1. ภาพรวม
มิยะ ทาจิบานะ (立花 美哉Tachibana Miyaภาษาญี่ปุ่น) เกิดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 1974 เป็นอดีตนักกีฬาระบำใต้น้ำชาวญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และปัจจุบันเป็นผู้ฝึกสอนระบำใต้น้ำ เธอเป็นที่รู้จักจากความสำเร็จในการคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิก 5 เหรียญ ซึ่งรวมถึง 4 เหรียญเงินและ 1 เหรียญทองแดง ทำให้เธอเป็นหนึ่งในนักกีฬาหญิงชาวญี่ปุ่นที่คว้าเหรียญโอลิมปิกได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เธอสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการระบำใต้น้ำของญี่ปุ่นด้วยการคว้าเหรียญทองเหรียญแรกในการแข่งขันกีฬาทางน้ำชิงแชมป์โลกในประเภทคู่ และหลังจากเกษียณจากการแข่งขัน เธอก็ได้เปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ฝึกสอนที่อุทิศตนเพื่อพัฒนาวงการระบำใต้น้ำของประเทศ นอกจากนี้ เธอยังได้รับเกียรติให้เข้าสู่หอเกียรติยศการว่ายน้ำนานาชาติในปี ค.ศ. 2011 อีกด้วย
2. ช่วงชีวิตตอนต้นและการเข้าสู่วงการระบำใต้น้ำ
มิยะ ทาจิบานะเริ่มต้นเส้นทางในวงการระบำใต้น้ำตั้งแต่อายุยังน้อย และได้พัฒนาฝีมือภายใต้การดูแลของโค้ชผู้มากประสบการณ์ จนก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงระดับโลก
2.1. วัยเด็กและการศึกษา
มิยะ ทาจิบานะ เกิดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 1974 ที่ โอตสึ จังหวัด ชิงะ ประเทศ ญี่ปุ่น เธอเริ่มต้นฝึกระบำใต้น้ำเมื่ออยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังจากสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลาย ชิตเท็นโนจิ (四天王寺高等学校Shitennoji Kōtō Gakkōภาษาญี่ปุ่น) เธอได้เข้าศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยโดชิชะ (同志社大学Dōshisha Daigakuภาษาญี่ปุ่น) อย่างไรก็ตาม เธอตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อเดินทางไปศึกษาต่อและฝึกฝนระบำใต้น้ำอย่างมืออาชีพที่ประเทศ แคนาดา
2.2. การเข้าสู่วงการระบำใต้น้ำและการฝึกฝน
มิยะ ทาจิบานะ เริ่มต้นฝึกระบำใต้น้ำที่สโมสร เกียวโต โทซุยไค (京都踏水会Kyōto Tōsuikaiภาษาญี่ปุ่น) ใน เกียวโต ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในอาชีพของเธอ หลังจากนั้น เธอได้เข้าร่วมสโมสร อิมูระ ซิงโครไนซ์คลับ (井村シンクロクラブImura Shinkuro Kurabuภาษาญี่ปุ่น) และได้รับการฝึกสอนโดย มาซาโยะ อิมูระ (井村雅代Imura Masayoภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นโค้ชผู้มีอิทธิพลอย่างมากและเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "มารดาแห่งซิงโคร" ในญี่ปุ่น ประสบการณ์การฝึกฝนภายใต้การดูแลของโค้ชอิมูระ รวมถึงการไปศึกษาต่อในแคนาดา มีส่วนสำคัญในการพัฒนาทักษะและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเธอในฐานะนักกีฬาระบำใต้น้ำ
3. อาชีพนักกีฬา
มิยะ ทาจิบานะ สร้างชื่อเสียงในฐานะนักกีฬาระบำใต้น้ำระดับโลก ด้วยความสำเร็จอันโดดเด่นในหลายรายการ ทั้งในระดับเยาวชนและระดับนานาชาติ
3.1. การแข่งขันระดับเยาวชนและระดับนานาชาติช่วงแรก (1991-1996)
ในช่วงเริ่มต้นอาชีพ มิยะ ทาจิบานะ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันยอดเยี่ยม โดยในปี ค.ศ. 1991 เธอสามารถคว้า 3 เหรียญทองในการแข่งขันว่ายน้ำเยาวชนชิงแชมป์โลกได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการยืนยันความสามารถของเธอในระดับเยาวชน จากนั้นในปี ค.ศ. 1994 เธอได้คว้าเหรียญเงินในประเภทคู่ และเหรียญทองแดงในประเภททีม ในการแข่งขันกีฬาทางน้ำชิงแชมป์โลกที่กรุง โรม และในปี ค.ศ. 1996 เธอได้เป็นตัวแทนทีมชาติญี่ปุ่นเข้าร่วมการแข่งขัน โอลิมปิกฤดูร้อนที่แอตแลนตา และคว้าเหรียญทองแดงในประเภททีมได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นเหรียญโอลิมปิกเหรียญแรกในอาชีพของเธอ
3.2. จุดสูงสุดของอาชีพและการคว้าเหรียญโอลิมปิก (1998-2004)
ช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1998 ถึง ค.ศ. 2004 ถือเป็นยุคทองของมิยะ ทาจิบานะ ในการแข่งขันกีฬาทางน้ำชิงแชมป์โลกปี ค.ศ. 1998 ที่ เพิร์ท เธอคว้าเหรียญทองแดงในประเภทเดี่ยว เหรียญเงินในประเภทคู่ และเหรียญเงินในประเภททีม
ต่อมาใน โอลิมปิกฤดูร้อนที่ซิดนีย์ ปี ค.ศ. 2000 เธอจับคู่กับ มิโฮะ ทาเคดะ (武田美保Takeda Mihoภาษาญี่ปุ่น) และสามารถคว้าเหรียญเงินในประเภทคู่ได้สำเร็จ นอกจากนี้ ทีมญี่ปุ่นยังคว้าเหรียญเงินในประเภททีมได้อีกด้วย
ในปี ค.ศ. 2001 ในการแข่งขันกีฬาทางน้ำชิงแชมป์โลกที่ ฟุกุโอกะ มิยะ ทาจิบานะ และมิโฮะ ทาเคดะ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าเหรียญทองในประเภทคู่ ซึ่งนับเป็นเหรียญทองเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ระบำใต้น้ำของประเทศญี่ปุ่นในการแข่งขันระดับโลกนี้ นอกจากนี้ เธอยังคว้าเหรียญทองแดงในประเภทเดี่ยวด้วย
ในการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ที่ปูซาน ปี ค.ศ. 2002 เธอได้รับเหรียญทองในประเภทคู่ และในการแข่งขันกีฬาทางน้ำชิงแชมป์โลกปี ค.ศ. 2003 ที่ บาร์เซโลนา เธอคว้าเหรียญเงินในประเภทคู่
จุดสูงสุดในอาชีพของเธอมาถึงในการแข่งขัน โอลิมปิกฤดูร้อนที่เอเธนส์ ปี ค.ศ. 2004 ซึ่งเธอคว้าอีกสองเหรียญเงินในประเภทคู่ (ร่วมกับมิโฮะ ทาเคดะ) และประเภททีม ทำให้ยอดรวมเหรียญโอลิมปิกของเธออยู่ที่ 5 เหรียญ (1 เหรียญทองแดง และ 4 เหรียญเงิน) ซึ่งเทียบเท่ากับสถิตินักกีฬาหญิงชาวญี่ปุ่นที่คว้าเหรียญโอลิมปิกได้มากที่สุด ร่วมกับมิโฮะ ทาเคดะ และ เรียวโกะ ทานิ (谷亮子Tani Ryōkoภาษาญี่ปุ่น)
4. กิจกรรมหลังเกษียณจากการเป็นนักกีฬา
หลังจากปิดฉากอาชีพนักกีฬาระบำใต้น้ำ มิยะ ทาจิบานะ ยังคงอุทิศตนให้กับวงการกีฬา โดยได้ผันตัวมารับบทบาทเป็นผู้ฝึกสอนและมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณะต่าง ๆ
4.1. อาชีพโค้ช
หลังจากการแข่งขันโอลิมปิกที่เอเธนส์ในปี ค.ศ. 2004 มิยะ ทาจิบานะ ได้ประกาศเกษียณจากการเป็นนักกีฬาและเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในฐานะผู้ฝึกสอน เธอได้เข้าร่วมโครงการศึกษาต่อต่างประเทศสำหรับผู้ฝึกสอนกีฬาของ คณะกรรมการโอลิมปิกญี่ปุ่น (JOC) โดยเดินทางไปศึกษาต่อที่ แคลิฟอร์เนีย ประเทศ สหรัฐอเมริกา ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 2008 เธอได้ทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนระบำใต้น้ำให้กับสโมสร ซานตาคลารา อควาเมดส์ (Santa Clara Aquamaidsภาษาอังกฤษ) ที่เมือง ซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากกลับมายังประเทศญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2008 เธอก็ได้กลับไปเป็นผู้ฝึกสอนที่สโมสร อิมูระ ซิงโครไนซ์คลับ ซึ่งเป็นสโมสรที่เธอเคยฝึกฝนมาก่อน เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ให้กับนักกีฬารุ่นใหม่
