1. Overview

ดมิทรี เยฟเกนเยวิช ตอร์บินสกี (Дмитрий Евгеньевич ТорбинскийDmitri Yevgenyevich Torbinskiภาษารัสเซีย; เกิดวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1984 ที่เมืองโนริลสก์ สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตรัสเซีย) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวรัสเซียผู้เคยเล่นในตำแหน่งกองกลาง โดยเป็นที่รู้จักในฐานะกองกลางตัวกลางและปีกที่มีความเร็วและเปิดบอลได้อย่างแม่นยำ หลังจากการแขวนสตั๊ด เขาได้ผันตัวมาเป็นโค้ช และปัจจุบันทำหน้าที่เป็นโค้ชทีมเยาวชนของไมอามี ยูไนเต็ด เอฟซี ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ตอร์บินสกีเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลจากการเป็นผู้เล่นฟุตซอลก่อนที่จะเปลี่ยนมาเล่นฟุตบอลและเข้าร่วมสถาบันเยาวชนของสปาร์ตัก มอสโก เขาใช้เวลาหลายปีในทีมสำรองก่อนที่จะได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ในปี ค.ศ. 2002 เขาได้รับโอกาสเป็นผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ในปี ค.ศ. 2003 แต่ถูกจำกัดโอกาสลงสนามเนื่องจากอาการบาดเจ็บรุนแรงในปี ค.ศ. 2004 ซึ่งทำให้เขาลงสนามเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ในช่วงอาชีพของเขาในระดับสโมสร ตอร์บินสกีเคยเล่นให้กับหลายสโมสรที่สำคัญในรัสเซียพรีเมียร์ลีก รวมถึงสปาร์ตัก มอสโก, โลโคโมทีฟ มอสโก, รูบิน คาซาน, รอสตอฟ และครัสโนดาร์ นอกจากนี้เขายังมีประสบการณ์ในต่างแดนกับพาฟอส เอฟซี ในไซปรัส และกลับมาเล่นให้กับสโมสรในรัสเซียอีกครั้งก่อนจะยุติอาชีพค้าแข้ง
ในระดับทีมชาติ ตอร์บินสกีเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติรัสเซียและมีบทบาทสำคัญในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 (ยูโร 2008) ซึ่งทีมชาติรัสเซียคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จ เขาทำประตูสำคัญในรอบก่อนรองชนะเลิศกับเนเธอร์แลนด์ ซึ่งช่วยให้รัสเซียผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้
2. Player Career
ดมิทรี ตอร์บินสกี มีเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลที่ยาวนานและหลากหลาย ทั้งในระดับสโมสรชั้นนำของรัสเซียและในระดับทีมชาติ โดยมีช่วงเวลาสำคัญที่สร้างชื่อเสียงและประสบความสำเร็จ
2.1. Early Life and Youth Career
ดมิทรี ตอร์บินสกี เกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1984 ที่เมืองโนริลสก์ เขาสนใจกีฬาตั้งแต่ยังเด็กและเริ่มต้นเส้นทางในโลกฟุตบอลด้วยการเป็นผู้เล่นฟุตซอล ซึ่งเป็นกีฬาที่เน้นการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วและเทคนิคเฉพาะตัว ความสามารถในการเคลื่อนไหวที่พลิกแพลงและเทคนิคที่แม่นยำจากการเล่นฟุตซอลได้กลายเป็นจุดเด่นของเขาในภายหลัง เมื่อเขาตัดสินใจเปลี่ยนมาเล่นฟุตบอลในรูปแบบ 11 คน เขาได้เข้าร่วมสถาบันเยาวชนของสปาร์ตัก มอสโก ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันฝึกฟุตบอลที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัสเซีย ตั้งแต่อายุยังน้อย
หลังจากใช้เวลาหลายปีในการฝึกฝนและพัฒนาฝีเท้าในทีมสำรองของสปาร์ตัก มอสโก ตอร์บินสกีก็ได้รับโอกาสประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของสโมสรในปี ค.ศ. 2002 ในปีถัดมา ค.ศ. 2003 เขายังคงได้รับโอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลงเล่น 4 นัดในรัสเซียนพรีเมียร์ลีกคัพ แม้ว่าจำนวนการลงสนามจะยังไม่มากนัก แต่เขาก็แสดงศักยภาพของตัวเองออกมา อย่างไรก็ตาม อาชีพในช่วงเริ่มต้นของเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญในปี ค.ศ. 2004 เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เขาพลาดโอกาสลงสนามไปเกือบตลอดทั้งปี และได้ลงเล่นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
2.2. Club Career
ดมิทรี ตอร์บินสกี มีอาชีพการค้าแข้งที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยได้เล่นให้กับหลายสโมสรชั้นนำในรัสเซียและมีประสบการณ์ในต่างแดนด้วย
2.2.1. Spartak Moscow (First Period and Loan)
หลังจากกลับมาจากอาการบาดเจ็บในปี ค.ศ. 2005 ดมิทรี ตอร์บินสกี ถูกส่งไปเล่นให้กับสปาร์ตัก เชเลียบินสค์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในรัสเซียนฟุตบอลเนชันแนลลีก (ลีกรองของรัสเซีย) ด้วยสัญญายืมตัว การย้ายทีมครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้เขาได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและฝีเท้า ซึ่งเขาก็ทำได้ดี โดยลงสนามไป 24 นัดและยิงได้ 4 ประตูในฤดูกาลนั้น การที่เขาได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องในสปาร์ตัก เชเลียบินสค์ ทำให้เขากลับมามีความมั่นใจและฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อสิ้นสุดสัญญายืมตัว ตอร์บินสกีได้กลับมาร่วมทีมสปาร์ตัก มอสโกอีกครั้งในปี ค.ศ. 2005 แม้ว่าจะยังไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนักในช่วงต้นของการกลับมา แต่เขาก็เริ่มสร้างผลงานได้อย่างสม่ำเสมอมากขึ้นในฤดูกาลต่อมา โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 2006 และ ค.ศ. 2007 สปาร์ตัก มอสโกประสบความสำเร็จในการคว้ารองแชมป์รัสเซียนพรีเมียร์ลีก 2 ฤดูกาลติดต่อกัน (2006 และ 2007) นอกจากนี้ สโมสรยังเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรัสเซียนคัพในปี ค.ศ. 2006 และรอบสี่ทีมสุดท้ายในปี ค.ศ. 2007 ตอร์บินสกีมีบทบาทสำคัญในการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศรัสเซียนคัพในปี ค.ศ. 2003 ซึ่งสปาร์ตัก มอสโกสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ในช่วงปลายปี ค.ศ. 2007 ตอร์บินสกีได้หมดสัญญากับสปาร์ตัก มอสโกและตัดสินใจย้ายออกจากสโมสรแบบไร้ค่าตัว โดยในฤดูกาล 2007 นั้น เขายังได้ลงเล่นในรัสเซียนซูเปอร์คัพอีก 1 นัดด้วย
2.2.2. Lokomotiv Moscow
หลังจากออกจากสปาร์ตัก มอสโกแบบไม่มีค่าตัว ดมิทรี ตอร์บินสกี ได้เซ็นสัญญากับโลโคโมทีฟ มอสโก ทีมร่วมเมืองแห่งรัสเซียนพรีเมียร์ลีก ในปี ค.ศ. 2008 ที่นี่เขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมและสร้างผลงานได้อย่างสม่ำเสมอ ตอร์บินสกีเล่นให้กับโลโคโมทีฟ มอสโกเป็นระยะเวลา 5 ฤดูกาลจนถึงปี ค.ศ. 2013 ตลอดช่วงเวลาที่เขาอยู่กับสโมสร เขาลงสนามรวม 115 นัดในทุกรายการและทำได้ 8 ประตู ซึ่งรวมถึงการลงสนาม 1 นัดในรัสเซียนซูเปอร์คัพในปี ค.ศ. 2008
ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับโลโคโมทีฟ มอสโก ทีมมีผลงานที่ดีในรัสเซียนพรีเมียร์ลีก โดยสามารถจบอันดับที่ 4 ได้ในปี ค.ศ. 2009 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีมในการแข่งขันระดับสูง นอกจากนี้ โลโคโมทีฟ มอสโกยังเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศรัสเซียนคัพในฤดูกาล ค.ศ. 2011-ค.ศ. 2012 การมีส่วนร่วมของตอร์บินสกีทั้งในด้านการทำประตูและบทบาทในเกมรุกและรับ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จในช่วงนั้น
2.2.3. Later Club Career and Retirement
หลังจากหมดสัญญากับโลโคโมทีฟ มอสโก ในปี ค.ศ. 2013 ดมิทรี ตอร์บินสกี ได้ย้ายไปร่วมทีมรูบิน คาซาน ในฤดูกาล ค.ศ. 2013-ค.ศ. 2014 ซึ่งเขาได้ลงสนามไป 29 นัดและทำได้ 2 ประตู หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 2014 เขาย้ายไปร่วมทีมรอสตอฟ และลงเล่นในฤดูกาล ค.ศ. 2014-ค.ศ. 2015 โดยลงสนามไป 32 นัดและยิงได้ 2 ประตู ซึ่งรวมถึงการลงสนาม 1 นัดในรัสเซียนซูเปอร์คัพ และ 2 นัดในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นตกชั้น
ในปี ค.ศ. 2015 ตอร์บินสกีได้ย้ายไปร่วมทีมครัสโนดาร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาได้สร้างผลงานที่โดดเด่นอีกครั้ง เขาเล่นให้กับครัสโนดาร์เป็นเวลา 2 ฤดูกาล (2015-2016 และ 2016-2017) โดยลงสนามรวม 45 นัด ตลอดสองฤดูกาลนี้ ครัสโนดาร์สามารถจบอันดับที่ 4 ในรัสเซียนพรีเมียร์ลีก 2 ฤดูกาลติดต่อกัน นอกจากนี้ ทีมยังเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรัสเซียนคัพในปี ค.ศ. 2015-ค.ศ. 2016 และผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในยูฟ่ายูโรปาลีก 2016-17 ซึ่งเป็นผลงานที่น่าประทับใจในระดับทวีป
หลังจากออกจากครัสโนดาร์ ในวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ตอร์บินสกีได้เซ็นสัญญากับพาฟอส เอฟซี สโมสรในไซปรัสเฟิสต์ดิวิชัน อย่างไรก็ตาม เขาลงเล่นให้กับสโมสรเพียง 3 นัดเท่านั้น ก่อนที่จะกลับมายังรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เพื่อเซ็นสัญญากับบัลตีกา คาลินินกราด
ในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2018 ตอร์บินสกีได้กลับมาเล่นในรัสเซียนพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง โดยเซ็นสัญญาระยะเวลาหนึ่งปีกับเยนิเซย์ ครัสโนยาร์สก์ ซึ่งเป็นสโมสรสุดท้ายในอาชีพนักฟุตบอลของเขา เขาลงสนามให้กับเยนิเซย์ 14 นัดและยิงได้ 1 ประตู ก่อนที่จะยุติอาชีพนักฟุตบอลอย่างเป็นทางการเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ค.ศ. 2018-ค.ศ. 2019 รวมระยะเวลา 18 ปีในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ
2.3. International Career

ดมิทรี ตอร์บินสกี ได้รับโอกาสประเดิมสนามกับทีมชาติรัสเซียชุดใหญ่เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2007 ในการแข่งขันนัดกระชับมิตรกับทีมชาติเอสโตเนีย หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถูกเรียกตัวติดทีมชาติรัสเซียเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 (ยูโร 2008)
ตอร์บินสกีสร้างชื่อเสียงในยูโร 2008 เมื่อเขาลงสนามเป็นตัวสำรองในรอบก่อนรองชนะเลิศ พบกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมเต็งของทัวร์นาเมนต์ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เขาสามารถทำประตูที่สองให้กับรัสเซียได้ ทำให้ทีมขึ้นนำ 2-1 ประตูนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชัยชนะของรัสเซีย ซึ่งสุดท้ายเอาชนะไปได้ 3-1 และผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ในการแข่งขันยูโร 2008 นี้ ทีมชาติรัสเซียคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จ
หลังจากยูโร 2008 ตอร์บินสกีไม่ได้รับโอกาสลงสนามให้กับทีมชาติบ่อยนัก โดยเฉพาะในช่วงปี ค.ศ. 2012 ถึง ค.ศ. 2014 เขาได้กลับมาติดทีมชาติอีกครั้งเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2015 ในการแข่งขันรอบคัดเลือกยูโร 2016 พบกับทีมชาติมอนเตเนโกร อย่างไรก็ตาม การแข่งขันดังกล่าวถูกยกเลิกด้วยสกอร์ 0-0 เนื่องจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของแฟนบอลมอนเตเนโกร
ตอร์บินสกีถูกเรียกตัวติดทีมชาติรัสเซียในชุดยูโร 2016 โดยได้รับเสื้อหมายเลข 20 ซึ่งเป็นหมายเลขเดียวกับที่เขาใส่ในยูโร 2008 แม้ว่าอลัน จาโกเยฟ ผู้เล่นคนสำคัญจะได้รับบาดเจ็บกระดูกฝ่าเท้าแตกและต้องถอนตัวออกจากทีม ทำให้ตอร์บินสกีถูกเรียกมาแทน แต่เขาก็ไม่ได้รับโอกาสลงสนามในเกมใด ๆ ในทัวร์นาเมนต์นั้น และทีมชาติรัสเซียก็ตกรอบแบ่งกลุ่มไปอย่างน่าผิดหวัง
2.3.1. International Goals
ตารางบันทึกการทำประตูของดมิทรี ตอร์บินสกีในนามทีมชาติรัสเซีย:
# | วันที่ | สถานที่จัดการแข่งขัน | คู่แข่งขัน | คะแนน | ผลการแข่งขัน | รายละเอียดการแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 | สนามกีฬาโลโคโมทีฟ, มอสโก, รัสเซีย | คาซัคสถาน | 5-0 | 6-0 | ฟุตบอลกระชับมิตร |
2. | 21 มิถุนายน ค.ศ. 2008 | ชตาดต์ซังคท์ยาค็อพ-พาร์ค, บาเซิล, สวิตเซอร์แลนด์ | เนเธอร์แลนด์ | 2-1 | 3-1 | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 |
3. Coaching Career
หลังจากยุติอาชีพนักฟุตบอลในสิ้นสุดฤดูกาล ค.ศ. 2018-ค.ศ. 2019 ดมิทรี ตอร์บินสกี ได้ผันตัวเข้าสู่เส้นทางอาชีพโค้ช ในปี ค.ศ. 2020 เขาได้ย้ายไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าโค้ชของทีมไมอามี ยูไนเต็ด เอฟซี ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ซึ่งเป็นทีมที่อยู่ในเนชันแนล พรีเมียร์ ซอกเกอร์ ลีก (NPSL) ของสหรัฐฯ บทบาทนี้ถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิตของเขาในฐานะผู้ฝึกสอนฟุตบอล โดยนำประสบการณ์อันยาวนานจากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาถ่ายทอดให้กับนักเตะรุ่นเยาว์
4. Personal Life
