1. ภาพรวม
ฮิโร ยามาโมโตะ (เกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 1961) เป็นนักดนตรีชาวญี่ปุ่น-อเมริกัน ผู้เป็นที่รู้จักในฐานะมือเบสและสมาชิกผู้ก่อตั้งของวงดนตรีแนว กรันจ์ ชื่อ ซาวด์การ์เดน (Soundgarden) ร่วมกับ คิม เธย์อิล และ คริส คอร์เนลล์ ในปี ค.ศ. 1984 หลังจากออกจากวงซาวด์การ์เดนในปี ค.ศ. 1989 เขาได้ก่อตั้งวงอินดี้ร็อกชื่อ ทรูลี่ (Truly) ในปี ค.ศ. 1991 และในปี ค.ศ. 2016 ได้ร่วมก่อตั้งวงแนว เซิร์ฟมิวสิก ชื่อ สเตอริโอ ดองกี้ (Stereo Donkey) ซึ่งเป็นวงดนตรีสามชิ้น นอกจากอาชีพนักดนตรีแล้ว ยามาโมโตะยังคงทำงานในสายวิชาการ โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกเคมีอินทรีย์ที่ Edge Analytical ในเมืองเบอร์ลิงตัน รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา บทความนี้จะกล่าวถึงชีวิตช่วงต้น อาชีพทางดนตรี และผลงานที่สำคัญของเขา
2. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
ฮิโร ยามาโมโตะมีภูมิหลังส่วนตัวที่น่าสนใจ โดยมีทั้งการศึกษาที่ประสบความสำเร็จและอาชีพนอกเหนือจากดนตรี ก่อนที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการเพลงร็อก
2.1. การเกิดและวัยเด็ก
ฮิโร ยามาโมโตะ เกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 1961 ที่เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเป็นชาวญี่ปุ่น-อเมริกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ที่สำคัญในชีวิตของเขา
2.2. การศึกษาและอาชีพทางวิชาการ
หลังจากการออกจากวงซาวด์การ์เดนในปี ค.ศ. 1989 ฮิโร ยามาโมโตะได้กลับไปศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านเคมีฟิสิกส์ที่ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นวอชิงตัน (Western Washington University) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและความสามารถทางวิชาการของเขาอย่างลึกซึ้ง ปัจจุบัน เขาดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกเคมีอินทรีย์ที่ Edge Analytical ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ในเมืองเบอร์ลิงตัน รัฐวอชิงตัน
3. อาชีพทางดนตรี
ฮิโร ยามาโมโตะได้สร้างผลงานและมีส่วนร่วมอย่างโดดเด่นในวงการดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะมือเบสและผู้แต่งเพลงให้กับวงดนตรีหลายวง
3.1. ซาวด์การ์เดน (1984-1989)
ฮิโร ยามาโมโตะมีบทบาทสำคัญในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้งและมือเบสคนแรกของวง ซาวด์การ์เดน ซึ่งเป็นหนึ่งในวงดนตรีแนวกรันจ์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคนั้น
3.1.1. การก่อตั้งและผลงานช่วงแรก
ซาวด์การ์เดนก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1984 โดยมีฮิโร ยามาโมโตะเป็นมือเบส ร่วมกับคริส คอร์เนลล์ และคิม เธย์อิล ในช่วงแรกของการก่อตั้ง วงได้บันทึกเพลงร่วมกับมือกลอง สกอตต์ ซันด์ควิสต์ (Scott Sundquist) ในอัลบั้มรวมเพลง Deep Six และต่อมาก็ได้ร่วมงานกับมือกลอง แมตต์ คาเมรอน (Matt Cameron) ในอีพีชุดต่างๆ เช่น สกรีมมิงไลฟ์ (Screaming Life), Fopp และ ลาวเดสต์ เลิฟ (Loudest Love) รวมถึงอัลบั้มเต็มอย่าง อัลตราเมกา โอเค (Ultramega OK) และ ลาวเดอร์ แดน เลิฟ (Louder Than Love)
3.1.2. ผลงานการแต่งเพลง
ยามาโมโตะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการแต่งเพลงให้กับวงซาวด์การ์เดน โดยมีผลงานดังต่อไปนี้:
- "Heretic" (เวอร์ชันแรกใน Deep Six, เวอร์ชันที่สองใน Loudest Love) ... เนื้อเพลง
- "Tears to Forget" (เวอร์ชันแรกใน Deep Six, เวอร์ชันที่สองใน Screaming Life) ... ร่วมแต่งทำนอง
- "All Your Lies" (เวอร์ชันแรกใน Deep Six, เวอร์ชันที่สองใน Ultramega OK) ... ร่วมแต่งทำนอง
- "Kingdom of Come" (Fopp) ... เครดิตในนามซาวด์การ์เดน
- "665" (Ultramega OK) ... ทำนอง
- "667" (Ultramega OK) ... ทำนอง
- "Circle of Power" (Ultramega OK) ... เนื้อเพลง, ร้องนำ
- "Nazi Driver" (Ultramega OK) ... ทำนอง
- "Toy Box" (Flower) ... เนื้อเพลง, ร่วมแต่งทำนอง
- "Power Trip" (Louder Than Love) ... ทำนอง
- "I Awake" (Louder Than Love) ... ทำนอง
- "No Wrong No Right" (Louder Than Love) ... ทำนอง
