1. ชีวิต
บัลโดมีภูมิหลังที่เชื่อมโยงกับประเทศกาบูเวร์ดีผ่านทางครอบครัว และเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลในสเปน ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่อาชีพนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว
1.1. ภูมิหลังส่วนตัวและวัยเด็ก
บัลโดเกิดที่บิยาบลิโน ในจังหวัดเลออน ประเทศสเปน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่พ่อแม่ของเขาย้ายถิ่นฐานมาจากกาบูเวร์ดีเพื่อมาทำงานในเหมืองถ่านหินในพื้นที่ลาเซียน่า
เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลสมัครเล่นชื่อ เซเอเฟ โปซูเอโล เด อาลาร์กอน ในมาดริด และอยู่กับสโมสรแห่งนี้เป็นเวลาเจ็ดปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 ถึง 2001
1.2. เส้นทางฟุตบอลช่วงต้น
ในปี ค.ศ. 2001 เรอัลมาดริดได้เซ็นสัญญาดึงตัวบัลโดเข้าสู่ทีมสำรองของสโมสร เขาลงเล่นให้กับเรอัลมาดริด กัสติยา ในฤดูกาล 2001-02 ซึ่งเป็นทีมที่คว้าแชมป์เซกุนดา ดิวิซิออน เบ กลุ่ม 3 ในฤดูกาลนั้น นอกจากนี้ เขายังได้รับโอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่ในลาลิกา, โกปาเดลเรย์ และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลเดียวกัน โดยในที่สุดทีม "เมเรนเกส" (ฉายาของเรอัล มาดริด) ก็คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาล 2001-02
2. กิจกรรมหลักและผลงานสำคัญ
บัลโดมีอาชีพค้าแข้งที่ยาวนานและหลากหลาย โดยได้ลงเล่นให้กับสโมสรหลายแห่งในสเปนและต่างประเทศ รวมถึงการเป็นตัวแทนของทีมชาติในระดับเยาวชนและระดับอาวุโส
2.1. อาชีพกับสโมสร
บัลโดได้สร้างผลงานที่โดดเด่นกับหลายสโมสรในสเปน และมีส่วนร่วมในความสำเร็จทางประวัติศาสตร์ของบางสโมสร ก่อนจะย้ายไปเล่นในลีกต่างประเทศในช่วงท้ายของอาชีพ
2.1.1. เรอัล มาดริด / เรอัล มาดริด กัสติยา
บัลโดเริ่มต้นอาชีพกับทีมสำรองของเรอัลมาดริด คือ เรอัลมาดริด กัสติยา ในปี ค.ศ. 2001 โดยลงสนามไป 60 นัดและทำได้ 8 ประตูในฤดูกาล 2001-02 และ 2002-03 ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เขายังได้รับโอกาสลงประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของเรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2001-02 โดยลงเล่น 1 นัดในลาลิกา, 1 นัดในโกปาเดลเรย์ และ 2 นัดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แม้จะไม่ได้ลงเล่นในรอบลึก ๆ แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลนั้น
2.1.2. โอซาซูนา
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2003 บัลโดได้ย้ายไปร่วมทีมโอซาซูนา ในลาลิกา โดยเป็นการย้ายแบบยืมตัวในตอนแรก ก่อนที่จะย้ายขาดถาวรในภายหลัง ที่โอซาซูนา เขากลายเป็นผู้เล่นระดับสูง โดยในฤดูกาลแรกเต็มตัวของเขา (2003-04) เขาทำได้ 5 ประตูจากการลงสนาม 35 นัด หนึ่งในนั้นคือประตูที่ยิงใส่สโมสรเก่าอย่างเรอัล มาดริด ในเกมที่โอซาซูนาบุกไปชนะ 3-0 เมื่อวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 2004
ในฤดูกาล 2005-06 แม้เขาจะลงสนามน้อยลงเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ขาหนีบ แต่บัลโดก็ทำประตูชัยในเกมที่เปิดบ้านชนะบาร์เซโลนา 2-1 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2006 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่โอซาซูนาจบอันดับ 4 ในลาลิกา และผ่านเข้ารอบคัดเลือกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร หลังจากตกรอบจากแชมเปียนส์ลีก พวกเขาได้ลงเล่นในยูฟ่า คัพ (ปัจจุบันคือยูฟ่า ยูโรปา ลีก) และบัลโดมีส่วนช่วยให้ทีมผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ โดยทำได้ 2 ประตูจากการลงสนาม 10 นัด ก่อนจะแพ้ให้กับเซบิยา โดยรวมแล้ว เขาลงเล่นให้โอซาซูนาไป 129 นัด ทำได้ 22 ประตู และยังเป็นรองแชมป์โกปาเดลเรย์ ในฤดูกาล 2004-05 และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในฤดูกาล 2002-03
2.1.3. เอสปันญอล
เอสปันญอล ได้เซ็นสัญญาคว้าตัวบัลโดมาร่วมทีมด้วยสัญญา 4 ปี เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2006-07 เขาลงเล่นนัดแรกให้กับสโมสรในบาร์เซโลนา ในเกมกระชับมิตรกับเซเอเฟ เปราลาดา ในช่วงปรีซีซัน ในฤดูกาลแรก (2007-08) เขาเป็นผู้เล่นตัวหลักโดยลงสนามไป 31 นัด แต่ในฤดูกาลที่สอง (2008-09) โอกาสในการลงสนามของเขาลดลงอย่างมากเนื่องจากการแจ้งเกิดของเฟร์รัน โกโรมีนัส ตลอดสองฤดูกาลที่เอสปันญอล เขาลงสนามในเกมอย่างเป็นทางการไป 50 นัด ทำได้ 7 ประตู และมีส่วนช่วยให้ทีมเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศโกปาเดลเรย์ ในฤดูกาล 2008-09
2.1.4. มาลากา ซีเอฟ
ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 หลังจากที่เขาไม่ค่อยได้ลงสนาม บัลโดได้ย้ายไปร่วมทีมมาลากา ซีเอฟ ด้วยสัญญายืมตัวตลอดฤดูกาล 2009-10 ในช่วงแรก เขาถูกตัดออกจากทีมหลายเดือนเนื่องจากฟอร์มการเล่นที่ไม่ดีนัก แต่กลับมาลงสนามอีกครั้งในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 เขาทำประตูแรกให้กับสโมสรได้ในเกมที่พบกับบาร์เซโลนา ในวันเดียวกันนั้น แม้ว่ามาลากาจะแพ้ไป 1-2 ที่กัมนอว์ ตลอดช่วงเวลาที่มาลากา เขาลงสนามในเกมอย่างเป็นทางการไป 22 นัด ทำได้ 2 ประตู
2.1.5. เลบันเต อูเด
ในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2010 บัลโดออกจากเอสปันญอลและเซ็นสัญญากับเลบันเต อูเด ซึ่งทำให้เขาได้กลับมาร่วมงานกับเพื่อนร่วมทีมเก่าจากมาลากาอย่างกุสตาโบ มูนัว และชาบี ตอร์เรส เขามีส่วนสำคัญอย่างมากในฤดูกาลแรกของเขา (2010-11) โดยลงเล่น 25 นัดเป็นตัวจริง รวม 2,119 นาที ซึ่งช่วยให้เลบันเตยังคงอยู่ในลีกสูงสุด เขายิงประตูใส่เฆตาเฟ ในเกมที่ชนะในบ้าน 2-0 และยิงใส่บิยาร์เรอัล ในเกมที่บุกไปชนะ 1-0
บัลโดมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในฤดูกาล 2011-12 โดยทำได้ 6 ประตู ซึ่งช่วยให้เลบันเตจบอันดับ 6 ในฤดูกาล 2011-12 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสร และผ่านเข้ารอบยูโรปา ลีก เป็นครั้งแรก สองประตูในจำนวนนั้นมาจากช่วงท้ายฤดูกาล ในเกมที่เปิดบ้านชนะอัตเลติโกเดมาดริด (2-0) และกรานาดา (3-1) หลังจากนั้น เขาได้ย้ายไปเล่นให้กับอัทลันเต เอฟซี ในเม็กซิโกในช่วงสั้น ๆ ในฤดูกาล 2012-13 โดยลงเล่นไป 6 นัด ก่อนที่จะกลับมาเลบันเตด้วยสัญญายืมตัว และลงสนามอีก 16 นัด ซึ่งมีส่วนช่วยให้เลบันเตผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูฟ่า ยูโรปา ลีก ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดของสโมสรในรายการยุโรป

2.1.6. อาชีพช่วงหลัง
หลังจากออกจากเลบันเต บัลโดไม่ค่อยได้ปักหลักกับสโมสรใดนานนัก โดยได้เล่นให้กับหลายทีมอย่างรวดเร็ว ได้แก่:
- อัสเตราส ตริโปลิส ในกรีซ (ฤดูกาล 2013-14) โดยลงเล่น 9 นัดในลีก แม้จะลงสนามไม่มาก แต่เขาก็มีส่วนช่วยให้ทีมจบอันดับ 5 ในลีกและผ่านเข้ารอบคัดเลือกยูฟ่า ยูโรปา ลีก
- ราซิง ซานตานเดร์ ในสเปน (ฤดูกาล 2014-15) โดยลงเล่นเพียง 1 นัดในลีก
- อัตเลติโก เด โกลกาตา ในอินเดียนซูเปอร์ลีก (ฤดูกาล 2015) โดยลงเล่น 9 นัดและทำได้ 1 ประตู
- ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2016 เขากลับมายังสเปนเพื่อเซ็นสัญญากับเซเด เลอัลตาด (ฤดูกาล 2016-17) โดยลงเล่น 19 นัดและทำได้ 1 ประตู
- เปญญา สปอร์ต เอฟซี (ฤดูกาล 2017-18) โดยลงเล่น 33 นัดและทำได้ 6 ประตู
- เซเด อิซารา (ฤดูกาล 2019-20) โดยลงเล่น 32 นัดและทำได้ 1 ประตู
บัลโดแขวนสตั๊ดเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2019-20 หลังจากอาชีพนักฟุตบอลยาวนาน 19 ปี
2.2. สถิติอาชีพกับสโมสร
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วย | การแข่งขันระดับทวีป | รวม | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ||
เรอัลมาดริด | 2001-02 | ลาลิกา | 1 | 0 | 0 | 0 | 2 | 0 | 3 | 0 |
2002-03 | ลาลิกา | 0 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | |
รวม | 1 | 0 | 1 | 0 | 2 | 0 | 4 | 0 | ||
โอซาซูนา (ยืมตัว) | 2002-03 | ลาลิกา | 13 | 1 | 0 | 0 | - | 13 | 1 | |
โอซาซูนา | 2003-04 | ลาลิกา | 35 | 5 | 1 | 0 | - | 36 | 5 | |
2004-05 | ลาลิกา | 27 | 5 | 6 | 2 | - | 33 | 7 | ||
2005-06 | ลาลิกา | 19 | 2 | 0 | 0 | 2 | 0 | 21 | 2 | |
2006-07 | ลาลิกา | 26 | 6 | 1 | 0 | 12 | 2 | 39 | 8 | |
รวม | 120 | 19 | 8 | 2 | 14 | 2 | 142 | 23 | ||
เอสปันญอล | 2007-08 | ลาลิกา | 31 | 4 | 3 | 0 | - | 34 | 4 | |
2008-09 | ลาลิกา | 11 | 1 | 5 | 2 | - | 16 | 3 | ||
รวม | 42 | 5 | 8 | 2 | - | 50 | 7 | |||
มาลากา (ยืมตัว) | 2009-10 | ลาลิกา | 19 | 2 | 3 | 0 | - | 22 | 2 | |
เลบันเต | 2010-11 | ลาลิกา | 29 | 2 | 4 | 0 | - | 33 | 2 | |
2011-12 | ลาลิกา | 34 | 6 | 1 | 0 | - | 35 | 6 | ||
รวม | 63 | 8 | 5 | 0 | - | 68 | 8 | |||
อัทลันเต | 2012-13 | อัสเซนโซ เอเมเอกิส | 4 | 0 | 2 | 0 | - | 6 | 0 | |
เลบันเต (ยืมตัว) | 2012-13 | ลาลิกา | 13 | 0 | 0 | 0 | 3 | 0 | 16 | 0 |
อัสเตราส ตริโปลิส | 2013-14 | ซูเปอร์ลีกกรีซ | 9 | 0 | 0 | 0 | - | 9 | 0 | |
ราซิง ซานตานเดร์ | 2014-15 | เซกุนดา ดิวิซิออน | 1 | 0 | 0 | 0 | - | 1 | 0 | |
อัตเลติโก เด โกลกาตา | 2015 | อินเดียนซูเปอร์ลีก | 2 | 1 | - | - | 2 | 1 | ||
รวมตลอดอาชีพ | 274 | 33 | 27 | 4 | 19 | 2 | 320 | 41 |
