1. ภาพรวม

เออร์เนสโต ฟริตส์ ฮูสต์ (Ernesto Frits Hoostภาษาอังกฤษ) เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1965 เป็นอดีตนัก คิกบ็อกซิ่งอาชีพชาวเนเธอร์แลนด์ ผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักคิกบ็อกซิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขาได้รับฉายาว่า "มิสเตอร์เพอร์เฟกต์" (Mr. Perfect) เนื่องจากความสามารถในการใช้ชุดเทคนิคการต่อสู้ที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำดุจเครื่องจักร และยังได้รับฉายาอื่นๆ เช่น "สี่แชมป์เปี้ยน" (Four Times Champion), "เครื่องจักรต่อสู้ที่แม่นยำ" (Fighting Precision Machine), "แสงสีดำ" (Black Flash) และ "ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สีน้ำตาล" (Brown Supercomputer) ตลอดอาชีพการงานของเขาใน K-1 ฮูสต์ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น โดยคว้าแชมป์ เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ถึงสี่สมัย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเท่ากับ เซมมี ชิลต์ นอกจากนี้ เขายังเป็นแชมป์คนแรกและคนสุดท้ายของ K-2 แกรนด์ปรีซ์ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์สำหรับรุ่นไลต์เฮฟวี่เวทที่จัดโดย K-1 อีกด้วย ฮูสต์ยังเป็นที่รู้จักจาก "ฮูสต์แดนซ์" ซึ่งเป็นการเต้นรำฉลองหลังได้รับชัยชนะ
เขาเปิดตัวใน K-1 ครั้งแรกในปี 1993 ที่ เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1993 ซึ่งเขาทำได้ใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์โลก โดยประกาศอำลาวงการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2006 หลังจากการแข่งขัน เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2006 ที่โตเกียวโดม ประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม เขากลับคืนสู่การแข่งขันอีกครั้งในปี 2014 และคว้าแชมป์ WKO World Heavyweight ได้ในวัย 48 ปี ฮูสต์ยังคงมีบทบาทสำคัญในวงการคิกบ็อกซิ่ง โดยฝึกสอนนักสู้รุ่นใหม่ผ่าน Team Mr. Perfect และเป็นผู้จัดงาน 'Hoost Cup'
2. ชีวิตช่วงต้นและอาชีพ
เออร์เนสโต ฮูสต์ได้สร้างชื่อเสียงในวงการศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่ช่วงวัยเยาว์ ก่อนที่จะกลายเป็นตำนานในเวที K-1 ด้วยภูมิหลังและการฝึกฝนอย่างเข้มข้น
2.1. วัยเด็กและการศึกษา
ฮูสต์เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1965 ที่ฮีมส์เกิร์ก จังหวัดนอร์ทฮอลแลนด์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีพ่อแม่เป็นชาวซูรินาม เขาได้ย้ายมาพำนักในประเทศเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 ในช่วงวัยเด็ก ฮูสต์เคยเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรสมัครเล่น ฮอลแลนเดีย (Hollandia) จนกระทั่งอายุได้ 15 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาตัดสินใจเริ่มฝึกคิกบ็อกซิ่งที่ยิมซกูโด (Sokudo Gym) ที่เพิ่งเปิดใหม่
2.2. อาชีพศิลปะการต่อสู้ช่วงต้น (ก่อน K-1)
ในปี ค.ศ. 1983 ฮูสต์มีประสบการณ์การต่อสู้ครั้งแรกกับ วิม ชาร์เรนเบิร์ก (Wim Scharrenberg) โดยชนะด้วยการน็อกเอาต์ในยกที่สอง ในช่วงเริ่มต้นอาชีพในคลาส C ฮูสต์คว้าชัยชนะ 20 ไฟต์รวดด้วยการน็อกเอาต์ทั้งหมด ทำให้เขาก้าวขึ้นสู่คลาส A อย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่มปี ค.ศ. 1988 อาชีพของเขาก็พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว เขาตัดสินใจลาออกจากงานครูสอนกีฬาเพื่อเยาวชนที่ถูกลงโทษทางเลือก เพื่อทุ่มเทให้กับการเป็นนักสู้มืออาชีพอย่างเต็มตัว ในช่วงเวลานี้ เขาได้คว้าแชมป์ยุโรปและแชมป์โลกในสาขาต่างๆ มากมาย ได้แก่:
- แชมป์มวยไทยเนเธอร์แลนด์ MTBN ในปี 1987 (ชนะ เคนเนท แพลก (Kenneth Plak) ด้วยการตัดสิน)
- แชมป์มวยไทยยุโรป MTBN ในปี 1988 (ชนะ ฟร็องซัว กอร์เรม็องส์ (François Corremans) จากเบลเยียม ด้วยการตัดสิน)
- แชมป์ยูโรป ซาวัต ประเภทการต่อสู้ ในปี 1988 (ชนะ ซิลแว็ง ปอสเตล (Sylvain Postel) จากฝรั่งเศส ด้วยการน็อกเอาต์ในยกที่ 5)
- แชมป์คิกบ็อกซิ่งยุโรป ดับเบิลยูเคเอ (WKA) ในปี 1988 (ชนะ เบอนัว บริลเลียนท์ (Benoit Brilliant) ด้วยการน็อกเอาต์ในยกที่ 6)
- แชมป์ยุโรปฟูลคอนแทค ไอเอสเคเอ (ISKA) ในปี 1988 (ชนะ เรอฌิส เลอแซงต์ (Regis Lessaint) ด้วยการน็อกเอาต์ในยกที่ 3)
การต่อสู้ครั้งแรกกับ ปีเตอร์ เอิร์ตส์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1988 ซึ่งฮูสต์สามารถเอาชนะด้วยการตัดสินในยกที่ 5
ในปี ค.ศ. 1989 ฮูสต์คว้าแชมป์โลกครั้งแรกในการแข่งขัน ซาวัต ชิงแชมป์โลกครั้งที่ 1 ในประเภทการต่อสู้ ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยเอาชนะ ฟร็องซิส โดแว็ง (Francis Dauvin) ด้วยการน็อกเอาต์ในยกที่ 2 นอกจากนี้ เขายังคว้าแชมป์โลกมวยไทยอีกด้วย
ปี ค.ศ. 1990 ฮูสต์คว้าแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง WKA เขาได้เผชิญหน้ากับ ร็อบ คามาน (Rob Kaman) อีกครั้ง ซึ่งเขาเคยแพ้ในไฟต์ก่อนหน้านี้ และในครั้งนี้เขาก็แพ้ด้วยการน็อกเอาต์ในยกที่ 5 อย่างไรก็ตาม ฮูสต์อ้างว่าก่อนการน็อกเอาต์ เขาถูกชกเข้าที่จุดสำคัญ
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1992 ฮูสต์ได้เผชิญหน้ากับ ริก รูฟัส (Rick Roufus) แชมป์โลกฟูลคอนแทคไลต์เฮฟวี่เวทของ ISKA ในฝรั่งเศส โดยฮูสต์แพ้ด้วยการตัดสินในยกที่ 12 เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับกติกาที่ห้ามใช้ลูกเตะต่ำ
3. K-1 และอาชีพนักสู้มืออาชีพ
เออร์เนสโต ฮูสต์สร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ในวงการ K-1 ด้วยชัยชนะและไฟต์อันน่าจดจำมากมาย
3.1. การเปิดตัว K-1 แกรนด์ปรีซ์และความท้าทายในช่วงต้น (1993-1996)
เมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1993 ฮูสต์ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการแข่งขัน K-1 ครั้งแรกอย่าง เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1993 โดยเขาซึ่งมีน้ำหนักในรุ่นมิดเดิลเวท ได้ตัดสินใจท้าทายในรุ่นเฮฟวี่เวท ซึ่งสร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาเอาชนะ ปีเตอร์ เอิร์ตส์ ด้วยการตัดสิน และในรอบรองชนะเลิศ เขาเอาชนะ มอริซ สมิธ ด้วยการน็อกเอาต์จากลูกเตะสูงซ้ายที่ทำให้คู่ต่อสู้หมดสติ อย่างไรก็ตาม ในรอบชิงชนะเลิศ เขาพ่ายแพ้ให้กับ บรานโก ชิคาติก ด้วยการน็อกเอาต์จากหมัดขวา ทำให้เขาได้ตำแหน่งรองชนะเลิศ แต่ด้วยผลงานที่โดดเด่นนี้ เขาก็ได้จารึกชื่อในฐานะนักสู้ที่แข็งแกร่งใน K-1 ได้ในทันที
