1. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
อ็องตอนี เรแวแยร์ เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1979 ที่เมืองดูเอ-ลา-ฟงแตน จังหวัดเมน-เอ-ลัวร์ ประเทศฝรั่งเศส เขามีส่วนสูง 180 cm และน้ำหนัก 76 kg โดยถนัดเท้าขวา
1.1. อาชีพเยาวชน
เรแวแยร์เริ่มต้นเส้นทางอาชีพฟุตบอลในระดับเยาวชนกับสโมสร เอสโอ ชอแลต์ (วีเยร์) (SO Cholet (Vihiers)) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 ถึง ค.ศ. 1992 หลังจากนั้นเขาย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของอ็องเฌ สกอ (Angers SCO) ในช่วงปี ค.ศ. 1992 ถึง ค.ศ. 1996 และจบการฝึกฝนในระดับเยาวชนกับสตาด แรแนส์ เอฟซี (Stade Rennais FC) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 ถึง ค.ศ. 1998
นอกจากนี้ เขายังมีประสบการณ์ในการเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสในรุ่นอายุต่างๆ ได้แก่:
- ทีมชาติฝรั่งเศสชุด U-17 (ค.ศ. 1995-1996): ลงสนาม 20 นัด ทำได้ 1 ประตู
- ทีมชาติฝรั่งเศสชุด U-18 (ค.ศ. 1996-1997): ลงสนาม 6 นัด ทำได้ 0 ประตู
- ทีมชาติฝรั่งเศสชุด U-21 (ค.ศ. 1999-2002): ลงสนาม 24 นัด ทำได้ 1 ประตู
- ทีมชาติฝรั่งเศสชุด B (ค.ศ. 2007): ลงสนาม 1 นัด ทำได้ 0 ประตู
2. อาชีพสโมสร
อ็องตอนี เรแวแยร์ ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะนักฟุตบอลอาชีพผ่านการเล่นให้กับหลายสโมสรในลีกชั้นนำของยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศฝรั่งเศส อิตาลี และอังกฤษ
2.1. สตาด แรแนส์ เอฟซี
เรแวแยร์จบการฝึกฝนในระดับเยาวชนกับสตาด แรแนส์ เอฟซี และได้ประเดิมสนามในลีกเอิงกับทีมชุดใหญ่เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1998 ในเกมเยือนที่เสมอกับเอสซี บัสตียา 0-0 เขาใช้เวลาหกปีกับสโมสรแห่งนี้ โดยลงเล่นในลีกสูงสุดมาโดยตลอด และเริ่มเป็นแบ็คขวาตัวหลักของทีมตั้งแต่ฤดูกาล 1998-99 ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับแรนส์ เขาลงสนามไป 140 นัด และทำได้ 2 ประตู ก่อนที่จะถูกยืมตัวไปยังบาเลนเซีย ซีเอฟในเดือนมกราคม ค.ศ. 2003
2.2. บาเลนเซีย ซีเอฟ (ยืมตัว)
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2003 เรแวแยร์ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับบาเลนเซีย ซีเอฟ ในลาลิกาของประเทศสเปน เป็นระยะเวลาครึ่งฤดูกาล โดยมีเงื่อนไขการซื้อขาดในราคา 5.00 M EUR เขาสามารถปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็วและลงเล่นเป็นตัวหลักให้กับบาเลนเซียถึง 18 นัด อย่างไรก็ตาม ด้วยปัญหาทางการเงินของสโมสร บาเลนเซียจึงไม่ได้ใช้เงื่อนไขการซื้อขาด ทำให้เรแวแยร์ต้องกลับไปยังสตาด แรแนส์ เอฟซี
2.3. โอลิมปิก ลียง

ในฤดูร้อนปี ค.ศ. 2003 เรแวแยร์ย้ายมาร่วมทีมออแล็งปิก ลียงเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2003 ด้วยสัญญา 5 ปี ด้วยค่าตัวประมาณ 4.80 M EUR ถึง 5.50 M EUR การย้ายทีมครั้งนี้ทำให้เขาได้กลับมาร่วมงานกับปอล เลอ แกน อดีตผู้จัดการทีมที่เคยร่วมงานกันมาก่อน ในฤดูกาลแรกของเขากับลียง (2003-04) เขายิงได้ 1 ประตูจาก 31 นัด และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกเอิงได้สำเร็จ ซึ่งเป็นครั้งแรกจากห้าสมัยติดต่อกันที่เขาจะคว้าแชมป์กับสโมสร
