1. Early life and background
มารีน่า กอลบาฮารี เกิดที่คาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน จุดเริ่มต้นในอาชีพการแสดงของเธอเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเธอได้รับการคัดเลือกให้เข้าสู่วงการโดยบังเอิญ ซิดดิก บาร์มัค ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอัฟกานิสถาน ได้พบเธอในขณะที่เธอกำลังร่อนเร่อยู่บนถนนในกรุงคาบูลในฐานะเด็กขอทาน และได้ตัดสินใจคัดเลือกเธอให้มารับบทบาทนำในภาพยนตร์ของเขา
2. Acting career
มารีน่า กอลบาฮารีเริ่มต้นอาชีพนักแสดงด้วยภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอในระดับโลก และได้มีส่วนร่วมในโครงการภาพยนตร์และละครอื่น ๆ เพื่อพัฒนาทักษะและความสามารถของเธอ
2.1. Breakthrough with "Osama"
มารีน่า กอลบาฮารี ได้รับการคัดเลือกจากผู้กำกับซิดดิก บาร์มัค ให้รับบทบาทนำในภาพยนตร์เรื่อง ออสซามา (ค.ศ. 2003) การแสดงของเธอในบทบาทเด็กหญิงที่ต้องปลอมตัวเป็นเด็กชายเพื่อเอาชีวิตรอดและเลี้ยงดูครอบครัวภายใต้การปกครองของตาลีบัน ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับนานาชาติ โดยได้รับรางวัลรางวัลลูกโลกทองคำในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ริชาร์ด นิลเซน นักวิจารณ์จาก The Arizona Republic ได้กล่าวชื่นชมการแสดงของเธอว่า "ไม่มีข้อบกพร่องในการแสดงของมารีน่า กอลบาฮารี" ทำให้เธอเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
2.2. Other acting activities
นอกเหนือจากบทบาทอันโดดเด่นในภาพยนตร์เรื่อง ออสซามา แล้ว มารีน่า กอลบาฮารี ยังมีส่วนร่วมในโครงการด้านการแสดงอื่น ๆ อีกด้วย เธอได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Sacrifice (ค.ศ. 2003) และ The Secret of Zolikha (ค.ศ. 2006) รวมถึง Opium War (ค.ศ. 2008) และ Mina Walking (ค.ศ. 2015) ซึ่งเป็นผลงานที่สะท้อนถึงความหลากหลายในอาชีพการแสดงของเธอ นอกจากนี้ เธอยังมีบทบาทสำคัญในหนังสือเรื่อง Shakespeare in Kabul ที่เขียนโดย ไกส์ อักบาร์ โอมาร์ และ สตีเฟน แลนดริแกน ซึ่งตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2012 โดยหนังสือเล่มนี้ได้บันทึกเรื่องราวการแสดงละครของวิลเลียม เชคสเปียร์เรื่อง Love's Labour's Lost ในภาษาดารี ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงคาบูลในปี ค.ศ. 2005 และในพื้นที่อื่น ๆ ของอัฟกานิสถานในปีถัดมา การมีส่วนร่วมในโครงการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเธอในศิลปะการแสดงและการสนับสนุนการฟื้นฟูวัฒนธรรมในประเทศ
3. Filmography
นี่คือรายชื่อภาพยนตร์ที่มารีน่า กอลบาฮารีได้ร่วมแสดง:
ปี | ชื่อเรื่อง |
---|---|
ค.ศ. 2003 | ออสซามา |
ค.ศ. 2003 | Sacrifice |
ค.ศ. 2006 | The Secret of Zolikha |
ค.ศ. 2008 | Opium War |
ค.ศ. 2015 | Mina Walking |
4. Awards
มารีน่า กอลบาฮารี ได้รับการยอมรับในความสามารถทางการแสดงของเธอ โดยได้รับรางวัลจากการประกวดในระดับนานาชาติ:
- Molodist International Film Festival (ค.ศ. 2003) - รางวัล "นักแสดงเยาวชนยอดเยี่ยม" สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ออสซามา
5. Personal life and exile
ชีวิตส่วนตัวของมารีน่า กอลบาฮารี เต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการแต่งงานและการต้องเผชิญกับภัยคุกคามถึงชีวิต ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจลี้ภัยไปยังต่างประเทศ
5.1. Marriage
มารีน่า กอลบาฮารี ได้แต่งงานกับนูรุลลาห์ อะซิซี ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในอัฟกานิสถานเช่นกัน นูรุลลาห์ อะซิซี ได้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนมารีน่า โดยเขาเคยทำหน้าที่เป็นล่ามในการให้สัมภาษณ์ต่าง ๆ ของเธอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผูกพันและบทบาทของเขาในชีวิตทั้งส่วนตัวและอาชีพของมารีน่า
5.2. Threats and asylum
มารีน่า กอลบาฮารีและสามีของเธอต้องอาศัยอยู่ในการลี้ภัยในที่พักพิงในประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากเธอได้รับภัยคุกคามถึงชีวิตจำนวนมาก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เธอถูกถ่ายภาพขณะไม่คลุมศีรษะในงานเทศกาลภาพยนตร์แห่งหนึ่งที่ประเทศเกาหลีใต้ การกระทำดังกล่าวซึ่งถือเป็นการใช้เสรีภาพส่วนบุคคล ได้นำไปสู่การคุกคามอย่างรุนแรงจากกลุ่มหัวรุนแรงในอัฟกานิสถาน ทำให้เธอและสามีต้องออกจากบ้านและประเทศเกิด เพื่อแสวงหาความปลอดภัย การลี้ภัยของมารีน่า กอลบาฮารีเน้นย้ำถึงความท้าทายและภัยคุกคามที่ศิลปินและผู้หญิงในอัฟกานิสถานต้องเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงออก ภายใต้อิทธิพลของแนวคิดที่จำกัดสิทธิของสตรีในประเทศ.