ฮูสต์มีโอกาสคว้าแชมป์อีกครั้งเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 1993 ในการแข่งขัน K-2 แกรนด์ปรีซ์ ที่สนามกีฬาเรียวโงะกุ โคกูงิกัง (Ryōgoku Kokugikan) โดยเป็นครั้งเดียวที่ K-1 จัดการแข่งขัน K-2 ในรอบแรก เขาเอาชนะ แมนสัน กิบสัน (Manson Gibson) ด้วยการตัดสินในยกพิเศษ และในรอบรองชนะเลิศ เขาน็อกเอาต์ อดัม วัตต์ (Adam Watt) ด้วยลูกเตะสูงขวาในยกที่ 1 ก่อนที่จะคว้าแชมป์ด้วยการน็อกเอาต์ แชมป์ป่าเกียรติทรงฤทธิ์ (Changpuek Kiatsongrit) ด้วยลูกเตะสูงขวาในยกที่ 4
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1994 ฮูสต์เข้าร่วมการแข่งขัน K-2 พลัส ทัวร์นาเมนต์ ที่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยคว้าแชมป์ด้วยการน็อกเอาต์ บ็อบ ชไรเบอร์ (Bob Schreiber) ในยกที่ 1
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994 ฮูสต์ได้ล้างแค้น ริก รูฟัส แชมป์โลกฟูลคอนแทคไลต์เฮฟวี่เวทของ ISKA ในการชิงแชมป์โลกฟูลคอนแทคไลต์เฮฟวี่เวท ISKA โดยเขาเอาชนะด้วยการน็อกเอาต์ด้วยลูกเตะสูงขวาในยกที่ 11 ทำให้รูฟัสหมดสติและต้องใช้หน้ากากออกซิเจน
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1994 ในการแข่งขัน K-1 Legend ฮูสต์ได้เผชิญหน้ากับ บรานโก ชิคาติก อีกครั้ง แต่ก็พ่ายแพ้ด้วยการน็อกเอาต์ด้วยหมัดขวาในยกที่ 2
ฮูสต์เข้าร่วม K-1 แกรนด์ปรีซ์ 1995 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 1995 โดยเอาชนะ ฮูเบิร์ต นูมริช (Hubert Numrich) ในรอบแรกด้วยการน็อกเอาต์ทางเทคนิค (TKO) และในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1995 เขาเอาชนะ จอห์น ไคลน์ (John Kleijn) ด้วยการน็อกเอาต์ในรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับ ปีเตอร์ เอิร์ตส์ ด้วยการตัดสินในยกพิเศษในรอบรองชนะเลิศ
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1995 ฮูสต์ได้เผชิญหน้ากับ แอนดี ฮัก (Andy Hug) เป็นครั้งแรกใน K-1 Legend ซึ่งเขาเอาชนะด้วยการตัดสิน 2-0
ใน K-1 แกรนด์ปรีซ์ 1996 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1996 ฮูสต์เอาชนะ สจวร์ต กรีน (Stuart Green) ด้วยการน็อกเอาต์ในรอบแรก ต่อมาในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1996 เขาน็อกเอาต์ มีร์โก โคร คอป (Mirko Cro Cop) ซึ่งเป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกในรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับ แอนดี ฮัก ด้วยการตัดสินแบบแตกแยก 1-2 ในยกพิเศษที่สอง ในรอบรองชนะเลิศ ทำให้เขาไม่สามารถล้างแค้นได้
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1996 ฮูสต์เผชิญหน้ากับ เจโรม เลอ แบนเนอร์ (Jérôme Le Banner) เป็นครั้งแรกใน K-1 Star Wars '96 โดยพ่ายแพ้ด้วยการน็อกเอาต์จากหมัดขวาในยกที่ 2
3.2. ช่วงรุ่งโรจน์และชัยชนะ K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ครั้งแรก (1997-2001)
q=โตเกียวโดม|position=left
ในที่สุด ฮูสต์ก็ก้าวขึ้นสู่การเป็นแชมป์โลก K-1 ครั้งแรกในปี 1997 โดยเมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1997 ใน K-1 Braves '97 เขาเอาชนะ ไมค์ เบอร์นาร์โด (Mike Bernardo) ด้วยการน็อกเอาต์ทางเทคนิค (TKO) จากการผสมผสานการชกที่รวดเร็ว แม้จะเคยโดนหมัดจนล้มลงมาก่อน
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 1997 ใน K-1 แกรนด์ปรีซ์ 1997 รอบแรก เขาเอาชนะ สเตฟาน เลโก (Stefan Leko) ด้วยการน็อกเอาต์ และในวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 1997 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาเอาชนะ เจโรม เลอ แบนเนอร์ ด้วยการน็อกเอาต์ และในรอบรองชนะเลิศ เขาเอาชนะ ฟรานซิสโก ฟิลโอ (Francisco Filho) ในการเผชิญหน้าครั้งแรกด้วยการตัดสิน ก่อนจะเอาชนะ แอนดี ฮัก ด้วยการตัดสินในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เขาคว้าแชมป์ K-1 แกรนด์ปรีซ์เป็นสมัยแรก
ฮูสต์ไม่สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์ของเขาได้ในการแข่งขัน K-1 แกรนด์ปรีซ์ 1998 โดยเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1998 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาเผชิญหน้ากับ แซม เกรโค (Sam Greco) และพ่ายแพ้ด้วยการน็อกเอาต์ทางเทคนิค เนื่องจากมีแผลแตกบริเวณเหนือตาซ้าย ทำให้ไม่สามารถเริ่มยกที่ 3 ได้ โดยส่วนใหญ่เขาถูกเกรโคครอบงำในไฟต์นั้น
ในปี 1999 ฮูสต์คว้าแชมป์ K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์สมัยที่สอง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1999 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาเอาชนะ แอนดี ฮัก ด้วยการตัดสิน และในรอบรองชนะเลิศ เขาเอาชนะ เจโรม เลอ แบนเนอร์ ด้วยการน็อกเอาต์ ก่อนที่จะเอาชนะ มีร์โก โคร คอป ด้วยการน็อกเอาต์ทางเทคนิคในยกที่ 3 ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เขากลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังจากที่เคยแพ้น็อกเอาต์เมื่อ 8 เดือนก่อน
เมื่อวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 2000 ฮูสต์ล้างแค้นให้กับความพ่ายแพ้ต่อ แซม เกรโค โดยเอาชนะด้วยการน็อกเอาต์ทางเทคนิค
ฮูสต์สามารถรักษาตำแหน่งแชมป์ K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ได้เป็นสมัยที่สามในปี 2000 โดยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2000 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาเอาชนะ มีร์โก โคร คอป ด้วยการตัดสินในยกพิเศษ และในรอบรองชนะเลิศ เขาเอาชนะ ฟรานซิสโก ฟิลโอ ด้วยการตัดสิน ก่อนที่จะเอาชนะ เรย์ เซโฟ (Ray Sefo) ด้วยการตัดสินในรอบชิงชนะเลิศ
ใน K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2000 ที่นาโกย่า เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2000 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์รอบคัดเลือกเพื่อหาผู้มีสิทธิ์เข้าร่วม K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2000 ฮูสต์เข้าร่วมการแข่งขันและผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเพื่อเผชิญหน้ากับ เจโรม เลอ แบนเนอร์ แต่ก่อนเริ่มยกที่ 2 ฮูสต์มีอาการผิดปกติที่เข่า ทำให้เขาไม่สามารถต่อสู้ต่อไปได้ และเซกชันของเขาก็โยนผ้าขาวเพื่อยอมแพ้
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2001 ใน K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2001 ที่เมลเบิร์น ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์รอบคัดเลือกเพื่อหาผู้มีสิทธิ์เข้าร่วม K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2001 ฮูสต์เอาชนะ เซอร์เก กูร์ (Sergei Gur) ในรอบแรกด้วยการน็อกเอาต์ทางเทคนิค (TKO) และในรอบรองชนะเลิศ เขาเอาชนะ มาร์ก ฮันต์ (Mark Hunt) ในการเผชิญหน้าครั้งแรกด้วยการตัดสิน ก่อนที่จะเอาชนะ แมตต์ สเกลตัน (Matt Skelton) ในรอบชิงชนะเลิศด้วยการตัดสิน ทำให้เขาได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2001 ใน K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2001 รอบก่อนรองชนะเลิศ เขาเอาชนะ สเตฟาน เลโก ด้วยการตัดสิน อย่างไรก็ตาม เขาถูกบังคับให้ถอนตัวออกจากการแข่งขันก่อนรอบรองชนะเลิศเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หน้าแข้ง
3.3. การแข่งขันสำคัญและชัยชนะ K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ครั้งที่สี่ (2002)
การต่อสู้ที่รอคอยมานานกับ บ็อบ แซปป์ (Bob Sapp) เกิดขึ้นในรอบคัดเลือก K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2002 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2002 ที่ไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น แซปป์เอาชนะด้วยการน็อกเอาต์ทางเทคนิคในยกแรกหลังจากแพทย์สั่งยุติการแข่งขันเนื่องจากบาดแผลของฮูสต์ แม้จะแพ้ แต่ฮูสต์ก็ได้เผชิญหน้ากับแซปป์อีกครั้งในรอบก่อนรองชนะเลิศของ K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2002 ที่โตเกียว เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2002 หลังจากที่ทั้งคู่แลกหมัดจนล้มลงในยกแรก ฮูสต์ก็แพ้อีกครั้งในการต่อสู้ที่ดุเดือด เมื่อกรรมการตัดสินว่าฮูสต์น็อกเอาต์ในขณะที่เขายังยืนอยู่ อย่างไรก็ตาม หลังจากไฟต์ แซปป์พบว่ามือของเขาหักและซี่โครงร้าวสี่ซี่ ทำให้ไม่สามารถแข่งต่อได้ ฮูสต์จึงได้เข้าแทนที่ในรอบรองชนะเลิศ
ในรอบรองชนะเลิศ ฮูสต์เอาชนะ เรย์ เซโฟ ในยกแรกด้วยการน็อกเอาต์ทางเทคนิค หลังจากที่เซโฟได้รับบาดเจ็บที่หน้าแข้งจากการเตะเข้าที่กระดูกสะบ้าของฮูสต์ ฮูสต์ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ K-1 เป็นครั้งที่ห้า และได้เผชิญหน้ากับ เจโรม เลอ แบนเนอร์ ไฟต์นั้นดูเหมือนจะเป็นของเลอ แบนเนอร์อย่างชัดเจน จนกระทั่งในยกที่สามและยกสุดท้าย เมื่อเลอ แบนเนอร์ได้รับบาดเจ็บที่แขนจากการบล็อกลูกเตะของฮูสต์ ฮูสต์โจมตีแขนนั้นอีกครั้งอย่างหนักหน่วง ทำให้เลอ แบนเนอร์ล้มลงโดยเหลือเวลาเพียง 94 วินาทีในไฟต์ ฮูสต์ชนะด้วยการน็อกเอาต์ทางเทคนิคและคว้าแชมป์แกรนด์ปรีซ์สมัยที่สี่ เจโรม เลอ แบนเนอร์ ได้รับบาดเจ็บกระดูกหักอย่างรุนแรง ทำให้เขาต้องพักจากการแข่งขันไปนานกว่าหนึ่งปี
ในปี ค.ศ. 2003 ฮูสต์ยังคงต่อสู้กับ บ็อบ แซปป์ ในเวทีมวยปล้ำอาชีพ ในงาน WRESTLE-1 ครั้งที่ 2 ของ ออล เจแปน โปรเรสลิง (AJPW) ที่โตเกียวโดม ฮูสต์เอาชนะแซปป์ได้หลังจากใช้เก้าอี้ตีและตบหลังศีรษะ ซึ่งนำไปสู่การจับล็อกด้วยท่า Schoolboy pin
3.4. อาชีพช่วงปลายและการอำลาวงการ (2003-2006)
ฮูสต์มีกำหนดเข้าร่วม K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2003 ในฐานะแชมป์เก่า แต่ต้องถอนตัวเนื่องจากอาการโรคผิวหนังภูมิแพ้กำเริบ ซึ่งเป็นอาการป่วยเรื้อรังที่เขาเป็นมาตั้งแต่ช่วงอาชีพนักมวย
ในปี ค.ศ. 2004 เขายังคงเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ K-1 แกรนด์ปรีซ์ 2004 ในรอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2004 เขาเผชิญหน้ากับ เรมี่ บอนยาสกี้ (Remy Bonjasky) แชมป์เก่าจากปีก่อน การต่อสู้ดำเนินไปอย่างสูสีจนต้องมีการต่อยกพิเศษ แต่ฮูสต์พ่ายแพ้ด้วยการตัดสินที่ถูกวิจารณ์อย่างมากว่าไม่ยุติธรรม ซึ่งนิตยสารการต่อสู้บางฉบับยังยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดถึง หลังการแข่งขัน ฟรองซัวส์ บอต้า (François Botha) และเทรนเนอร์ของเขา สตีฟ คาราโกดา (Steve Kalakoda) ที่เฝ้าดูอยู่หลังเวที ต่างประหลาดใจเมื่อเรมี่ชนะการตัดสิน สถานการณ์นี้ทำให้มีการประท้วงทางโทรศัพท์และอีเมลหลั่งไหลไปยังผู้จัดงาน K-1 และสถานีโทรทัศน์ ฟูจิทีวี ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดสด จนนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นคือการตรวจสอบการตัดสินบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ K-1
ใน K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2005 รอบเปิดตัวเมื่อวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2005 ฮูสต์ต้องถอนตัวอีกครั้งเนื่องจากอาการโรคผิวหนังภูมิแพ้และอาการบาดเจ็บที่เข่า ในช่วงการแข่งขันนั้นเอง เขาได้ประกาศว่าเขาจะเข้าร่วมการแข่งขันแบบนัดเดียวเท่านั้น และจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันแกรนด์ปรีซ์ที่โหดร้ายอีกต่อไป และวางแผนจะจัดการแข่งขันอำลาวงการภายในปี 2006
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2005 ใน เค-วัน พรีเมียม 2005 ไดนาไมต์!! ฮูสต์ได้เผชิญหน้ากับแชมป์ K-1 คนใหม่ เซมมี ชิลต์ ที่เพิ่งคว้าตำแหน่งมาเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ในยกแรก ฮูสต์โดนเข่าของชิลต์จนล้มลง ทำให้เกิดแผลแตกที่หางตาซ้ายและมีเลือดออก แพทย์ตัดสินใจยุติการแข่งขันเนื่องจากความลึกและตำแหน่งของบาดแผล ทำให้เขาพ่ายแพ้ด้วยการน็อกเอาต์ทางเทคนิคอย่างน่าเสียดาย
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2006 ฮูสต์จัดการแข่งขันอำลาวงการในบ้านเกิดของเขาที่ K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2006 ที่อัมสเตอร์ดัม เดิมทีเขาจะเผชิญหน้ากับ บ็อบ แซปป์ แต่แซปป์ถอนตัวจากการแข่งขันกะทันหันเนื่องจากปัญหาด้านสัญญา ทำให้ฮูสต์ต้องเผชิญหน้ากับ ปีเตอร์ เอิร์ตส์ ที่มาร่วมงานในฐานะผู้บรรยายทางโทรทัศน์ในท้องถิ่น และฮูสต์ก็เอาชนะด้วยการตัดสิน
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 ในงาน K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2006 ที่ซัปโปะโระ ฮูสต์ประกาศว่าการแข่งขันแกรนด์ปรีซ์ครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันครั้งสุดท้ายของเขา โดยตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ห้าและจะอำลาวงการทันทีเมื่อเขาพ่ายแพ้ไม่ว่าจะรอบใดก็ตาม
เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2006 ใน K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2006 รอบเปิดตัว ฮูสต์เอาชนะ ยูสุเกะ ฟุจิโมโตะ (Yusuke Fujimoto) ด้วยการน็อกเอาต์ ทำให้เขาก้าวเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2006 ในรอบชิงชนะเลิศ K-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2006 ฮูสต์เผชิญหน้ากับ ชาลิด อาร์ราบ (Chalid Arrab) ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาใช้ความได้เปรียบด้านการเข้าถึงและลูกเตะต่ำที่แม่นยำเพื่อเอาชนะอาร์ราบด้วยการตัดสินในยกพิเศษที่ 1 และในรอบรองชนะเลิศ เขาได้เผชิญหน้ากับ เซมมี ชิลต์ อีกครั้ง แม้จะต่อสู้ครบ 3 ยก แต่เขาก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับชิลต์ได้อย่างมีนัยสำคัญ และพ่ายแพ้ด้วยการตัดสิน ฮูสต์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก ได้รับการปรบมือจากผู้ชมอย่างกึกก้องขณะที่เขาออกจากเวที หลังจากการแข่งขัน K-1 ไฟนอล 2006 เขาได้ประกาศอำลาวงการอย่างเป็นทางการบนเวที พร้อมกับครอบครัวที่มาให้กำลังใจ
