ. 2554 เธอแสดงเป็นฮองเฮาในละครจีนแผ่นดินใหญ่เรื่อง องค์หญิงกำมะลอ ป่วนกำลัง 3 (New My Fair Princess) ซึ่งเป็นการสร้างใหม่ของละครยอดฮิตในปี พ.ศ. 2541 เรื่อง องค์หญิงกำมะลอ บทบาทนี้ทำให้เธอได้รับรางวัล "นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม" จากหัวติ้ง อวอร์ด (Huading Award) ในปี พ.ศ. 2554 การที่เธอรับบทในซีรีส์นี้ทำให้เธอไม่สามารถรับบทที่คล้ายกันในซีรีส์จีนยอดฮิตเรื่อง เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน (Empresses in the Palace) บทบาทดังกล่าวจึงตกเป็นของเอด้า ชอย (Ada Choi) นักแสดงร่วมและเพื่อนของเธอ ซึ่งเดิมทีควรจะรับบทตัวละครของเติ้งชุ่ยเหวินใน ศึกรักจอมราชันย์ เติ้งชุ่ยเหวินกล่าวว่าการ "สลับตัวละคร" ของพวกเขานั้นเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมและเป็นโชคชะตา เธอยังชี้แจงด้วยว่าเธอได้รับข้อเสนอให้เข้าร่วมซีรีส์นี้เท่านั้น และข่าวลือที่ว่าเธอปฏิเสธบทในซีรีส์ยอดฮิตเรื่องอื่นอย่าง องค์หญิงเหยียนซี (Story of Yanxi Palace) ไม่เป็นความจริง เนื่องจากเธอไม่เคยได้รับข้อเสนอให้เข้าร่วมซีรีส์นั้นเลย
จากปี พ.ศ. 2555 ถึง พ.ศ. 2557 เธอยังรับบทสมทบเป็น อาปอย ในภาพยนตร์ไตรภาคชุด 4 มหากาฬพญายม (The Four) ซึ่งทำให้เธอได้กลับมาร่วมงานกับแอนโธนี่ หว่อง (Anthony Wong) นักแสดงร่วมและเพื่อนจากภาพยนตร์ระทึกขวัญปี พ.ศ. 2548 เรื่อง ผอมสยอง
ในปี พ.ศ. 2555 เติ้งชุ่ยเหวินแสดงเป็น ไป๋ ยู่ฉิน ในละครอิงประวัติศาสตร์เรื่อง สาวงามจอมวายร้าย (Allure Snow) ในปี พ.ศ. 2556 เธอแสดงในเรื่อง เกมรัก หักเหลี่ยมชีวิต (Love Is Not For Sale) ในบทผู้บริหารของเครือซูเปอร์มาร์เก็ต สัญญาของเธอกับ TVB สิ้นสุดลงหลังจากถ่ายทำละครภาคต่ออย่างไม่เป็นทางการของ ศึกรักจอมราชันย์ เรื่อง ศึกรักจอมราชันย์ ภาค 2 (Beauty at War) ในปี พ.ศ. 2555
ในช่วงกลางปี พ.ศ. 2556 ระหว่างงานโปรโมตและสัมภาษณ์สำหรับการเปิดตัวซีรีส์เรื่อง ศึกรักจอมราชันย์ ภาค 2 เติ้งชุ่ยเหวินได้กล่าวถึงความยากลำบากในการเตรียมตัวเนื่องจากความล่าช้าของบท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่มีบทละครให้แม้กระทั่งในวันที่ถ่ายทำ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอประสบปัญหาภาวะวิตกกังวลอย่างรุนแรงและปัญหาสุขภาพทางกาย เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะระบบประสาทอัตโนมัติผิดปกติ (dysautonomia) ในช่วงเวลานี้
สำนักข่าวต่าง ๆ รายงานว่าสิ่งนี้ทำให้ TVB ประกาศว่าจะไม่ต่อสัญญาของเธอ แม้ว่าเติ้งชุ่ยเหวินจะเคยกล่าวไว้ในปี พ.ศ. 2555 ก่อนการผลิตละครจะเริ่มขึ้นว่าละครเรื่องนี้จะเป็นผลงานสุดท้ายของเธอกับสถานีในเวลานั้น และเธอจะมุ่งเน้นการทำงานในจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งเติ้งชุ่ยเหวินและสถานีได้ระบุว่ารายงานดังกล่าวถูกนำเสนอเกินจริงอย่างมากและไม่มีความขัดแย้งกัน เติ้งชุ่ยเหวินกล่าวมาตลอดว่าเธอพร้อมที่จะกลับไป TVB อีกครั้งหากมีบทบาทที่เหมาะสมสำหรับเธอ
ในปี พ.ศ. 2557 เธอแสดงในละครคอมเมดี้พีเรียดเรื่อง เจ๋อเฮ่าฮ่องเฮา (Cosmetology High) โดยรับบทเป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง บูเช็กเทียน (Wu Zetian) ซึ่งเป็นจักรพรรดินีผู้ปกครองเพียงคนเดียวของจีน
เติ้งชุ่ยเหวินพักจากการแสดงประมาณสองปีใน พ.ศ. 2557 และ พ.ศ. 2558 เพื่อมุ่งเน้นที่สุขภาพของเธอหลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะระบบประสาทอัตโนมัติผิดปกติ และมีปัญหาไทรอยด์เล็กน้อย ซึ่งปัจจุบันเธอหายเป็นปกติแล้ว
2.5. กิจกรรมล่าสุดและทิศทางใหม่ (พ.ศ. 2559-ปัจจุบัน)
หลังจากห่างหายไปพักหนึ่ง เติ้งชุ่ยเหวินปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง พลิกเกมล่า ฆ่ารอด (Heartfall Arises) ในปี พ.ศ. 2559 และได้รับบทในเรื่อง สายรุ้งแห่งรัก (Star April) และ เพียงรักไม่ลืมเลือน (Once Given Never Forgotten) ในปี พ.ศ. 2560 เติ้งชุ่ยเหวินยังได้ร่วมงานกับบริษัท Tailor Made Productions Limited ของหว่อง ชอแลม (Wong Cho Lam) เป็นเวลาหนึ่งปี
แหล่งข่าวหลายแห่งรายงานว่าเติ้งชุ่ยเหวินได้รับการขอให้กลับมา TVB ในหลายเรื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 หลังจากที่สัญญาของเธอสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2555 ซึ่งรวมถึงเรื่อง ยัยตัวร้ายกับนายซูเปอร์สตาร์ (My Unfair Lady) และ ภรรยาสายสตรอง (Wonder Women) เนื่องจากสถานีพยายามปรับปรุงหลังจากประสบปัญหาเรตติ้งต่ำและมีศิลปินและพนักงานจำนวนมากออกจากสถานีแทน เธอกลับมาปรากฏตัวในฐานะผู้มอบรางวัลในงาน TVB Anniversary Awards ในปี พ.ศ. 2559 และปรากฏตัวในรายการทอล์คโชว์ของสถานีสองสามรายการในปี พ.ศ. 2560
