1. ชีวิตช่วงต้นและอาชีพเยาวชน
คามิลู ดา ซิลวา ซานเวซโซ่ เกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 1988 ที่เปรซิเดนเตปรูเดนเต รัฐเซาเปาโล บราซิล
1.1. วัยเด็กและภูมิหลังด้านเยาวชน
คามิลูเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลในระดับเยาวชนของสโมสรโอเอสเต เปาลิสตา เอสปอร์เต คลูเบ (Oeste Paulista Esporte Clube) ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมโครินเธียนส์ อลาโกอาโนในปี 2009 ซึ่งเขาใช้เวลาหนึ่งปีก่อนที่จะเริ่มต้นอาชีพในทวีปยุโรป
2. อาชีพสโมสร
ตลอดอาชีพค้าแข้งของเขา คามิลูได้เดินทางไปค้าแข้งในหลายประเทศ ทั้งบราซิล, มอลตา, เกาหลีใต้, แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งเขาได้สร้างผลงานและชื่อเสียงในฐานะกองหน้าที่ทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เขาประสบความสำเร็จสูงสุดในมอลตา และในลีกเมเจอร์ลีกซอคเกอร์ของอเมริกาเหนือ
2.1. อาชีพช่วงแรกในบราซิลและมอลตา
หลังจากช่วงเวลาสั้นๆ กับโครินเธียนส์ อลาโกอาโน ในบราซิล ซึ่งเขาลงสนาม 8 นัด ทำได้ 1 ประตู คามิลูได้ย้ายมายังคอร์มี เอฟซีในมอลตา ในช่วงฤดูร้อนปี 2009 การเริ่มต้นกับคอร์มีเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม เขาทำประตูชัยในการประเดิมสนามกับสลีมา วันเดอเรอร์ส และทำแฮตทริกกับทั้งเอ็มซิดา เซนต์-โจเซฟ และไฮเบอร์เนียนส์ ซึ่งเป็นแชมป์เก่า
ในช่วงกลางฤดูกาล คอร์มีได้รับข้อเสนอจากสโมสรในเกาหลีใต้เพื่อขอซื้อตัวกองหน้ารายนี้ แต่พวกเขาปฏิเสธข้อเสนอ โดยอธิบายว่าข้อเสนอนั้นน้อยเกินไป และคามิลูมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อสโมสร คามิลูมีบทบาทสำคัญในฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จของคอร์มี โดยทำไป 24 ประตูจากการลงสนาม 22 นัดในลีก ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยมากกว่าหนึ่งประตูต่อนัด ทำให้เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในมอลตา พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009-10
2.2. ช่วงเวลาสั้นๆ ในเคลีก
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2010 คามิลูได้ย้ายไปร่วมทีมคยองนัม เอฟซี ในเคลีก ของเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม คามิลูไม่สามารถรักษาฟอร์มที่ทำให้เขากลายเป็นผู้ทำประตูที่โดดเด่นในมอลตาได้ เขาร่วมลงสนามให้คยองนัม เอฟซีในทีมชุดใหญ่ 7 นัดโดยไม่สามารถทำประตูได้ แต่เขาสามารถทำได้ 6 ประตูจากการลงสนาม 7 นัดให้กับทีมสำรองของสโมสร ชื่อที่ใช้ในการลงทะเบียนในเคลีกคือ 까밀로กามิลูภาษาเกาหลี
2.3. ความสำเร็จและข้อถกเถียงเรื่องการย้ายทีมในเมเจอร์ลีกซอคเกอร์
คามิลูเข้าร่วมการทดสอบฝีเท้ากับแวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ เอฟซี ของเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ ก่อนฤดูกาล 2011 และประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญาเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2011 เขาประเดิมสนามให้กับไวท์แคปส์ในฐานะตัวสำรองช่วงท้ายเกมในนัดเปิดฤดูกาล 2011 ที่พบกับโตรอนโต เอฟซี เขาทำสองประตูแรกให้กับไวท์แคปส์เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2011 ในการแข่งขันกับสปอร์ติง แคนซัสซิตี ช่วยให้ทีมทำประตูที่สองและสามในการพลิกกลับมาเสมอ 3-3 ซึ่งทำให้เขาเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์เมเจอร์ลีกซอคเกอร์ที่ทำสองประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
