1. ชีวิต
มิโน เด รอสซี เริ่มต้นชีวิตในอิตาลีและพัฒนาไปสู่การเป็นนักปั่นจักรยานอาชีพที่มีชื่อเสียง โดยมีส่วนร่วมในการแข่งขันระดับชาติและนานาชาติมากมาย
1.1. การเกิดและวัยเด็ก
มิโน เด รอสซี เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1931 ที่เมืองอาร์ควาตา สคริเวีย (Arquata Scriviaภาษาอิตาลี) ประเทศอิตาลี ในช่วงวัยเด็กของเขา ไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางครอบครัวหรือเหตุการณ์สำคัญที่หล่อหลอมเขามากนัก แต่เขาได้พัฒนาความสนใจในกีฬาจักรยานตั้งแต่ยังเยาว์วัย
1.2. การพัฒนาอาชีพช่วงต้น
เด รอสซี เริ่มต้นอาชีพนักปั่นจักรยานอาชีพในปี ค.ศ. 1952 หลังจากประสบความสำเร็จในฐานะนักปั่นสมัครเล่น ในช่วงต้นอาชีพ เขาได้เข้าร่วมทีมสำคัญหลายทีม ซึ่งเป็นรากฐานสำหรับความสำเร็จในอนาคตของเขา ทีมที่เขาเคยสังกัดได้แก่ เบียงคี (Bianchiภาษาอิตาลี) ในช่วงปี ค.ศ. 1952-1954, ลีโอ-คลอโรดอนต์ (Leo-Chlorodontภาษาอิตาลี) ในปี ค.ศ. 1955, เฟรจัส (Frejusภาษาอิตาลี) ในปี ค.ศ. 1956, อิกนิส (Ignisภาษาอิตาลี) ในปี ค.ศ. 1957, อัสบอร์โน-เฟรจัส (Asborno-Frejusภาษาอิตาลี) ในปี ค.ศ. 1958, ฟิเดส (Fidesภาษาอิตาลี) ในปี ค.ศ. 1961 และกลับมาร่วมทีมอิกนิสอีกครั้งในช่วงปี ค.ศ. 1962-1967 การเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นนักปั่นอาชีพนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่ยาวนานในวงการจักรยานของเขา ซึ่งกินเวลากว่า 16 ปีจนถึงปี ค.ศ. 1968
2. กิจกรรมและผลงานสำคัญ
ตลอดอาชีพการงานของมิโน เด รอสซี เขาได้สร้างผลงานที่น่าประทับใจในทั้งการแข่งขันจักรยานประเภทลู่และประเภทถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการระดับนานาชาติ ซึ่งรวมถึงการแข่งขันโอลิมปิกและชิงแชมป์โลก
2.1. จักรยานประเภทลู่
มิโน เด รอสซี ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ โดยมีผลงานที่โดดเด่นดังนี้:
- ค.ศ. 1951:
- ชนะเลิศ
การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก (UCI Track Cycling World Championshipsภาษาอังกฤษ) ประเภทไล่ล่าบุคคลสมัครเล่น จัดขึ้นที่เมืองมิลาน (Milanภาษาอิตาลี) ประเทศอิตาลี
- ชนะเลิศ
- ค.ศ. 1952:
- ชนะเลิศ
เหรียญทองในโอลิมปิกฤดูร้อน 1952 ที่เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ในการแข่งขันประเภททีมไล่ล่า 4000 เมตรชาย ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมได้แก่ มารีโน โมเรตตินี (Marino Morettiniภาษาอิตาลี), โลริส คัมปานา (Loris Campanaภาษาอิตาลี) และกวีโด เมสซีนา (Guido Messinaภาษาอิตาลี)
- รองชนะเลิศ
การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก ประเภทไล่ล่าบุคคลสมัครเล่น จัดขึ้นที่เมืองปารีส (Parisภาษาฝรั่งเศส) ประเทศฝรั่งเศส
- ชนะเลิศ
2.2. จักรยานประเภทถนน
นอกจากความสำเร็จในประเภทลู่แล้ว มิโน เด รอสซี ยังทำผลงานได้ดีในการแข่งขันจักรยานประเภทถนนในฐานะนักกีฬามืออาชีพ โดยมีผลการแข่งขันที่สำคัญดังนี้:
- ค.ศ. 1952:
- อันดับ 2 ในรายการ ปิกโกโล จิโร ดิ ลอมบาร์เดีย (Piccolo Giro di Lombardiaภาษาอิตาลี)
- ค.ศ. 1953:
- อันดับ 10 ในรายการ จิโร ดิ ลอมบาร์เดีย (Giro di Lombardiaภาษาอิตาลี)
- ค.ศ. 1954:
- อันดับ 3 ในรายการ จิโร ดิ ลอมบาร์เดีย (Giro di Lombardiaภาษาอิตาลี)
- อันดับ 4 ในรายการ จิโร ดิ โรมันญ่า (Giro di Romagnaภาษาอิตาลี)
- ค.ศ. 1967:
- อันดับ 3 ในรายการ จิโร เดลล์'อัปเปนนีโน (Giro dell'Appenninoภาษาอิตาลี)
2.3. การแข่งขัน Six Days Races
มิโน เด รอสซี ยังได้แสดงความสามารถในการแข่งขันซิกซ์เดย์เรซ (Six Days Racesภาษาอังกฤษ) ซึ่งเป็นการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ที่ใช้เวลานานหลายวัน โดยเขาได้รับชัยชนะในรายการสำคัญสองครั้ง:
- ค.ศ. 1959:
- ชนะเลิศการแข่งขัน ซิกซ์เดย์เรซแห่งบัวโนสไอเรส (Six Days of Buenos Airesภาษาอังกฤษ) ร่วมกับฮอร์เฮ บาติซ (Jorge Bátizภาษาสเปน)
- ค.ศ. 1963:
- ชนะเลิศการแข่งขัน ซิกซ์เดย์เรซแห่งมอนทรีออล (Six Days of Montrealภาษาอังกฤษ) ร่วมกับเฟอร์ดินานโด แตร์รุซซี (Ferdinando Terruzziภาษาอิตาลี)
3. การเสียชีวิต
มิโน เด รอสซี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 2022 ที่เมืองเจนัว (Genoaภาษาอิตาลี) ประเทศอิตาลี ด้วยวัย 90 ปี การจากไปของเขาเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของวงการจักรยานอิตาลีและทั่วโลก
4. การประเมิน
มิโน เด รอสซี ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักปั่นจักรยานที่ประสบความสำเร็จและมีอิทธิพลในยุคของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความสามารถที่หลากหลายทั้งในประเภทลู่และประเภทถนน
4.1. การประเมินเชิงบวก
มิโน เด รอสซี ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากความสำเร็จอันโดดเด่นในอาชีพนักปั่นจักรยานของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในประเภททีมไล่ล่า 4000 เมตรชายในปี ค.ศ. 1952 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในอาชีพของเขาและนำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้กับประเทศอิตาลี นอกจากนี้ การที่เขาเป็นแชมป์โลกในประเภทไล่ล่าบุคคลสมัครเล่นในปี ค.ศ. 1951 และการเป็นรองแชมป์โลกในปีถัดมา ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เหนือชั้นและความสม่ำเสมอในการแข่งขันระดับสูงสุด การที่เขาสามารถแข่งขันในระดับอาชีพได้อย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1952 ถึง ค.ศ. 1968 และประสบความสำเร็จในทั้งการแข่งขันประเภทลู่และประเภทถนน รวมถึงการคว้าชัยชนะในรายการ Six Days Races ยิ่งตอกย้ำถึงความอเนกประสงค์และความทุ่มเทของเขาต่อกีฬาจักรยาน ผลงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเขาเอง แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักปั่นรุ่นหลังและมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมกีฬาจักรยานในอิตาลี