1. ภาพรวม
เอริก ฟัน เมย์เออร์ เกิดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1968 เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวเบลเยียมที่เล่นในตำแหน่งกองหลัง และปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีม เขาเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีจากผลงานอันยอดเยี่ยมในอาชีพนักฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสโมสรลีเออร์เซ เอสเค ซึ่งเขาได้สร้างชื่อเสียงและคว้าแชมป์ลีกเบลเยียมในปี ค.ศ. 1997 และเบลเจียนคัพในปี ค.ศ. 1999 ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเขายังเคยเล่นให้กับแบร์เคม สปอร์ต, สปอร์ติง ชาร์เลอรอย และสต็องดาร์ ลีแยฌ ฟัน เมย์เออร์ยังเป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติเบลเยียม โดยได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกถึง 3 ครั้ง (ค.ศ. 1994, ค.ศ. 1998, ค.ศ. 2002) และยูโร 2000 หลังจากเลิกเล่น ฟัน เมย์เออร์ได้ผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอนและผู้จัดการทีมให้กับสโมสรต่าง ๆ รวมถึงเคยเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมให้กับทีมชาติเบลเยียม รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
2. ช่วงชีวิตแรกและอาชีพนักฟุตบอล
เอริก ฟัน เมย์เออร์ เริ่มต้นเส้นทางในวงการฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย และพัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงในเบลเยียม
2.1. การเกิดและอาชีพช่วงเยาวชน
เอริก ฟัน เมย์เออร์ (Eric Van Meirเอริก ฟัน เมย์เออร์ภาษาดัตช์) เกิดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1968 ที่เดิร์น ประเทศเบลเยียม เขาเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลกับสโมสรเคเอสเค โฮโบเคนในระดับเยาวชนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1976 ถึง ค.ศ. 1982 จากนั้นย้ายไปเล่นให้กับสโมสรแบร์เคม สปอร์ตในช่วงปี ค.ศ. 1982 ถึง ค.ศ. 1984 ก่อนจะกลับมาที่สโมสรเคเอสเค โฮโบเคนอีกครั้งในช่วงปี ค.ศ. 1984 ถึง ค.ศ. 1985
2.2. อาชีพกับสโมสร
ฟัน เมย์เออร์เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลอาชีพในปี ค.ศ. 1985 กับสโมสรแบร์เคม สปอร์ต ซึ่งเขาลงเล่นไปทั้งหมด 124 นัด ยิงได้ 9 ประตู ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับสโมสรสปอร์ติง ชาร์เลอรอยในปี ค.ศ. 1991 เขาลงเล่นให้สโมสรสปอร์ติง ชาร์เลอรอย 117 นัด ทำได้ 14 ประตู และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้ารองแชมป์เบลเจียนคัพในปี ค.ศ. 1993
จุดสูงสุดในอาชีพของฟัน เมย์เออร์คือช่วงเวลาที่เขาย้ายไปอยู่กับสโมสรลีเออร์เซ เอสเคในปี ค.ศ. 1996 ซึ่งเขาได้มีบทบาทสำคัญในการพาสโมสรลีเออร์เซ เอสเคคว้าแชมป์เบลเจียนเฟิสต์ดิวิชันประจำฤดูกาล 1996-97 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของสโมสร นอกจากนี้เขายังพาทีมคว้าแชมป์เบลเจียนคัพในปี ค.ศ. 1999 และเบลเจียนซูเปอร์คัพในปี ค.ศ. 1997 และ ค.ศ. 1999 ในช่วงเวลาที่อยู่กับสโมสรลีเออร์เซ เอสเค ฟัน เมย์เออร์ทำประตูได้สูงเป็นพิเศษสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง โดยเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของสโมสรในฤดูกาล 1996-97, 1997-98 และ 1999-2000 โดยยิงไป 58 ประตูจากการลงสนาม 145 นัด นอกจากนี้เขายังได้ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาล 1997-98 ด้วย
ในปี ค.ศ. 2001 ฟัน เมย์เออร์ย้ายไปร่วมทีมสโมสรสต็องดาร์ลีแยฌ และลงเล่นไป 35 นัด ทำได้ 2 ประตู ก่อนจะประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพในปี ค.ศ. 2003 โดยมีสถิติการลงสนามรวม 419 นัดและทำได้ 82 ประตูในอาชีพนักฟุตบอล
2.3. อาชีพกับทีมชาติ
ฟัน เมย์เออร์เล่นให้กับทีมชาติเบลเยียมเกือบสิบปี โดยติดทีมชาติครั้งแรกในปี ค.ศ. 1993 และลงสนามไปทั้งหมด 34 นัด ทำได้ 1 ประตู เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติที่สำคัญหลายรายการ ได้แก่ ฟุตบอลโลก 1994, ฟุตบอลโลก 1998 และฟุตบอลโลก 2002 รวมถึงยูโร 2000 อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันเหล่านี้ เขาได้ลงสนามเพียงไม่กี่นัดเท่านั้น