ในปี พ.ศ. 2561 เติ้งชุ่ยเหวินกลับมายังโทรทัศน์ฮ่องกงในเรื่อง วิวาห์พายุรัก (Till Death Do Us Part) ของViuTV ในละครเรื่องนี้ เติ้งชุ่ยเหวินได้ร่วมงานกับอดีตนักแสดงร่วมจาก TVB อย่างซันนี่ ชาน (Sunny Chan) และเบอร์นิซ หลิว (Bernice Liu)
ในปี พ.ศ. 2564 เติ้งชุ่ยเหวินยืนยันผ่านWeibo ว่าเธอได้เซ็นสัญญากับบริษัทจัดการของจีน Haohan Entertainment โดยบริษัทยืนยันว่าเธอเป็นหนึ่งในนักแสดงหลักในละครจีนเรื่อง ชีวิตของพวกเรา (Women Walk The Line)
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เติ้งชุ่ยเหวินกล่าวว่าเธอพยายามคำนึงถึงสุขภาพเป็นอันดับแรก เพราะกลัวการทำงานหนักเกินไปอีกครั้ง และต้องการอ่านบทอย่างน้อยบางส่วนก่อนที่จะรับบทใหม่ ในงาน TVB Anniversary Awards ปี พ.ศ. 2559 เธอได้พูดติดตลกว่าเธอไม่สามารถรับมือกับ เฝ่ย จื่อ ไจ่ (fei tze jai) ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกนักเขียนบทที่เขียนบทต่อหน้างานถ่ายทำเนื่องจากบทละครที่ยังไม่เสร็จ นอกจากนี้ เติ้งชุ่ยเหวินกล่าวว่าเธอต้องการเพียงบทบาทที่จะส่งผลดีต่อชีวิตผู้คนเท่านั้น และเธอรู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจังและเป็นมืออาชีพในฐานะนักแสดงในจีนมากกว่าในฮ่องกง
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 เติ้งชุ่ยเหวินเปิดเผยว่าเธอได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมในซีรีส์ ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 4 (Rosy Business 4: No Return) เธออธิบายการตัดสินใจว่าเกิดจากประสบการณ์การถ่ายทำที่ไม่ดีในอดีต และเธอจะไม่ประนีประนอมกับการปฏิบัติที่ไม่เป็นมืออาชีพในวงการอีกต่อไป เธอชี้แจงว่าการตัดสินใจนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน หลังจากที่มีข่าวลือว่า TVB ไม่สามารถจ่ายค่าตัวเธอได้เนื่องจากความนิยมของเธอในจีนแผ่นดินใหญ่หลังจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง เกมเดิมพัน (No More Bets) และการตัดสินใจของเธอเกิดขึ้นก่อนที่ภาพยนตร์จะออกฉาย
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 เติ้งชุ่ยเหวินรับบทเป็น โช หม่า ซึ่งเป็นบทนำหญิงในละครเวทีจีนเรื่อง จระเข้ (Crocodile) ซึ่งเขียนและอำนวยการสร้างโดยโม่ เหยียน (Mo Yan) นักประพันธ์และนักเขียนบทละครผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมปี พ.ศ. 2555 นี่คือบทละครเวทีเรื่องแรกของเติ้งชุ่ยเหวิน จระเข้ กำลังอยู่ในระหว่างการทัวร์และได้แสดงในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วซูโจว กว่างโจว และหนิงโป
3. ผลงานการแสดง
เติ้งชุ่ยเหวินมีผลงานการแสดงที่หลากหลายทั้งในละครโทรทัศน์และภาพยนตร์
3.1. ละครโทรทัศน์
3.1.1. ละครชุดทางช่อง TVB
ปี | ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ | ชื่อเรื่องภาษาจีน | บทบาท |
---|---|---|---|
1985 | The Legend of the General Who Never Was | 薛仁貴征東 | Lau Kam-fa |
The Possessed | 六指琴魔 | Dyun Muk-Hung | |
Happy Spirit | 開心女鬼 | Yeung Hoi-yee | |
1986 | New Heavenly Sword and Dragon Sabre | 倚天屠龍記 | Chow Chi-Yeuk |
Brothers Under the Skin | 遁甲奇兵 | Ling Choi-yuet | |
The Legend of Wong Tai Sin | 黃大仙 | Gu Sou-sou | |
1987 | The Greenhorns | 大城小子 | Guk Siu-nga |
Police Cadet 1988 | 新紮師兄1988 | Ching Yuet Yue | |
1988 | The In-Between | 旭日背后 | Kong Ka-Yiu |
Everybody's Somebody's Favourite | 都市方程式 | Clara | |
The Vendetta | 義薄雲天 | Ting Hiu-Kwun | |
Twilight of a Nation | 太平天國 | Hon Bo-Ying | |
1989 | The Vixen's Tale | 萬家傳說 | Koo Yuet/Wu Chin Chin/Choi Cha |
The Sword and the Sabre | 決戰皇城 | Lang Yuet | |
I Do, I Do | 花月佳期 | Lily | |
The War Heros | 天變 | Tung Heung-Yee | |
Ode to Gallantry | 俠客行 | Ding Dong | |
1990 | The Enforcer's Experience | 優皮干探 | Ching Hoi-Ka |
Friends and Lovers | 又是冤家又聚頭 | Fong Hei-tung (Yolanda) | |
1991 | On the Edge | 灰網 | Wong Kwun-yin (Alice) |
1992 | Once Upon a Time in Hong Kong | 血濺塘西 | Pang Hung |
1993 | The Conspiracy of The Eunuch | 南俠展昭 | Fan Tai |
1994 | The Intangible Truth | 生死訟 | Ma Kit |
Fate of the Clairvoyant | 再見亦是老婆 | Tong Mun-Yung | |
Filthy Rich | 豪門插班生 | Kam Yik-Lin | |
1995 | Corruption Doesn't Pay | 廉政英雌之火槍柔情 | Poon Wai-yan |
File of Justice IV | 壹號皇庭IV | Yan Tze-kit (Joyce) | |
2000 | The Threat of Love | Loving You我愛你 | Ching Ka Si/Wong Hung/Mak Mei Ying/Miu Hok Wai/Choi Lei Yuk/Lee Sau Mei/Yip Miu-yu/Fong Yiu/Ho Lei Fun/Yeung Siu Nam (หลากหลายบทบาท) |
Healing Hands II | 妙手仁心II | Tsui Ka-wing | |
2001 | Screen Play | 娛樂反斗星 | Koi Ying-jing |
Country Spirit | 酒是故鄉醇 | Koo Yiu | |
2002 | Good Against Evil | 點指賊賊賊捉賊 | Lau Siu-po |
2003 | The Threat of Love II | Loving You我愛你2 | Cheung Fan/Jessie/Ting Yuet Ying/Hui Ha/Sam/Chu Sau Ping/Mei/So Yuk Kwan/Fong Yi Lei/Karen (หลากหลายบทบาท) |
Aqua Heroes | 戀愛自由式 | Sui Kin Yee (Sandy) | |
2004 | War and Beauty | 金枝慾孽 | Niu-hu-lu Ru-yue (หยูเฟย) |
2005 | The Prince's Shadow | 御用閒人 | So Sam |
2006 | La Femme Desperado | 女人唔易做 | Hoi Kiu (Hilda) |
2007 | The Family Link | 師奶兵團 | Mung Ka-Ka (Monica) |
The Drive of Life | 歲月風雲 | Wang Siu-Fun (Fanny) | |
2008 | Your Class or Mine | 尖子攻略 | Yim Ka-Lai (Kelly) |
2009 | Rosy Business | 巾幗梟雄 | Hong Po-Kei (สี่ไหน่ไหน่) |
2010 | No Regrets | 巾幗梟雄之義海豪情 | Cheng Kau-Mui (เก้าหมุย/Miss 9) |
2013 | Beauty at War | 金枝慾孽貳 | Niu-hu-lu Ru-yue (หยูเฟย) |
3.1.2. ละครชุดทางช่อง ATV
ปี | ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ | ชื่อเรื่องภาษาจีน | บทบาท |
---|---|---|---|
1996 | I Have a Date with Spring | 我和春天有個約會 | Yiu Siu-deep |
The Good Old Days | 再見艷陽天 | Cheung Man-fung/Chung Sum-ming | |
1997 | Interpol | 國際刑警1997 | Law Tze-yin |
3.1.3. ละครชุดทางช่อง ViuTV
ปี | ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ | ชื่อเรื่องภาษาจีน | บทบาท |
---|---|---|---|
2019 | Till Death Do Us Part | 婚內情 | Ma Suk-Sheung (Sharon) |
3.1.4. ละครชุดทางโทรทัศน์ในจีนแผ่นดินใหญ่
ปี | ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ | ชื่อเรื่องภาษาจีน | บทบาท |
---|---|---|---|
2005 | Huiniang Wanxin | 徽娘宛心 | Xiao Guixiang |
2005 | Love of Fate | 青城之戀 | Mei Lan |
2008 | The Woman under the Archway | 牌坊下的女人 | He Qizhen |
2009 | Rose Martial World | 玫瑰江湖 | Yin Xuehan |
2011 | New My Fair Princess | 新還珠格格 | Empress (Kế Hoàng Hậu) |
2012 | Allure Snow | 傾城雪 | Bai Yu-qin |
2013 | Love is Not For Sale | 棋逢對手 | Su Shan Na (Susanna) |
2014 | Cosmetology High | 美人製造 | Wu Zetian (บูเช็กเทียน) |
2017 | Star April | 繁星四月 | Cui Fengping |
2020 | My Unicorn Girl | 穿盔甲的少女 | Cheng Min Li |
2021 | Once Given, Never Forgotten | 你的名字我的姓氏 | Jiang Peishan (Paisley) |
2022 | Women Walk The Line | 我們的當打之年 | Fu Mei |
2023 | Faithful | 九義人 | Madam Ning |
TBA | Love in the Storm | 愛在風起雲湧時 | Fu Yuxia |
TBA | The Emperor's Love | 傾城亦清歡 | Madam Butterfly |
3.1.5. ละครชุดทางโทรทัศน์ในไต้หวัน
ปี | ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ | ชื่อเรื่องภาษาจีน | บทบาท |
---|---|---|---|
1997 | The Mystery Cases of Master Shi | 施公奇案 | Sang Xiaohuan/Ah Xia |
2001 | The Young Hero Hong Wen Ding | 少年英雄之洪文定 | Se Yi Niang |
2003 | Eternity: A Chinese Ghost Story | 倩女幽魂 | Su Tian Xin |
3.2. ภาพยนตร์
ปี | ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ | ชื่อเรื่องภาษาจีน | บทบาท |
---|---|---|---|
1987 | Guilty Feeling | 逼娼為良 | Susie |
Mr. Smart | 程太與我 | Hu Ke Xin | |
1989 | The Yuppie Fantasia | 小男人週記 | Cora |
Club Girls | 火舞儷人 | Lai Man | |
Out of Bravery | 天涯路客 | Yan So Mei | |
Dream Murder | 夢殺 | Sung Suk Man | |
1990 | The Big Score | 絶橋智多星 | Ling |
The Legend of Fairies | 九天玄女 | Siu Yuk | |
1991 | Au Revoir, Mon Amour | 何日君再來 | |
1992 | The Son of Dragon | 龍之根 | Cho Yee |
1993 | Chase For Glory | 江湖梦 | Wan Yuen Lan |
1999 | Fly Me to Polaris | 星願 | Autumn's Sister |
Liang Po Po: The Movie | 梁婆婆重出江湖 | Mun Jie | |
2000 | Eternal Love | 沒有你,沒有我 | Shirley |
2000 | Red Lips | Call in 紅唇劫 | |
2004 | Double Crossing | 親密殺機 | Man Sa-Wah (Sabrina) |
When Beckham Met Owen | 當碧咸遇上奧雲 | Michael's mother | |
The Quick Step of Passion | 紅杏劫 | Sum Ka-Bo (Cheerie) | |
2005 | Slim till Dead | 瘦身 | Ling |
2006 | Without Words | 地老天荒 | Hong's mother |
2006 | Dragon Tiger Gate | 龍虎門 | Dragon's mother |
2012 | The Four | 四大名捕 | Aunt Poise |
2013 | The Four II | 四大名捕II | Aunt Poise |
2014 | The Four III | 四大名捕III | Aunt Poise |
2016 | Heartfall Arises | 驚心破 | Che's wife |
2023 | No More Bets | 孤注一掷 | Tian's mother |
3.3. ละครเวที
เติ้งชุ่ยเหวินยังได้แสดงในละครเวทีหลายเรื่อง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแสดงความสามารถของเธอ
- พ.ศ. 2534: Cuộc hẹn hoa hậu
- พ.ศ. 2538: Thượng Hải dưới máiเฉลียง
- พ.ศ. 2549: Dướiภูเขาสิงโต (狮子山下) ในบท เจียงเหม่ย (Jan)