คามิลูได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของแวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ เอฟซี จากผลงานของเขาในฤดูกาล 2011 ซึ่งรวมถึงการทำ 12 ประตูสูงสุดของทีมและความสม่ำเสมอในสนาม เขาได้เซ็นสัญญาขยายเวลากับแวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2012 อย่างไรก็ตาม คามิลูเริ่มต้นปีได้ไม่ดีนัก และไม่สามารถเรียกฟอร์มที่สม่ำเสมอของเขากลับมาได้จนกระทั่งการแข่งขันช่วงท้ายฤดูกาล ในท้ายที่สุด เขาทำได้ 5 ประตูและ 7 แอสซิสต์จากการลงสนาม 28 นัดในฤดูกาล 2012
คามิลูฟื้นฟูจากฤดูกาล 2012 ที่ไม่ค่อยดีนัก และถูกพิจารณาให้เป็นผู้เข้าชิงรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของลีกในปี 2013 ในฤดูกาลนี้ เขายังทำไป 6 แอสซิสต์ นอกจากนี้ คามิลูยังปิดท้ายฤดูกาล 2013 ด้วยการทำแฮตทริกในบ้านกับโคโลราโด ราปิดส์ ทำให้เขาคว้าตำแหน่งผู้ทำประตูสูงสุดของเอ็มแอลเอสด้วย 22 ประตู พร้อมทั้งได้รับรางวัลเอ็มแอลเอส โกลเดนบู้ท และรางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำปีของเอ็มแอลเอสในปี 2013

หลังจากการแสดงผลงานที่น่าประทับใจของเขา ทำให้โรเซนบอร์ก บีเค สโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของนอร์เวย์ สนใจในตัวเขา อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น บ็อบ เลนาร์ดุซซี ประธานสโมสรไวท์แคปส์ได้ระบุว่าคามิลูยังอยู่ภายใต้สัญญา และสโมสรคาดหวังให้เขากลับมาสำหรับฤดูกาล 2014 ในเดือนมกราคม 2014 คามิลูตกเป็นข่าวลือการย้ายทีมอีกครั้งหลังจากมีรายงานเชื่อมโยงกับเกเรตาโร ของลีกาเอมเอกซ์ในเม็กซิโก โดยสื่อบางแห่งถึงกับรายงานว่าข้อตกลงได้เสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของไวท์แคปส์ได้ออกแถลงการณ์อย่างรวดเร็วว่าข่าวลือนั้นไม่มีมูลความจริง และรายละเอียดดังกล่าวก็ถูกลบออกจากเว็บไซต์ของเกเรตาโรในเวลาต่อมา แม้จะมีการปฏิเสธข้อตกลง แต่คามิลูยังคงฝึกซ้อมกับเกเรตาโร เจ้าหน้าที่ของไวท์แคปส์ได้ระบุว่าพฤติกรรมของคามิลู "ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่เหมาะสม" รวมถึง "ไม่เป็นมืออาชีพ" ปฏิกิริยาของแฟนบอลก็แบ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยมีทั้งความโกรธที่พุ่งเป้าไปที่คามิลู และความไม่พอใจต่อการจัดการสถานการณ์ของสำนักงานใหญ่ของไวท์แคปส์
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2014 เรื่องราวการย้ายทีมก็ได้สิ้นสุดลง เมื่อแวนคูเวอร์ได้รับค่าธรรมเนียมการโอนซึ่งเป็นสถิติของสโมสรในเวลานั้นที่ประมาณ 2.10 M USD
2.4. อาชีพในลีกาเอมเอกซ์
คามิลูใช้เวลาส่วนใหญ่ในอาชีพค้าแข้งของเขากับสโมสรต่างๆ ในลีกาเอมเอกซ์ของเม็กซิโก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาพัฒนาไปสู่การเป็นกองหน้าที่เป็นที่รู้จักในความสามารถในการทำประตู และได้รับฉายาว่า "เอล โลโบ"
