1. ภาพรวม
โยชิคาซุ นางไอ (永井 良和Nagai Yoshikazuภาษาญี่ปุ่น) เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1952 เป็นอดีตนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่น เขาเป็นที่รู้จักจากการเป็นกองหน้าความเร็วสูงตั้งแต่สมัยเรียน และมีส่วนสำคัญในการพัฒนากีฬาฟุตบอลในประเทศญี่ปุ่นทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้ฝึกสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาผู้เล่นเยาวชนในระดับสโมสรและทีมชาติ ลูกชายของเขา ชุนตะ นางไอ ก็เป็นอดีตนักฟุตบอลเช่นกัน
ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ นางไอได้สร้างสถิติการลงสนามสูงสุดในประวัติศาสตร์เจแปนซอกเกอร์ลีก ดิวิชัน 1 และยังเป็นตัวแทนฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นลงสนามถึง 69 นัด ยิงได้ 9 ประตู ตลอดอาชีพของเขา เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1976 และได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศฟุตบอลญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 2012 ซึ่งเป็นการยกย่องคุณูปการอันใหญ่หลวงที่เขามีต่อวงการฟุตบอลญี่ปุ่น
2. ชีวิตส่วนตัว
โยชิคาซุ นางไอ มีภูมิหลังส่วนตัวที่เชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ทั้งในด้านการเกิด การเติบโต และความสัมพันธ์ในครอบครัว
2.1. ประวัติการเกิดและการเติบโต
นางไอเกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1952 ที่ไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันคือเขตอุราวะในไซตามะชิ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะกองหน้าความเร็วสูงตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายอุราวะมินามิ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านฟุตบอลในญี่ปุ่น ความสามารถที่โดดเด่นของเขาทำให้เขาได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง และยังเป็นต้นแบบของตัวละครหลัก ทามาอิ ชินโกะ ในมังงะและอนิเมะเรื่อง "อากากิ ชิ โนะ อีเลฟเว่น" (Akaki Chi no Eleven) ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคนั้น
2.2. ครอบครัว
โยชิคาซุ นางไอ มีบุตรชายชื่อ ชุนตะ นางไอ ซึ่งเจริญรอยตามบิดาในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน ชุนตะเองก็เป็นอดีตนักฟุตบอลที่เคยเล่นให้กับสโมสรในญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงการสืบทอดสายเลือดนักฟุตบอลในครอบครัวของนางไอ
3. กิจกรรมหลักและความสำเร็จ
โยชิคาซุ นางไอ มีอาชีพที่ยาวนานและประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในฐานะนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอน โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวงการฟุตบอลญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง
3.1. อาชีพนักฟุตบอล
ตลอดระยะเวลาที่เขาเป็นนักฟุตบอล นางไอได้สร้างชื่อเสียงและทำผลงานอันโดดเด่นทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ
3.1.1. อาชีพกับสโมสร
หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลาย โยชิคาซุ นางไอ ได้เข้าร่วมสโมสรฟูรุคาวะ อิเล็กทริก (ซึ่งต่อมาคือเจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ) ในปี ค.ศ. 1971 ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับสโมสร ฟูรุคาวะ อิเล็กทริกประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยคว้าแชมป์เจแปนซอกเกอร์ลีกได้ในปี ค.ศ. 1976 และฤดูกาล 1985-86 นอกจากนี้ สโมสรยังชนะเลิศถ้วยจักรพรรดิในปี ค.ศ. 1976 และเจเอสแอลคัพในปี ค.ศ. 1977, 1982 และ 1986 เขาแขวนสตั๊ดในปี ค.ศ. 1988 โดยมีสถิติการลงสนามในลีกรวม 272 นัด และยิงได้ 63 ประตู ซึ่งเป็นสถิติการลงสนามสูงสุดตลอดกาลในเจแปนซอกเกอร์ลีก ดิวิชัน 1 ในปี ค.ศ. 1976 เขาได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของญี่ปุ่น และยังได้รับเลือกติดทีม Best Eleven ถึง 5 ครั้ง
3.1.2. อาชีพกับทีมชาติ
โยชิคาซุ นางไอ ได้รับโอกาสเป็นตัวแทนฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี โดยประเดิมสนามครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 1971 ในการแข่งขันกับฟุตบอลทีมชาติไอซ์แลนด์ เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันสำคัญหลายรายการ ได้แก่ รอบคัดเลือกโอลิมปิกฤดูร้อน 1972 ในปี ค.ศ. 1971 แม้จะไม่ได้ลงเล่นให้ญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1972 แต่เขาก็กลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 1974 ในปี ค.ศ. 1973 นอกจากนี้ เขายังลงเล่นในเอเชียนเกมส์ 1974 และเอเชียนเกมส์ 1978 การแข่งขันสุดท้ายของเขากับทีมชาติญี่ปุ่นคือในรอบคัดเลือกโอลิมปิกฤดูร้อน 1980 ซึ่งญี่ปุ่นไม่ผ่านเข้ารอบโอลิมปิกฤดูร้อน 1980 เขาลงเล่นให้ทีมชาติญี่ปุ่นรวม 69 นัด และยิงได้ 9 ประตู จนถึงปี ค.ศ. 1980
3.2. อาชีพผู้ฝึกสอน
หลังจากแขวนสตั๊ด โยชิคาซุ นางไอ ได้ผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอนและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวงการฟุตบอลญี่ปุ่นในฐานะโค้ชและผู้จัดการทีม
3.2.1. การฝึกสอนสโมสรอาชีพ
ในปี ค.ศ. 1988 นางไอได้เริ่มต้นอาชีพผู้ฝึกสอนกับสโมสรฟูรุคาวะ อิเล็กทริก ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาเคยค้าแข้งอยู่ ก่อนที่สโมสรจะเปลี่ยนชื่อเป็นเจฟ ยูไนเต็ด อิจิฮาระ เขากลับมาเป็นผู้จัดการทีมให้กับเจฟ ยูไนเต็ด อิจิฮาระอีกครั้งในช่วงปี ค.ศ. 1992 ถึง 1993 ในปี ค.ศ. 1996 เขาได้เซ็นสัญญากับสโมสรฟุกุชิมะ เอฟซี ซึ่งอยู่ในเจแปนฟุตบอลลีก (JFL) และคุมทีมอยู่หนึ่งฤดูกาล หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1998 เขาก็ได้ย้ายไปคุมทีมอัลบิเร็กซ์ นีงาตะ ซึ่งเป็นสโมสรที่เข้าร่วมเจลีก 2 ในปี ค.ศ. 1999 ต่อมาในปี ค.ศ. 2001 เขาย้ายไปคุมทีมโยโกฮาม่า เอฟซี แต่ได้ลาออกในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ในปี ค.ศ. 2006 เขาเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลหญิงอุราวะ เรดส์ เลดี้ส์ ในนาเดชิโกะลีก ซึ่งเป็นสโมสรในบ้านเกิดของเขา การกลับมาคุมทีมในบ้านเกิดทำให้เกิดความคาดหวังอย่างมาก และเขาก็พาทีมทำผลงานได้ดี โดยได้รองแชมป์ลีกในปี ค.ศ. 2006 และอันดับ 3 ในปี ค.ศ. 2007 แม้จะได้รับข้อเสนอให้คุมทีมต่อ แต่เขาก็ตัดสินใจลาออกหลังจบฤดูกาล 2007
