1. Early Life and Education
โมริ มาซายูกิ เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 1953 ที่เมืองทตโตริ จังหวัดทตโตริ ประเทศญี่ปุ่น เขาใช้ชีวิตในวัยเด็กและเรียนหนังสือที่เมืองทตโตริจนกระทั่งเรียนจบมัธยมปลาย หลังจากสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมทตโตริ นิชิ เขาก็ได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอาโอยามะ กาคุอิน (青山学院大学Aoyama Gakuin Universityภาษาญี่ปุ่น) โดยสำเร็จการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ในปี ค.ศ. 1976
2. Early Broadcasting Career
ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ โมริ มาซายูกิเริ่มต้นอาชีพในวงการโทรทัศน์ด้วยการเข้าทำงานที่บริษัท Super Produce ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ เขาได้มีส่วนร่วมในการผลิตรายการโทรทัศน์หลายรายการในตำแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับ (AD) และเจ้าหน้าที่วิจัย รวมถึงรายการยอดนิยมอย่าง `みごろ!たべごろ!笑いごろ!` และ `クイズ!!マガジン` ของทีวีอาซาฮี (テレビ朝日TV Asahiภาษาญี่ปุ่น)
ในปี ค.ศ. 1980 เขาได้พบกับบีท ทาเคชิเป็นครั้งแรกในขณะที่ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับรายการ `クイズ!!マガジン` โดยในเวลานั้นทั้งสองเป็นเพียงผู้ดำเนินรายการและทีมงานเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในปี ค.ศ. 1981 โมริได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้กำกับหลักและผู้กำกับในรายการ `アイドルパンチ` ของทีวีอาซาฮี ทำให้เขามีบทบาทสำคัญในการวางแผนและริเริ่มโครงการต่าง ๆ เขายังเป็นผู้ริเริ่มการตั้งชื่อกลุ่มลูกศิษย์ของบีท ทาเคชิว่า "ทาเคชิ กุนดัน" (たけし軍団Takeshi Gundanภาษาญี่ปุ่น) และยังได้วางแผนส่วนของรายการที่เป็นต้นแบบของรายการยอดนิยมในอนาคต เช่น `ガンバルマン` (ในรายการ `スーパージョッキー`) และ `บีท ทาเคชิ โนะ โอวาราย อุลตร้าควิซ` (ビートたけしのお笑いウルトラクイズBeat Takeshi's Owarai Ultra Quizภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากบีท ทาเคชิเป็นอย่างมาก
3. Office Kitano Era
โมริ มาซายูกิมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในยุคสมัยของออฟฟิศคิตาโนะ ตั้งแต่การร่วมก่อตั้ง ไปจนถึงการดำรงตำแหน่งประธานและกิจกรรมในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทและการมองการณ์ไกลในอุตสาหกรรมบันเทิง
3.1. Founding and Early Activities
ในปี ค.ศ. 1988 มีข่าวในหนังสือพิมพ์ออกมาอย่างกะทันหันว่าบีท ทาเคชิจะแยกตัวจากต้นสังกัดเดิม (Ohta Production) และให้โมริ มาซายูกิ ซึ่งเป็นเพื่อนของเขา ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แต่ในความเป็นจริงแล้ว บีท ทาเคชิก็ได้แยกตัวออกมาจริง และโมริ มาซายูกิก็ได้เข้าร่วมในการก่อตั้งบริษัทออฟฟิศคิตาโนะในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1988 โดยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายผลิต (Director of Production) ทั้งนี้ ประธานคนแรกของออฟฟิศคิตาโนะคือ ยูกิโอะ ดาเตะ อดีตประธานบริษัทโทซึ ในช่วงแรก โมริ มาซายูกิมีบทบาทสำคัญในฐานะโปรดิวเซอร์ในภาพยนตร์ที่กำกับโดยคิตาโนะ ทาเคชิ (北野 武Kitano Takeshiภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นชื่อที่บีท ทาเคชิใช้ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์
3.2. Tenure as Office Kitano President