2.4.1. เกเรตาโร เอฟซี (ช่วงแรก)
ในการแข่งขันอะแปร์ตูรา 2014 คามิลูเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของการแข่งขัน โดยทำได้ 12 ประตู (เสมอกับเมาโร บอเซลลี) เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่เขาฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าที่ทำให้เขาต้องพักจากการแข่งขันกลาอูซูรา 2015 ซานเวซโซ่ก็ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ทำให้เขาต้องพลาดการแข่งขันอะแปร์ตูรา 2015 ที่เหลือ และส่วนใหญ่ของการแข่งขันกลาอูซูรา 2016 เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2016 หลังจากบาดเจ็บมานานกว่าเจ็ดเดือน คามิลูได้กลับมาลงสนามในการแข่งขันในบ้านที่เกเรตาโรเอาชนะคลับ อเมริกาไป 1-0 ในปี 2016 คามิลูได้รับฉายาว่า "เอล โลโบ" (El loboภาษาสเปน) ซึ่งแปลว่า "หมาป่า"
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2019 คามิลูทำประตูสุดท้ายของเขากับเกเรตาโร และยังแอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีมในขณะนั้นอย่างไอโรน เดล วาเย ในเกมที่ชนะเบรากรูซ 2-1 ในบ้าน และในสัปดาห์ถัดมา วันที่ 4 พฤษภาคม 2019 เขาลงเล่นเกมสุดท้ายของเขากับเนกักซา เล่นเต็ม 90 นาที ซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 1-0 ณ วันที่ 28 เมษายน 2019 เขายังคงเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรด้วย 67 ประตู
2.4.2. สโมสรเม็กซิกันอื่นๆ
หลังจากช่วงเวลาแรกกับเกเรตาโร คามิลูได้ย้ายไปเล่นกับสโมสรอื่นๆ ในลีกเม็กซิโก ได้แก่:
- คลับ ติฮัวน่า: ในฤดูกาล 2019-20 เขาลงสนาม 20 นัด และทำได้ 6 ประตูในลีก รวมถึง 4 ประตูในฟุตบอลถ้วย
- มาซัตลัน เอฟซี: ในฤดูกาล 2020-21 เขาลงสนาม 40 นัดและทำได้ 21 ประตูในลีก
- เดปอร์ติโบ โตลูกา เอฟซี: ในฤดูกาล 2021-22 เขาลงสนาม 55 นัดและทำได้ 14 ประตูในลีก
2.4.3. เกเรตาโร เอฟซี (ช่วงที่สอง)
คามิลูได้กลับมาค้าแข้งกับเกเรตาโร เอฟซีอีกครั้งในช่วงฤดูกาล 2022-23 ซึ่งเขาร่วมลงสนาม 9 นัดและทำได้ 2 ประตู นี่เป็นสโมสรสุดท้ายของเขาในอาชีพค้าแข้งก่อนที่เขาจะประกาศเลิกเล่น
3. อาชีพระหว่างประเทศ
คามิลูไม่เคยเป็นตัวแทนของทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของเขาในทุกระดับ ในเดือนกรกฎาคม 2013 มีการเปิดเผยว่าคามิลูกำลังพิจารณาที่จะเป็นตัวแทนของแคนาดาในระดับนานาชาติ คามิลูได้ยื่นขอถิ่นที่อยู่ถาวร แต่ต้องรอให้ได้รับสัญชาติเต็มรูปแบบก่อนจึงจะสามารถลงเล่นให้กับทีมชาติแคนาดาได้ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกอร์ชอน คอฟฟี เพื่อนร่วมทีมเก่าชาวกานาของไวท์แคปส์กำลังดำเนินการอยู่ คามิลูได้กล่าวถึงแนวคิดนี้ว่า "แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่ดี แคนาดาเป็นประเทศที่สวยงาม และถ้าผมได้รับโอกาส ผมจะตัดสินใจร่วมกับครอบครัวของผม" อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาก็ได้ย้ายไปเล่นในเม็กซิโก
4. สไตล์การเล่นและลักษณะเฉพาะ
คามิลู ดา ซิลวา ซานเวซโซ่ เป็นที่รู้จักในฐานะกองหน้าตัวกลางที่มีความสามารถในการทำประตูสูง เขามีความสามารถในการจบสกอร์ที่หลากหลาย และมักจะอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเพื่อทำประตู ในปี 2016 ขณะค้าแข้งกับเกเรตาโร เขาได้รับฉายาว่า "เอล โลโบ" (El loboภาษาสเปน) ซึ่งในภาษาสเปนหมายถึง "หมาป่า" ซึ่งสะท้อนถึงสไตล์การเล่นที่ดุดันและชาญฉลาดของเขาในกรอบเขตโทษ
5. สถิติอาชีพ
สถิติการลงสนามและทำประตูตามสโมสร ฤดูกาล และการแข่งขันในอาชีพของคามิลู ซานเวซโซ่:
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ | ลีกคัพ | อื่นๆ | รวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชั่น | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ||
คอร์มี | 2009-10 | มอลตา พรีเมียร์ลีก | 22 | 24 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 22 | 24 |
คยองนัม เอฟซี | 2010 | เคลีก | 6 | 0 | 0 | 0 | 2 | 0 | 1 | 0 | 9 | 0 |
แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ | 2011 | เมเจอร์ลีกซอกเกอร์ | 32 | 12 | 4 | 1 | - | 36 | 13 | |||
2012 | 28 | 5 | 3 | 0 | - | 31 | 5 | |||||
2013 | 32 | 22 | 3 | 3 | - | 35 | 25 | |||||
รวม | 92 | 39 | 10 | 4 | 0 | 0 | 0 | 0 | 102 | 43 | ||
เกเรตาโร | 2013-14 | ลีกาเอมเอกซ์ | 8 | 3 | 2 | 0 | - | 10 | 3 | |||
2014-15 | 17 | 12 | 2 | 1 | - | 19 | 13 | |||||
2015-16 | 3 | 1 | 0 | 0 | - | 1 | 0 | 4 | 1 | |||
2016-17 | 29 | 13 | 11 | 7 | - | 40 | 20 | |||||
2017-18 | 28 | 11 | 9 | 3 | - | 37 | 14 | |||||
2018-19 | 33 | 13 | 5 | 3 | - | 38 | 16 | |||||
รวม | 118 | 53 | 29 | 14 | 0 | 0 | 0 | 0 | 147 | 67 | ||
ติฮัวน่า | 2019-20 | ลีกาเอมเอกซ์ | 20 | 6 | 3 | 4 | - | 23 | 10 | |||
มาซัตลัน | 2020-21 | ลีกาเอมเอกซ์ | 40 | 21 | 0 | 0 | - | 40 | 21 | |||
เดปอร์ติโบ โตลูกา | 2021-22 | ลีกาเอมเอกซ์ | 55 | 14 | 0 | 0 | - | 55 | 14 | |||
เกเรตาโร | 2022-23 | ลีกาเอมเอกซ์ | 9 | 2 | 0 | 0 | - | 9 | 2 | |||
รวมอาชีพ | 362 | 159 | 42 | 22 | 2 | 0 | 2 | 0 | 408 | 181 |
- ในคอลัมน์ "อื่นๆ" รวมถึงการลงสนามในเคลีก แชมเปียนชิป (ในส่วนของคยองนัม เอฟซี) และ คอนคาแคฟแชมเปียนส์ลีก (ในส่วนของเกเรตาโร)
6. เกียรติประวัติ
คามิลู ซานเวซโซ่ ได้รับเกียรติประวัติทั้งในระดับสโมสรและรางวัลส่วนบุคคลตลอดอาชีพนักฟุตบอลอาชีพของเขา:
- เกียรติประวัติสโมสร
- เกเรตาโร
- โกปาเอมเอกซ์: อะแปร์ตูรา 2016
- ซูเปร์โกปาเอมเอกซ์: 2017
- เกียรติประวัติส่วนบุคคล
- มอลตา พรีเมียร์ลีก ผู้ทำประตูสูงสุด: 2009-10
- สโมสรฟุตบอลแวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี: 2011, 2013
- แคนาเดียนแชมเปียนชิป รองเท้าทองคำ: 2013
- เอ็มแอลเอส ออล-สตาร์ เกม: 2013
- เอ็มแอลเอส โกลเดนบู้ท: 2013
- ประตูยอดเยี่ยมประจำปีของเอ็มแอลเอส: 2013
- ลีกาเอมเอกซ์ รองเท้าทองคำ: อะแปร์ตูรา 2014 (ร่วมกับ เมาโร บอเซลลี)
- เกเรตาโร
7. การเกษียณ
คามิลู ดา ซิลวา ซานเวซโซ่ ได้ยุติอาชีพนักฟุตบอลอาชีพของเขาภายหลังจากการค้าแข้งช่วงที่สองกับเกเรตาโร เอฟซีในฤดูกาล 2022-23 ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดอาชีพที่ยาวนานกว่าทศวรรษในหลายทวีป โดยเขาลงเล่นเกมอาชีพสุดท้ายในลีกาเอมเอกซ์ฤดูกาลดังกล่าว