เรแวแยร์เป็นผู้เล่นตัวหลักของลียงมาโดยตลอด ยกเว้นในฤดูกาล 2008-09 ที่เขาได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าซ้ายฉีกขาดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 ในเกมกับปารีแซ็ง-แฌร์แม็งจากการปะทะกับสเตฟาน เซเซยง ในตอนแรกคาดว่าเขาจะต้องพักยาวตลอดฤดูกาลและมีกำหนดเข้ารับการผ่าตัดในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 2009 แต่สามวันก่อนการผ่าตัด ผลเอ็มอาร์ไอแสดงให้เห็นว่าอาการบาดเจ็บเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย ทำให้เขาตัดสินใจยกเลิกการผ่าตัดหลังจากปรึกษาแพทย์ แม้ว่าทีมแพทย์ของสโมสรและผู้จัดการทีมโกลด ปูแอลจะยังคงสงสัยในเรื่องนี้ แต่เรแวแยร์ได้ลงนามในสัญญาว่าจะคืนเงินเดือนสามเดือนหากอาการบาดเจ็บกลับมาอีกครั้ง เขาฟื้นตัวและกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 2009 ในเกมกับอาแอ็ส มอนาโก โดยลงเล่นเต็ม 90 นาที และเกมที่สองของเขาเกิดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนต่อมากับน็องต์ การตัดสินใจไม่ผ่าตัดครั้งนี้ส่งผลให้เขามีปัญหาในการตรวจร่างกายเมื่อครั้งที่มีการแลกเปลี่ยนตัวกับมิลาน บิเชวัคในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2012 แม้ว่าบิเชวัคจะย้ายไปลียงในที่สุด
ตลอดระยะเวลา 10 ปีกับลียง เรแวแยร์ลงสนามไป 286 นัด ทำได้ 3 ประตู และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 12 รายการ รวมถึงแชมป์ลีกเอิง 5 สมัยติดต่อกัน เขายังเป็นผู้เล่นที่ลงสนามในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกให้กับลียงมากถึง 77 นัด (ยิงได้ 2 ประตู) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นอันดับสองรองจากเกรกรัวร์ กูเป เขามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ลียงเอาชนะเรอัลมาดริดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2009-10 และยังลงเล่นเต็ม 90 นาทีในทั้งสองนัดที่พบกับบอร์โดในรอบรองชนะเลิศของรายการเดียวกัน ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดของลียงในแชมเปียนส์ลีก
หลังจบฤดูกาล 2012-13 สัญญาของเรแวแยร์กับลียงได้สิ้นสุดลง ทำให้เขาต้องออกจากสโมสร แม้ว่าทางสโมสรจะระบุว่าได้เสนอสัญญาฉบับใหม่ 2 ปีจนถึงปี ค.ศ. 2015 แต่เรแวแยร์ปฏิเสธ
2.4. นาโปลี
หลังจากออกจากลียง เรแวแยร์ตกลงที่จะเซ็นสัญญา 1 ปีกับออแล็งปิก มาร์แซย์เมื่อวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2013 และผ่านการตรวจร่างกายสำหรับอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าเก่าโดยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวได้ล้มเหลวลงหลังจากมีการเจรจาเพิ่มเติม
ในที่สุด เรแวแยร์ได้เข้าร่วมทีมนาโปลีของประเทศอิตาลีในฐานะผู้เล่นฟรีเอเยนต์เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 โดยเซ็นสัญญาครึ่งปีบวกหนึ่งปี การย้ายทีมครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากนาโปลีประสบปัญหาผู้เล่นในตำแหน่งแบ็คได้รับบาดเจ็บหลายคน เช่น จันโดเมนิโก เมสโต และควน ซูนิกา และยังเป็นการกลับมาร่วมงานกับราฟาเอล เบนิเตซ อดีตผู้จัดการทีมของเขาที่บาเลนเซียอีกครั้ง