4.2. กิจกรรมสาธารณะอื่น ๆ
นอกเหนือจากบทบาทผู้ฝึกสอนแล้ว มิยะ ทาจิบานะ ยังคงเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากกิจกรรมสาธารณะอื่น ๆ ในปี ค.ศ. 2008 เธอได้รับเชิญให้เป็นนักวิจารณ์กีฬาในฐานะส่วนหนึ่งของ เจแปน คอนซอร์เทียม (ジャパンコンソーシアムJapan Konsōshiamuภาษาญี่ปุ่น) สำหรับการถ่ายทอดสดการแข่งขัน โอลิมปิกฤดูร้อนที่ปักกิ่ง ซึ่งทำให้เธอมีโอกาสแบ่งปันความเชี่ยวชาญและมุมมองด้านระบำใต้น้ำให้กับสาธารณชน
5. ชีวิตส่วนตัว
มิยะ ทาจิบานะ ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวต่อสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแต่งงานและการเปลี่ยนนามสกุลหลังจากนั้น
ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 มิยะ ทาจิบานะ ได้ประกาศข่าวการแต่งงานกับชายหนุ่มผู้ทำงานเป็นพนักงานบริษัทซึ่งอาศัยอยู่ใน โอซากะ หลังจากแต่งงาน เธอได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น มิยะ มิยากาวะ (宮川 美哉Miyakawa Miyaภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งสะท้อนถึงการเริ่มต้นบทบาทใหม่ในชีวิตส่วนตัว
6. รางวัลและเกียรติยศ
ตลอดอาชีพนักกีฬาระบำใต้น้ำและบทบาทผู้ฝึกสอน มิยะ ทาจิบานะ ได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมาย ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความสามารถและความทุ่มเทของเธอในวงการกีฬา
- ปี ค.ศ. 2000: ได้รับรางวัลพิเศษด้านความสำเร็จ (Special Achievement Award) จาก รางวัลกีฬา JOC
- ปี ค.ศ. 2001: ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม (Best Award) จาก รางวัลกีฬา JOC
- ปี ค.ศ. 2011: ได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่ หอเกียรติยศการว่ายน้ำนานาชาติ ซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุดสำหรับนักกีฬาที่สร้างผลงานโดดเด่นในวงการกีฬาทางน้ำ
7. มรดกและสถิติ
มิยะ ทาจิบานะ ได้ทิ้งมรดกอันสำคัญไว้ให้กับวงการระบำใต้น้ำของญี่ปุ่นและของโลก ด้วยสถิติและผลงานที่ยากจะลืมเลือน
เธอเป็นส่วนหนึ่งของคู่ระบำใต้น้ำหญิงชาวญี่ปุ่นคู่แรกที่คว้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาทางน้ำชิงแชมป์โลก (ร่วมกับมิโฮะ ทาเคดะในปี ค.ศ. 2001) ซึ่งเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับประเทศ
นอกจากนี้ สถิติการคว้าเหรียญโอลิมปิกของเธอจำนวน 5 เหรียญ (4 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง) ยังทำให้เธอเป็นนักกีฬาหญิงชาวญี่ปุ่นที่คว้าเหรียญโอลิมปิกได้มากที่สุด โดยเป็นสถิติที่เธอถือครองร่วมกับมิโฮะ ทาเคดะ และเรียวโกะ ทานิ ความสูงของเธอคือ 1.7 m และน้ำหนัก 55 kg ซึ่งถือเป็นรูปร่างที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับระบำใต้น้ำและช่วยให้เธอสามารถแสดงท่าทางที่ซับซ้อนและงดงามได้อย่างมีประสิทธิภาพ