3.1.3. การลาออก
ฮิโร ยามาโมโตะออกจากวงซาวด์การ์เดนหลังจบทัวร์ยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 1989 โดยเหตุผลหลักคือความต้องการที่จะกลับไปศึกษาต่อเพื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านเคมีฟิสิกส์ การแสดงครั้งสุดท้ายของเขาคือที่ Melkweg ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ หลังจากการแสดงครั้งนั้น สมาชิกที่เหลือของวงได้มีการโต้เถียงกัน ในช่วงเวลาสั้นๆ เจสัน เอเวอร์แมน (Jason Everman) อดีตสมาชิกวง เนอร์วานา ได้เข้ามารับหน้าที่มือเบสแทน ก่อนที่ เบน เชพเพิร์ด (Ben Shepherd) จะเข้ามาเป็นมือเบสถาวรของวงในเวลาต่อมา
3.2. ทรูลี่ (1991-ปัจจุบัน)
ในปี ค.ศ. 1991 ยามาโมโตะได้ก่อตั้งวงอินดี้ร็อกสามชิ้นชื่อ ทรูลี่ ร่วมกับ มาร์ค พิกเกอเรล (Mark Pickerel) มือกลองจากวง สครีมมิง ทรีส์ (Screaming Trees) และ โรเบิร์ต รอท (Robert Roth) นักร้องนำจาก The Storybook Krooks วงทรูลี่ได้ออกสตูดิโออัลบั้มสองชุด และอัลบั้มรวมเพลงจากผลงานที่ยังไม่ได้เผยแพร่ ก่อนที่จะแยกวงในปี ค.ศ. 2000 อย่างไรก็ตาม วงได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในปี ค.ศ. 2008
3.3. สเตอริโอ ดองกี้ (2016-ปัจจุบัน)

หลังจากเซสชันแจมที่ประสบความสำเร็จในปี ค.ศ. 2016 ฮิโร ยามาโมโตะได้ก่อตั้งวงดนตรีสามชิ้นที่ได้รับอิทธิพลจากเพลงแนวเซิร์ฟ ชื่อ สเตอริโอ ดองกี้ ร่วมกับ ไมค์ บาจุก (Mike Bajuk) มือกลอง และ แพท วิคลิน (Pat Wickline) มือกีตาร์
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2018 วงได้ออกอีพีหกเพลงที่ใช้ชื่อเดียวกับวง ซึ่งบันทึกเสียงในโบสถ์เก่าที่วิคลินอาศัยอยู่ วิคลินกล่าวว่า "ห้องนี้เป็นสมาชิกคนที่สี่ของวง" การบันทึกเสียงดังกล่าวได้รับการกล่าวขานว่าเป็นได้ทั้งเพลงแนวเซิร์ฟและเพลงแนวเอ็กโซติกา แต่ก็ยังคงหยั่งรากฐานอยู่ใน "ประวัติศาสตร์เพลงร็อกของแปซิฟิกนอร์ทเวสต์"
3.4. กิจกรรมทางดนตรีอื่นๆ
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 ฮิโร ยามาโมโตะได้ร่วมแสดงกับนักดนตรีที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ในงานที่จัดขึ้นที่เมืองซีแอตเทิล เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติเอเชียนฮอลล์ออฟเฟม ประจำปี ค.ศ. 2021 และเป็นการฉลองครบรอบ 35 ปีของมูลนิธิโรเบิร์ต ชิน (Robert Chinn Foundation) นักดนตรีคนอื่นๆ ที่ร่วมแสดงในงานนั้น ได้แก่ เจฟฟ์ คาชิวะ (Jeff Kashiwa), คริสต์ โนโวเซลิก (Krist Novoselic), เอ็ด รอท (Ed Roth) และ แดนนี เซราฟีน (Danny Seraphine)
4. ผลงานเพลง
ฮิโร ยามาโมโตะมีส่วนร่วมในผลงานเพลงของวงดนตรีต่างๆ ที่เขาเป็นสมาชิก ทั้งอัลบั้ม อีพี และซิงเกิล
4.1. กับ ซาวด์การ์เดน
- สกรีมมิงไลฟ์ (Screaming Life) (อีพี)
- Fopp (อีพี)
- อัลตราเมกา โอเค (Ultramega OK)
- Flower (ซิงเกิล)
- ลาวเดอร์ แดน เลิฟ (Louder Than Love)
- ลาวเดสต์ เลิฟ (Loudest Love) (อีพี)
4.2. กับ ทรูลี่
- ฮาร์ต แอนด์ ลังส์ (Heart and Lungs) (อีพี) - ค.ศ. 1991
- ฟาสต์ สตอรีส์... ฟรอม คิด โคม่า (Fast Stories... from Kid Coma) - ค.ศ. 1995
- ฟีลลิ่ง ยู อัพ (Feeling You Up) - ค.ศ. 1997
- Subject to Change: Artists for a Hate-Free America - อัลบั้มรวมเพลง ค.ศ. 1997
- ทไวไลต์ เคอร์เทนส์ (Twilight Curtains) - ค.ศ. 2000
4.3. กับ สเตอริโอ ดองกี้
- Stereo Donkey (อีพี) - ค.ศ. 2018
5. มรดกและการตอบรับ
ฮิโร ยามาโมโตะในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้งและมือเบสคนแรกของวงซาวด์การ์เดน ได้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางรากฐานและกำหนดทิศทางเสียงของดนตรีแนวกรันจ์ในช่วงเริ่มต้น การมีส่วนร่วมของเขาในการแต่งเพลงให้กับซาวด์การ์เดน รวมถึงผลงานกับวงทรูลี่และสเตอริโอ ดองกี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ทางดนตรีและความสามารถที่หลากหลายของเขา แม้ว่าเขาจะออกจากซาวด์การ์เดนในช่วงต้น แต่ผลงานของเขาก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของประวัติศาสตร์เพลงร็อกในแปซิฟิกนอร์ทเวสต์ และเป็นที่จดจำในฐานะบุคคลสำคัญที่ร่วมก่อร่างสร้างแนวเพลงกรันจ์ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก