1. ภาพรวม
อันเดรย์ อมาดอร์ บิคคาซาโกวา (เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1986) เป็นอดีตนักปั่นจักรยานทางเรียบชาวคอสตาริกา ซึ่งแข่งขันในระดับอาชีพตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 ถึง ค.ศ. 2024 อมาดอร์เป็นผู้บุกเบิกในวงการจักรยานของคอสตาริกาในหลายด้าน โดยเป็นชาวคอสตาริกาคนแรกที่ได้เข้าร่วมตูร์เดอฟรองซ์ และเป็นนักปั่นจากประเทศนี้คนแรกที่ได้สวมเสื้อผู้นำในรายการแกรนด์ทัวร์ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจและยกระดับมาตรฐานของกีฬาจักรยานในประเทศของเขา
2. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
อันเดรย์ อมาดอร์ บิคคาซาโกวา เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1986 ที่ซานโฮเซ คอสตาริกา เขาเป็นบุตรชายของโรดอลโฟ อมาดอร์ ชาวคอสตาริกา และไรซา บิคคาซาโกวา มารดาชาวรัสเซียผู้ซึ่งย้ายมายังคอสตาริกาหลังจากได้พบและแต่งงานกับบิดาของอมาดอร์ อันเดรย์เป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องสามคน เขาเริ่มสนใจและฝึกฝนการปั่นจักรยานตั้งแต่อายุยังน้อยมาก แม้จะเริ่มต้นอาชีพนักปั่นอย่างเป็นทางการเมื่ออายุ 20 ปีในปี ค.ศ. 2006 แต่ความหลงใหลในกีฬาชนิดนี้ได้ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงวัยเด็กของเขา
3. อาชีพนักปั่นจักรยานอาชีพ
ในเส้นทางอาชีพนักปั่นจักรยานของอันเดรย์ อมาดอร์ เขาสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะนักปั่นผู้บุกเบิกที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการจักรยานของคอสตาริกา การเปลี่ยนแปลงทีมและการเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่าง ๆ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอาชีพของเขา
3.1. จุดเริ่มต้นอาชีพและช่วงปีแรก
อันเดรย์ อมาดอร์ เริ่มต้นอาชีพนักปั่นจักรยานอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2009 โดยเซ็นสัญญากับทีมเกส เดปาญเญ (Caisse d'Epargne) ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโมบิสตาร์ทีม (Movistar Team) ในช่วงปีแรก ๆ ของอาชีพ เขาได้แสดงศักยภาพที่โดดเด่นอย่างรวดเร็ว โดยในปี ค.ศ. 2007 อมาดอร์คว้าแชมป์โดยรวมในการแข่งขันเซมานา อราโกเนซา (Semana Aragonesa) และในปี ค.ศ. 2008 เขาชนะเลิศการแข่งขันบูเอลตา อัล บิดาโซอา (Vuelta al Bidasoa) รวมถึงคว้าแชมป์สเตจในรายการตูร์ เดอ ลาเวนียร์ (Tour de l'Avenir) ด้วยความสามารถที่โดดเด่นนี้ เขาได้รับเกียรติให้เป็นผู้ถือธงของคอสตาริกาในพิธีเปิดแพนอเมริกันเกมส์ 2011 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในฐานะตัวแทนของประเทศ
3.2. ความสำเร็จในแกรนด์ทัวร์
อันเดรย์ อมาดอร์ ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการจักรยานของคอสตาริกาด้วยความสำเร็จอันน่าจดจำในรายการแกรนด์ทัวร์ ซึ่งเป็นการแข่งขันจักรยานทางไกลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกสามรายการ: จีโรดีตาเลีย, ตูร์เดอฟรองซ์ และบูเอลตาอาเอสปันญา
ในปี ค.ศ. 2012 อมาดอร์คว้าชัยชนะในสเตจที่ 14 ของการแข่งขันจีโรดีตาเลีย 2012 ซึ่งเป็นสเตจที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขา เขาหลบหนีออกจากกลุ่มใหญ่ในช่วงทางลงเขาก่อนจะถึงช่วงปีนสุดท้าย แม้จะถูกจับได้ก่อนถึงเส้นชัยเล็กน้อย เขาก็ยังคงสามารถชนะการสปรินต์ในที่สุด ความสำเร็จนี้ทำให้เขากลายเป็นนักปั่นชาวคอสตาริกาคนแรกที่คว้าแชมป์สเตจในรายการแกรนด์ทัวร์
จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือการที่เขาเป็นชาวคอสตาริกาคนแรกที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันตูร์เดอฟรองซ์ ซึ่งเป็นรายการที่นักปั่นทุกคนใฝ่ฝันที่จะเข้าร่วม ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2011 และตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะผู้บุกเบิกสำหรับนักปั่นจากคอสตาริกา
ในปี ค.ศ. 2016 อมาดอร์ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญอีกครั้งในการแข่งขันจีโรดีตาเลีย 2016 โดยเขาสามารถครองเสื้อสีชมพู ซึ่งเป็นเสื้อของผู้นำเวลารวมหลังสเตจที่ 13 ทำให้เขากลายเป็นนักปั่นชาวคอสตาริกาคนแรกที่ได้เป็นผู้นำการแข่งขันแกรนด์ทัวร์ ความสำเร็จเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติส่วนตัวของอมาดอร์ แต่ยังเป็นการเปิดประตูและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักปั่นรุ่นใหม่ในคอสตาริกาอีกด้วย
3.3. ชัยชนะและผลงานสำคัญ
นอกเหนือจากความสำเร็จในแกรนด์ทัวร์ อันเดรย์ อมาดอร์ ยังคงแสดงผลงานที่น่าประทับใจและคว้าชัยชนะที่สำคัญในการแข่งขันอื่น ๆ ทั่วโลก
ในปี ค.ศ. 2013 เขาทำผลงานได้ดีในการแข่งขันติร์เรโน-อาเดรียติโก (Tirreno-Adriatico) โดยจบอันดับ 8 ในการจัดอันดับรวม และจบอันดับ 10 ในรายการเฮนต์-เวเฟิลเคม (Gent-Wevelgem) ซึ่งเป็นรายการคลาสสิกที่สำคัญ
ในปี ค.ศ. 2018 อมาดอร์คว้าชัยชนะในรายการคลาซิกา พรีมาเวรา (Klasika Primavera) ซึ่งเป็นการแข่งขันวันเดย์เรซที่มีชื่อเสียงในสเปน และยังคงทำผลงานได้ดีในรายการอื่น ๆ ด้วยการจบอันดับ 9 ในการจัดอันดับรวมของบูเอลตา อา อันดาลูซีอา (Vuelta a Andalucía)
นอกจากนี้ เขายังมีส่วนร่วมในความสำเร็จของทีม โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 2014 ที่ทีมของเขาคว้าแชมป์สเตจที่ 1 (ประเภทไทม์ไทรอัลทีม) ในรายการบูเอลตา อา เอสปันญา 2014 ซึ่งเป็นผลงานที่สะท้อนถึงบทบาทของเขาในฐานะนักปั่นที่มีคุณค่าต่อทีม
3.4. การเปลี่ยนทีมและความก้าวหน้าในอาชีพ
ตลอดเส้นทางอาชีพของอันเดรย์ อมาดอร์ ได้มีการเปลี่ยนแปลงทีมสังกัดหลายครั้ง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาและกำหนดทิศทางอาชีพของเขา
ในปี ค.ศ. 2009 อมาดอร์เริ่มต้นอาชีพกับทีมเกส เดปาญเญ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโมบิสตาร์ทีม เขาร่วมงานกับทีมนี้เป็นระยะเวลานานและประสบความสำเร็จมากมาย
ในช่วงปลายฤดูกาล 2019 อมาดอร์ต้องการยกเลิกข้อตกลงที่เขามีกับทีมโมบิสตาร์สำหรับฤดูกาล 2020 และ 2021 เพื่อย้ายไปร่วมทีมทีมอินีออส (Team Ineos) การเจรจาสัญญานี้ใช้เวลานานและยังไม่ได้รับการแก้ไขจนกระทั่งวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 ทีมโมบิสตาร์จึงได้ปล่อยตัวเขาเป็นอิสระ ในวันถัดมา อมาดอร์ได้ลงนามในสัญญา 3 ปีกับทีมอินีออส โดยมีกำหนดการแข่งขันครั้งแรกกับทีมใหม่ที่ยูเออี ทัวร์ ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์
ต่อมาในปี ค.ศ. 2023 เขาได้ย้ายไปร่วมทีมอัสตานา กาซัคสถาน ทีม (Astana Qazaqstan Team) ซึ่งใช้รหัสทีม EFE ในช่วงนั้น การเปลี่ยนแปลงทีมเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความต้องการของอมาดอร์ในการแสวงหาโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาทักษะและบทบาทของเขาในวงการจักรยานอาชีพ
3.5. เหตุการณ์สำคัญ
เส้นทางอาชีพของอันเดรย์ อมาดอร์ ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป มีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและอาชีพของเขาอย่างมาก หนึ่งในเหตุการณ์ที่โดดเด่นคือการถูกทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2010 ในขณะที่เขากำลังฝึกซ้อมอยู่ที่ซานโฮเซ เขาถูกกลุ่มโจรเข้าทำร้ายและได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ปอดและไต อมาดอร์ได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่าเป็น "ช่วงเวลาที่น่าหวาดกลัวที่สุดในชีวิต" การฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บครั้งนี้เป็นความท้าทายที่สำคัญ แต่เขาก็สามารถกลับมาแข่งขันและสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจ
4. ผลการแข่งขันสำคัญในอาชีพ
นี่คือรายการผลการแข่งขันที่สำคัญตลอดเส้นทางอาชีพของอันเดรย์ อมาดอร์:
;2005
: อันดับ 5 ในการจัดอันดับรวม บูเอลตา ซิคลิสตา อะ คอสตาริกา
;2006
: อันดับ 2 ประเภทไทม์ไทรอัล ในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
;2007
: อันดับ 1 สเตจที่ 5 บูเอลตา อะ นาวาร์รา
;2008
: อันดับ 1 บูเอลตา อัล บิดาโซอา
: อันดับ 5 ในการจัดอันดับรวม ตูร์ เดอ ลาเวนียร์
:: อันดับ 1 โปรล็อก
: อันดับ 8 ในการจัดอันดับรวม บูเอลตา อะ นาวาร์รา
;2010
: อันดับ 10 บูเอลตา อะ ลา ริโอฮา
;2011
: อันดับ 4 บูเอลตา อะ ลา ริโอฮา
: อันดับ 4 กราน เปรมิโอ เด ยอดิโอ
;2012
: อันดับ 1 สเตจที่ 14 จีโรดีตาเลีย
: อันดับ 4 ปรวยบา บิยยาฟรังกา เด ออร์ดิเซีย
: อันดับ 9 ในการจัดอันดับรวม ตูร์ เด ซาน หลุยส์
: อันดับ 10 ในการจัดอันดับรวม ตูร์ เมดิเตอร์เรเนียน
;2013
: อันดับ 8 ในการจัดอันดับรวม ติร์เรโน-อาเดรียติโก
: อันดับ 10 เฮนต์-เวเฟิลเคม
;2014
: อันดับ 1 สเตจที่ 1 (TTT) บูเอลตา อา เอสปันญา
: อันดับ 6 ในการจัดอันดับรวม ตูร์ เด โปโลญญ์
: อันดับ 10 ในการจัดอันดับรวม ตูร์ ดู โฮต์ วาร์
;2015
:
อันดับ 3 ไทม์ไทรอัลทีม, จักรยานชิงแชมป์โลก
: อันดับ 4 ในการจัดอันดับรวม จีโรดีตาเลีย
;2016
: อันดับ 8 ในการจัดอันดับรวม จีโรดีตาเลีย
::
ครองเสื้อสีชมพูหลังสเตจที่ 13
;2017
: อันดับ 5 โตรเฟโอ เซร์รา เด ตรามุนตานา (Vuelta a Mallorca)
;2018
: อันดับ 1 คลาซิกา พรีมาเวรา
: อันดับ 9 ในการจัดอันดับรวม บูเอลตา อา อันดาลูซีอา
;2019
: อันดับ 2 โตรเฟโอ มัตเตออตติ
: อันดับ 8 ในการจัดอันดับรวม ตูร์ ออฟ บริเตน
4.1. ตารางเวลาการจัดอันดับรวมแกรนด์ทัวร์
แกรนด์ทัวร์ | 2010 | 2011 | 2012 | 2013 | 2014 | 2015 | 2016 | 2017 | 2018 | 2019 | 2020 | 2021 | 2022 | 2023 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
จีโรดีตาเลีย | 41 | - | 29 | - | 110 | 4 | 8 | 18 | - | 39 | - | - | - | - |
ตูร์เดอฟรองซ์ | - | 166 | - | 54 | - | - | - | 87 | 50 | 55 | 77 | - | - | 110 |
บูเอลตา อา เอสปันญา | - | - | - | - | 30 | 40 | - | - | 93 | - | 52 | - | - |
- | ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน |
---|---|
DNF | แข่งขันไม่จบ |
5. มรดกและผลกระทบ
อันเดรย์ อมาดอร์ บิคคาซาโกวา ได้ทิ้งมรดกที่สำคัญไว้ให้กับวงการจักรยานของคอสตาริกาในฐานะนักปั่นผู้บุกเบิกและสร้างประวัติศาสตร์ ความสำเร็จของเขาได้ยกระดับและสร้างแรงบันดาลใจให้กับกีฬาจักรยานในประเทศ การเป็นนักปั่นชาวคอสตาริกาคนแรกที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันตูร์เดอฟรองซ์ และเป็นนักปั่นคนแรกจากประเทศเดียวกันที่ได้สวมเสื้อสีชมพูผู้นำในรายการจีโรดีตาเลีย ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่แสดงให้เห็นว่านักปั่นจากคอสตาริกาก็สามารถแข่งขันในระดับสูงสุดของโลกได้ ความสำเร็จเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้ชื่อเสียงของคอสตาริกาเป็นที่รู้จักในวงการจักรยานระดับสากล แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโอกาสสำหรับนักปั่นรุ่นใหม่ในประเทศ เพื่อเดินตามรอยเท้าของเขาและสร้างความสำเร็จต่อไปในอนาคต

q=ซานโฮเซ คอสตาริกา|position=right