3.2.2. การฝึกสอนทีมชาติรุ่นอายุ
นอกจากการฝึกสอนสโมสรอาชีพแล้ว นางไอยังมีประสบการณ์ในการฝึกสอนผู้เล่นเยาวชนในระดับทีมชาติ เขาเคยดำรงตำแหน่งโค้ชทีมชาติญี่ปุ่นรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีในช่วงปี ค.ศ. 1988 ถึง 1989 และเป็นผู้จัดการทีมชาติญี่ปุ่นรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีในช่วงปี ค.ศ. 1989 ถึง 1991 ซึ่งเป็นการบ่มเพาะนักเตะดาวรุ่งให้กับวงการฟุตบอลญี่ปุ่น
3.2.3. การพัฒนาดาวรุ่งและกิจกรรมอื่นๆ
ตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2008 โยชิคาซุ นางไอ ได้รับตำแหน่งเป็น School Master ของโรงเรียนสอนฟุตบอลโยชิคาซุ นางไอ (Yoshikazu Nagai Soccer School) ซึ่งตั้งอยู่ที่ฟุกุดะ เดนชิ สแควร์ โดยเขามีส่วนร่วมในการฝึกสอนนักเรียนด้วยตนเองในแต่ละวัน
q=ฟุกุดะ เดนชิ สแควร์|position=right
นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2009 เขายังรับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม U-13 ของสโมสรอับเบลซ ชิบะ เอสซี (Ablaze Chiba SC) ทีม U-14 ของเขาในปี ค.ศ. 2010 ได้กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งในจังหวัดชิบะ โดยมีสถิติชนะ 11 เสมอ 2 แพ้ 2 ในลีกชิบะไคฮิน และทำได้ถึง 52 ประตู ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่มีสกอร์สูงสุดในลีก ทีม U-15 ของเขาประสบความสำเร็จในการเลื่อนชั้นสู่ลีกจังหวัดระดับ 1 ในปี ค.ศ. 2012 หลังจากเข้าร่วมลีกเพียงสองปี ความสำเร็จเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาในการพัฒนาผู้เล่นเยาวชน
นางไอยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับยาสุฮิโกะ โอคุเดระ อดีตผู้จัดการทั่วไปของโยโกฮาม่า เอฟซี ทั้งสองเคยร่วมกันลงเล่นในฐานะกองหน้าคู่กันในทีมอดีตทีมชาติญี่ปุ่นในรายการ "อากากิ ชิ โนะ อีเลฟเว่น คัพ" ซึ่งจัดขึ้นที่ฟุกุดะ เดนชิ สแควร์ในปี ค.ศ. 2008
4. รางวัลและเกียรติยศ
โยชิคาซุ นางไอ ได้รับการยกย่องจากผลงานและคุณูปการในวงการฟุตบอลญี่ปุ่นด้วยรางวัลและเกียรติยศหลายรายการ:
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของญี่ปุ่น - ค.ศ. 1976
- หอเกียรติยศฟุตบอลญี่ปุ่น: ได้รับการบรรจุชื่อในปี ค.ศ. 2012
5. สถิติ
สถิติการลงสนามและผลงานของโยชิคาซุ นางไอ ทั้งในฐานะนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอน ได้รับการบันทึกไว้อย่างเป็นระบบ
5.1. สถิตินักฟุตบอล
ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ โยชิคาซุ นางไอ ลงเล่นให้กับสโมสรฟูรุคาวะ อิเล็กทริก (ปัจจุบันคือเจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ) ในเจแปนซอกเกอร์ลีก ดิวิชัน 1 รวม 272 นัด และยิงได้ 63 ประตู ซึ่งเป็นสถิติการลงสนามสูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ของลีกนี้ สถิติการลงสนามในลีกของเขามีดังนี้:
ผลงานกับสโมสร | ลีก | |||
---|---|---|---|---|
ฤดูกาล | สโมสร | ลีก | ลงสนาม | ประตู |
ญี่ปุ่น | ลีก | |||
1971 | ฟูรุคาวะ อิเล็กทริก | เจแปนซอกเกอร์ลีก ดิวิชัน 1 | 10 | 2 |
1972 | 10 | 0 | ||
1973 | 18 | 2 | ||
1974 | 18 | 5 | ||
1975 | 18 | 7 | ||