- พ.ศ. 2557: ผู้ชายที่ไม่ได้นัดหมาย
- พ.ศ. 2567: จระเข้ (Crocodile) ในบท โช หม่า
4. กิจกรรมทางวิชาชีพอื่น ๆ
นอกเหนือจากงานแสดงหลัก เติ้งชุ่ยเหวินยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางวิชาชีพอื่น ๆ ที่หลากหลาย
4.1. ผลงานเพลงและกิจกรรมทางดนตรี
เติ้งชุ่ยเหวินมีส่วนร่วมในผลงานเพลงประกอบละคร และยังปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอรวมถึงการแสดงในคอนเสิร์ตต่าง ๆ:
- เพลงประกอบละคร:**
- I Have A Date With Spring (พ.ศ. 2538)
- เพลง "默默耕耘" (ม่อ ม่อ เกิง หยุน) ในซีรีส์ 飞驰梦想 (เฟย ฉือ เมิ่ง เสี่ยง) ซึ่งเป็นเพลงประกอบหลักของซีรีส์
- มิวสิกวิดีโอ:**
- เพลง "Love in Fever" (愛到發燒) ของจอร์จ แลม (George Lam) ในปี พ.ศ. 2528
- เพลง "Di Yi Di Lei" (第一滴淚) ของอลัน แทม (Alan Tam) ในปี พ.ศ. 2529
- คอนเสิร์ต:**
- วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552: คอนเสิร์ตที่สหรัฐอเมริกา ร่วมกับหลี เย่าเสียง และกวน จู๋อิง
- วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553: คอนเสิร์ตที่โทรอนโต แคนาดา ร่วมกับหลี เย่าเสียง
- วันที่ 10-11 ตุลาคม พ.ศ. 2554: คอนเสิร์ต "All Stars Gala Live In Genting" ที่เก็นติ้ง มาเลเซีย ร่วมกับหลี เย่าเสียง และเหมา ซุ่นจวิน
- วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555: คอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ ร่วมกับเซียะ เจียเหยียน (Sit Ka-yin), เซียะ เทียนหัว (Michael Tse), หลิน เป่าอี (Bowie Lam), โอว เจียเหนียน (Ngo Ka-nin) และหม่า ไซ่ (Sire Ma)
- วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555: คอนเสิร์ต "Hong Kong Film Festival" ที่โรงละครหยุนซิง เก็นติ้ง มาเลเซีย ร่วมกับเซียะ เจียเหยียน (Sit Ka-yin), เซียะ เทียนหัว (Michael Tse), หลิน เป่าอี (Bowie Lam) และโอว เจียเหนียน (Ngo Ka-nin)
4.2. โฆษณาและการเป็นพรีเซนเตอร์
เติ้งชุ่ยเหวินเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย:
- พ.ศ. 2552: La Prairie 泊妮化妆品
- พ.ศ. 2552: OTO Bodycare OTO揼揼鬆
- พ.ศ. 2553: Lion White Story Laundry Detergent 潔白物語洗衣粉(獅王潔白物語)
- พ.ศ. 2553-2563: Meiriki Japan 日本命力強骼素
- พ.ศ. 2553: Rohto Eye Moisturizer 樂敦養潤水
- พ.ศ. 2553: Easy Dance 纖形22
- พ.ศ. 2554: Blue Cross Insurance Hong Kong (ร่วมกับหลี เย่าเสียง) 藍十字保險
- พ.ศ. 2555: Salon De Pro 染髮劑
- พ.ศ. 2556: Noto Ginseng 樂道三七
- พ.ศ. 2559-ปัจจุบัน: Rohto 50の惠 養潤育髮精華素
- พ.ศ. 2563: SCHSA Medical Alarm Smartphone (โทรศัพท์สมาร์ทโฟนสำหรับผู้สูงอายุ)
- พ.ศ. 2563: SCHSA Medical Alarm Smartwatch (ร่วมกับหลอ หลาน (Helena Law)) (นาฬิกาสมาร์ทวอทช์สำหรับผู้สูงอายุ)
4.3. รายการวาไรตี้และเรียลลิตี้
เติ้งชุ่ยเหวินได้เข้าร่วมและเป็นพิธีกรในรายการวาไรตี้และเรียลลิตี้หลายรายการ:
- พ.ศ. 2528: TVB 18th Anniversary Gala (萬千星輝賀台慶) (ผู้แสดง)
- พ.ศ. 2529: 群星獻瑞喜迎春, Miss TV semi-finals (1986年電視小姐競選準決賽)
- พ.ศ. 2530: 翡翠群星二十年
- พ.ศ. 2531: TVB 21st Anniversary Gala (萬千星輝賀台慶) (ผู้แสดง), 1988銀河接力大賽, 星光閃聚吉隆坡, 連環泡 (CTS)
- พ.ศ. 2532: 周末夜遊人 (TVB) (แขกรับเชิญ)
- พ.ศ. 2533: 電視先鋒群星會 (TVB)
- พ.ศ. 2537: 愛情公開學院 (TVB)
- พ.ศ. 2538: 花弗新世界, 運財智叻星, 寰宇風情 (TVB) (พิธีกรร่วมกับกอร์ดอน แลม (Gordon Lam))
- พ.ศ. 2542: 蔡瀾嘆世界, 公益金屋開心SHOW, 反斗旅游俱樂部IV, 驚天動地獎門人 (Super Trio Series 4), 台灣紅不讓 (TTV), 2000小時迎千禧之光輝紀元出狀元
- พ.ศ. 2543: 宇宙無敵獎門人 (Super Trio Series 5)
- พ.ศ. 2544: 名人蒲點食名菜 (พิธีกรรับเชิญ), 旅遊真的感受 (พิธีกร), 一筆out消 (Weakest Link (Hong Kong)), 公益開心大富翁
- พ.ศ. 2545: 旅遊真程趣III, 大學群英越野狂奔 (พิธีกรร่วมกับเควิน เฉิง (Kevin Cheng)), 一觸即發
- พ.ศ. 2546: TVB 36th Anniversary Gala (萬千星輝賀台慶) (ผู้ได้รับการเสนอชื่อ/ผู้รับรางวัล)
- พ.ศ. 2547: 峇里加倍開心之旅 (พิธีกร), 旅創新感受, 翡翠實力派, 都市閒情 (Pleasure & Leisure), 繼續無敵獎門人 (Super Trio Series 7), TVB 37th Anniversary Gala (萬千星輝賀台慶) (ผู้ได้รับการเสนอชื่อ/ผู้รับรางวัล), TVB8 Mandarin Music On Demand Awards Presentation (TVB8金曲榜頒獎典禮) (ผู้มอบรางวัล)
- พ.ศ. 2548: 香港電影金像獎 (Hong Kong Film Awards) (RTHK) (ผู้มอบรางวัล), 鄭少秋家傳户曉演唱會 (Adam Cheng Concert Special) (แขกรับเชิญ)
- พ.ศ. 2549: 女人我最大 (Queen) (TVBS), 15/16, 心大心細, 星級育樂王, 萬千星輝頒獎典禮 (TVB Awards Presentation) (ผู้ได้รับการเสนอชื่อ)
- พ.ศ. 2550: 問題娛樂圈 (Is That Right?), 一擲千金 (Deal Or No Deal), 萬千星輝頒獎典禮 (TVB Awards Presentation) (ผู้ได้รับการเสนอชื่อ)
- พ.ศ. 2551: 無綫電視台慶亮燈儀式 (TVB 41st Light Switching Ceremony)
