1. ภาพรวม
อะเล็กซานดาร์ "ตีร์เก" ตีร์นานิช (Александар "Тирке" Тирнанићภาษาเซอร์เบีย, เกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1910 - เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1992) เป็นอดีตนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมชาวเซอร์เบีย ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะปีกขวาและกองหน้า (หรือบางครั้งก็เล่นในตำแหน่งกองกลาง) เขาได้สร้างผลงานอันโดดเด่นทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้จัดการทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทีมชาติยูโกสลาเวีย
ในฐานะผู้เล่น ตีร์นานิชใช้เวลาส่วนใหญ่ในอาชีพค้าแข้งกับสโมสร บีเอสเค เบลเกรด ซึ่งเขาลงสนามไปมากกว่า 500 นัด และคว้าแชมป์ลีกสูงสุดยูโกสลาเวียถึง 4 สมัย นอกจากนี้เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติยูโกสลาเวียที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 1930 และเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดในขณะนั้น และยังมีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์บัลแกนคัพปี 1934-35
หลังจากแขวนสตั๊ด ตีร์นานิชยังคงมีบทบาทสำคัญในวงการฟุตบอลด้วยการรับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชาติยูโกสลาเวีย โดยเขาพาทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกสองครั้ง (ค.ศ. 1954 และ ค.ศ. 1958) และประสบความสำเร็จในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน คว้าเหรียญทองในปี ค.ศ. 1960 รวมถึงเหรียญเงินในปี ค.ศ. 1948, ค.ศ. 1952 และ ค.ศ. 1956 นอกจากนี้เขายังพาทีมคว้ารองแชมป์ยูโรเปียนเนชันส์คัพปี ค.ศ. 1960 อีกด้วย
2. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
อะเล็กซานดาร์ ตีร์นานิช มีชีวิตช่วงต้นที่หล่อหลอมเขาให้กลายเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง โดยมีภูมิหลังทางครอบครัวและการพัฒนาความสนใจในกีฬาฟุตบอลตั้งแต่ยังเยาว์วัย
2.1. วัยเด็กและประสบการณ์ฟุตบอลช่วงแรก
ตีร์นานิชเกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1910 ในเมืองเล็ก ๆ ชื่อ ครเนเยโว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาล เวลิกา ปลานา ใจกลางประเทศเซอร์เบีย ครอบครัวของเขาเป็นชนชั้นแรงงานและได้ย้ายไปยังเบลเกรด เมืองหลวงของประเทศ ตั้งแต่เขายังเป็นทารก เขาแทบจำบิดาไม่ได้เลย เนื่องจากบิดาของเขาซึ่งเป็นคนงานโรงงานโลหะ ได้เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1914 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเซอร์เบีย
หลังจากนั้น ตีร์นานิชเติบโตขึ้นมาโดยมีมารดาเลี้ยงดูเพียงลำพัง เขาได้พัฒนาความรักในกีฬาฟุตบอลอย่างรวดเร็วและเล่นฟุตบอลอย่างไม่รู้จบที่สนามแข่งขัน บารา เวเนซิยา ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำซาวา ความสามารถของเขาเป็นที่สังเกตเห็นโดยโค้ช ราเดนโก มิตรอวิช ซึ่งได้นำตัวนักเตะดาวรุ่งผู้มีพรสวรรค์ผู้นี้เข้าสู่ทีมเยาวชนของสโมสร เอสเค ยูโกสลาเวีย ในปี ค.ศ. 1924 อย่างไรก็ตาม ตีร์นานิชก็ย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของสโมสรคู่แข่งสำคัญในเมืองอย่าง บีเอสเค เบลเกรด (หรือ โอเอฟเค เบลเกรด) ในช่วงปี ค.ศ. 1924-1927 ซึ่งเขาได้พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นปีกขวาที่โดดเด่น ด้วยความตระหนักถึงศักยภาพอันมหาศาลในด้านฟุตบอล เขาจึงทุ่มเทให้กับการเล่นฟุตบอลอย่างเต็มที่และตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน
3. อาชีพนักฟุตบอล
อะเล็กซานดาร์ ตีร์นานิช มีอาชีพนักฟุตบอลที่ยาวนานและประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในระดับสโมสรและระดับประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันโดดเด่นในฐานะผู้เล่น
3.1. อาชีพสโมสร
ตีร์นานิชประเดิมสนามในฐานะผู้เล่นทีมชุดใหญ่เมื่ออายุ 17 ปี และแสดงให้เห็นถึงความสามารถและอารมณ์ร่วมในการเล่นที่โดดเด่นได้อย่างรวดเร็ว เขาสร้างสรรค์ความร่วมมือในตำแหน่งกองกลางร่วมกับโมชา มาริยานอวิช ตีร์นานิชใช้เวลาส่วนใหญ่ในอาชีพสโมสรของเขากับ บีเอสเค เบลเกรด โดยลงสนามให้ทีมถึง 500 นัด และทำประตูได้ 527 ประตู ในช่วงเวลา 10 ปี (ค.ศ. 1927-1937) ซึ่งเป็นช่วงที่เขาประสบความสำเร็จอย่างสูง เขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดยูโกสลาเวียได้ถึง 4 สมัย และรองแชมป์ 2 สมัย รวมถึงคว้าแชมป์ยูโกสลาเวียคัพในปี ค.ศ. 1934 อีกด้วย ในช่วงอาชีพของเขากับบีเอสเค ตีร์นานิชต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่าง เลโอ เลเมซิช (ค.ศ. 1924-1940) และ ลูโบ เบนซิช (ค.ศ. 1921-1935) ซึ่งเล่นให้กับสโมสร ฮายดุค สปลิต
ในปี ค.ศ. 1937 เขาย้ายไปร่วมทีม เอสเค ยูโกสลาเวีย ซึ่งเป็นทีมเยาวชนเก่าของเขา และอยู่กับทีมจนถึงปี ค.ศ. 1938 ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับ เอฟเค บาสก์ (หรือ เอฟเค บาสก์ เต็ก) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1938 ถึง ค.ศ. 1939 หลังจากนั้น เขาได้เล่นให้กับสโมสรในเบลเกรดอีกสองแห่งคือ เยดินสท์โว เบลเกรด (ค.ศ. 1939-1941) และ สโลกา (ค.ศ. 1942-1943) ก่อนจะยุติอาชีพนักฟุตบอลอาชีพที่ยาวนาน 16 ปี
3.2. อาชีพระหว่างประเทศ

ตีร์นานิชได้รับโอกาสให้ติดทีมชาติยูโกสลาเวียเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1929 และลงเล่นให้ทีมชาติราชอาณาจักรยูโกสลาเวียรวมทั้งหมด 50 นัด และทำประตูได้ 12 ประตู ระหว่างปี ค.ศ. 1929 ถึง ค.ศ. 1940
ในปี ค.ศ. 1930 ซึ่งเป็นปีที่เขาถูกเรียกติดทีมชาติ เขายิงประตูแรกในนามทีมชาติในเกมกระชับมิตรกับบัลแกเรีย ซึ่งช่วยให้ทีมชนะ 6-1 หลังจากนั้น ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1930 ซึ่งจัดขึ้นที่อุรุกวัย เขาได้ลงสนามและทำประตูได้ในนัดแรกของกลุ่ม 2 กับบราซิล ซึ่งช่วยให้ทีมชนะ 2-1 ประตูที่เขายิงได้ในวันก่อนที่เขาจะมีอายุครบ 20 ปี ทำให้เขาเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดในฟุตบอลโลกในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม สถิตินี้ถูกทำลายในเวลาต่อมาโดยนักฟุตบอลคนอื่น ๆ เช่น มานูเอล โรซัส (ค.ศ. 1930), เปเล่ (ค.ศ. 1958), ไมเคิล โอเวน (ค.ศ. 1998), ดมิทรี ซิเชฟ (ค.ศ. 2002) และล่าสุดคือ ลิโอเนล เมสซิ (ค.ศ. 2006) ทำให้เขากลายเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดอันดับหกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
ในช่วงบัลแกนคัพ ซึ่งจัดขึ้นในปี ค.ศ. 1935 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ตีร์นานิชและโทมาเชวิช เป็นผู้ทำประตูสูงสุดของรายการ โดยยิงได้คนละ 3 ประตู ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมนี้ ทำให้ยูโกสลาเวียคว้าแชมป์บัลแกนคัพในครั้งนั้น โดยเอาชนะกรีซ, โรมาเนีย และบัลแกเรียไปได้
ต่อไปนี้คือตารางประตูที่ตีร์นานิชทำได้ในระดับนานาชาติสำหรับยูโกสลาเวีย:
