1. ภาพรวม
โอซามุ "เฮิร์บ" วากาบายาชิ (若林 修วากาบายาชิ โอซามุภาษาญี่ปุ่น; เกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1944 - เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 2015) เป็นนักกีฬาและผู้ฝึกสอนฮอกกี้น้ำแข็งมืออาชีพชาวแคนาดาเชื้อสายญี่ปุ่น เขาเป็นที่รู้จักจากเส้นทางอาชีพที่โดดเด่นทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้ฝึกสอน โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาฮอกกี้น้ำแข็งในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการเป็นตัวแทนทีมชาติญี่ปุ่นในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวหลายครั้ง และการนำพาสโมสรต่างๆ ประสบความสำเร็จ
2. ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
โอซามุ วากาบายาชิ มีภูมิหลังที่สำคัญและเส้นทางการศึกษาที่โดดเด่น ซึ่งเป็นรากฐานของอาชีพนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งอันยาวนานของเขา
2.1. วัยเด็กและกิจกรรมกีฬาช่วงต้น
โอซามุ วากาบายาชิ เกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1944 ที่เมืองเนย์ส รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ครอบครัวของเขาเป็นชาวญี่ปุ่น-แคนาดาที่ย้ายถิ่นฐานมายังรัฐออนแทรีโอจากรัฐบริติชโคลัมเบียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พร้อมกับชาวญี่ปุ่น-แคนาดาอีกหลายพันคน หลังจากนั้นครอบครัวของเขาก็ย้ายไปอยู่ที่เมืองแชทัม รัฐออนแทรีโอ ที่นั่นเขาได้แสดงความสามารถที่โดดเด่นทั้งในกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งและเบสบอลมาตั้งแต่ยังเด็ก โอซามุมีพี่ชายชื่อเมล วากาบายาชิ ซึ่งเป็นนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งเช่นกัน
2.2. อาชีพในระดับวิทยาลัย
ในปี ค.ศ. 1964 วากาบายาชิเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยบอสตัน ในช่วงปีแรกของการศึกษา เขาได้เล่นให้กับทีมฮอกกี้น้ำแข็งเฟรชแมน ในปีที่สอง เขาย้ายขึ้นไปเล่นในทีมระดับมหาวิทยาลัย (varsity) และสร้างสถิติใหม่ของมหาวิทยาลัยบอสตันและอีแคกฮอกกี้ด้วยการทำแอสซิสต์สูงสุดถึง 51 ครั้งในฤดูกาลเดียว ในปีเดียวกันนั้น เขายังได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ในการแข่งขันเดอะบีนพ็อต ในปีถัดมา ความสำเร็จของเขายังคงดำเนินต่อไป โดยเขาได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมออล-อเมริกา ทีมออล-อีสต์ และทีมออล-นิวอิงแลนด์ชุดแรก และยังได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของทีมและนักกีฬายอดเยี่ยมแห่งปีของมหาวิทยาลัย ในช่วงปีสุดท้ายของการศึกษา เขายังคงได้รับเกียรติยศในฐานะออล-อเมริกาและออล-นิวอิงแลนด์อีกครั้ง เขาจบอาชีพนักกีฬาในระดับวิทยาลัยด้วยสถิติแอสซิสต์สูงสุดในประวัติศาสตร์ของทีมเทอร์เรียร์ถึง 90 ครั้ง และเป็นผู้ทำคะแนนสูงสุดเป็นอันดับสองตลอดกาลด้วยคะแนน 145 คะแนน ในช่วงปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัย เขายังได้เล่นเบสบอล โดยมีค่าเฉลี่ยการตีบอลถึง 0.367 และนำทีมเทอร์เรียร์ไปสู่รอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาคของการแข่งขันเพลย์ออฟอีแคก นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่เขาศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยบอสตัน เขาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ฮาร์บี วากาบายาชิ" (ハービー若林ฮาร์บี วากาบายาชิภาษาญี่ปุ่น) และในปี ค.ศ. 1978 เขาได้รับเกียรติให้เข้าสู่หอเกียรติยศของมหาวิทยาลัยบอสตัน