- พ.ศ. 2552: TVB512再展關懷 (Artistes 512 Fundraising Campaign), 萬眾同心公益金 (Community Chest Charity Show), 星級廚房 (Starry Kitchen), 志雲飯局 (Be My Guest), 星星同學會 (Club Sparkle), 今日VIP (The Green Room), 美女廚房 (Beautiful Cooking) (Series 2) (แขกรับเชิญ), 至8女人心 (Club Venus), 萬千星輝賀台慶 (TVB 42nd Anniversary Gala) (ผู้แสดง), 萬千星輝頒獎典禮 (TVB Awards Presentation) (ผู้ได้รับการเสนอชื่อ/ผู้รับรางวัล), 2010無綫節目巡禮 (TVB Sales Presentation 2010)
- พ.ศ. 2553: 無綫電視台慶亮燈儀式 (TVB 43rd Light Switching Ceremony), 萬千星輝頒獎典禮 (TVB Awards Presentation) (ผู้ได้รับการเสนอชื่อ/ผู้รับรางวัล), 鄭秀文LoveMi演唱會 (Sammi Cheng's LoveMi Concert Special) (แขกรับเชิญ), 劉德華Unforgettable演唱會 (Andy Lau's Unforgettable Concert Special) (แขกรับเชิญ), Big4大四喜 (Big Four Up), 今日VIP (The Green Room)
- พ.ศ. 2554: 和味蘇 (Kitchen Diva Louisa), 快樂大本營 (Happy Camp) (HBS) (แขกรับเชิญ), 吃飯皇帝大 (Nothing is Bigger Than Eat) (TVBS) (แขกรับเชิญ), 2011年春節联歡晚會 (Spring Festival Gala) (Dragon Television) (ผู้แสดง), 明報週刊演藝動力大獎 (MingPao 43rd Anniversary Awards) (ผู้ได้รับการเสนอชื่อ/ผู้รับรางวัล), 萬千星輝頒獎典禮 (TVB Awards Presentation) (ผู้มอบรางวัล)
- พ.ศ. 2555: 騰訊星光大典 (Tencent Video Awards) (Tencent) (ผู้รับรางวัล)
- พ.ศ. 2556: 今日VIP (The Green Room), 星尚大典 (China Fashion Awards) (SMG) (ผู้รับรางวัล)
- พ.ศ. 2559: 全員加速中 (Run For Time) (Season 2) (HBS, Mango TV) (แขกรับเชิญ), 王牌對王牌 (Ace VS Ace) (Zhejiang TV) (แขกรับเชิญ), 金星秀 (The Jin Xing Show) (SMG) (แขกรับเชิญ), 我們在一起 (Jiangsu TV), 優酷全明星 (Youku) (เว็บซีรีส์), 萬千星輝頒獎典禮 (TVB Awards Presentation) (ผู้มอบรางวัล)
- พ. 2560: 恩雨之聲 (SOBEM) (TVB), 最佳拍檔 (Telling Maria) (Series 4) (TVB), 跨界歌王 (Crossover Singer) (BTV)
- พ.ศ. 2562: 百花迎春文藝新年晚會 (China Literary and Art Circles Spring Festival Gala) (ผู้แสดง)
- พ.ศ. 2563: 百花迎春文藝新年晚會 (China Literary and Art Circles Spring Festival Gala) (ผู้แสดง), 流淌的歌声 (Guangdong TV), 嗨唱转起来 (Sing Or Spin) (Season 2) (HBS, Mango TV)
- พ.ศ. 2564: 让生活好看 (Life Is Beautiful) (Season 2) (HBS, Mango TV), 长春电影节 (Changchun Film Festival) (CCTV-6) (ผู้มอบรางวัล), 辣媽學院 (Shenzhen TV, IQiyi), 百花迎春文藝新年晚會 (China Literary and Art Circles Spring Festival Gala) (ผู้แสดง), OK!精彩挚爱大赏 (OK! Magazine 9th Anniversary Awards) (Tencent) (ผู้รับรางวัล)
- พ.ศ. 2565: 百花迎春文藝新年晚會 (China Literary and Art Circles Spring Festival Gala) (ผู้แสดง), 国剧盛典 (China TV Drama Awards) (Anhui TV) (ผู้แสดง/ผู้มอบรางวัล), 大湾仔的夜 (Night In The Greater Bay) (Season 1) (HBS, Mango TV) (แขกรับเชิญ), 你好,星期六 (Hello, Saturday/Hi! 6) (Season 1) (HBS, Mango TV), 她的双重奏 (Duality Of Her) (Douyin) (เว็บซีรีส์), 经典咏流传 (Everlasting Classics) (Season 5) (CCTV-1) (ผู้แสดงร่วมกับโจอี้ เหม็ง (Joey Meng)), 曜言派 (Douyin), 无限超越班 (Memories Beyond Horizon) (Zhejiang TV, Youku, TVB) (กรรมการรับเชิญ)
- ปฏิทิน TVB:**
- เดือนกันยายน พ.ศ. 2550: ร่วมกับเจิ้ง เจียอิง (Kevin Cheng), อิง เหวยเหว่ย (Vivian Lai) และเซี่ยง ไห่หลาน
- เดือนกันยายน พ.ศ. 2551: ร่วมกับเฉิน หมินจื้อ (Jessie Chen), หลี่ จือ (Gigi Lai), หลิน เป่าอี (Bowie Lam), ถัง ซือหย่ง (Natalie Tong) และเฉิน เหม่ยซือ
- เดือนกันยายน พ.ศ. 2552: ร่วมกับเจิ้ง เส้าชิว (Adam Cheng), เซี่ย เทียนหัว (Michael Tse), อิง เหวยเหว่ย (Vivian Lai) และเฉา หมิ่นลี่
- รายการวิทยุ (สถานีวิทยุฮ่องกง):**
- พ.ศ. 2548 - พ.ศ. 2549: 性在有心2 (ซิง ไจ้ โหย่ว ซิน 2) ร่วมกับ เกา ฮ่าวเจิ้ง และ เฉิง ชุ่ยหยุน
- พ.ศ. 2556: 壓力不倒翁 (ย่าลี่ ปู้ ต้าว หว่อง)
5. ชีวิตส่วนตัว
เติ้งชุ่ยเหวินเป็นที่รู้จักจากบุคลิกที่แข็งแกร่งและภาพลักษณ์สาธารณะที่แตกต่างจากชีวิตส่วนตัว
5.1. บุคลิกภาพและภาพลักษณ์สาธารณะ
ด้วยบุคลิกที่ดูเป็นหญิงแกร่ง จริงจังกับการทำงานในระดับเพอร์เฟคชันนิสต์ ทำให้เธอได้รับบทบาทเป็นหญิงทำงาน หรือวีรสตรีในอุดมคติอยู่เสมอ ซึ่งนั่นทำให้เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของสตรียุคใหม่ที่เก่ง แกร่ง สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ชาย และมีความเป็นเฟมินิสต์ในตัวสูง ถึงกระนั้นเธอก็ออกมาปฏิเสธว่าเธอไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่ใครหลายคนมอง เธอไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีแผนการทุกย่างก้าวได้เหมือนสนมหยู และถ้าให้เธอเลือกระหว่างอำนาจบารมีกับความรัก เธอก็จะเลือกความรักโดยไม่ลังเล