ดมิทรี ตอร์บินสกี ได้สมรสกับภรรยาของเขาชื่อ เอฟเกนียา เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 งานแต่งงานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และมีเพื่อนสนิทในวงการฟุตบอลหลายคนเข้าร่วมแสดงความยินดี อาทิ ดินยาร์ บิลยาลิตดินอฟ, ดมิทรี ซิเชฟ และราโดสลาฟ โควัช ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมและผู้เล่นที่ตอร์บินสกีมีความผูกพันด้วย หลังจากแต่งงานแล้ว ในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 ตอร์บินสกีและภรรยาก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรก ซึ่งพวกเขาตั้งชื่อให้ว่า อาร์เต็ม
5. Honors
ดมิทรี ตอร์บินสกี ได้รับเกียรติยศและถ้วยรางวัลสำคัญมากมายตลอดอาชีพค้าแข้งของเขา ทั้งในระดับสโมสรและในระดับทีมชาติ
5.1. Club Honors
- สปาร์ตัก มอสโก
- รองแชมป์รัสเซียนพรีเมียร์ลีก: ค.ศ. 2006, ค.ศ. 2007
- แชมป์รัสเซียนคัพ: ค.ศ. 2003
- รองแชมป์รัสเซียนคัพ: ค.ศ. 2006
- สี่ทีมสุดท้ายรัสเซียนคัพ: ค.ศ. 2007
- โลโคโมทีฟ มอสโก
- อันดับที่ 4 รัสเซียนพรีเมียร์ลีก: ค.ศ. 2009
- ครัสโนดาร์
- อันดับที่ 4 รัสเซียนพรีเมียร์ลีก: ค.ศ. 2015-ค.ศ. 2016, ค.ศ. 2016-ค.ศ. 2017
- สี่ทีมสุดท้ายรัสเซียนคัพ: ค.ศ. 2015-ค.ศ. 2016
5.2. International Honors
- ทีมชาติรัสเซีย
- เหรียญทองแดง ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป: ค.ศ. 2008
6. Career Statistics
ตารางสถิติการแข่งขันของดมิทรี ตอร์บินสกีตลอดอาชีพค้าแข้งในระดับสโมสรและทีมชาติ:
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ถ้วยภายในประเทศ | ฟุตบอลถ้วยยุโรป | อื่น ๆ | รวมทั้งหมด | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ||
สปาร์ตัก มอสโก | 2001 | พรีเมียร์ลีก | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 |
2002 | 3 | 0 | 1 | 0 | 2 | 0 | 0 | 0 | 6 | 0 | ||
2003 | 3 | 0 | 2 | 0 | 2 | 0 | 4 | 0 | 11 | 0 | ||
2004 | 0 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | ||
สปาร์ตัก เชเลียบินสค์ | 2005 | FNL | 24 | 4 | 1 | 0 | - | - | 25 | 4 | ||
สปาร์ตัก มอสโก | 2005 | พรีเมียร์ลีก | 0 | 0 | 0 | 0 | - | - | 0 | 0 | ||
2006 | 13 | 0 | 2 | 0 | 3 | 0 | 0 | 0 | 18 | 0 | ||
2007 | 24 | 3 | 6 | 1 | 8 | 0 | 1 | 1 | 39 | 5 | ||
รวม (สองช่วง) | 43 | 3 | 12 | 1 | 15 | 0 | 5 | 1 | 75 | 5 | ||
โลโคโมทีฟ มอสโก | 2008 | พรีเมียร์ลีก | 20 | 3 | 1 | 0 | - | 1 | 0 | 22 | 3 | |
2009 | 17 | 1 | 0 | 0 | - | - | 17 | 1 | ||||
2010 | 17 | 0 | 0 | 0 | 2 | 0 | - | 19 | 0 | |||
2011-12 | 34 | 1 | 2 | 0 | 5 | 0 | - | 41 | 1 | |||
2012-13 | 15 | 3 | 1 | 0 | - | - | 16 | 3 | ||||
2013-14 | 0 | 0 | 0 | 0 | - | - | 0 | 0 | ||||
รวม | 103 | 8 | 4 | 0 | 7 | 0 | 1 | 0 | 115 | 8 | ||
รูบิน คาซาน | 2013-14 | พรีเมียร์ลีก | 19 | 1 | 1 | 0 | 9 | 1 | - | 29 | 2 | |
รอสตอฟ | 2014-15 | 27 | 2 | 0 | 0 | 2 | 0 | 3 | 0 | 32 | 2 | |
ครัสโนดาร์ | 2015-16 | 15 | 0 | 2 | 0 | 7 | 0 | - | 24 | 0 | ||
2016-17 | 12 | 0 | 1 | 0 | 8 | 0 | - | 21 | 0 | |||
รวม | 27 | 0 | 3 | 0 | 15 | 0 | 0 | 0 | 45 | 0 | ||
พาฟอส เอฟซี | 2017-18 | เฟิสต์ดิวิชัน | 3 | 0 | 0 | 0 | - | - | 3 | 0 | ||
รวมอาชีพ | 246 | 18 | 21 | 1 | 48 | 1 | 9 | 1 | 324 | 21 | ||