1976 | 18 | 5 | ||
1977 | 18 | 14 | ||
1978 | 18 | 1 | ||
1979 | 18 | 6 | ||
1980 | 17 | 3 | ||
1981 | 15 | 6 | ||
1982 | 10 | 1 | ||
1983 | 12 | 1 | ||
1984 | 14 | 5 | ||
1985-1986 | 22 | 3 | ||
1986-1987 | 14 | 0 | ||
1987-1988 | 22 | 2 | ||
รวม | 272 | 63 |
5.2. สถิติทีมชาติ
โยชิคาซุ นางไอ ลงสนามให้กับฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นรวม 69 นัด และยิงได้ 9 ประตู ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971 ถึง 1980 โดยมีสถิติการลงสนามและประตูในแต่ละปีดังนี้:
ปี | ลงสนาม | ประตู |
---|---|---|
1971 | 4 | 1 |
1972 | 0 | 0 |
1973 | 5 | 0 |
1974 | 4 | 1 |
1975 | 11 | 1 |
1976 | 17 | 2 |
1977 | 5 | 0 |
1978 | 12 | 1 |
1979 | 9 | 3 |
1980 | 2 | 0 |
รวม | 69 | 9 |
5.3. สถิติผู้ฝึกสอน
โยชิคาซุ นางไอ ได้รับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมให้กับหลายสโมสรและทีมชาติรุ่นอายุต่างๆ โดยมีสถิติการคุมทีมในลีกและถ้วยรางวัลดังนี้:
ทีม | ตั้งแต่ | ถึง | สถิติในลีก | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
แข่ง | ชนะ | เสมอ | แพ้ | % ชนะ | |||
เจฟ ยูไนเต็ด อิจิฮาระ | 1993 | 1993 | 36 | 14 | 0 | 22 | 38.89% |
ฟุกุชิมะ เอฟซี | 1996 | 1996 | 30 | 7 | 0 | 23 | 23.33% |
อัลบิเร็กซ์ นีงาตะ | 1999 | 2000 | 76 | 35 | 7 | 34 | 46.05% |
โยโกฮาม่า เอฟซี | 2001 | 2001 | 31 | 11 | 1 | 19 | 35.48% |
อุราวะ เรดส์ เลดี้ส์ | 2006 | 2006 | 17 | 12 | 2 | 3 | 70.59% |
อุราวะ เรดส์ เลดี้ส์ | 2007 | 2007 | 21 | 15 | 3 | 3 | 71.43% |
รวม (สถิติสโมสรอาชีพชาย) | 143 | 60 | 8 | 75 | 41.96% |
6. อิทธิพล
โยชิคาซุ นางไอ มีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ทั้งในฐานะนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอน ในฐานะผู้เล่น เขาเป็นหนึ่งในตำนานของเจแปนซอกเกอร์ลีก ด้วยสถิติการลงสนามสูงสุด และเป็นกำลังสำคัญในการพาสโมสรฟูรุคาวะ อิเล็กทริกคว้าแชมป์หลายรายการ รวมถึงการเป็นผู้เล่นคนสำคัญของฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1970
ในฐานะผู้ฝึกสอน อิทธิพลของเขายังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนานักฟุตบอลเยาวชน การเป็นผู้จัดการทีมชาติญี่ปุ่นรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และการก่อตั้งโรงเรียนสอนฟุตบอลโยชิคาซุ นางไอ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเขาในการบ่มเพาะพรสวรรค์รุ่นใหม่ ทีมเยาวชนที่เขาฝึกสอนประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นและสามารถเลื่อนชั้นสู่ลีกระดับสูงได้ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงปรัชญาการฝึกสอนที่มีประสิทธิภาพของเขา
นอกจากนี้ การที่เขาเป็นต้นแบบของตัวละครหลักในมังงะและอนิเมะเรื่อง "อากากิ ชิ โนะ อีเลฟเว่น" ยังสะท้อนให้เห็นถึงสถานะของเขาในฐานะบุคคลสำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลสำคัญในวงการฟุตบอลอย่างยาสุฮิโกะ โอคุเดระ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงเครือข่ายและความเคารพที่เขามีในวงการฟุตบอลญี่ปุ่น