3. อาชีพผู้เล่น
หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย โอซามุ วากาบายาชิ ได้เริ่มต้นอาชีพนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งมืออาชีพ และประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในระดับสโมสรของญี่ปุ่นและการแข่งขันระดับนานาชาติในฐานะผู้เล่นทีมชาติ
3.1. อาชีพกับสโมสรในญี่ปุ่น
ในปี ค.ศ. 1969 โอซามุ วากาบายาชิ และพี่ชายของเขา ได้ย้ายไปญี่ปุ่นตามคำเชิญของพี่ชาย และได้เข้าร่วมสโมสรฮอกกี้น้ำแข็งเซบุ เท็ตสึโด ซึ่งเป็นทีมอาชีพในลีกฮอกกี้น้ำแข็งญี่ปุ่น เขาเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดต่อกันในเวลาต่อมา และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างยุคทองของทีมเซบุ เท็ตสึโด หลังจากนั้น เขายังได้เล่นให้กับโคกุโด เคกากุ ซึ่งรู้จักกันในชื่อเซบุ พรินซ์ แรบบิทส์ ในปี ค.ศ. 1977 เขาได้รับตำแหน่งเป็นผู้เล่นควบผู้ฝึกสอน และในปี ค.ศ. 1985 เขาได้ยุติบทบาทการเป็นผู้เล่นอาชีพ ลงเล่นรวมทั้งหมด 16 ฤดูกาล โดยทำสถิติได้ 206 ประตู และ 164 แอสซิสต์ นอกจากนี้ เขายังได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 3 ครั้ง และได้รับเลือกให้ติดทีมออล-สตาร์ (Best 6) ถึง 7 ครั้ง
3.2. อาชีพระดับนานาชาติ
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1971 โอซามุ วากาบายาชิ ได้รับสัญชาติญี่ปุ่น และเริ่มต้นอาชีพในระดับนานาชาติโดยเป็นตัวแทนทีมชาติฮอกกี้น้ำแข็งญี่ปุ่น เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวถึงสามครั้ง ได้แก่ โอลิมปิกฤดูหนาว 1972 ที่ซัปโปโร, โอลิมปิกฤดูหนาว 1976 ที่อินส์บรุค และ โอลิมปิกฤดูหนาว 1980 ที่เลคแพลซิด ในพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 1980 ที่เลคแพลซิด เขายังได้รับเกียรติเป็นผู้ถือธงชาติญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากโอลิมปิกแล้ว เขายังเป็นตัวแทนทีมชาติญี่ปุ่นในการแข่งขันการแข่งขันชิงแชมป์โลกฮอกกี้น้ำแข็งหลายครั้ง รวมถึงการแข่งขันการแข่งขันชิงแชมป์โลกฮอกกี้น้ำแข็ง 1974 (กลุ่ม B) และการแข่งขันในปี 1975, 1976, 1977, 1978, 1979, 1982 และ 1983 โดยในปี 1979 เขาร่วมแข่งขันในฐานะผู้เล่นควบผู้ฝึกสอน และในปี 1982 ในฐานะผู้เล่นควบผู้ฝึกสอนเช่นกัน
4. อาชีพผู้ฝึกสอน
หลังจากสิ้นสุดอาชีพนักกีฬา โอซามุ วากาบายาชิ ได้หันมาประกอบอาชีพผู้ฝึกสอนอย่างเต็มตัว โดยได้นำพาหลายสโมสรและทีมชาติประสบความสำเร็จ
4.1. การฝึกสอนสโมสรและทีมชาติ
ในปี ค.ศ. 1985 หลังจากที่เขาอำลาการเป็นผู้เล่น โอซามุ วากาบายาชิ ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ฝึกสอนเต็มตัวให้กับสโมสรเซบุ และนำทีมจนถึงปี ค.ศ. 1989 ในช่วงที่เขาเป็นผู้ฝึกสอนและผู้เล่นควบผู้ฝึกสอน เขาได้นำทีมคว้าแชมป์เจแปน ไอซ์ฮอกกี้ ลีกได้ถึง 7 สมัย นอกจากนี้ เขายังเคยดำรงตำแหน่งผู้ฝึกสอนของทีมชาติฮอกกี้น้ำแข็งญี่ปุ่นในการแข่งขันการแข่งขันชิงแชมป์โลกฮอกกี้น้ำแข็ง 1992
4.2. กิจกรรมการฝึกสอนช่วงหลัง
ในปี ค.ศ. 2001 โอซามุ วากาบายาชิ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ฝึกสอนคนแรกของเอช.ซี. นิกโก้ ไอซ์บัคส์ ซึ่งเป็นทีมฮอกกี้น้ำแข็งอาชีพของญี่ปุ่นที่ก่อตั้งขึ้นใหม่หลังจากการยุติการดำเนินงานของทีมฟุรุกาวะ อิเล็กทริก ต่อมาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2002 เขารับตำแหน่งผู้ฝึกสอนควบประธานสโมสรของซัปโปโร คลับ ซึ่งเป็นทีมที่สืบทอดมาจากทีมสโนว์ แบรนด์ มิลค์ โปรดักส์ ภายใต้การนำของเขา ซัปโปโร คลับสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันการแข่งขันชิงแชมป์ฮอกกี้น้ำแข็งทั่วประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 2004 แต่เขาก็ได้ลาออกจากตำแหน่งในปีเดียวกันนั้นเอง เนื่องจากมีความขัดแย้งภายในกับสโมสร