โมริ มาซายูกิเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทออฟฟิศคิตาโนะในปี ค.ศ. 1992 และดำรงตำแหน่งมาอย่างยาวนานจนถึงปี ค.ศ. 2018 ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธาน เขาต้องเผชิญกับสถานการณ์สำคัญหลายครั้ง รวมถึงเหตุการณ์ที่บีท ทาเคชิประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์อย่างรุนแรงในปี ค.ศ. 1994 ซึ่งทำให้ทาเคชิต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โมริ มาซายูกิได้จัดการแถลงข่าวอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน ซึ่งแพร่ภาพออกไปในรายการวาไรตี้ต่าง ๆ และทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ในปี ค.ศ. 2018 โมริ มาซายูกิได้ลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทออฟฟิศคิตาโนะ โดยมีทสึมามิ เอดามาเมะ (つまみ枝豆Tumami Edamameภาษาญี่ปุ่น) ศิลปินในสังกัดเข้ารับตำแหน่งผู้สืบทอด อย่างไรก็ตาม แม้จะลาออกจากตำแหน่งประธานแล้ว เขาก็ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของบริษัทซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท TAP (TAP Co., Ltd.) เพื่อยังคงมีส่วนร่วมในการบริหารและทิศทางของบริษัท
3.3. Film Producer Activities
โมริ มาซายูกิมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ (Film Producer) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผลงานของคิตาโนะ ทาเคชิ หลังจากที่คิตาโนะ ทาเคชิได้ประเดิมงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในเรื่อง `โหดตัดโหด` (その男、凶暴につきSono Otoko, Kyōbō ni Tsukiภาษาญี่ปุ่น) ในปี ค.ศ. 1989 โดยรับหน้าที่กำกับแทนฟุกาซากุ คินจิ (深作欣二Fukasaku Kinjiภาษาญี่ปุ่น) เขาก็เริ่มได้รับข้อเสนอให้กำกับภาพยนตร์มากขึ้น โมริ มาซายูกิ ซึ่งทราบถึงพรสวรรค์ด้านการกำกับและสายตาในการสร้างภาพยนตร์ของทาเคชิมาตั้งแต่สมัยเป็นผู้กำกับรายการโทรทัศน์ ได้ตัดสินใจเริ่มผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ด้วยตนเอง เพื่อให้ "คิตาโนะ ทาเคชิ ศิลปินภาพยนตร์" ซึ่งแตกต่างจาก "บีท ทาเคชิ ดาราโทรทัศน์" สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้
ในตอนแรก บทบาทของเขาเป็นเสมือนผู้จัดการของผู้กำกับ แต่ต่อมาเขาก็ได้เข้ามาบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตและรายได้จากการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ และดำเนินงานในฐานะโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ นอกจากผลงานกำกับของคิตาโนะแล้ว เขายังได้ผลิตภาพยนตร์ของผู้กำกับคนอื่น ๆ ด้วย เช่น `เจ็ดศพ` (七人の弔Nana-nin no Tomuraiภาษาญี่ปุ่น) ที่กำกับโดยดังกัน (ダンカンDuncanภาษาญี่ปุ่น) และ `อิ๊กิไน` (生きないIkinaiภาษาญี่ปุ่น) ที่กำกับโดยชิมิซุ ฮิโรชิ (清水浩Shimizu Hiroshiภาษาญี่ปุ่น)
ประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับทีมงานฮอลลีวูดในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง `โบรเธอร์` (BROTHERBrotherภาษาญี่ปุ่น) ในปี ค.ศ. 2001 ได้สร้างความประหลาดใจให้กับโมริเป็นอย่างมาก ด้วยทัศนคติที่มุ่งเน้นธุรกิจเป็นหลักของคนในฮอลลีวูด ซึ่งทำให้เขาเริ่มมองว่าระบบการผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในญี่ปุ่นนั้น "ไร้ความรับผิดชอบ" ที่มักจะแกล้งทำเป็นศิลปิน และมักจะมองว่าการสร้างภาพยนตร์เป็นการลงทุนที่ไม่มีหลักประกันหรือไม่ต่างจากการพนัน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตั้งเป้าหมายที่จะสร้างสมดุลระหว่างภาพยนตร์ในฐานะผู้สืบทอดทางวัฒนธรรมและภาพยนตร์ในฐานะธุรกิจ
3.4. Resignation and Later Activities
