1. ภาพรวม
คิม ยอง-โด (김영도คิม ยอง-โดภาษาเกาหลี) เกิดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2467 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ด้วยอายุ 99 ปี เขาเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทหลากหลายในสาธารณรัฐเกาหลี ทั้งในฐานะนักปีนเขาผู้บุกเบิก, นักสำรวจ, นักการเมือง, นักเขียน, นักแปล, ครู, ศาสตราจารย์ และนายทหารบก เขาเป็นสมาชิกสภาแห่งชาติชุดที่ 9 และดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์ปีนเขาเกาหลีคนที่ 7 คิม ยอง-โด เป็นที่รู้จักจากบทบาทผู้นำในการสำรวจทางภูเขาครั้งสำคัญของเกาหลี รวมถึงการนำคณะสำรวจยอดเขาเอเวอเรสต์ครั้งแรกของเกาหลีในปี พ.ศ. 2520 และการนำคณะสำรวจอาร์กติกครั้งแรกของเกาหลีในปี พ.ศ. 2521 ซึ่งรวมถึงการสำรวจกรีนแลนด์
2. ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
คิม ยอง-โด มีความสนใจในการปีนเขาตั้งแต่เยาว์วัย และได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการซึ่งบ่มเพาะพื้นฐานทางวิชาการของเขา
2.1. การเกิดและวัยเด็ก
คิม ยอง-โด เกิดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2467 ในอำเภอช็องจู จังหวัดพย็องอันเหนือ ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น ต่อมาเมื่ออายุได้ 5 ปี เขาได้ย้ายไปอาศัยอยู่ที่เปียงยาง
2.2. การศึกษาและความสนใจในช่วงต้น
คิม ยอง-โด สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมพย็องยาง และศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโซล คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาปรัชญา ตั้งแต่สมัยเรียนในโรงเรียนสามัญ (เทียบเท่าโรงเรียนประถม) เขาเริ่มแสดงความสนใจในการปีนเขาอย่างมากหลังจากได้อ่านหนังสือของโอชิมะ เรียวกิจิ ความสนใจนี้ผลักดันให้เขาศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการปีนเขาอย่างลึกซึ้ง โดยอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น และภาษาเยอรมัน
3. จุดเริ่มต้นอาชีพ
ก่อนจะก้าวเข้าสู่เส้นทางอาชีพหลักทั้งในแวดวงการเมืองและกิจกรรมปีนเขา คิม ยอง-โด ได้เริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการรับราชการทหารและการเป็นนักการศึกษา
3.1. การรับราชการทหาร
ในช่วงสงครามเกาหลี คิม ยอง-โด ได้เข้าร่วมกองทัพในฐานะทหารอาสา และต่อมาได้ทำหน้าที่เป็นนายทหารล่าม ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการสื่อสารในสถานการณ์สงคราม หลังจากการรับราชการทหาร เขาได้รับการปลดประจำการในปี พ.ศ. 2498 โดยมียศเป็นร้อยเอก
3.2. อาชีพครูและนักวิชาการ
หลังจากปลดประจำการจากกองทัพ คิม ยอง-โด ได้เริ่มต้นอาชีพในสายการศึกษา โดยทำหน้าที่เป็นครูที่โรงเรียนมัธยมซองดง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 ถึง พ.ศ. 2506 นอกจากนี้ เขายังดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ด้านปรัชญาที่โรงเรียนนายร้อยเกาหลี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความหลากหลายในความรู้ทางวิชาการของเขา
4. อาชีพทางการเมือง
คิม ยอง-โด เข้าสู่วงการเมืองและมีบทบาทสำคัญในพรรคประชาธิปัตย์สาธารณรัฐ รวมถึงการเป็นสมาชิกสภาแห่งชาติในช่วงที่เกาหลีใต้อยู่ภายใต้การปกครองแบบอำนาจนิยมในยุคยูชิน
4.1. การเข้าสู่การเมืองและบทบาทในพรรค
คิม ยอง-โด เข้าสู่การเมืองในปี พ.ศ. 2506 โดยเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์สาธารณรัฐ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่สนับสนุนประธานาธิบดีพัค จอง-ฮี เขาได้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่งภายในพรรค เช่น หัวหน้าฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อ หัวหน้าสำนักวางแผนและประสานงาน และรองเลขาธิการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่โดดเด่นของเขาในโครงสร้างพรรค
4.2. กิจกรรมในสภาแห่งชาติชุดที่ 9
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 ถึง พ.ศ. 2522 คิม ยอง-โด ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาแห่งชาติชุดที่ 9 โดยเป็นตัวแทนของยูชินจองอูฮเว ซึ่งเป็นองค์กรทางการเมืองที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนระบบยูชิน (Yushin) ของประธานาธิบดีพัค จอง-ฮี ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างอำนาจของผู้บริหารสูงสุดและจำกัดสิทธิเสรีภาพทางการเมือง ในช่วงเวลานี้ เขามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกฎหมายในฐานะสมาชิกของสถาบันที่ถูกมองว่ามีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพทางการเมืองภายใต้ระบอบอำนาจนิยมในยุคนั้น
5. กิจกรรมปีนเขาและการสำรวจ
คิม ยอง-โด เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะนักปีนเขาและนักสำรวจผู้บุกเบิก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาวงการปีนเขาของเกาหลีและความสำเร็จในการสำรวจพื้นที่ที่ท้าทายระดับโลก
5.1. การมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการปีนเขาและองค์กร
ในช่วงปี พ.ศ. 2513 ถึง พ.ศ. 2514 คิม ยอง-โด ได้มีบทบาทนำในการก่อสร้างที่พักพิงบนภูเขาถึง 34 แห่งทั่วประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับนักปีนเขาในอนาคต นอกจากนี้ เขายังได้ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายแก่คณะสำรวจยอดเขาโลตเสชาร์ในเทือกเขาหิมาลัยในปี พ.ศ. 2514 จากนั้นเขาก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารงานของสหพันธ์ปีนเขาเกาหลี โดยดำรงตำแหน่งรองประธานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 ถึง พ.ศ. 2519 และต่อมาได้รับเลือกให้เป็นประธานคนที่ 7 ของสหพันธ์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2519 ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2523
5.2. การสำรวจครั้งสำคัญ
คิม ยอง-โด ได้นำหรือเข้าร่วมในคณะสำรวจที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับเกาหลีใต้หลายครั้ง
5.2.1. การสำรวจเอเวอเรสต์ พ.ศ. 2520
เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2520 คิม ยอง-โด ได้รับบทบาทสำคัญในฐานะหัวหน้าคณะสำรวจยอดเขาเอเวอเรสต์ครั้งแรกของเกาหลีใต้ภายใต้การดูแลของสหพันธ์ปีนเขาเกาหลี ซึ่งประกอบด้วยนักปีนเขา 18 คน การสำรวจครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเมื่อโก ซัง-ดน สามารถปีนขึ้นไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สำเร็จ นับเป็นชาวเกาหลีคนแรกที่ทำได้ ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นประเทศที่ 8 ของโลกที่มีนักปีนเขาพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับประเทศอย่างมาก
5.2.2. การสำรวจอาร์กติก พ.ศ. 2521
ในปี พ.ศ. 2521 คิม ยอง-โด ได้รับบทบาทเป็นผู้นำคณะสำรวจอาร์กติกของเกาหลี ซึ่งเป็นการสำรวจขั้วโลกครั้งแรกของประเทศ คณะสำรวจได้ดำเนินการสำรวจกรีนแลนด์เป็นครั้งแรกของเกาหลี และสามารถเดินทางไปถึงละติจูด 80 องศา 2 ลิปดา 7 ฟิลิปดา เหนือ ในเขตวงกลมอาร์กติก ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการสำรวจทางภูมิศาสตร์ของเกาหลี
5.3. ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการปีนเขาแห่งเกาหลี
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 เป็นต้นมา คิม ยอง-โด ได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการปีนเขาแห่งเกาหลี ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทในการส่งเสริมการศึกษาและวิจัยด้านการปีนเขา
6. งานเขียนและงานแปล
นอกเหนือจากกิจกรรมการปีนเขาและการเมืองแล้ว คิม ยอง-โด ยังเป็นนักเขียนและนักแปลที่มีผลงานโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวรรณกรรมเกี่ยวกับภูเขา
6.1. ผลงานสำคัญ
คิม ยอง-โด ได้ประพันธ์บทความและรวมเล่มสารคดีเกี่ยวกับภูเขาหลายเล่ม ซึ่งสะท้อนถึงประสบการณ์และปรัชญาของเขาที่มีต่อการปีนเขา ผลงานสำคัญของเขา ได้แก่ "เรากำลังปีนเขาอยู่หรือ?" (《우리는 산에 오르고 있는가》), "ปรัชญาแห่งภูเขา" (《산의 사상》) และ "เอเวอเรสต์ของฉัน" (《나의 에베레스트》)
6.2. กิจกรรมการแปล
คิม ยอง-โด ยังมีบทบาทในฐานะนักแปล โดยได้แปลผลงานของนักปีนเขาชื่อดังระดับโลกหลายท่านให้เป็นภาษาเกาหลี เพื่อเผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ในการปีนเขาให้กับสาธารณชนเกาหลี ผลงานแปลของเขารวมถึงหนังสือของไรน์โฮลด์ เมสเนอร์ (Reinhold Messner), อีวอง ชูนาร์ด (Yvon Chouinard), เอ็ดเวิร์ด วิมเปอร์ (Edward Whymper) และจอห์น ฮันท์ (John Hunt)
7. ชีวิตส่วนตัว
ข้อมูลส่วนตัวของคิม ยอง-โด ที่เปิดเผยต่อสาธารณะระบุว่าเขาเป็นสมาชิกของตระกูลคิมแฮ คิม (金海金氏) ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ นอกจากนี้ เขายังเป็นคริสต์ศาสนิกชน
8. รางวัลและเกียรติยศ
คิม ยอง-โด ได้รับการยกย่องและเชิดชูเกียรติจากผลงานและความทุ่มเทของเขาตลอดชีวิต
ในปี พ.ศ. 2555 เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของการก่อตั้งสหพันธ์ปีนเขาเกาหลี คิม ยอง-โด ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน "50 บุคคลผู้ทำให้สหพันธ์ปีนเขาเกาหลีรุ่งโรจน์" เพื่อเชิดชูเกียรติในคุณูปการของเขาต่อการพัฒนาวงการปีนเขาของประเทศ
นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2566 เขาได้รับรางวัลพิเศษสำหรับความสำเร็จในชีวิต (Special Achievement Award) จากเทศกาลภาพยนตร์ภูเขาอุลจู (Ulsan Ulju Mountain Film Festival) พิธีมอบรางวัลจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นหนึ่งวันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเข้าร่วมงานได้ด้วยตนเอง แต่บุตรชายของเขาก็ได้เป็นตัวแทนเข้ารับรางวัล
9. การเสียชีวิต
คิม ยอง-โด เสียชีวิตอย่างสงบเนื่องจากความชรา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ที่บ้านพักของเขาในเมืองอึยจ็องบู จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยวัย 99 ปี
10. มรดกและการประเมิน
คิม ยอง-โด ทิ้งมรดกอันหลากหลายให้กับสาธารณรัฐเกาหลีในหลายมิติ ทั้งในฐานะนักปีนเขา นักสำรวจ และนักการเมือง
ในฐานะนักปีนเขาและนักสำรวจ เขาได้รับการยกย่องอย่างสูงว่าเป็นผู้บุกเบิกที่นำพาเกาหลีใต้ไปสู่ความสำเร็จระดับโลก เช่น การนำคณะสำรวจเอเวอเรสต์ครั้งแรกของเกาหลี และการสำรวจอาร์กติก ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาติและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง บทบาทของเขาในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและองค์กรด้านการปีนเขา เช่น การสร้างที่พักพิงบนภูเขา และการเป็นผู้นำของสหพันธ์ปีนเขาเกาหลี ก็ถือเป็นคุณูปการที่สำคัญต่อวงการ
อย่างไรก็ตาม ในด้านอาชีพทางการเมือง การที่เขาเป็นสมาชิกของยูชินจองอูฮเวในช่วงรัฐบาลยูชินของพัค จอง-ฮี ทำให้บทบาททางการเมืองของเขาถูกมองในบริบทของยุคสมัยที่การปกครองเป็นแบบอำนาจนิยม ยูชินจองอูฮเวถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนระบบดังกล่าว ซึ่งจำกัดเสรีภาพทางการเมืองและสิทธิของพลเมือง ดังนั้น มรดกของคิม ยอง-โด จึงเป็นการผสมผสานระหว่างการเป็นผู้บุกเบิกในด้านการผจญภัยที่สร้างสรรค์ และการมีส่วนร่วมในโครงสร้างทางการเมืองที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้