1. ภาพรวม
อามาดีอุสที่ 7 Amedeo VII di Savoiaอามาดีอุสที่ 7 ดี ซาวอยอาภาษาอิตาลี (24 กุมภาพันธ์ 1360 - 1 พฤศจิกายน 1391) หรือที่รู้จักกันในฉายา เคานต์แดง il Conte Rossoอิล กอนเต รอสโซภาษาอิตาลี เป็นเคานต์แห่งซาวอยตั้งแต่ปี 1383 ถึง 1391 พระองค์ทรงเป็นบุคคลสำคัญในการขยายอำนาจและอิทธิพลของราชวงศ์ซาวอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้มาซึ่งนีซและดินแดนทางตะวันออกของโพรวองซ์ ซึ่งทำให้ราชวงศ์ซาวอยสามารถเข้าถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้โดยตรง นอกจากนี้ พระองค์ยังเป็นที่รู้จักในด้านการต้อนรับแขกอย่างอบอุ่นและมีน้ำใจ แต่การเสียชีวิตของพระองค์จากอุบัติเหตุล่าสัตว์ได้นำไปสู่ข้อพิพาทเรื่องพินัยกรรมและข่าวลือเรื่องการวางยาพิษที่สร้างความขัดแย้งภายในราชวงศ์

2. ชีวิต
ชีวิตของอามาดีอุสที่ 7 โดดเด่นด้วยการสืบทอดตำแหน่งในวัยหนุ่ม การขยายอาณาเขตอย่างมีนัยสำคัญ และการเสียชีวิตที่นำมาซึ่งความขัดแย้งภายในครอบครัว
2.1. การเกิดและภูมิหลังครอบครัว
อามาดีอุสที่ 7 ประสูติเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1360 ที่เมืองช็องเบรี พระองค์เป็นพระโอรสของอามาดีอุสที่ 6 เคานต์แห่งซาวอย หรือที่รู้จักกันในฉายา "เคานต์เขียว" และบอนน์แห่งบูร์บง ซึ่งเป็นธิดาของปีแยร์ที่ 1 ดยุกแห่งบูร์บง หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระบิดาในปี 1383 พระมารดาของอามาดีอุสที่ 7 และพระอัยยิกาของพระองค์ได้เกิดความขัดแย้งกันเรื่องการสำเร็จราชการแทนพระองค์
2.2. การสืบทอดตำแหน่งและการปกครอง
อามาดีอุสที่ 7 ได้สืบทอดตำแหน่งเคานต์แห่งซาวอยในปี 1383 และได้แบ่งอำนาจการปกครองกับพระมารดาคือบอนน์แห่งบูร์บง ตลอดรัชสมัยของพระองค์ พระองค์ได้ดำเนินนโยบายที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างอำนาจและขยายดินแดนของราชวงศ์ซาวอย
2.2.1. เหตุการณ์ที่ซีออน
ในปี 1384 เพื่อปราบปรามการก่อกบฏต่อต้านญาติของพระองค์คือเอ็ดเวิร์ดแห่งซาวอย ซึ่งเป็นบิชอปแห่งซีออน อามาดีอุสที่ 7 ได้นำทัพเข้าโจมตีและปล้นสะดมเมืองซีออน การกระทำนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพระองค์ในการรักษาเสถียรภาพและอิทธิพลของราชวงศ์ในภูมิภาค
q=Sion, Switzerland|position=right
2.2.2. การได้มาซึ่งไนซ์และโพรวองซ์
ในปี 1388 อามาดีอุสที่ 7 ได้เข้าครอบครองดินแดนในโพรวองซ์ตะวันออกและเมืองท่านีซ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญอย่างยิ่ง การได้มาซึ่งดินแดนเหล่านี้ทำให้เคาน์ตีแห่งซาวอยสามารถควบคุมเส้นทางผ่านเทือกเขาแอลป์ที่สำคัญและเข้าถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้โดยตรง
q=Nice, France|position=right
เมืองนีซได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตของราชวงศ์ซาวอยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน 1388 อามาดีอุสที่ 7 ได้ใช้ประโยชน์จากความขัดแย้งภายในโพรวองซ์ และได้เจรจาการโอนเมืองนีซและหุบเขาอูบายจากโจวันนี กรีมัลดี บารอนแห่งโบกลีโอ ซึ่งเป็นผู้ว่าการเมืองนีซและโพรวองซ์ตะวันออก ให้มาอยู่ภายใต้การปกครองของซาวอย โดยใช้ชื่อว่า Terre Nuove di Provenzaแตร์เร นูโอเว ดี โพรวองซาภาษาอิตาลี (ดินแดนใหม่แห่งโพรวองซ์)
นอกจากนี้ ในปีเดียวกันนั้นเอง ได้มีการซื้อช่องเขากอลเดอลาร์ฌ็องตีแยร์ (Col de Largentière) ซึ่งปัจจุบันคือช่องเขามาดดาเลนา ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนระหว่างฝรั่งเศสและอิตาลี ด้วยมูลค่า 60.00 K ECU แม้ว่าการซื้อนี้จะเกิดขึ้นหลังจากการสิ้นพระชนม์ของอามาดีอุสที่ 6 พระบิดาของพระองค์ แต่ก็เป็นผลงานที่สำคัญในรัชสมัยของอามาดีอุสที่ 7 ช่องเขาแห่งนี้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์และการค้าอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างลียงกับอิตาลี และเป็นเส้นทางที่สะดวกสบายระหว่างปีเยมอนเตกับหุบเขาบาร์เซโลแน็ตต์ ซึ่งได้ตกเป็นของซาวอยเมื่ออามาดีอุสที่ 7 ได้โอนย้ายมาจากเคาน์ตีแห่งโพรวองซ์มายังเคาน์ตีแห่งนีซ
q=Maddalena Pass|position=left
3. การสมรสและบุตร
อามาดีอุสที่ 7 ทรงอภิเษกสมรสกับบอนน์แห่งเบอร์รี ซึ่งเป็นพระธิดาของจอห์น ดยุกแห่งเบอร์รี ผู้เป็นพระอนุชาของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 แห่งฝรั่งเศส ทั้งสองพระองค์มีพระบุตรรวมสามพระองค์ ได้แก่:
- อามาดีอุสที่ 8 (1383-1451) ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในนามสมเด็จพระสันตะปาปาเฟลิกซ์ที่ 5 ทรงอภิเษกสมรสกับมารีแห่งบูร์กอญ (1386-1422) พระธิดาของฟิลิปผู้กล้าหาญ ดยุกแห่งบูร์กอญ
- บอนน์ (สิ้นพระชนม์ 1432) ทรงอภิเษกสมรสกับหลุยส์แห่งปีเยมอนเต ซึ่งเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของสายซาวอย-อาไคอา
- โจแอนน์ (1392-1460) ทรงอภิเษกสมรสกับจอห์น จาค็อบ มาร์ควิสแห่งมงแฟร์รา
4. การเสียชีวิตและข้อพิพาทการสืบทอดตำแหน่ง
อามาดีอุสที่ 7 สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 1391 ด้วยพระชนมายุ 29 พรรษา สาเหตุการสิ้นพระชนม์เกิดจากบาดทะยัก ซึ่งเป็นผลมาจากอุบัติเหตุระหว่างการล่าสัตว์ หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ได้เกิดข้อโต้แย้งขึ้นเนื่องจากพินัยกรรมของพระองค์
ตามประเพณีแล้ว ผู้ปกครองของบุตรชายและทายาทควรเป็นมารดาของบุตร แต่ในพินัยกรรมของอามาดีอุสที่ 7 พระองค์กลับแต่งตั้งพระมารดาของพระองค์เอง ซึ่งเป็นพระขนิษฐาของหลุยส์ที่ 2 ดยุกแห่งบูร์บง ผู้ทรงอำนาจ ให้เป็นผู้ปกครองของอามาดีอุสที่ 8 แทนที่จะเป็นพระมารดาของบุตร ซึ่งเป็นพระธิดาของจอห์น ดยุกแห่งเบอร์รี ผู้ทรงอำนาจไม่แพ้กัน
เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างพระมารดาและพระชายาของอามาดีอุสที่ 7 ข่าวลือที่ว่าพระองค์ถูกวางยาพิษจึงแพร่กระจายออกมาไม่นานหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ การเจรจาเพื่อฟื้นฟูความสงบสุขในราชวงศ์ต้องใช้เวลานานถึงสามเดือน
5. การประเมิน
อามาดีอุสที่ 7 เป็นบุคคลที่ผสมผสานระหว่างคุณสมบัติที่เป็นที่ยกย่องและการกระทำที่นำมาซึ่งข้อวิพากษ์วิจารณ์
5.1. ด้านบวก
อามาดีอุสที่ 7 เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในเรื่องความเป็นเจ้าบ้านที่ดีและมีน้ำใจ พระองค์มีชื่อเสียงในด้านการต้อนรับขับสู้ผู้คนจากทุกชนชั้น ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นสูงหรือสามัญชน และไม่เคยปฏิเสธแขกที่มาเยือนโดยที่ไม่มีอาหารให้รับประทาน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของพระองค์เป็นที่กล่าวขานและเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นในรัชสมัยของพระองค์
5.2. ข้อวิพากษ์วิจารณ์และข้อขัดแย้ง
แม้จะมีคุณสมบัติที่ดี แต่การเสียชีวิตของอามาดีอุสที่ 7 ก็ยังคงเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์และข้อขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อพิพาทเรื่องพินัยกรรมของพระองค์ที่ทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพระมารดาและพระชายาในการแย่งชิงสิทธิ์ในการเป็นผู้ปกครองของอามาดีอุสที่ 8 นอกจากนี้ ข่าวลือเรื่องการวางยาพิษที่แพร่กระจายหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สร้างความสงสัยและข้อถกเถียงในประวัติศาสตร์ แม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แต่ข่าวลือเหล่านี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงความวุ่นวายภายในราชวงศ์ในช่วงเวลาดังกล่าว
6. ผลกระทบ
การปกครองของอามาดีอุสที่ 7 มีผลกระทบทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่อราชวงศ์ซาวอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายดินแดนและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางยุทธศาสตร์ การได้มาซึ่งเมืองนีซและดินแดนทางตะวันออกของโพรวองซ์ในปี 1388 ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ที่ทำให้ราชวงศ์ซาวอยสามารถเข้าถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้โดยตรง ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสทางการค้าและการทหารที่สำคัญ การควบคุมช่องเขาแอลป์ที่เชื่อมต่อระหว่างลียงกับอิตาลีก็เป็นการเพิ่มอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองของราชวงศ์อย่างมาก การกระทำเหล่านี้ได้วางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการขยายอำนาจและการเปลี่ยนสถานะของราชวงศ์ซาวอยในอนาคต