เขาประเดิมสนามในเซเรียอาเมื่อวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2014 โดยลงเล่นเต็ม 90 นาทีในเกมที่เสมอกับโบโลญญา 2-2 ในช่วงแรก เขาได้ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายเป็นประจำ แต่หลังจากเฟาซี กูลามย้ายมาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูหนาว เขาก็กลายเป็นตัวสำรอง และไม่มีโอกาสลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาเนื่องจากการมีอยู่ของเฮนริเก เรแวแยร์ออกจากนาโปลีในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 โดยตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับสโมสร เขาลงสนามไป 13 นัดในทุกรายการ และไม่สามารถทำประตูได้
2.5. ซันเดอร์แลนด์ เอเอฟซี
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2014 เรแวแยร์ได้เซ็นสัญญากับซันเดอร์แลนด์ สโมสรในพรีเมียร์ลีกของประเทศอังกฤษ ด้วยสัญญาหนึ่งปีจนสิ้นสุดฤดูกาล เขาลงสนามให้กับซันเดอร์แลนด์ไป 16 นัด แต่ไม่สามารถทำประตูได้
ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 เรแวแยร์ได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่าไม่มีข้อเสนอจากสโมสรอื่น และต้องการใช้เวลาอยู่กับลูกๆ มากขึ้น
3. อาชีพทีมชาติ
อ็องตอนี เรแวแยร์ มีเส้นทางอาชีพในระดับทีมชาติที่ยาวนาน โดยเริ่มต้นจากการเป็นตัวแทนของฝรั่งเศสในระดับเยาวชน ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่และเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติที่สำคัญ
3.1. ทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชน
เรแวแยร์ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของทีมชาติฝรั่งเศสในรุ่นอายุต่างๆ ตั้งแต่ชุด U-15 และมีสถิติการลงสนามที่น่าประทับใจดังนี้:
- ทีมชาติฝรั่งเศสชุด U-17 (ค.ศ. 1995-1996): ลงสนาม 20 นัด ทำได้ 1 ประตู
- ทีมชาติฝรั่งเศสชุด U-18 (ค.ศ. 1996-1997): ลงสนาม 6 นัด ทำได้ 0 ประตู
- ทีมชาติฝรั่งเศสชุด U-21 (ค.ศ. 1999-2002): ลงสนาม 24 นัด ทำได้ 1 ประตู
- ทีมชาติฝรั่งเศสชุด B (ค.ศ. 2007): ลงสนาม 1 นัด ทำได้ 0 ประตู
3.2. ทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่
เรแวแยร์ได้รับโอกาสติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2003 สำหรับการแข่งขันรอบคัดเลือกยูโร 2004 กับอิสราเอล และได้ประเดิมสนามเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 2003 ในเกมที่ฝรั่งเศสชนะอิสราเอล 3-0
หลังจากเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2005 ที่เขาลงเล่นกับเยอรมนี เขาก็ห่างหายจากทีมชาติไปพักหนึ่ง เนื่องจากอาการบาดเจ็บและการแข่งขันที่สูงในตำแหน่งแบ็คขวาจากผู้เล่นอย่างวีลี ซาญอล, บาการี ซาญา, รอด ฟานนี และเพื่อนร่วมทีมสโมสรฟร็องซัว เคลร์
อย่างไรก็ตาม เขากลับมาติดทีมชาติอีกครั้งและได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดลุยฟุตบอลโลก 2010 โดยเรย์มง ดอเมแน็ก อดีตผู้จัดการทีมชุด U-21 ของเขา ซึ่งเป็นการเบียดตำแหน่งกับฟานนีได้สำเร็จ หลังจากฟุตบอลโลก เขากลับมาลงสนามให้ทีมชาติอีกครั้งเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 2010 ในเกมกับจีน ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 ตลอดอาชีพทีมชาติชุดใหญ่ เขาลงสนามไปทั้งหมด 20 นัด และทำได้ 1 ประตู
