1. Overview
ดูกัลด์ ลิฟวิงสโตน (Dugald Livingstoneดูกัลด์ ลิฟวิงสโตนภาษาอังกฤษ) เกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1898 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 1981 เป็นนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ผู้มีอาชีพที่โดดเด่นทั้งในฐานะผู้เล่นตำแหน่งกองหลังและผู้นำทีมฟุตบอลหลายสโมสรและทีมชาติ บทบาทของเขาในฐานะผู้จัดการทีมมักสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ทางแท็กติกที่ก้าวหน้า และบางครั้งก็เผชิญหน้ากับอุปสรรคจากอำนาจบริหารของสโมสร อาชีพของเขาเป็นตัวอย่างของการพัฒนาวงการฟุตบอลในยุคกลางศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำทีมชาติเบลเยียมเข้าสู่ ฟุตบอลโลก 1954 และการคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในปี ค.ศ. 1955 แม้จะมีความตึงเครียดกับคณะกรรมการบริหารสโมสรในเรื่องการตัดสินใจเกี่ยวกับผู้เล่นก็ตาม
2. Early life and playing career
ดูกัลด์ ลิฟวิงสโตนเริ่มต้นเส้นทางในวงการฟุตบอลตั้งแต่วัยหนุ่มสาวในฐานะนักฟุตบอลตำแหน่งกองหลัง ก่อนที่จะผันตัวเข้าสู่อาชีพผู้จัดการทีมในเวลาต่อมา
2.1. Early life
ดูกัลด์ ลิฟวิงสโตน เกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1898 ที่ สกอตแลนด์ ไม่มีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับภูมิหลังหรือชีวิตในวัยเด็กของเขามากนัก แต่เขาก็ได้เริ่มต้นเส้นทางอาชีพในวงการฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย
2.2. Playing career
ดูกัลด์ ลิฟวิงสโตน เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลในตำแหน่ง กองหลังตัวเต็ม เขาได้เล่นให้กับหลายสโมสรตลอดระยะเวลาในฐานะนักฟุตบอล อาชีพค้าแข้งของเขาเริ่มต้นกับสโมสรฟุตบอลขนาดเล็กในสกอตแลนด์ เช่น พาร์กเฮด และ แอชฟิลด์ ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมใหญ่ที่มีชื่อเสียงอย่าง เซลติก ซึ่งเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักฟุตบอลของเขา โดยเขาสามารถคว้าแชมป์ สกอตติชลีก ได้ในฤดูกาล 1918-1919
หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรอื่น ๆ อีกหลายแห่ง รวมถึงการยืมตัวไปเล่นกับ ดัมบาร์ตัน รวมถึงสโมสรในอังกฤษอย่าง เอฟเวอร์ตัน, พลีมัท อาร์ไกล์, แอเบอร์ดีน และ ทรานเมียร์ โรเวอส์ ก่อนที่เขาจะยุติบทบาทในฐานะนักฟุตบอลและผันตัวเข้าสู่อาชีพผู้จัดการทีม
3. Managerial career
ดูกัลด์ ลิฟวิงสโตน มีอาชีพผู้จัดการทีมที่ยาวนานและครอบคลุมทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ เขามักจะนำเสนอแนวคิดทางแท็กติกใหม่ ๆ และเผชิญกับความท้าทายจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในการทำงาน
3.1. Sparta Rotterdam
ในปี ค.ศ. 1949 ถึง ค.ศ. 1950 ดูกัลด์ ลิฟวิงสโตน ได้รับโอกาสในการเป็นผู้จัดการทีมของ สปาร์ตา รอตเทอร์ดาม สโมสรฟุตบอลของประเทศ เนเธอร์แลนด์ ช่วงเวลาของเขาที่นี่เป็นก้าวแรกที่สำคัญในเส้นทางอาชีพผู้จัดการทีมในต่างประเทศ ก่อนที่เขาจะได้รับความไว้วางใจให้คุมทีมในระดับที่สูงขึ้น
3.2. Republic of Ireland National Team
ระหว่างปี ค.ศ. 1951 ถึง ค.ศ. 1953 ลิฟวิงสโตนได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีมชาติของ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญที่ทำให้เขามีประสบการณ์ในการจัดการทีมในระดับนานาชาติ ก่อนที่เขาจะย้ายไปคุมทีมชาติอื่น ๆ ในเวลาต่อมา
3.3. Belgium National Team
หลังจากออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ดูกัลด์ ลิฟวิงสโตน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชาติของ เบลเยียม ในปี ค.ศ. 1953 เขามีบทบาทสำคัญในการนำทีมเบลเยียมเข้าสู่การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 1954 ที่ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์
ในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนั้น เบลเยียมได้สร้างผลงานที่น่าจดจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสมอแบบดุเดือดกับ อังกฤษ ด้วยสกอร์ 4-4 ในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีมภายใต้การคุมทีมของลิฟวิงสโตน ทีมชาติเบลเยียมชุดฟุตบอลโลก 1954 ภายใต้การนำของเขา ประกอบด้วยผู้เล่นดังต่อไปนี้:
หมายเลข | ตำแหน่ง | ผู้เล่น |
---|---|---|
1 | ผู้รักษาประตู | เกอร์นาย |
2 | กองหลัง | ดรีส์ |
3 | กองหลัง | ฟัน บรันท์ |
4 | กองหลัง | ฮุยส์มันส์ |
5 | กองหลัง | กาเร |
6 | กองกลาง | มีส์ |
7 | กองหน้า | ฟลิเยร์ส |
8 | กองกลาง | ฮูฟ |
9 | กองหน้า | คอปเปนส์ |
10 | กองหน้า | อานูล |
11 | กองหน้า | เมอร์แมนส์ (กัปตันทีม) |
12 | กองกลาง | เกียร์ตส์ |
13 | กองหลัง | ดีริกซ์ |
14 | กองหลัง | ฟัน เคอร์โคเฟน |
15 | กองหน้า | ฮิปโปลีต ฟัน เดน บอส |
16 | กองหน้า | ปีเตอร์ ฟัน เดน บอส |
17 | ผู้รักษาประตู | ออสลูส |
18 | กองหน้า | ฟัน เดอร์ ลินเดน |
19 | กองหน้า | บาแกร์ต |
20 | กองกลาง | มาร์เตนส์ |
21 | กองหน้า | ฟัน สตีน |
22 | กองหน้า | ฟัน ฮอยเวเกน |
3.4. Newcastle United
หลังจากประสบความสำเร็จกับการคุมทีมชาติเบลเยียม ดูกัลด์ ลิฟวิงสโตน ได้ย้ายมาคุมทีม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในปี ค.ศ. 1954 ช่วงแรกของการคุมทีม แฟนบอลและเจ้าหน้าที่บางส่วนมีความกังวลว่าแท็กติกของเขาจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับของ จอร์จ มาร์ติน ผู้จัดการทีมคนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ข้อสงสัยเหล่านี้ก็หมดไปเมื่อเขานำทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1955 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของสโมสร
แม้จะประสบความสำเร็จ แต่ลิฟวิงสโตนก็ประสบปัญหาความสัมพันธ์กับคณะกรรมการบริหารของสโมสร คณะกรรมการบริหารของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดมีอำนาจในการตัดสินใจเลือกผู้เล่นที่จะลงสนามในแต่ละนัด ซึ่งขัดกับความต้องการของลิฟวิงสโตนในการจัดตัวผู้เล่นตามแนวคิดของเขาเอง โดยมีกรณีที่โดดเด่นคือการที่คณะกรรมการสั่งให้ส่ง แจ็กกี้ มิลเบิร์น ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ทั้งที่ลิฟวิงสโตนไม่ต้องการให้เขาลงสนามในนัดนั้น อย่างไรก็ตาม มิลเบิร์นก็สามารถทำประตูได้ในเกมดังกล่าว
เป็นที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าลิฟวิงสโตนไม่พอใจอย่างมากกับการที่คณะกรรมการมีอิทธิพลมากเกินไปต่อการตัดสินใจเรื่องทีมชุดใหญ่ แม้ว่าเขาจะไม่เคยกล่าวถึงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการก็ตาม ความขัดแย้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างวิสัยทัศน์ของผู้จัดการทีมผู้มีอำนาจทางแท็กติก กับการแทรกแซงจากฝ่ายบริหารที่ไม่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลโดยตรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและการตัดสินใจทางฟุตบอล เขาออกจากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดในปี ค.ศ. 1956
3.5. Later managerial roles
หลังจากที่ออกจากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ดูกัลด์ ลิฟวิงสโตน ยังคงดำเนินอาชีพผู้จัดการทีมต่อไป เขาเข้าคุมทีม ฟูลัม ระหว่างปี ค.ศ. 1956 ถึง ค.ศ. 1958 และหลังจากนั้นก็ย้ายไปคุมทีม เชสเตอร์ฟิลด์ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1962 ซึ่งเป็นบทบาทผู้จัดการทีมสุดท้ายของเขา
4. Honours
ดูกัลด์ ลิฟวิงสโตน ได้รับเกียรติยศและถ้วยรางวัลสำคัญตลอดอาชีพทั้งในฐานะนักฟุตบอลและผู้จัดการทีม ดังนี้:
- ในฐานะนักฟุตบอล
- สกอตติชลีก: 1918-1919 (กับ เซลติก)
- ในฐานะผู้จัดการทีม
- เอฟเอคัพ: 1954-1955 (กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด)
5. Death
ดูกัลด์ ลิฟวิงสโตน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 1981 ด้วยอายุ 82 ปี
6. External links
- [http://www.greensonscreen.co.uk/gosdb-players2.asp?pid=494&scp=1,2,3,4,5,6,7 ข้อมูลส่วนตัวของดูกัลด์ ลิฟวิงสโตนในพลีมัท อาร์ไกล์]