3.5. กิจกรรมหลังการอำลาวงการและการกลับมา
q=โตเกียว|position=right
หลังจากการอำลาวงการ ฮูสต์ยังคงมีส่วนร่วมในวงการศิลปะการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง เขาได้ฝึกสอนนักสู้ที่มีชื่อเสียงหลายคน รวมถึง พอล สโลวินสกี้ (Paul Slowinski) ผู้คว้าแชมป์ K-1 ทัวร์นาเมนต์ปี 2007 ที่อัมสเตอร์ดัม และยังฝึกสอน เฟดอร์ เอเมเลียเนนโก (Fedor Emelianenko) แชมป์ ไพรด์ ไฟท์ติ้ง แชมเปียนชิปส์ ในด้านการเตะขา มวยปล้ำ และทักษะอื่นๆ นอกจากนี้ ฮูสต์ยังเป็นผู้ดูแลมุมให้นักสู้ UFC อย่าง แอนโทนี ฮาร์ดอนก์ (Antoni Hardonk) ในการแข่งขัน UFC ของเขา
ในปี ค.ศ. 2012 ฮูสต์ได้รับเชิญจาก Katana Fighting Series ให้เป็นแขกผู้มีเกียรติในงาน Katana 6 'Rebellion' และในปีเดียวกันนั้น เนื่องจากความนิยมของการวิ่งมาราธอนขนาดใหญ่ในบ้านเกิดของเขาและสถานะที่เขาเป็นชาวญี่ปุ่น ฮูสต์จึงเข้าร่วม โตเกียวมาราธอน ปี 2012 และวิ่งจนจบการแข่งขัน เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 เขายังดำรงตำแหน่งผู้บริหารการผลิตของ Hoost Cup 2012
ฮูสต์กลับมาแข่งขันอีกครั้งในวัย 48 ปี เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 2014 ในการแข่งขัน Hoost Cup: Legend ที่นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการต่อสู้ครั้งแรกของเขาในรอบกว่าแปดปี เขาสามารถล้ม โทมัส สแตนลีย์ (Thomas Stanley) ได้ถึงสองครั้ง และคว้าชัยชนะด้วยการตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2014 ที่โอซาก้า ฮูสต์เอาชนะ ปีเตอร์ เอิร์ตส์ ในการเผชิญหน้าครั้งที่หกด้วยการตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ เพื่อคว้าแชมป์ WKO World Heavyweight ที่ว่างอยู่
ปัจจุบัน ฮูสต์ยังคงเป็นผู้ฝึกสอนนักสู้รุ่นใหม่ โดยดำเนินงานยิมชื่อ "ทีมมิสเตอร์เพอร์เฟกต์" (Team Mr. Perfect) และมีสาขาในเมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
4. สไตล์การต่อสู้
เออร์เนสโต ฮูสต์ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในนักชกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล แม้เขาจะขาดพละกำลังทางกายภาพที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับนักสู้รุ่นเฮฟวี่เวทคนอื่นๆ แต่เขาก็ประสบความสำเร็จด้วยความเร็วที่เหนือกว่า ความแม่นยำ การผสมผสานการชกที่ทำลายล้าง และความฉลาดทางกลยุทธ์ ฉายา "มิสเตอร์เพอร์เฟกต์" ของเขามาจากความสามารถในการใช้ชุดเทคนิคที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำดุจเครื่องจักร
อาวุธที่น่ากลัวที่สุดของฮูสต์คือลูกเตะต่ำอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเขาใช้เป็นท่าปิดชุดคอมบิเนชันเพื่อสร้างความเสียหายให้กับคู่ต่อสู้ตลอดการแข่งขัน เขาสามารถเอาชนะคู่แข่งชั้นนำอย่าง เรย์ เซโฟ (Ray Sefo), มีร์โก โคร คอป (Mirko Cro Cop) และ อีกอร์ โวฟชานชิน (Igor Vovchanchyn) ได้ด้วยการใช้ลูกเตะต่ำอันทรงพลังนี้ นอกจากนี้ ฮูสต์ยังโดดเด่นในเกมสวนกลับ และมีทักษะการป้องกันที่ยอดเยี่ยม ซึ่งช่วยให้เขาสามารถรอดพ้นจากสถานการณ์ที่นักสู้ที่มีพลังมากกว่าพยายามเข้ามาปะทะ อย่างไรก็ตาม ความสามารถนี้ก็เคยล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัดถึงสองครั้งในการเผชิญหน้ากับ บ็อบ แซปป์ ที่มีน้ำหนักถึง 159 kg (350 lb)
5. ชีวิตส่วนตัวและภาพลักษณ์ต่อสาธารณะ
ปัจจุบัน ฮูสต์อาศัยอยู่ในเมืองฮอร์น (Hoorn) ประเทศเนเธอร์แลนด์ กับภรรยาและลูกๆ
ฮูสต์เป็นที่รู้จักกันดีในความสามารถในการพูดภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว แม้ว่าเขาจะใช้ภาษาดัตช์ในการให้สัมภาษณ์ที่เป็นทางการ แต่ก็มักจะเห็นเขาพูดภาษาญี่ปุ่นในการปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์หลากหลายของญี่ปุ่น งานอดิเรกของเขาคือการร้องคาราโอเกะ และเขาเคยร้องเพลง 'Dream' ของ โยชิ อิคูโซะ ในรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง นอกจากนี้ เขายังมีชื่อเสียงในเรื่องของความกลัวภรรยาอีกด้วย
ตลอดอาชีพการเป็นนักสู้ เขามักจะมีปัญหาสุขภาพจากอาการโรคผิวหนังภูมิแพ้เรื้อรัง ซึ่งทำให้เขาต้องถอนตัวจากการแข่งขันหลายครั้ง
6. มรดกและการประเมิน
เออร์เนสโต ฮูสต์ได้ทิ้งร่องรอยสำคัญในประวัติศาสตร์คิกบ็อกซิ่ง และได้รับการประเมินในฐานะนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง
6.1. ความสำเร็จและผลกระทบที่สำคัญ
เออร์เนสโต ฮูสต์ได้รับการยอมรับว่าเป็น "ช่างเทคนิค" และ "นักสู้ผู้ชาญฉลาด" ในวงการคิกบ็อกซิ่งในยุคที่มีนักสู้ทรงพลังมากมาย เขาสามารถทำลายสถิติด้วยการเป็นแชมป์ เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ถึงสี่สมัย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเท่ากับ เซมมี ชิลต์ เขายังเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งใน "สี่ราชาแห่ง K-1" (K-1 Four Heavenly Kings) เคียงข้างแอนดี ฮัก, ปีเตอร์ เอิร์ตส์ และ ไมค์ เบอร์นาร์โด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของยุคทองของ K-1
นอกจากการเป็นนักสู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว ฮูสต์ยังได้อุทิศตนเพื่อพัฒนาวงการคิกบ็อกซิ่งในฐานะผู้ฝึกสอน โดยเป็นผู้ก่อตั้งและดำเนินงาน "ทีมมิสเตอร์เพอร์เฟกต์" (Team Mr. Perfect) ซึ่งเน้นการฝึกสอนนักสู้รุ่นใหม่ การที่เขาแสดงให้เห็นว่า "อายุเป็นเพียงตัวเลข" ด้วยการกลับมาคว้าแชมป์โลก WKO ในวัย 48 ปี ยิ่งตอกย้ำถึงความสามารถและความทุ่มเทของเขา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักสู้และแฟนกีฬามากมาย
6.2. คำวิจารณ์และข้อถกเถียง
ตลอดอาชีพการงานของเออร์เนสโต ฮูสต์ มีบางเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงและคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างเป็นกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินในการแข่งขันบางนัด
การเผชิญหน้ากับ บ็อบ แซปป์ สองครั้งในปี 2002 มีผลลัพธ์ที่น่ากังขา ในการแข่งขันครั้งแรกที่แซปป์ชนะด้วยการน็อกเอาต์ทางเทคนิคจากคำสั่งของแพทย์เนื่องจากบาดแผลของฮูสต์ และการแข่งขันครั้งที่สองที่ฮูสต์แพ้ด้วยการน็อกเอาต์จากกรรมการ ทั้งที่เขายังยืนอยู่ ซึ่งเป็นผลการตัดสินที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก นอกจากนี้ การพ่ายแพ้ต่อ เรมี่ บอนยาสกี้ ในรอบก่อนรองชนะเลิศของ เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2004 ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ถูกตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของการตัดสิน โดยสื่อมวลชนและแฟนๆ จำนวนมากมองว่าเป็นการตัดสินที่ "ไม่สามารถอธิบายได้" ซึ่งส่งผลให้เกิดการประท้วงต่อผู้จัดงานอย่างกว้างขวาง และนำไปสู่การตรวจสอบการตัดสินอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของ K-1
7. ตำแหน่งและรางวัล
เออร์เนสโต ฮูสต์ได้รับตำแหน่งแชมป์และรางวัลสำคัญมากมายตลอดอาชีพนักสู้ของเขา ทั้งในระดับสมัครเล่นและมืออาชีพ:
- ระดับสมัครเล่น
- แชมป์ยูโรปซาวัต ประเภทการต่อสู้
- แชมป์โลกซาวัต ประเภทการต่อสู้ ครั้งที่ 1
- ระดับมืออาชีพ
- แชมป์โลกไลต์เฮฟวี่เวท ไอก์บีเอฟ (IKBF)
- แชมป์โลกไลต์เฮฟวี่เวท ดับเบิลยูเอ็มทีเอ (WMTA)
- แชมป์โลกมวยไทยไลต์เฮฟวี่เวท WKA
- แชมป์โลกฟูลคอนแทคไลต์เฮฟวี่เวท ISKA
- แชมป์โลกเฮฟวี่เวท WKO ปี 2014
- รองชนะเลิศ เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1993
- แชมป์ เค-วัน แกรนด์ปรีซ์ 1993
- แชมป์ เค-วัน พลัส ทัวร์นาเมนต์ 1994 ที่อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์
- แชมป์ เค-วัน แกรนด์ปรีซ์ 1997
- แชมป์ เค-วัน แกรนด์ปรีซ์ 1999
- รองชนะเลิศ เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2000 ที่นาโกย่า
- แชมป์ เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2000
- แชมป์ เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2001 ที่เมลเบิร์น
- แชมป์ เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2002
- รางวัลอื่นๆ
- นักสู้ฟูลคอนแทคแห่งปี 2004 จากนิตยสาร แบล็กเบลต์ (Black Belt Magazine)
8. บันทึกคิกบ็อกซิ่ง
ชัยชนะ 99 ครั้ง (น็อกเอาต์ 62 ครั้ง, ตัดสิน 37 ครั้ง), แพ้ 21 ครั้ง, เสมอ 1 ครั้ง
วันที่ | ผลการแข่งขัน | คู่ต่อสู้ | อีเวนต์ | สถานที่ | วิธีการ | ยก | เวลา | สถิติ | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2014-10-19 | ชนะ | ปีเตอร์ เอิร์ตส์ (เนเธอร์แลนด์) | WKO: Kumite Energy | โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 3 | 2:00 | 99-21-1 | คว้าแชมป์ WKO World Heavyweight | |
2014-03-23 | ชนะ | โทมัส สแตนลีย์ (สหรัฐอเมริกา) | Hoost Cup: Legend | นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 3 | 2:00 | 98-21-1 | ||
2006-12-02 | แพ้ | เซมมี ชิลต์ (เนเธอร์แลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2006 รอบรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 3 | 3:00 | 97-21-1 | ||
2006-12-02 | ชนะ | ชาลิด อาร์ราบ (เยอรมนี) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2006 รอบก่อนรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสินในยกพิเศษ (เป็นเอกฉันท์) | 4 | 3:00 | 97-20-1 | ||
2006-09-30 | ชนะ | ยูสุเกะ ฟุจิโมโตะ (ญี่ปุ่น) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2006 รอบเปิดตัว ที่โอซาก้า | โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (ลูกเตะต่ำขวา) | 3 | 2:09 | 96-20-1 | ผ่านเข้ารอบสุดท้าย K-1 แกรนด์ปรีซ์ 2006 | |
2006-05-13 | ชนะ | ปีเตอร์ เอิร์ตส์ (เนเธอร์แลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2006 ที่อัมสเตอร์ดัม | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน (เสียงส่วนใหญ่) | 3 | 3:00 | 95-20-1 | ||
2005-12-31 | แพ้ | เซมมี ชิลต์ (เนเธอร์แลนด์) | เค-วัน พรีเมียม 2005 ไดนาไมต์ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (กรรมการสั่งยุติ) | 2 | 0:41 | 94-20-1 | ||
2004-12-04 | แพ้ | เรมี่ บอนยาสกี้ (เนเธอร์แลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2004 รอบก่อนรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสินในยกพิเศษ | 4 | 3:00 | 94-19-1 | ||
2004-09-25 | ชนะ | กลอเบ เฟยโตซ่า (บราซิล) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2004 รอบคัดเลือกรอบสุดท้าย | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 3 | 3:00 | 94-18-1 | ผ่านเข้ารอบสุดท้าย K-1 แกรนด์ปรีซ์ 2004 | |
2004-03-27 | ชนะ | คซาวิต บัจรามี (สวิตเซอร์แลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2004 ที่ไซตามะ | ไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 3 | 3:00 | 93-18-1 | ||
2003-12-31 | ชนะ | มอนทานา ซิลวา (บราซิล) | เค-วัน พรีเมียม 2003 ไดนาไมต์ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 3 | 3:00 | 92-18-1 | ||
2003-07-13 | ชนะ | ซีริล อาบิดิ (ฝรั่งเศส) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2003 ที่ฟุกุโอกะ | ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 2 | 3:00 | 91-18-1 | ||
2003-06-14 | ชนะ | มาร์ติน โฮล์ม (สวีเดน) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2003 ที่ปารีส | ปารีส ประเทศฝรั่งเศส | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 5 | 3:00 | 90-18-1 | ||
2003-03-30 | ชนะ | เจฟเฟอร์สัน ซิลวา (บราซิล) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2003 ที่ไซตามะ | ไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (หมัด) | 1 | 2:55 | 89-18-1 | ||
2002-12-07 | ชนะ | เจโรม เลอ แบนเนอร์ (ฝรั่งเศส) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2002 รอบชิงชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (ลูกเตะกลางขวา) | 3 | 1:26 | 88-18-1 | คว้าแชมป์ K-1 World Grand Prix 2002 | |
2002-12-07 | ชนะ | เรย์ เซโฟ (นิวซีแลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2002 รอบรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (บาดเจ็บหน้าแข้ง) | 1 | 1:49 | 87-18-1 | ||
2002-12-07 | แพ้ | บ็อบ แซปป์ (สหรัฐอเมริกา) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2002 รอบก่อนรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (กรรมการสั่งยุติ) | 2 | 2:53 | 86-18-1 | เข้าสู่รอบรองชนะเลิศแม้จะแพ้ เนื่องจาก บ็อบ แซปป์ ได้รับบาดเจ็บ | |
2002-10-05 | แพ้ | บ็อบ แซปป์ (สหรัฐอเมริกา) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2002 รอบคัดเลือกรอบสุดท้าย | ไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (แพทย์สั่งยุติ) | 1 | 3:00 | 86-17-1 | ผ่านเข้ารอบสุดท้าย K-1 แกรนด์ปรีซ์ 2002 แม้จะแพ้ โดยเป็นตัวแทนของ เซมมี ชิลต์ ที่ได้รับบาดเจ็บ | |
2002-08-28 | เสมอ | เซมมี ชิลต์ (เนเธอร์แลนด์) | ไพรด์ ช็อคเวฟ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | เสมอ | 5 | 3:00 | 86-16-1 | ||
2002-08-17 | ชนะ | แย็น นอร์ตเยอ (Jan Nortje) (แอฟริกาใต้) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2002 ที่ลาสเวกัส | ลาสเวกัส รัฐเนวาดา | น็อกเอาต์ (เตะ) | 3 | 1:29 | 86-16 | ||