แม้เติ้งชุ่ยเหวินจะมีภาพลักษณ์ที่ดูเคร่งเครียดกับการทำงาน แต่เธอก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้กับสื่ออย่างเปิดเผยว่า ในชีวิตส่วนตัวนอกเหนือเวลาทำงาน เธอค่อนข้างจะเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ซุ่มซ่าม และค่อนข้างขี้เกียจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนคลับของเธอ เธอเป็นนักแสดงอีกคนหนึ่งในวงการที่ค่อนข้างเป็นกันเองและใกล้ชิดสนิทสนมกับแฟนคลับมาก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะแฟนคลับส่วนใหญ่ของเธอมักจะเป็นเด็กนักเรียนนักศึกษารุ่นราวคราวลูก หรือคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ทำให้เธอรู้สึกเอ็นดูแฟนคลับรุ่นเล็กเหล่านี้เป็นพิเศษ
5.2. ความสัมพันธ์และชีวิตรัก
เติ้งชุ่ยเหวินเคยคบหาดูใจกับนักแสดงชายมาแล้วหลายคน ได้แก่ว่าน จื่อเหลียง (Alex Man), เจียง หัว (Jiang Hua) และเจิ้ง จิ่งจี (Jacquelin Cheng) ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่มักเป็นไปในระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 1-3 ปี และดูเหมือนว่ามีเพียงเจิ้ง จิ่งจีเท่านั้น ที่แม้เลิกรากันไปแล้วก็ยังอยู่ในฐานะเพื่อนที่ห่วงใยซึ่งกันและกัน ไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ และเขายังเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่แสดงความเป็นห่วงเป็นใยเธออย่างมาก เมื่อเธอเผชิญปัญหาด้านสุขภาพและการถูกแบนจากอดีตต้นสังกัด เติ้งชุ่ยเหวินกล่าวว่า สมัยก่อนนั้นเธอไม่รู้จักความรักดีเท่าที่ควร จึงกลายเป็นฝ่ายที่เรียกร้องและโหยหาความรักอยู่เพียงฝ่ายเดียว ไม่รู้จักมอบความรักคืนให้กับอีกฝ่าย หรือออดอ้อน เอาอกเอาใจอีกฝ่ายเท่าที่ควร ซึ่งนั่นก็อาจเป็นผลมาจากการขาดความอบอุ่นอย่างรุนแรงในวัยเด็ก ที่ทำให้ความรักของเธอมักจะผิดพลาดอยู่เสมอก็เป็นได้
ถึงกระนั้น เติ้งชุ่ยเหวินก็เคยเกือบแต่งงานกับคนรักนอกวงการมาแล้วเช่นกัน เธอเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า สาเหตุที่ตัดสินใจปล่อยโอกาสครั้งนั้นไป เพราะรู้ดีว่าถึงจุดหนึ่งจะต้องหย่าร้างกันอย่างแน่นอน เนื่องจากฝ่ายชายเป็นชาวต่างชาติและยังเป็นชาวยิวซึ่งนับถือศาสนาต่างกัน และมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันจนเกินไป แต่เธอก็ยอมรับว่าช่วงเวลาที่คบหาดูใจกับผู้ชายคนนี้ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดช่วงหนึ่ง เพราะเขาเป็นคนที่ทำให้เธอเข้าใจว่าความสุขในชีวิตนั้นเป็นอย่างไร และสามารถเดินเคียงข้างกับเธอในที่สาธารณะโดยไม่กลัวการตกเป็นข่าวซุบซิบ ไม่ทอดทิ้งเธอไปไหนในตอนที่มีปาปารัสซี่คอยตามติดเหมือนอย่างผู้ชายคนอื่น ๆ และถึงแม้ความสัมพันธ์จะจบลงด้วยการแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง แต่เธอก็จะจดจำเขาตลอดไป
ปัจจุบันเติ้งชุ่ยเหวินยังคงครองตัวเป็นโสด และยังคงยืนยันว่าเธอพร้อมที่จะสละโสดได้ทุกเมื่อ หากเธอพบคนที่ใช่ที่สามารถเข้าใจและเป็นที่พึ่งให้กับเธอได้ และเธอจะไม่มีวันปิดกั้นตัวเองจนกว่าจะได้พบกับผู้ชายคนนั้น ปัจจุบันเธออาศัยอยู่กับแม่ในอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งย่านซิมโฟนีเบย์ และยังคงไปมาหาสู่กับบิดาและครอบครัวใหม่อย่างสม่ำเสมอ
5.3. กิจกรรมทางศาสนา
ปัจจุบันเติ้งชุ่ยเหวินเป็นประธานในสมาคมศิลปินคริสเตียนฮ่องกง (Hong Kong Artistes Christian Fellowship) ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 โดยเจิ้ง หมิงหมิง (ช่างแต่งหน้าคนสนิทขององเหม่ยหลิง) หลังจากที่องเหม่ยหลิงเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายด้วยภาวะซึมเศร้าและความเครียด คุณเจิ้ง หมิงหมิง รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงก่อตั้งสมาคมขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือศิลปินคริสเตียนในฮ่องกง
เติ้งชุ่ยเหวินเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ในปี พ.ศ. 2548 เนื่องจากความเลื่อมใสศรัทธาในหลักคำสอนของพระคริสตเจ้าว่าด้วยความรักและการให้อภัย ซึ่งช่วยเยียวยาความสัมพันธ์ที่ห่างเหินระหว่างเธอกับบิดามารดาในวัยผู้ใหญ่
5.4. นักแสดงคนโปรด
แม้เติ้งชุ่ยเหวินจะเป็นนักแสดงมากฝีมือแถวหน้าที่มีนักแสดงรุ่นน้องหลายคนอยากเจริญรอยตาม แต่เธอเองก็มีนักแสดงคนโปรดที่เธอชื่นชอบ นั่นก็คือเมอริล สตรีป
6. รางวัลและการยกย่อง
เติ้งชุ่ยเหวินได้รับรางวัลและการยกย่องมากมายตลอดอาชีพการแสดงของเธอ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถและความโดดเด่นของเธอ
6.1. รางวัลสำคัญ
เติ้งชุ่ยเหวินได้รับรางวัลใหญ่จากเวทีต่าง ๆ มากมาย ดังนี้:
ปี | รางวัล | สาขา | ผลงาน | ผล |
---|---|---|---|---|
2003 | TVB Anniversary Awards | My Favourite Powerhouse Actress | มิติรัก มิติพิศวาส ภาค 2 | ได้รับรางวัล |
2004 | Yahoo Asia Buzz Awards | Most Popular Actress | ได้รับรางวัล | |
