1. Early life and youth career
เปาล์ โยฮันเนิส เคราร์ดึส เฟอร์ฮาค เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1983 ที่ครูเนินแบร์คในจังหวัดลิมบืร์ค ประเทศเนเธอร์แลนด์ เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเข้าร่วมทีมเยาวชนของเอสเฟ ครูเนินแบร์ค และเฟเฟเฟอ เฟนโล ก่อนที่จะพัฒนาฝีเท้าและย้ายเข้าสู่ศูนย์ฝึกเยาวชนของเปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน ด้วยความมุ่งมั่นและพรสวรรค์ เฟอร์ฮาคมีความสูง 178 cm และน้ำหนัก 74 kg และถนัดเท้าขวา
q=Kronenberg, Limburg, Netherlands|position=right
2. Club career
เปาล์ เฟอร์ฮาค มีเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลสโมสรที่ยาวนานและสม่ำเสมอ โดยเริ่มต้นในเนเธอร์แลนด์ ก่อนจะไปสร้างชื่อเสียงในเยอรมนีและกลับมาปิดท้ายอาชีพในประเทศบ้านเกิด
2.1. PSV Eindhoven and early loans
เฟอร์ฮาคเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับเปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน ซึ่งเป็นสโมสรใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ แม้ว่าจะไม่ได้ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของเปเอสเฟ เขาถูกปล่อยยืมตัวไปหาประสบการณ์กับอาเคโอเฟเฟ อาเปิลโดร์นในฤดูกาล 2003-04 ที่นั่น เขาได้โอกาสลงสนามในลีกถึง 33 นัด และทำประตูได้ 1 ประตู หลังจากหมดสัญญายืมตัว เขาย้ายออกจากเปเอสเฟเพื่อหาโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง
2.2. FC Den Bosch and Vitesse
ในปี ค.ศ. 2004 เฟอร์ฮาคย้ายมาร่วมทีมเอฟซี เดน บอส ซึ่งในฤดูกาล 2004-05 เขาลงสนามในลีกไป 32 นัด โดยรวมแล้วเขาลงเล่นให้กับเอฟซี เดน บอส 56 นัด ทำได้ 4 ประตู ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมฟีเตสเซอหลังจบฤดูกาล 2004-05 เขาใช้เวลาสี่ปีกับฟีเตสเซอ โดยเป็นกำลังสำคัญของทีมตลอดช่วงเวลาดังกล่าว เฟอร์ฮาคลงสนามในลีกให้กับฟีเตสเซอไป 138 นัด ทำได้ 6 ประตู นอกจากนี้ เขายังมีส่วนร่วมในการแข่งขันเพลย์ออฟของเอเรอดีวีซีเพื่อชิงโควตายูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ
2.3. FC Augsburg
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 เฟอร์ฮาคย้ายออกจากฟีเตสเซอและเซ็นสัญญาเป็นเวลาสองปีกับเอฟซี เอาคส์บวร์คในเยอรมนี การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของเขา เนื่องจากเขาใช้เวลาเจ็ดปีอันประสบความสำเร็จอย่างสูงกับสโมสรแห่งนี้ และได้รับความไว้วางใจให้เป็นกัปตันทีม ในฤดูกาล 2010-11 เขาช่วยให้อเอาคส์บวร์คจบอันดับรองชนะเลิศในซไวเทอบุนเดิสลีกา ซึ่งส่งผลให้ทีมเลื่อนชั้นสู่บุนเดิสลีกาได้สำเร็จ เขายังคงเป็นผู้นำและผู้เล่นคนสำคัญของทีมในบุนเดิสลีกาอย่างต่อเนื่อง และยังคว้าแชมป์ถ้วยรางวัลมาสปาโลมัสในปี ค.ศ. 2014 อีกด้วย ในฤดูกาล 2015-16 เฟอร์ฮาคได้ลงเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีก 8 นัดและทำได้ 1 ประตูให้กับเอาคส์บวร์ค ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับสโมสร เขาลงสนามในลีกไป 186 นัด ยิงได้ 20 ประตู และลงสนามรวมทุกรายการ 207 นัด ทำได้ 22 ประตู
2.4. VfL Wolfsburg
หลังจากเจ็ดปีที่โดดเด่นกับเอาคส์บวร์ค เฟอร์ฮาคย้ายไปร่วมทีมเฟาเอ็ฟเอ็ล ว็อลฟส์บวร์คในปี ค.ศ. 2017 ด้วยสัญญา 2 ปี ในฤดูกาลแรกของเขากับว็อลฟส์บวร์ค (2017-18) เขายังคงเป็นผู้เล่นตัวหลัก โดยลงสนามในลีก 31 นัด และทำได้ 2 ประตู อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2019 สโมสรประกาศว่าเฟอร์ฮาคถูกปล่อยตัวออกจากทีมโดยมีผลทันที ทำให้เขาจบช่วงเวลาสั้น ๆ กับว็อลฟส์บวร์คด้วยการลงสนามในลีก 33 นัด และในฟุตบอลถ้วย 3 นัด รวมทั้งสิ้น 36 นัด ทำได้ 2 ประตู
2.5. FC Twente and retirement
ในวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 2019 เปาล์ เฟอร์ฮาคกลับสู่เนเธอร์แลนด์อีกครั้ง โดยเซ็นสัญญาหนึ่งปีกับเอฟซี ตเว็นเตอ หลังจากผ่านการตรวจร่างกาย เขามีโอกาสลงสนามในลีก 7 นัด และในฟุตบอลถ้วย 1 นัด อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 2020 เฟอร์ฮาคได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการ เป็นการปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลที่ยืนยาวและมั่นคง