3.2.1. การเข้าร่วมการแข่งขันสำคัญ
- ฟุตบอลโลก 2010
เรแวแยร์เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติฝรั่งเศสชุดลุยฟุตบอลโลก 2010ที่ประเทศแอฟริกาใต้ แต่เขาไม่ได้ลงสนามเลยแม้แต่นัดเดียว โดยบาการี ซาญาเป็นผู้เล่นตัวจริงในตำแหน่งแบ็คขวาตลอดทั้งสามนัดของฝรั่งเศสในรอบแบ่งกลุ่ม
- ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012
ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 เรแวแยร์เป็นตัวสำรองของมาตีเยอ เดอบูชี อย่างไรก็ตาม เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็คขวาในรอบก่อนรองชนะเลิศกับสเปน หลังจากที่เดอบูชีถูกขยับไปเล่นในตำแหน่งกองกลาง ในเกมนั้น เรแวแยร์และเดอบูชีต้องรับมือกับอันเดรส อินิเอสตา และฌอร์ดี อัลบา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่การเสียประตู และฝรั่งเศสพ่ายแพ้ไป 0-2
3.2.2. การทำประตูในนามทีมชาติ
เรแวแยร์ทำประตูเดียวให้กับทีมชาติฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2011 ในเกมที่ฝรั่งเศสเอาชนะแอลเบเนีย 3-0 ในการแข่งขันรอบคัดเลือกยูโร 2012
| ลำดับที่ | วันที่ | สถานที่ | คู่แข่ง | ประตู | ผลการแข่งขัน | รายการแข่งขัน |
|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | 7 ตุลาคม ค.ศ. 2011 | สตาดเดอฟร็องส์, แซ็ง-เดอนี, ฝรั่งเศส | แอลเบเนีย | 3-0 | 3-0 | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 รอบคัดเลือก |
4. กิจกรรมหลังเลิกเล่น
หลังจากการประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2015 อ็องตอนี เรแวแยร์ ยังคงมีส่วนร่วมในวงการฟุตบอลในบทบาทต่างๆ:
- ในปลายเดือนตุลาคม ค.ศ. 2019 เรแวแยร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของเอ็มดีเอ ชาสเซอเลย์ (MDA Chasselay)
- ในฤดูร้อนปี ค.ศ. 2020 สโมสรเอ็มดีเอ ชาสเซอเลย์ได้เปลี่ยนชื่อเป็นโกล เอฟซี (GOAL FC)
- ในปลายเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2022 เรแวแยร์ประกาศว่าจะออกจากสโมสรโกล เอฟซี โดยในปีสุดท้ายก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้ทำงานในฐานะที่ปรึกษาของโฌซแล็ง ฟงตาแนล ประธานสโมสร
- ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2023 เรแวแยร์ได้รับการว่าจ้างให้เป็นที่ปรึกษาให้กับโอแอลเพลย์ (OLPLAY) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโออย่างเป็นทางการของสโมสรออแล็งปิก ลียง
5. รางวัลที่ได้รับ
ตลอดอาชีพนักฟุตบอล อ็องตอนี เรแวแยร์ ได้รับรางวัลทั้งในระดับสโมสรและรางวัลส่วนบุคคลมากมาย
5.1. รางวัลระดับสโมสร
- โอลิมปิก ลียง
- ลีกเอิง:
- ชนะเลิศ: 2003-04, 2004-05, 2005-06, 2006-07, 2007-08 (5 สมัย)
- รองชนะเลิศ: 2009-10 (1 สมัย)
- กุปเดอฟร็องส์:
- ชนะเลิศ: 2007-08, 2011-12 (2 สมัย)
- ทรอเฟเดช็องปียง:
- ชนะเลิศ: 2003, 2004, 2005, 2006, 2007, 2012 (6 สมัย)
- รองชนะเลิศ: 2008 (1 สมัย)
- กุปเดอลาลีก:
- รองชนะเลิศ: 2011-12 (1 สมัย)
- พีซคัพ:
- ชนะเลิศ: 2007 (1 สมัย)
- ลีกเอิง:
- นาโปลี
- โกปปาอีตาเลีย:
- ชนะเลิศ: 2013-14 (1 สมัย)
- โกปปาอีตาเลีย:
5.2. รางวัลส่วนบุคคล
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเอิง: 2010-11