สถิติการลงสนามกับทีมชาติเบลเยียมแบ่งตามปี:
ปี | การลงสนาม | ประตู |
---|---|---|
1993 | 1 | 0 |
1994 | 2 | 0 |
1995 | 1 | 0 |
1996 | 1 | 0 |
1997 | 5 | 1 |
1998 | 4 | 0 |
1999 | 3 | 0 |
2000 | 3 | 0 |
2001 | 8 | 0 |
2002 | 6 | 0 |
รวม | 34 | 1 |
3. อาชีพผู้จัดการทีม
หลังจากการเลิกเล่นในฐานะนักฟุตบอลในปี ค.ศ. 2003 เอริก ฟัน เมย์เออร์ ได้ผันตัวเข้าสู่เส้นทางอาชีพผู้จัดการทีมและผู้ช่วยผู้จัดการทีม
3.1. การบริหารทีมสโมสร
ฟัน เมย์เออร์เริ่มต้นอาชีพผู้ฝึกสอนในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมให้กับสโมสรลีเออร์เซ เอสเค สโมสรเก่าของเขาในปี ค.ศ. 2003 และดำรงตำแหน่งจนถึงปี ค.ศ. 2010 ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2010 หลังจากที่ไอเม อองตวน ผู้จัดการทีมถูกปลด ฟัน เมย์เออร์ได้เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชั่วคราวของสโมสรลีเออร์เซ เอสเค โดยมีคริส แจนส์เซนส์ เป็นผู้ช่วย แต่ก็ถูกแทนที่โดยทรอนด์ โซลเลียด์ในช่วงต้นปี ค.ศ. 2011
จากนั้นในปี ค.ศ. 2011 เขาก็ได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมของสโมสรเคเฟ ทืนเฮาท์ ก่อนที่จะกลับมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมให้กับสโมสรลีเออร์เซ เอสเคอีกครั้งในปี ค.ศ. 2013 และรับตำแหน่งผู้จัดการทีมอีกครั้งในปีเดียวกัน ต่อมาในปี ค.ศ. 2014 ฟัน เมย์เออร์ได้ย้ายไปเป็นผู้จัดการทีมของสโมสรแบร์เคม สปอร์ต จากนั้นเขาก็กลับมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของสโมสรลีเออร์เซ เอสเคอีกครั้งในช่วงปี ค.ศ. 2014 ถึง ค.ศ. 2015 ก่อนที่จะรับตำแหน่งผู้จัดการทีมของสโมสรลีเออร์เซ เอสเคเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างปี ค.ศ. 2015 ถึง ค.ศ. 2017
3.2. การบริหารทีมชาติเยาวชน
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2020 ฟัน เมย์เออร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของทีมชาติเบลเยียม รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ภายใต้การคุมทีมของเวสลีย์ ซองค์

4. เกียรติประวัติและความสำเร็จส่วนบุคคล
เอริก ฟัน เมย์เออร์ได้รับเกียรติประวัติทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ รวมถึงความสำเร็จส่วนบุคคลที่โดดเด่นในฐานะนักฟุตบอล
4.1. เกียรติประวัติกับสโมสร
- ลีเออร์เซ
- เบลเจียนเฟิสต์ดิวิชัน: 1996-97
- เบลเจียนคัพ: 1998-99
- เบลเจียนซูเปอร์คัพ: 1997, 1999
- สปอร์ติง ชาร์เลอรอย
- เบลเจียนคัพ: รองชนะเลิศ 1993
4.2. เกียรติประวัติกับทีมชาติ
- เบลเยียม
- รางวัล FIFA Fair Play Trophy: ฟุตบอลโลก 2002
4.3. ความสำเร็จส่วนบุคคล
ในปี ค.ศ. 1997 ฟัน เมย์เออร์ได้รับรางวัลรองชนะเลิศเบลเจียนโกลเดนชู ซึ่งเป็นรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเบลเจียนเฟิสต์ดิวิชัน โดยเป็นรองเพียงปาร์ เซ็ตเตอร์แบร์กเท่านั้น นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของสโมสรลีเออร์เซ เอสเคถึงสามฤดูกาล ได้แก่ 1996-97, 1997-98 และ 1999-2000 ซึ่งเป็นผลงานที่โดดเด่นอย่างมากสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง
5. มรดกและการยอมรับ
เอริก ฟัน เมย์เออร์ได้ทิ้งมรดกและได้รับการยอมรับอย่างสูงในวงการฟุตบอลเบลเยียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสโมสรลีเออร์เซ เอสเค
5.1. การได้รับการยอมรับในทีมแห่งศตวรรษ
ในปี ค.ศ. 2006 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งสโมสรลีเออร์เซ เอสเค เอริก ฟัน เมย์เออร์ได้รับเกียรติให้ถูกคัดเลือกโดยแฟนบอลให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นของ "ทีมแห่งศตวรรษของลีเออร์เซ" การได้รับการยอมรับนี้เป็นการยืนยันถึงสถานะอันสำคัญทางประวัติศาสตร์และผลงานที่โดดเด่นของเขาที่มีต่อสโมสรตลอดระยะเวลาที่เขาค้าแข้งอยู่