3. International career
เปาล์ เฟอร์ฮาค ได้รับใช้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ทั้งในระดับเยาวชนและชุดใหญ่ โดยมีส่วนร่วมในความสำเร็จสำคัญระดับนานาชาติ
3.1. Youth national team
เฟอร์ฮาคเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เขาเป็นกำลังหลักในการช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีในปี ค.ศ. 2006 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่สำคัญในระดับเยาวชน
3.2. Senior national team
เขาได้ประเดิมสนามให้กับทีมชาติชุดใหญ่ในนัดกระชับมิตรที่เสมอกับโปรตุเกส 1-1 เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2013 ความสำเร็จครั้งสำคัญที่สุดในระดับทีมชาติคือการเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ในการแข่งขันนั้น เขามีโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่พบกับเม็กซิโก ซึ่งเนเธอร์แลนด์สามารถทำประตูชัยได้ในช่วงท้ายเกมและผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ ท้ายที่สุด ทีมชาติเนเธอร์แลนด์จบการแข่งขันในอันดับที่สามของฟุตบอลโลกครั้งนั้น เฟอร์ฮาคลงสนามให้กับทีมชาติชุดใหญ่รวม 3 นัด ระหว่างปี ค.ศ. 2013 ถึง 2014 โดยไม่สามารถทำประตูได้
4. Career statistics
ส่วนนี้แสดงข้อมูลสถิติการลงสนามและการทำประตูตลอดอาชีพนักฟุตบอลอาชีพของเปาล์ เฟอร์ฮาค ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ
4.1. Club
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วย | อื่น ๆ | รวม | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ||
อาเคโอเฟเฟ อาเปิลโดร์น (ยืมตัว) | 2003-04 | เอียร์สเตอดีวีซี | 33 | 1 | 0 | 0 | - | 33 | 1 | |
เอฟซี เดน บอส | 2004-05 | เอเรอดีวีซี | 32 | 0 | 0 | 0 | - | 32 | 0 | |
2005-06 | เอียร์สเตอดีวีซี | 24 | 4 | 0 | 0 | - | 24 | 4 | ||
รวม | 56 | 4 | 0 | 0 | 0 | 0 | 56 | 4 | ||
ฟีเตสเซอ | 2005-06 | เอเรอดีวีซี | 12 | 0 | 0 | 0 | 6 | 0 | 18 | 0 |
2006-07 | 32 | 2 | 0 | 0 | 5 | 0 | 37 | 2 | ||
2007-08 | 33 | 0 | 1 | 0 | - | 34 | 0 | |||
2008-09 | 31 | 2 | 1 | 0 | - | 32 | 2 | |||
2009-10 | 30 | 2 | 2 | 0 | - | 32 | 2 | |||
รวม | 138 | 6 | 4 | 0 | 11 | 0 | 153 | 6 | ||
เอาคส์บวร์ค | 2010-11 | ซไวเทอบุนเดิสลีกา | 30 | 1 | 3 | 0 | - | 33 | 1 | |
2011-12 | บุนเดิสลีกา | 26 | 1 | 3 | 1 | - | 29 | 2 | ||
2012-13 | 17 | 0 | 1 | 0 | - | 18 | 0 | |||
2013-14 | 30 | 3 | 3 | 0 | - | 33 | 3 | |||
2014-15 | 27 | 6 | 1 | 0 | - | 28 | 6 | |||
2015-16 | 25 | 6 | 2 | 0 | 8 | 1 | 35 | 7 | ||
2016-17 | 31 | 3 | 0 | 0 | - | 31 | 3 | |||
รวม | 186 | 20 | 13 | 1 | 8 | 1 | 207 | 22 | ||
ว็อลฟส์บวร์ค | 2017-18 | บุนเดิสลีกา | 31 | 2 | 2 | 0 | - | 33 | 2 | |
2018-19 | 2 | 0 | 1 | 0 | - | 3 | 0 | |||
รวม | 33 | 2 | 3 | 0 | 0 | 0 | 36 | 2 | ||
ตเว็นเตอ | 2019-20 | เอเรอดีวีซี | 7 | 0 | 1 | 0 | - | 8 | 0 | |
รวมตลอดอาชีพ | 453 | 33 | 21 | 1 | 19 | 1 | 493 | 35 |
4.2. International
ทีมชาติ | ปี | ลงสนาม | ประตู |
---|---|---|---|
เนเธอร์แลนด์ | 2013 | 1 | 0 |
2014 | 2 | 0 | |
รวม | 3 | 0 |
5. Honours
เปาล์ เฟอร์ฮาค ได้รับเกียรติประวัติและความสำเร็จทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติตลอดอาชีพนักฟุตบอลของเขา ซึ่งสะท้อนถึงผลงานและความมุ่งมั่นของเขาในสนาม
- สโมสรฟุตบอลเอาคส์บวร์ค**
- ถ้วยรางวัลมาสปาโลมัส: ค.ศ. 2014
- ซไวเทอบุนเดิสลีกา รองชนะเลิศ: ค.ศ. 2010-11
- ฟุตบอลทีมชาติเนเธอร์แลนด์ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี**
- ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี: ค.ศ. 2006
- ฟุตบอลทีมชาติเนเธอร์แลนด์**
- ฟุตบอลโลก อันดับที่สาม: ค.ศ. 2014