2.3. อาชีพกับทีมชาติ
บัลโดเริ่มต้นเส้นทางทีมชาติกับสเปนในระดับเยาวชน ก่อนที่จะตัดสินใจเป็นตัวแทนของทีมชาติกาบูเวร์ดีในระดับอาวุโสในภายหลัง
2.3.1. สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี
บัลโดเคยเล่นให้กับทีมชาติสเปนรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 โดยในปี ค.ศ. 2003 เขาลงเล่นไป 6 นัดและทำได้ 3 ประตู
2.3.2. ทีมชาติกาบูเวร์ดี
ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2011 ขณะอายุ 30 ปี บัลโดถูกเรียกตัวติดทีมชาติกาบูเวร์ดีเป็นครั้งแรก เพื่อเตรียมลงแข่งขันกับมาลี ในวันที่ 3 กันยายน สำหรับการแข่งขันรอบคัดเลือกแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2012 เขาลงประเดิมสนามในเกมที่แพ้มาลี 0-3 ในเกมเยือน
หนึ่งเดือนต่อมา ในวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2011 บัลโดทำประตูแรกในนามทีมชาติได้ในเกมที่พบกับซิมบับเว โดยกาบูเวร์ดีชนะไป 2-1 ในบ้าน ตลอดอาชีพค้าแข้งของเขา บัลโดลงเล่นให้ทีมชาติกาบูเวร์ดีไป 2 นัด และทำได้ 1 ประตู
2.4. รูปแบบการเล่นและตำแหน่ง
บัลโดเป็นนักฟุตบอลที่เล่นในตำแหน่งปีก เป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีกขวา เขายังสามารถเล่นในตำแหน่งกองกลางได้อีกด้วย เขาเป็นผู้เล่นที่ใช้เท้าขวาเป็นหลัก มีส่วนสูง 184 cm และน้ำหนัก 70 kg
3. เกียรติประวัติและรางวัล
บัลโดได้รับเกียรติประวัติและรางวัลต่าง ๆ ตลอดอาชีพค้าแข้งของเขา ทั้งในระดับสโมสรและส่วนตัว
- เรอัล มาดริด
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: ชนะเลิศ: 2001-02
- โอซาซูนา
- โกปาเดลเรย์: รองชนะเลิศ: 2004-05
- ลาลิกา: อันดับ 4: 2005-06
- เลบันเต อูเด
- ลาลิกา: อันดับ 6: 2011-12 (อันดับสูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสร)
- ยูฟ่า ยูโรปา ลีก: รอบ 16 ทีมสุดท้าย: 2012-13 (ผลงานดีที่สุดของสโมสรในรายการยุโรป)
- โกปาเดลเรย์: รอบก่อนรองชนะเลิศ: 2011-12
- เอสปันญอล
- โกปาเดลเรย์: รอบก่อนรองชนะเลิศ: 2008-09
- อัสเตราส ตริโปลิส
- ซูเปอร์ลีกกรีซ: อันดับ 5: 2013-14
4. การประเมิน
บัลโดเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่มีอาชีพค้าแข้งที่ยาวนานและประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลาลิกาของสเปน ซึ่งเขาลงสนามไปมากกว่า 258 นัดและทำได้ 34 ประตู ตลอด 12 ฤดูกาล เขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยให้สโมสรอย่างโอซาซูนาและเลบันเตประสบความสำเร็จทางประวัติศาสตร์ โดยมีส่วนช่วยให้โอซาซูนาผ่านเข้ารอบคัดเลือกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรก และช่วยให้เลบันเตทำผลงานได้ดีที่สุดในลาลิกา และผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูฟ่า ยูโรปา ลีก
เส้นทางอาชีพของบัลโดสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัว โดยเขาย้ายไปเล่นในลีกต่าง ๆ ทั้งในสเปน, เม็กซิโก, กรีซ และอินเดีย การที่เขาตัดสินใจเป็นตัวแทนของทีมชาติกาบูเวร์ดีในช่วงท้ายของอาชีพนักฟุตบอล ยังเน้นย้ำถึงความผูกพันของเขากับมรดกทางวัฒนธรรมของครอบครัวอีกด้วย