# | วันที่ | สนาม | คู่แข่งขัน | ประตู | ผลการแข่งขัน | รายการ |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | 13 เมษายน ค.ศ. 1930 | สนามบีเอสเค เบลเกรด, เบลเกรด, ยูโกสลาเวีย | บัลแกเรีย | 3-1 | 6-1 | กระชับมิตร |
2. | 15 มิถุนายน ค.ศ. 1930 | เลฟสกี ฟิลด์, โซเฟีย, บัลแกเรีย | บัลแกเรีย | 1-2 | 2-2 | กระชับมิตร |
3. | 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1930 | เอสตาดิโอ กราน ปาร์เก เซนทรัล, มอนเตวิเดโอ, อุรุกวัย | บราซิล | 1-0 | 2-1 | ฟุตบอลโลก 1930 |
4. | 4 ตุลาคม ค.ศ. 1931 | ยูนัค สเตเดียม, โซเฟีย, บัลแกเรีย | บัลแกเรีย | 1-0 | 2-3 | บอลถ้วยบอลข่าน 1931 |
5. | 26 มิถุนายน ค.ศ. 1932 | สนามบีเอสเค เบลเกรด, เบลเกรด, ยูโกสลาเวีย | กรีซ | 1-1 | 7-1 | บอลถ้วยบอลข่าน 1932 |
6. | 10 กันยายน ค.ศ. 1933 | โปลิช อาร์มี สเตเดียม, วอร์ซอ, โปแลนด์ | โปแลนด์ | 3-4 | 3-4 | กระชับมิตร |
7. | 3 มิถุนายน ค.ศ. 1934 | สนามบีเอสเค เบลเกรด, เบลเกรด, ยูโกสลาเวีย | บราซิล | 7-4 | 8-4 | กระชับมิตร |
8. | 25 ธันวาคม ค.ศ. 1934 | เลโอฟอรอส อะเล็กซานดราส สเตเดียม, เอเธนส์, กรีซ | บัลแกเรีย | 3-1 | 4-3 | บอลถ้วยบอลข่าน 1934-35 |
9. | 4-1 | |||||
10. | 1 มกราคม ค.ศ. 1935 | เลโอฟอรอส อะเล็กซานดราส สเตเดียม, เอเธนส์, กรีซ | โรมาเนีย | 1-0 | 4-0 | |
11. | 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1936 | ทักซิม สเตเดียม, อิสตันบูล, ตุรกี | ตุรกี | 3-2 | 3-3 | กระชับมิตร |
12. | 6 กันยายน ค.ศ. 1936 | สนามบีเอสเค เบลเกรด, เบลเกรด, ยูโกสลาเวีย | โปแลนด์ | 9-3 | 9-3 | กระชับมิตร |
4. อาชีพผู้จัดการทีม
หลังจากสิ้นสุดอาชีพนักฟุตบอล อะเล็กซานดาร์ ตีร์นานิชยังคงมีบทบาทสำคัญในวงการลูกหนัง โดยก้าวเข้าสู่เส้นทางของการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการคุมทีมชาติ
4.1. การคุมทีมชาติ
ตีร์นานิชได้รับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชาติยูโกสลาเวียสองช่วงเวลา โดยในช่วงแรกเป็นผู้จัดการทีมร่วมระหว่างปี ค.ศ. 1946 ถึง ค.ศ. 1948 และในช่วงที่สองระหว่างปี ค.ศ. 1952 ถึง ค.ศ. 1961 ในช่วงที่เขาคุมทีมนั้น ยูโกสลาเวียประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจในเวทีระดับนานาชาติ:
- โอลิมปิกฤดูร้อน 1948: คว้าเหรียญเงิน
- โอลิมปิกฤดูร้อน 1952: คว้าเหรียญเงิน
- ฟุตบอลโลก 1954: ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ
- โอลิมปิกฤดูร้อน 1956: คว้าเหรียญเงิน
- ฟุตบอลโลก 1958: ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ
- โอลิมปิกฤดูร้อน 1960: คว้าเหรียญทอง ซึ่งเป็นความสำเร็จสูงสุดในฐานะผู้จัดการทีมชาติ
- ยูโรเปียนเนชันส์คัพ 1960: คว้ารองแชมป์
5. การเสียชีวิต
อะเล็กซานดาร์ ตีร์นานิช เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1992 ที่กรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย ขณะมีอายุ 82 ปี
6. มรดกและการยอมรับ
ตีร์นานิชเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของยูโกสลาเวียและเซอร์เบีย โดยได้รับการยอมรับผ่านผลงานอันโดดเด่นทั้งในฐานะนักฟุตบอลและผู้จัดการทีม
6.1. การนำเสนอในสื่อ
เรื่องราวชีวิตและอาชีพของตีร์นานิชได้รับการนำเสนอในภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยในภาพยนตร์เรื่อง Montevideo, God Bless You! (ค.ศ. 2010) และ See You in Montevideo (ค.ศ. 2014) ตีร์นานิชรับบทโดยนักแสดงชาวเซอร์เบีย มิลอส บิโควิช