2002-05-22 | ชนะ | สเตฟาน เลโก (เยอรมนี) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2002 ที่ปารีส | ปารีส ประเทศฝรั่งเศส | น็อกเอาต์ (หมัด) | 1 | 1:48 | 85-16 | ||
2002-04-21 | ชนะ | สึโยชิ นากาซาโกะ (ญี่ปุ่น) | เค-วัน เบิร์นนิ่ง 2002 | ฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ | 1 | 1:46 | 84-16 | ||
2001-12-08 | ชนะ | สเตฟาน เลโก (เยอรมนี) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2001 รอบก่อนรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 3 | 3:00 | 83-16 | แม้จะชนะแต่ต้องถอนตัวจากการแข่งขันเนื่องจากบาดเจ็บ | |
2001-06-16 | ชนะ | แมตต์ สเกลตัน (อังกฤษ) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2001 ที่เมลเบิร์น รอบชิงชนะเลิศ | เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย | ตัดสิน (เสียงส่วนใหญ่) | 3 | 3:00 | 82-16 | คว้าแชมป์ K-1 World Grand Prix 2001 ที่เมลเบิร์น | |
2001-06-16 | ชนะ | มาร์ก ฮันต์ (นิวซีแลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2001 ที่เมลเบิร์น รอบรองชนะเลิศ | เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 3 | 3:00 | 81-16 | ||
2001-06-16 | ชนะ | เซอร์เก กูร์ (เบลารุส) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2001 ที่เมลเบิร์น รอบก่อนรองชนะเลิศ | เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (กรรมการสั่งยุติ) | 1 | 2:03 | 80-16 | ||
2001-04-15 | ชนะ | มูซาชิ (ญี่ปุ่น) | เค-วัน เบิร์นนิ่ง 2001 | คุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เสียงส่วนใหญ่) | 5 | 3:00 | 79-16 | ||
2001-03-18 | ชนะ | คซาวิต บัจรามี (สวิตเซอร์แลนด์) | 2H2H - Simply The Best | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน | 5 | 3:00 | 78-16 | ||
2000-12-10 | ชนะ | เรย์ เซโฟ (นิวซีแลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2000 รอบชิงชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 3 | 3:00 | 77-16 | คว้าแชมป์ K-1 World Grand Prix 2000 | |
2000-12-10 | ชนะ | ฟรานซิสโก ฟิลโอ (บราซิล) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2000 รอบรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 3 | 3:00 | 76-16 | ||
2000-12-10 | ชนะ | มีร์โก โคร คอป (โครเอเชีย) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2000 รอบก่อนรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสินในยกพิเศษ (เป็นเอกฉันท์) | 4 | 3:00 | 75-16 | ||
2000-07-30 | แพ้ | เจโรม เลอ แบนเนอร์ (ฝรั่งเศส) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2000 ที่นาโกย่า รอบชิงชนะเลิศ | นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (เซกชันโยนผ้า) | 1 | 3:00 | 74-16 | การแข่งขันเพื่อชิงแชมป์ K-1 World Grand Prix 2000 ที่นาโกย่า | |
2000-07-30 | ชนะ | ลอยด์ แวน แดมส์ (เนเธอร์แลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2000 ที่นาโกย่า รอบรองชนะเลิศ | นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เสียงส่วนใหญ่) | 3 | 3:00 | 74-15 | ||
2000-07-30 | ชนะ | ปารีส วาซิลีกอส (กรีซ) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2000 ที่นาโกย่า รอบก่อนรองชนะเลิศ | นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (หมัดขวา) | 3 | 2:20 | 73-15 | ||
2000-05-28 | ชนะ | รานี เบอร์บาชี (ฝรั่งเศส) | เค-วัน เซอร์ไววัล 2000 | ซัปโปะโระ ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (เซกชันโยนผ้า) | 3 | 3:00 | 72-15 | ||
2000-04-23 | ชนะ | แซม เกรโค (ออสเตรเลีย) | เค-วัน เดอะมิลเลเนียม | โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (เซกชันโยนผ้า) | 3 | 3:00 | 71-15 | ||
1999-12-05 | ชนะ | มีร์โก โคร คอป (โครเอเชีย) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1999 รอบชิงชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (หมัดซ้ายเข้าลำตัว) | 3 | 1:09 | 70-15 | คว้าแชมป์ K-1 World Grand Prix 1999 | |
1999-12-05 | ชนะ | เจโรม เลอ แบนเนอร์ (ฝรั่งเศส) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1999 รอบรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (หมัดขวาเกี่ยว) | 2 | 0:26 | 69-15 | ||
1999-12-05 | ชนะ | แอนดี ฮัก (สวิตเซอร์แลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1999 รอบก่อนรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 3 | 3:00 | 68-15 | ||
1999-10-03 | ชนะ | คซาวิต บัจรามี (สวิตเซอร์แลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1999 รอบเปิดตัว | โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 5 | 3:00 | 67-15 | ผ่านเข้ารอบสุดท้าย K-1 แกรนด์ปรีซ์ 1999 | |
1999-07-18 | ชนะ | อีกอร์ โวฟชานชิน (ยูเครน) | เค-วัน ดรีม 1999 | นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (ลูกเตะต่ำ/ล้ม 3 ครั้ง) | 3 | 0:51 | 66-15 | ||
1999-04-25 | แพ้ | ฟรานซิสโก ฟิลโอ (บราซิล) | เค-วัน รีเวนจ์ 1999 | โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (หมัดขวาเกี่ยว) | 1 | 1:37 | 65-15 | ||
1998-12-13 | แพ้ | แซม เกรโค (ออสเตรเลีย) | เค-วัน แกรนด์ปรีซ์ 1998 รอบชิงชนะเลิศ รอบก่อนรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (เซกชันโยนผ้า) | 2 | 3:00 | 65-14 | ||
1998-09-27 | ชนะ | ทาสิส เพทริดิส (ออสเตรเลีย) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1998 รอบเปิดตัว | โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (เซกชันโยนผ้า) | 4 | 3:00 | 65-13 | ผ่านเข้ารอบสุดท้าย K-1 แกรนด์ปรีซ์ 1998 | |
1998-08-07 | ชนะ | มอริซ สมิธ (สหรัฐอเมริกา) | เค-วัน ยูเอสเอ แกรนด์ปรีซ์ 1998 | ลาสเวกัส รัฐเนวาดา | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 5 | 3:00 | 64-13 | ||
1998-07-18 | ชนะ | มูซาชิ (ญี่ปุ่น) | เค-วัน ดรีม 1998 | นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (กรรมการสั่งยุติ) | 3 | 2:52 | 63-13 | ||
1998-05-24 | ชนะ | ฌอง ริวิแยร์ (ฝรั่งเศส) | เค-วัน เบรฟส์ 1998 | ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (ลูกเตะสูงขวา) | 1 | 1:17 | 62-13 | ||
1998-04-09 | แพ้ | ปีเตอร์ เอิร์ตส์ (เนเธอร์แลนด์) | เค-วัน คิงส์ 1998 | โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เสียงส่วนใหญ่) | 5 | 3:00 | 61-13 | ||
1997-11-19 | ชนะ | แอนดี ฮัก (สวิตเซอร์แลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1997 รอบชิงชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เสียงส่วนใหญ่) | 3 | 3:00 | 61-12 | คว้าแชมป์ K-1 World Grand Prix 1997 | |