TVB Anniversary Awards | My Favourite Powerhouse Actress | ศึกรักจอมราชันย์ | ได้รับรางวัล | |
My Favourite Television Character | ศึกรักจอมราชันย์ | ได้รับรางวัล | ||
Best Actress (Top 5) | ศึกรักจอมราชันย์ | ถูกเสนอชื่อเข้าชิง | ||
2004 | Mingpao Awards | Best Actress | ศึกรักจอมราชันย์ | ได้รับรางวัล |
2005 | Astro TV Awards | My Top 12 Favourite Characters | ศึกรักจอมราชันย์ | ได้รับรางวัล |
Most Unforgettable Scene | ศึกรักจอมราชันย์ | ได้รับรางวัล | ||
2005 | Next Magazine Awards | Top 10 Artistes (อันดับ 1) | ได้รับรางวัล | |
2006 | TVB Anniversary Awards | Best Actress (Top 5) | น่ารักนะแต่ไม่แสดงออก | ถูกเสนอชื่อเข้าชิง |
My Favourite Female Character (Top 5) | น่ารักนะแต่ไม่แสดงออก | ถูกเสนอชื่อเข้าชิง | ||
2007 | Astro TV Awards | My Top 12 Favourite Characters | น่ารักนะแต่ไม่แสดงออก | ได้รับรางวัล |
Most Unforgettable Scene | น่ารักนะแต่ไม่แสดงออก | ได้รับรางวัล | ||
2007 | TVB Anniversary Awards | Best Actress (Top 5) | สะใภ้ป่วน ตำรวจจับกิ๊ก | ถูกเสนอชื่อเข้าชิง |
My Favourite Female Character (Top 20) | สะใภ้ป่วน ตำรวจจับกิ๊ก | ถูกเสนอชื่อเข้าชิง | ||
2008 | TVB Anniversary Awards | Best Actress (Top 10) | คุณครูคนใหม่ | ถูกเสนอชื่อเข้าชิง |
2009 | TVB Anniversary Awards | Best Actress | ยอดหญิงจอมทระนง | ได้รับรางวัล |
My Favourite Female Character (Top 5) | ยอดหญิงจอมทระนง | ถูกเสนอชื่อเข้าชิง | ||
2009 | Mingpao Awards | Best Actress | ยอดหญิงจอมทระนง | ได้รับรางวัล |
2009 | Tencent All Star Awards | TV Actress of the Year (Hong Kong/Taiwan) | ได้รับรางวัล | |
2009 | Yahoo Asia Buzz Awards | Most Popular Actress | ได้รับรางวัล | |
2010 | Next Magazine Awards | Top 10 Artistes (อันดับ 1) | ได้รับรางวัล | |
2010 | TVB Anniversary Awards | Best Actress | ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2 | ได้รับรางวัล |
My Favourite Female Character (Top 5) | ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2 | ถูกเสนอชื่อเข้าชิง | ||
2010 | My AOD Favourites Awards | My Favourite TVB Drama Character | ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2 | ได้รับรางวัล |
My Favourite Actress in a Leading Role | ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2 | ถูกเสนอชื่อเข้าชิง | ||
2011 | Shanghai Television Festival | Best Actress | ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2 | ถูกเสนอชื่อเข้าชิง |
2011 | Mingpao Awards | Best Actress | ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2 | ได้รับรางวัล |
2011 | StarHub TVB Awards | My Favourite TVB Character | ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2 | ได้รับรางวัล |
2011 | China TV Drama Awards | Most Popular Actress (Hong Kong/Taiwan) | ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2 | ได้รับรางวัล |
2011 | Next Magazine Awards | Top 10 Artistes (อันดับ 3) | ได้รับรางวัล | |
2011 | Huading Awards | Best Supporting Actress | องค์หญิงกำมะลอ ป่วนกำลัง 3 | ได้รับรางวัล |
2011 | Tencent All Star Awards | TV Actress of the Year (Hong Kong/Taiwan) | องค์หญิงกำมะลอ ป่วนกำลัง 3 | ได้รับรางวัล |
2015 | Huading Awards | Best Supporting Actress | เจ๋อเฮ่าฮ่องเฮา | ถูกเสนอชื่อเข้าชิง |
- รางวัลอื่น ๆ**
- พ.ศ. 2529: 華僑晚報 Overseas Chinese Daily News - Top 10 TV Stars
- พ.ศ. 2547: My Favourite TV Character (โหวตโดยศิลปิน/ศึกรักจอมราชันย์)
- พ.ศ. 2547: 娛樂滿天星 - Most Popular Actress
- พ.ศ. 2547: 娛樂滿天星 - Most Popular Villain (ศึกรักจอมราชันย์)
- พ.ศ. 2547: Metro Radio - Best Classic Character (Grand Prize)
- พ.ศ. 2547: Metro Radio - Best Actress
- พ.ศ. 2547: Radio Television Hong Kong - Most Outstanding Actress
- พ.ศ. 2547: Sina.com (Hong Kong) - Top 10 Outstanding People (อันดับ 4)
- พ.ศ. 2548: FarmX Teen Power B-Day Party - Most Popular TV Personality Prize
- พ.ศ. 2549: 南方盛典 Southern China Award Ceremony - Best Actress (Love of Fate)
- พ.ศ. 2550: Metro Radio - Best Newsworthy TV Queen
- พ.ศ. 2552: My Favourite TV Character (โหวตโดยศิลปิน/ยอดหญิงจอมทระนง)
- พ.ศ. 2552: Best Actress (โหวตโดยศิลปิน/ยอดหญิงจอมทระนง)
- พ.ศ. 2553: My Favourite TV Character (โหวตโดยศิลปิน/ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2)
- พ.ศ. 2553: Best Actress (โหวตโดยศิลปิน/ยอดหญิงจอมทระนง ภาค 2)