5. รางวัลและเกียรติยศ
โอซามุ วากาบายาชิ ได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมายตลอดเส้นทางอาชีพทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้ฝึกสอน ทั้งในระดับวิทยาลัย สโมสร และทีมชาติ
ในระดับวิทยาลัย เขาได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ของการแข่งขันเดอะบีนพ็อต ในปีที่สองของการศึกษา และยังได้รับเลือกให้ติดทีมออล-อเมริกา ทีมออล-อีสต์ และทีมออล-นิวอิงแลนด์ชุดแรกหลายครั้ง เขายังเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปีของอีแคกฮอกกี้ในปี 1966-67 และเป็นแชมป์ผู้ทำคะแนนสูงสุดของฮอกกี้น้ำแข็ง NCAA ในปี 1966-67 (ร่วมกับเจอร์รี ยอร์ก) และในปี ค.ศ. 1978 เขาได้รับเกียรติให้เข้าสู่หอเกียรติยศของมหาวิทยาลัยบอสตัน
ในระดับอาชีพกับสโมสรในญี่ปุ่น เขาได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า 3 ครั้ง และถูกเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมออล-สตาร์ (Best 6) ถึง 7 ครั้ง นอกจากนี้ เขายังมีส่วนสำคัญในการนำทีมต้นสังกัดอย่างเซบุคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยในฐานะผู้เล่น และยังนำทีมคว้าแชมป์เจแปน ไอซ์ฮอกกี้ ลีกได้ถึง 7 สมัยในฐานะผู้ฝึกสอน
ตารางด้านล่างนี้แสดงรายการรางวัลและเกียรติยศบางส่วนที่เขาได้รับในระดับวิทยาลัย:
รางวัล | ปีที่ได้รับ |
---|---|
ทีมออล-ทัวร์นาเมนต์ชุดที่สองของอีแคกฮอกกี้ | 1967, 1968, 1969 |
ทีมออล-อีแคกฮอกกี้ชุดที่สอง | 1967-68 |
ทีมออล-อเมริกาตะวันออกของสมาคมผู้ฝึกสอนฮอกกี้น้ำแข็งอเมริกัน | 1967-68 |
ทีมออล-อีแคกฮอกกี้ชุดที่หนึ่ง | 1968-69 |
ทีมออล-อเมริกาตะวันออกของสมาคมผู้ฝึกสอนฮอกกี้น้ำแข็งอเมริกัน | 1968-69 |
6. การเสียชีวิต
โอซามุ วากาบายาชิ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 2015 ที่เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น สิริอายุ 70 ปี
7. มรดก
โอซามุ วากาบายาชิ ได้ทิ้งมรดกอันสำคัญไว้ให้กับวงการฮอกกี้น้ำแข็ง โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ในฐานะนักกีฬาชาวแคนาดาเชื้อสายญี่ปุ่นผู้บุกเบิก เขามีบทบาทสำคัญในการยกระดับมาตรฐานและชื่อเสียงของกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งในญี่ปุ่น การเป็นตัวแทนทีมชาติญี่ปุ่นในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวถึงสามครั้ง และการเป็นผู้ถือธงชาติในพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 1980 ตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์กีฬาของญี่ปุ่น
นอกจากความสำเร็จในฐานะผู้เล่นแล้ว บทบาทของเขายังขยายไปถึงการเป็นผู้ฝึกสอน ซึ่งนำพาสโมสรเซบุคว้าแชมป์ลีกหลายสมัย และยังคงพยายามฟื้นฟูทีมต่างๆ ในช่วงหลังของอาชีพผู้ฝึกสอน การที่เขาได้รับเกียรติเข้าสู่หอเกียรติยศของมหาวิทยาลัยบอสตันในปี 1978 แสดงให้เห็นถึงผลงานอันโดดเด่นในระดับวิทยาลัยของเขา มรดกของโอซามุ วากาบายาชิ คือเรื่องราวของนักกีฬาผู้สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งอุทิศตนเพื่อกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง และมีส่วนสำคัญในการบุกเบิกและพัฒนาวงการกีฬานี้ในญี่ปุ่นให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น