1997-11-19 | ชนะ | ฟรานซิสโก ฟิลโอ (บราซิล) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1997 รอบรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เสียงส่วนใหญ่) | 3 | 3:00 | 60-12 | ||
1997-11-19 | ชนะ | เจโรม เลอ แบนเนอร์ (ฝรั่งเศส) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1997 รอบก่อนรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (หมัดขวาเกี่ยว) | 1 | 1:15 | 59-12 | ||
1997-09-07 | ชนะ | สเตฟาน เลโก (เยอรมนี) | เค-วัน แกรนด์ปรีซ์ 1997 รอบที่ 1 | โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (หมัดขวาตรง) | 2 | 0:34 | 58-12 | ผ่านเข้ารอบสุดท้าย K-1 แกรนด์ปรีซ์ 1997 | |
1997-06-07 | ชนะ | ชอว์น จอห์นสัน (อังกฤษ) | เค-วัน ไฟต์ไนท์ 1997 | ซูริค สวิตเซอร์แลนด์ | น็อกเอาต์ (ชกเข้าลำตัว) | 1 | 1:12 | 57-12 | ||
1997-04-29 | ชนะ | ไมค์ เบอร์นาร์โด (แอฟริกาใต้) | เค-วัน เบรฟส์ 1997 | ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (กรรมการสั่งยุติ/หมัดขวาเกี่ยว) | 4 | 1:03 | 56-12 | ||
1997-03-16 | ชนะ | ดูเอน แวน เดอร์ เมอร์เวอ (เนเธอร์แลนด์) | เค-วัน คิงส์ 1997 | โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (เตะ) | 3 | 1:49 | 55-12 | ||
1996-12-08 | ชนะ | เรย์ เซโฟ (นิวซีแลนด์) | เค-วัน เฮอร์คิวลีส 1996 | นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (ลูกเตะต่ำ) | 4 | 0:25 | 54-12 | ||
1996-10-18 | แพ้ | เจโรม เลอ แบนเนอร์ (ฝรั่งเศส) | เค-วัน สตาร์วอร์ส 1996 | โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (หมัดขวาเกี่ยว) | 2 | 2:57 | 53-12 | ||
1996-09-01 | ชนะ | คาร์ล เบอร์นาร์โด (แอฟริกาใต้) | เค-วัน รีเวนจ์ 1996 | โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ | 2 | 0:20 | 53-11 | ||
1996-05-06 | แพ้ | แอนดี ฮัก (สวิตเซอร์แลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1996 รอบรองชนะเลิศ | โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสินในยกพิเศษที่ 2 (แตกแยก) | 5 | 3:00 | 52-11 | ||
1996-05-06 | ชนะ | มีร์โก โคร คอป (โครเอเชีย) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1996 รอบก่อนรองชนะเลิศ | โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (ลูกเตะต่ำขวา) | 3 | 1:27 | 52-10 | ||
1996-03-10 | ชนะ | สจวร์ต กรีน (อังกฤษ) | เค-วัน แกรนด์ปรีซ์ 1996 รอบเปิดตัว | โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (เตะ) | 2 | 0:09 | 51-10 | ผ่านเข้ารอบ K-1 World Grand Prix 1996 | |
1995-12-09 | ชนะ | มอริซ แทรวิส (สหรัฐอเมริกา) | เค-วัน เฮอร์คิวลีส | นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (เซกชันโยนผ้า) | 1 | 2:13 | 50-10 | ||
1995-09-03 | ชนะ | ไมเคิล ทอมป์สัน (อังกฤษ) | เค-วัน รีเวนจ์ 2 | โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค | 2 | 2:45 | 49-10 | ||
1995-07-16 | ชนะ | แอนดี ฮัก (สวิตเซอร์แลนด์) | เค-3 แกรนด์ปรีซ์ 1995 | ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เสียงส่วนใหญ่) | 3 | 3:00 | 48-10 | ||
1995-05-04 | แพ้ | ปีเตอร์ เอิร์ตส์ (เนเธอร์แลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1995 รอบรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสินในยกพิเศษ (เป็นเอกฉันท์) | 4 | 3:00 | 47-10 | ||
1995-05-04 | ชนะ | จอห์น ไคลน์ (เนเธอร์แลนด์) | เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 1995 รอบก่อนรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (หมัดขวาตรง) | 2 | 0:45 | 47-9 | ||
1995-03-03 | ชนะ | ฮูเบิร์ต นูมริช (เยอรมนี) | เค-วัน แกรนด์ปรีซ์ 1995 รอบเปิดตัว | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (หมัดขวาตรง) | 4 | 2:25 | 46-9 | ผ่านเข้ารอบ K-1 World Grand Prix 1995 | |
1994-12-10 | แพ้ | บรานโก ชิคาติก (โครเอเชีย) | เค-วัน เลเจนด์ | นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (หมัดขวาเกี่ยว) | 2 | 1:18 | 45-9 | ||
1994-11-12 | ชนะ | ริก รูฟัส (สหรัฐอเมริกา) | Thriller in Marseille | มาร์แซย์ ประเทศฝรั่งเศส | น็อกเอาต์ (ลูกเตะสูงขวา) | 11 | 1:02 | 45-8 | คว้าแชมป์โลกฟูลคอนแทคไลต์เฮฟวี่เวท ISKA ของรูฟัส | |
1994-09-18 | ชนะ | มาร์ก รัสเซลล์ (อังกฤษ) | เค-วัน รีเวนจ์ | โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (ล้ม 3 ครั้ง) | 2 | 2:42 | 44-8 | ||
1994-06-25 | ชนะ | เดวิดอฟ (ฝรั่งเศส) | N/A | ประเทศฝรั่งเศส | N/A | N/A | N/A | 43-8 | ||
1994-05-08 | ชนะ | บ็อบ ชไรเบอร์ (เนเธอร์แลนด์) | เค-2 พลัส ทัวร์นาเมนต์ 1994 รอบชิงชนะเลิศ | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | น็อกเอาต์ | 1 | 3:00 | 42-8 | คว้าแชมป์ K-2 Plus Tournament 1994 | |
1994-05-08 | ชนะ | มาร์ก รัสเซลล์ (อังกฤษ) | เค-2 พลัส ทัวร์นาเมนต์ 1994 รอบรองชนะเลิศ | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (ล้ม 3 ครั้ง) | 2 | 2:05 | 41-8 | ||
1994-05-08 | ชนะ | โทนี่ ลูเซียโน (อิตาลี) | เค-2 พลัส ทัวร์นาเมนต์ 1994 รอบก่อนรองชนะเลิศ | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน | 3 | 3:00 | 40-8 | ||
1994-03-04 | ชนะ | มาซาอากิ ซาตาเกะ (ญี่ปุ่น) | เค-1 ชาลเลนจ์ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (ลูกเตะสูงซ้าย) | 2 | 2:45 | 39-8 | ||
1993-12-19 | ชนะ | แชมป์ป่าเกียรติทรงฤทธิ์ (ไทย) | เค-2 แกรนด์ปรีซ์ 1993 รอบชิงชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (ลูกเตะสูงขวา) | 4 | 0:40 | 38-8 | คว้าแชมป์ K-2 World Grand Prix 1993 | |
1993-12-19 | ชนะ | อดัม วัตต์ (ออสเตรเลีย) | เค-2 แกรนด์ปรีซ์ 1993 รอบรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (ล้ม 2 ครั้ง) | 1 | 2:13 | 37-8 | ||
1993-12-19 | ชนะ | แมนสัน กิบสัน (สหรัฐอเมริกา) | เค-2 แกรนด์ปรีซ์ 1993 รอบก่อนรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสินในยกพิเศษ (เสียงส่วนใหญ่) | 4 | 3:00 | 36-8 | ||
1993-09-04 | ชนะ | ทาสิส เพทริดิส (ออสเตรเลีย) | เค-1 อิลลูชัน | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ทางเทคนิค (ล้ม 3 ครั้ง) | 3 | 0:45 | 35-8 | คว้าแชมป์โลกไลต์เฮฟวี่เวท WMTA & WKA | |
1993-04-30 | แพ้ | บรานโก ชิคาติก (โครเอเชีย) | เค-1 แกรนด์ปรีซ์ 1993 รอบชิงชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (หมัดขวาเกี่ยว) | 1 | 2:49 | 34-8 | การแข่งขันเพื่อชิงแชมป์ K-1 แกรนด์ปรีซ์ 1993 | |
1993-04-30 | ชนะ | มอริซ สมิธ (สหรัฐอเมริกา) | เค-1 แกรนด์ปรีซ์ 1993 รอบรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | น็อกเอาต์ (ลูกเตะสูงซ้าย) | 3 | 1:18 | 34-7 | ||
1993-04-30 | ชนะ | ปีเตอร์ เอิร์ตส์ (เนเธอร์แลนด์) | เค-1 แกรนด์ปรีซ์ 1993 รอบก่อนรองชนะเลิศ | โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | ตัดสิน (เสียงส่วนใหญ่) | 3 | 3:00 | 33-7 | ||
1993-02-14 | ชนะ | ทรอย ฮิวจ์ส (สหรัฐอเมริกา) | N/A | N/A | N/A | N/A | N/A | 32-7 | ||
1992 | ชนะ | ซันมาร์ก (ไทย) | N/A | N/A | น็อกเอาต์ | N/A | N/A | 31-7 | ||
1992-11-13 | แพ้ | ริก รูฟัส (สหรัฐอเมริกา) | N/A | นิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 12 | 2:00 | 30-7 | การแข่งขันเพื่อชิงแชมป์โลกฟูลคอนแทคไลต์เฮฟวี่เวท ISKA ของรูฟัส | |
1992-10-25 | ชนะ | เทพพิทักษ์ แสงมรกต (ไทย) | Holland vs Thailand: The Revenge | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | น็อกเอาต์ (หมัดซ้าย) | 2 | 2:14 | 30-6 | รักษาแชมป์โลกมวยไทย WMTA (79.8 kg) | |
1992-04-26 | ชนะ | โจ แคมทัส (แคนาดา) | N/A | N/A | N/A | N/A | N/A | 29-6 | ||
1991-10-20 | ชนะ | ลีโอ เดอ สนู (เนเธอร์แลนด์) | Hot Night in Amsterdam | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน | 5 | 3:00 | 28-6 | ||
1991-04-21 | ชนะ | แย็น เวสเซลส์ (เนเธอร์แลนด์) | Kickboxing "Holland vs Canada" | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 5 | 3:00 | 27-6 | ||
1991-02-17 | ชนะ | ลุก เวเรฮเยอ (เนเธอร์แลนด์) | Holland vs Thailand VI | เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 5 | 3:00 | 26-6 | ||
1990-11-18 | แพ้ | ร็อบ คามาน (เนเธอร์แลนด์) | The Battle of the Year | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | น็อกเอาต์ (หมัดซ้ายเกี่ยว) | 5 | N/A | 25-6 | ||
1990-10-14 | ชนะ | เสโยก (ไทย) | Holland vs Thailand V | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | น็อกเอาต์ | 1 | N/A | 25-5 | คว้าแชมป์โลกมวยไทย WMTA (79.8 kg) | |
1990-01-28 | ชนะ | เออร์เนสต์ ซิมมอนส์ (สหรัฐอเมริกา) | N/A | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | น็อกเอาต์ | 3 | N/A | 24-5 | คว้าแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง WKA | |
1989-10-08 | ชนะ | บรานโก ชิคาติก (โครเอเชีย) | N/A | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | แพ้ฟาล์ว | 4 | N/A | 23-5 | คว้าแชมป์โลกมวยไทย WMTA | |
1989-08-27 | ชนะ | ฟรานซิส โดแว็ง (ฝรั่งเศส) | N/A | ปารีส ประเทศฝรั่งเศส | น็อกเอาต์ | 2 | N/A | 22-5 | คว้าแชมป์โลกซาวัต | |
1989-05-19 | ชนะ | ปาสกาล ดูกรอส (ฝรั่งเศส) | N/A | N/A | N/A | N/A | N/A | 21-5 | ||
1989-04-21 | แพ้ | ฌอง-อีฟส์ เธริโอต์ (แคนาดา) | N/A | เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ | ตัดสิน (แตกแยก) | 12 | 2:00 | 20-5 | ||
1989-02-19 | ชนะ | เคิร์กวู้ด วอล์คเกอร์ (อังกฤษ) | N/A | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน | 5 | 3:00 | 20-4 | ||
1988-11-20 | ชนะ | ปีเตอร์ เอิร์ตส์ (เนเธอร์แลนด์) | N/A | เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน | 5 | 3:00 | 19-4 | ||
1988-09-25 | ชนะ | เบอนัว บริลเลียนท์ (ฝรั่งเศส) | N/A | สตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส | น็อกเอาต์ | 6 | N/A | 18-4 | คว้าแชมป์คิกบ็อกซิ่งยุโรป WKA | |
1988-06-11 | ชนะ | ซิลแว็ง ปอสเตล (ฝรั่งเศส) | Champions in Action | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | น็อกเอาต์ | 5 | N/A | 17-4 | ||
1988-06-03 | ชนะ | เรอฌิส เลอแซงต์ (ฝรั่งเศส) | N/A | เลอ อาฟวร์ ประเทศฝรั่งเศส | น็อกเอาต์ | 3 | N/A | 16-4 | คว้าแชมป์ยุโรปฟูลคอนแทค ISKA | |
1988-05-07 | ชนะ | ฟร็องซัว กอร์เรม็องส์ (เบลเยียม) | Superfights II | อาร์นเฮม เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน | 5 | 3:00 | 15-4 | คว้าแชมป์ยุโรปมวยไทย ISKA | |
1988-02-27 | ชนะ | อองเดร มานาอาร์ต (เนเธอร์แลนด์) | Superfights I | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | น็อกเอาต์ | 3 | N/A | 14-4 | ||
1987-12-05 | ชนะ | ลาตริซิน (ฝรั่งเศส) | N/A | N/A | N/A | N/A | N/A | 13-4 | ||
1987-11-08 | ชนะ | เคนเนท แพลก (เนเธอร์แลนด์) | N/A | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน | 5 | 3:00 | 12-4 | คว้าแชมป์ดัตช์มวยไทย MTBN | |
1987-09-10 | แพ้ | รอนนี่ วาเกนเมคเกอร์ (เนเธอร์แลนด์) | N/A | N/A | น็อกเอาต์ | N/A | N/A | 11-4 | ||
1987-05-31 | ชนะ | ปาสกาล ดูกรอส (ฝรั่งเศส) | Kick-Thaiboxing Gala in Amsterdam | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน | 5 | 3:00 | 11-3 | ||
1987-02-01 | แพ้ | ร็อบ คามาน (เนเธอร์แลนด์) | WKA Kickboxing | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 5 | 3:00 | 10-3 | ||
1986-12-14 | แพ้ | ฌอง-อีฟส์ เธริโอต์ (แคนาดา) | N/A | มอนทรีออล แคนาดา | ตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) | 12 | 2:00 | 10-2 | ||
1986-06-12 | แพ้ | เออร์เนสต์ ซิมมอนส์ (สหรัฐอเมริกา) | N/A | ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา | N/A | N/A | N/A | 10-1 | ||
1986-03-02 | ชนะ | ลีโอ เดอ สนู (เนเธอร์แลนด์) | N/A | เนเธอร์แลนด์ | N/A | N/A | N/A | 10-0 | ||
1986-01-18 | ชนะ | รอย มาร์ตินา (เนเธอร์แลนด์) | N/A | N/A | น็อกเอาต์ | N/A | N/A | 9-0 | ||
1985-10-20 | ชนะ | อองเดร มานาอาร์ต (เนเธอร์แลนด์) | N/A | อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ | ตัดสิน | 5 | 3:00 | 8-0 | ||
1985-06-23 | ชนะ | ร็อบ ฟลอริส (เนเธอร์แลนด์) | N/A | N/A | น็อกเอาต์ | N/A | N/A | 7-0 | ||
1985-05-31 | ชนะ | เจอราดี้ (เนเธอร์แลนด์) | N/A | N/A | น็อกเอาต์ | N/A | N/A | 6-0 | ||
1985-03-10 | ชนะ | ลีโอ เดอ สนู (เนเธอร์แลนด์) | N/A | เนเธอร์แลนด์ | N/A | N/A | N/A | 5-0 | ||
1984-11-18 | ชนะ | ดรีเอล (บราซิล) | N/A | N/A | น็อกเอาต์ | N/A | N/A | 4-0 | ||
1984-10-20 | ชนะ | ริคาร์โด ดาร์ซัน (เนเธอร์แลนด์) | N/A | N/A | น็อกเอาต์ | N/A | N/A | 3-0 | ||
1984-03-25 | ชนะ | ริจน์ตเยส (เนเธอร์แลนด์) | N/A | เนเธอร์แลนด์ | น็อกเอาต์ | N/A | N/A | 2-0 | ||
1983-12-11 | ชนะ | วิม ชาร์เรนเบิร์ก (เนเธอร์แลนด์) | N/A | เนเธอร์แลนด์ | น็อกเอาต์ | 2 | N/A | 1-0 |