- พ.ศ. 2553: Eileen Cha's Netizens' Choice - Best Actress
- พ.ศ. 2553: Meiriki Japan Most Powerful Star
- พ.ศ. 2553: TVshow2010娛樂電視大獎 - My Favourite TV Female Character
- พ.ศ. 2555: 星尚大典 Best Film & Television Character
- พ.ศ. 2555: Meiriki Japan Most Powerful Star
- พ.ศ. 2556: 卓展·Lady - Top 10 Female Characters with Positive Energy (ศึกรักจอมราชันย์ ภาค 2)
- พ.ศ. 2559: Meiriki Japan Most Powerful Star
- พ.ศ. 2564: OK! Magazine Awards - OK! Yearly Favourite Actress
- พ.ศ. 2564: iFeng 凤凰网 Fashion Choice - Tribute Actor of the Year
- พ.ศ. 2564: Rayli 瑞麗网 - 2021-2022 Quality Actress
6.2. คำวิพากษ์วิจารณ์และข้อโต้แย้ง
เติ้งชุ่ยเหวินเป็นที่รู้จักจากความตรงไปตรงมาและไม่กลัวที่จะแสดงความคิดเห็น ซึ่งบางครั้งนำไปสู่ข้อโต้แย้งในวงการ:
- ข้อถกเถียงเรื่องรางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" (พ.ศ. 2547):** ในปี พ.ศ. 2547 เติ้งชุ่ยเหวินเป็นตัวเก็งอันดับหนึ่งสำหรับรางวัล "นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม" จากบทบาทใน ศึกรักจอมราชันย์ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับรางวัลนี้ โดยรางวัลตกเป็นของจีจี้ ไล่แทน ทั้งที่มีคะแนนนำอย่างถล่มทลายก่อนวันประกาศรางวัล เหตุการณ์นี้สร้างกระแสต่อต้านจากสาธารณชนอย่างมาก จนทำให้ICAC ต้องเข้ามาสอบสวนงานประกาศรางวัลดังกล่าว ซึ่งถูกจดจำว่าเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ค้านสายตาที่สุดในประวัติศาสตร์ของงานประกาศรางวัล
- คำวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ TVB (พ.ศ. 2556):** ในปี พ.ศ. 2556 เติ้งชุ่ยเหวินได้สร้างข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์ของฮ่องกงอีกครั้ง เมื่อเธอออกมาแฉและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานที่ไม่เป็นมืออาชีพของผู้กำกับและนักเขียนบทโทรทัศน์จากเรื่อง ศึกรักจอมราชันย์ ภาค 2 ละครที่เธอตั้งใจจะเล่นให้กับ TVB เป็นเรื่องสุดท้าย ก่อนจะออกไปเป็นนักแสดงอิสระอย่างเต็มตัว เติ้งชุ่ยเหวินโพสต์แสดงความคับข้องใจในWeibo ส่วนตัว และให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า เธอได้รับผลกระทบทางด้านสุขภาพจากการถ่ายทำละครดังกล่าวอย่างมาก จนต้องเข้ารับการรักษาตัวระหว่างการถ่ายทำ เนื่องจากความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยมีสาเหตุมาจากระบบการทำงานของ TVB ที่บังคับให้นักแสดงทำงานมากกว่า 12-15 ชั่วโมงต่อวัน จนไม่มีเวลาพักผ่อนหรือศึกษาบท ตลอดจนความไม่เป็นมืออาชีพของนักเขียนบทที่เปลี่ยนแปลงบทอยู่ตลอดเวลา จนไม่สามารถส่งบทให้นักแสดงอ่านได้ก่อนเวลาการถ่ายทำ
อย่างไรก็ตาม การที่ TVB ออกมาประกาศแบนเธออย่างเป็นทางการ ไม่ใช่เรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายของคนส่วนใหญ่ หรือแม้กระทั่งตัวของเธอเองสักเท่าใดนัก ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีการตั้งข้อสังเกตกันในวงกว้างว่า สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ TVB ตัดสินใจลงดาบกับนางเอกยอดนิยมของช่อง ที่ครั้งหนึ่งเคยยื่นข้อเสนอให้เธอต่อสัญญาเพื่อแลกกับรางวัล TV Queen สมัยที่ 3 นั้น อาจเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อไม่ให้นักแสดงในสังกัดคนอื่น ๆ เอาเยี่ยงอย่าง ด้วยการออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของช่อง รวมถึงการแข็งข้อ หรือแสดงจุดยืนซึ่งต่างไปจากคำสั่งหรือนโยบายของช่อง อย่างที่เติ้งชุ่ยเหวินหรือนักแสดงคนอื่น ๆ ซึ่งตบเท้าออกจากช่องไปกระทำกัน
6.3. การรับรู้ของสาธารณะและอิทธิพล
เติ้งชุ่ยเหวินได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่มีความสามารถและประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการโทรทัศน์ฮ่องกง:
- ฉายา:** เธอได้รับฉายาว่า "ราชินีกระชากเรตติ้ง" ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการดึงดูดผู้ชมและสร้างเรตติ้งที่สูงให้กับละครที่เธอแสดง นอกจากนี้ ในช่วงยุค 80s เธอยังได้รับสมญานามว่า "องเหม่ยหลิงน้อย" โดยถูกคาดหวังว่าจะขึ้นมาแทนที่องเหม่ยหลิง ดาราสาวผู้ล่วงลับไปก่อนวัยอันควร
- แรงบันดาลใจ:** เธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักแสดงรุ่นน้องหลายคน และยังคงเป็นที่รักและเคารพจากทั้งเพื่อนร่วมงานและแฟนคลับ
- อิทธิพลต่อวงการ:** เติ้งชุ่ยเหวินได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็น "ราชินีแห่งละครโทรทัศน์จีน" ที่ไม่มีใครโต้แย้งได้ ด้วยบทบาทที่ซับซ้อนและน่าจดจำของเธอ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการละครฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่