โมริ มาซายูกิได้ลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทออฟฟิศคิตาโนะในปี ค.ศ. 2018 หลังจากดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลา 26 ปี โดยเขายังคงดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารของบริษัท TAP (ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากออฟฟิศคิตาโนะ) บทบาทในปัจจุบันของเขายังคงเป็นผู้บริหารที่สำคัญในการกำหนดทิศทางของบริษัทในยุคหลังการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
4. Personal Aspects and Anecdotes
โมริ มาซายูกิมีแง่มุมส่วนตัวและเรื่องราวที่น่าสนใจหลายอย่างที่สะท้อนถึงบุคลิกที่หลากหลายและความหลงใหลของเขาในด้านต่าง ๆ
4.1. Musical Background and Related Stories
ในสมัยเป็นนักเรียน โมริ มาซายูกิมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักดนตรี เขาเริ่มต้นทำงานพาร์ทไทม์ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายศิลป์ที่ NET TV (ปัจจุบันคือทีวีอาซาฮี) เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในวงการดนตรี แต่ด้วยความสนุกสนานในงานโทรทัศน์ เขาจึงตัดสินใจเข้าทำงานในบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์อย่างเต็มตัวและต้องทิ้งความฝันในการเป็นนักดนตรีไป เขายังคงมีความหลงใหลในกีตาร์ไฟฟ้า และเคยพูดถึงคอลเลคชันกีตาร์และเอฟเฟกต์กีตาร์ที่เขารักในการสัมภาษณ์ต่าง ๆ
เขายังเคยมีส่วนร่วมในการผลิตวิดีโอคอนเสิร์ตของวงเฮฟวีเมทัลชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง LOUDNESS ในฐานะผู้กำกับ และเคยร่วมเดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ตทั่วสหรัฐอเมริกากับวงเป็นเวลาประมาณ 10 วันในปี ค.ศ. 1985 ฟิล์มการแสดงในอเมริกาที่ถ่ายไว้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงนั้นหายไปนานหลายปี แต่ต่อมาได้ถูกค้นพบว่าถูกเก็บไว้ที่ออฟฟิศคิตาโนะ ซึ่งในเวลานั้นโมริดำรงตำแหน่งประธานอยู่ ฟิล์มดังกล่าวจึงถูกนำมาบรรจุในแผ่นดิสก์ของอัลบั้ม `ธันเดอร์อินดิอีสต์` (THUNDER IN THE EASTธันเดอร์ อิน ดิ อีสต์ภาษาอังกฤษ) ฉบับฉลองครบรอบ 30 ปีที่วางจำหน่ายในปี ค.ศ. 2015 นอกจากนี้ โมริยังได้ปรากฏตัวในดีวีดีสารคดีของอัลบั้มดังกล่าว โดยเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ในอดีตที่เกี่ยวข้อง
ครั้งหนึ่ง โมริเคยเสนอโครงการให้กับเทอร์รี่ อิโต (テリー伊藤Terry Itoภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นผู้กำกับรายการ `เทนไซ ทาเคชิ โนะ เกงกิ กะ เดรุ ทีวี!!` (天才・たけしの元気が出るテレビ!!Tensai Takeshi no Genki ga Deru TV!!ภาษาญี่ปุ่น) เพื่อสนับสนุนวงเฮฟวีเมทัลและฮาร์ดร็อกรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น แต่เทอร์รี่ อิโตกลับไม่เข้าใจดนตรีแนวนี้และตีความผิดไปอย่างมาก โดยเน้นไปที่รูปลักษณ์ภายนอกที่รุนแรงและภาพลักษณ์ที่เกินจริงเพื่อสร้างเสียงหัวเราะ ซึ่งกลายเป็นโครงการที่ดูถูกวงดนตรีดังกล่าว
4.2. Character and Anecdotes
บุคลิกของโมริ มาซายูกิสะท้อนผ่านเรื่องราวและพฤติกรรมต่าง ๆ ในวงการบันเทิง เขาจะเรียกชื่อนักแสดงและบุคคลที่รู้จักมาตั้งแต่สมัยเป็นผู้กำกับรายการโทรทัศน์ด้วยคำว่า "ซัง" (さん) เสมอ เช่นเดียวกับบีท ทาเคชิ ซึ่งเขามักจะเรียกว่า "คิตาโนะซัง" หรือ "คันโตะคุ" (ผู้กำกับ) ในขณะที่บีท ทาเคชิก็เรียกเขาว่า "โมริซัง"
ในสมัยที่ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับรายการ `みごろ!たべごろ!笑いごろ!` โมริยังเคยเป็นนักแสดงสวมชุด (Suit Actor) สำหรับตัวละครยอดนิยมอย่าง "เดนเซ็นแมน" (デンセンマンDensenmanภาษาญี่ปุ่น) อีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้มักถูกบีท ทาเคชิและทาเคชิ กุนดันนำมาพูดถึงเป็นมุกตลกอยู่บ่อยครั้ง
ประสบการณ์ในการร่วมงานกับทีมงานฮอลลีวูดในภาพยนตร์เรื่อง `BROTHER` (ค.ศ. 2001) ได้สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งให้กับเขาและส่งผลต่อมุมมองทางธุรกิจของเขาอย่างมาก โดยเขาได้เรียนรู้ว่าในฮอลลีวูดนั้น ธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ซึ่งแตกต่างจากวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่บางครั้งมองการสร้างภาพยนตร์เป็นเพียงงานศิลปะหรือการลงทุนที่เสี่ยง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงพยายามที่จะสร้างสมดุลระหว่างการสร้างภาพยนตร์ในฐานะงานศิลปะและในฐานะธุรกิจให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ญี่ปุ่น
5. Works
โมริ มาซายูกิเป็นผู้เขียนหนังสือหนึ่งเล่มที่ให้มุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับการทำงานและวิสัยทัศน์ของเขาในอุตสาหกรรมบันเทิง
- `อัจฉริยะในร่างโปรดิวเซอร์?` (天才をプロデュース?Tensai o Produce?ภาษาญี่ปุ่น) (จัดพิมพ์เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2007 โดยชินโชฉะ (新潮社Shinchoshaภาษาญี่ปุ่น)) หนังสือเล่มนี้อาจให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปรัชญาการผลิตของโมริ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบริหารจัดการและการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกับผู้กำกับอย่างคิตาโนะ ทาเคชิ
6. Assessment and Impact
โมริ มาซายูกิเป็นบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการโทรทัศน์และภาพยนตร์ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการบริหารงานที่ออฟฟิศคิตาโนะและการเป็นผู้สร้างภาพยนตร์คู่กับคิตาโนะ ทาเคชิ
เขาได้ทุ่มเทในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความบันเทิง แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าทางศิลปะ โดยพยายามสร้างสมดุลระหว่างศิลปะและธุรกิจ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ก้าวหน้าและจำเป็นในวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่มักจะแยกสองสิ่งนี้ออกจากกันอย่างชัดเจน การที่เขายืนหยัดผลิตภาพยนตร์ที่เน้นคุณภาพและวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนศิลปินอย่างแท้จริง
ในแง่ของผลกระทบเชิงบวก โมริ มาซายูกิมีส่วนสำคัญในการผลักดันผลงานภาพยนตร์ของคิตาโนะ ทาเคชิให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ทำให้ภาพยนตร์ญี่ปุ่นได้รับการยอมรับและสร้างชื่อเสียงในเวทีโลก อย่างไรก็ตาม การบริหารงานที่เข้มงวดและแนวคิดที่เน้นธุรกิจอาจถูกมองว่าเป็นข้อถกเถียงสำหรับผู้ที่ต้องการให้วงการภาพยนตร์คงไว้ซึ่งอิสระทางศิลปะอย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยปัจจัยทางธุรกิจ แต่ถึงกระนั้น วิสัยทัศน์ของโมริ มาซายูกิก็มีส่วนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการและสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเป็นโปรดิวเซอร์ที่ต้องมีความรับผิดชอบทั้งต่อศิลปะและต่อการเงินไปพร้อมกัน
7. External Links
- [https://www.office-kitano.co.jp เว็บไซต์ทางการของบริษัท TAP (อดีตออฟฟิศคิตาโนะ)]
- [https://www.imdb.com/name/nm0605271/ มาซายูกิ โมริ ที่ IMDb]
- [https://www.allcinema.net/person/127740 มาซายูกิ โมริ ที่ allcinema]
- [https://www.kinejun.jp/person/122426/ มาซายูกิ โมริ ที่ Kinejun]
- [https://www.jmdb.ne.jp/person/p0198510.htm มาซายูกิ โมริ ที่ JMDB]