1. ภาพรวม
ชิน นากามูระ (中村 伸นากามูระ ชินภาษาญี่ปุ่น เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1974) เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวญี่ปุ่นในตำแหน่งกองกลาง มีความสูง 170 cm และน้ำหนัก 62 kg ถนัดเท้าซ้าย ปัจจุบันเป็นผู้ฝึกสอนฟุตบอล เขาเป็นที่รู้จักจากการเล่นให้กับสโมสร สากัน โทซุ และ เวกัลตะ เซนได ในอาชีพนักฟุตบอลอาชีพของเขา หลังเกษียณจากการเป็นผู้เล่น เขายังคงมีบทบาทสำคัญในวงการฟุตบอลญี่ปุ่นในฐานะผู้ฝึกสอน โดยดำรงตำแหน่งต่างๆ ทั้งในทีมเยาวชนและทีมชุดใหญ่ รวมถึงเคยเป็นผู้จัดการทีมคนแรกของสโมสรฟุตบอลหญิง ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า เรจิน่า ใน วีลีก และปัจจุบันกลับมาเป็นผู้ฝึกสอนของทีมชาย ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า อีกครั้ง
2. ชีวิตช่วงต้นและภูมิหลัง
ชิน นากามูระ เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1974 ที่จังหวัดโอซากะ ประเทศญี่ปุ่น
2.1. วัยเด็กและการศึกษา
นากามูระเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลกับ สโมสรฟุตบอลคาตาโนะ (Katano FC) ในช่วงวัยเด็ก หลังจากนั้นเขาได้เข้าศึกษาที่ โรงเรียนมัธยมปลายโทไกยูนิเวอร์ซิตีเกียวเซย์ (Tokai University Gyosei High School) ตั้งแต่ปี 1990 ถึง 1992 และต่อมาได้เข้าศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยโดชิชะ (Doshisha University) ตั้งแต่ปี 1993 ถึง 1996 ซึ่งเขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้
3. อาชีพนักฟุตบอล
ชิน นากามูระมีอาชีพนักฟุตบอลอาชีพในตำแหน่งกองกลางตัวรับ โดยเล่นให้กับสองสโมสรหลักในญี่ปุ่น ได้แก่ สากัน โทซุ และเวกัลตะ เซนได ก่อนที่จะเกษียณในปี 2002
3.1. สากัน โทซุ
ในปี 1997 หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโดชิชะ ชิน นากามูระได้เข้าร่วมสโมสร สากัน โทซุ ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ใน เจแปนฟุตบอลลีก (1992-98) (Japan Football League หรือ JFL) ซึ่งเป็นลีกฟุตบอลระดับสองของญี่ปุ่นในขณะนั้น สากัน โทซุเป็นทีมที่ก่อตั้งขึ้นใหม่หลังจากที่สโมสร โทซุ ฟิวเจอร์ส (Tosu Futures) ได้ถูกยุบไป นากามูระได้แสดงบทบาทสำคัญในฐานะกองกลางตัวรับหลักตั้งแต่ฤดูกาลแรกของเขากับทีม ในปี 1999 เมื่อ JFL ได้รับการจัดโครงสร้างใหม่เป็น เจลีก 2 (J2 League) สากัน โทซุได้เข้าร่วมในฐานะหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งของ J2 นากามูระยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม และในวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1999 เขาทำประตูแรกในเจลีกได้ในการแข่งขัน J2 กับ เวนท์ฟอเรท โคฟุ (Ventforet Kofu) ซึ่งมีส่วนช่วยให้สากัน โทซุคว้าชัยชนะครั้งแรกในเจลีกได้สำเร็จ
3.2. เวกัลตะ เซนได
ในปี 2001 ชิน นากามูระย้ายไปร่วมทีม เวกัลตะ เซนได ซึ่งขณะนั้นอยู่ใน เจลีก 2 (J2 League) ที่นี่เขายังคงรักษาบทบาทกองกลางตัวรับหลัก โดยร่วมกับ เซลโซ วิเอรา (Celso Vieira) หรือ นาโอกิ ชิบะ (Naoki Chiba) นากามูระมีส่วนสำคัญที่ทำให้สโมสรจบอันดับที่สองในฤดูกาล 2001 และได้รับการเลื่อนชั้นสู่ เจลีก 1 (J1 League) ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของญี่ปุ่นในปี 2002 อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2002 เวกัลตะ เซนไดได้เสริมผู้เล่นใหม่จำนวนมาก ทำให้เขามีโอกาสลงเล่นน้อยลง โดยต้องแข่งขันกับผู้เล่นใหม่อย่าง ฮาจิเมะ โมริยาซุ (Hajime Moriyasu) และ ซิลวินโญ (Sílvio José Canuto) นากามูระตัดสินใจเกษียณจากการเป็นผู้เล่นอาชีพเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2002
4. อาชีพโค้ช
หลังจากการเกษียณจากอาชีพนักฟุตบอล ชิน นากามูระได้ผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอนฟุตบอล โดยเริ่มต้นจากทีมเยาวชนและก้าวขึ้นสู่บทบาทโค้ชทีมชุดใหญ่ในหลายสโมสร
4.1. เวกัลตะ เซนได
ในปี 2003 นากามูระได้กลับมาร่วมงานกับ เวกัลตะ เซนได ในฐานะโค้ชทีมเยาวชน โดยทำหน้าที่เป็นโค้ชเยาวชนตั้งแต่ปี 2003 ถึง 2006 และเป็นโค้ชทีมจูเนียร์ยูธระหว่างปี 2007 ถึง 2008 หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมจูเนียร์ยูธของเวกัลตะ เซนไดตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2011 ในปี 2012 เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นโค้ชทีมชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ มาโคโตะ เทกูราโมริ (Makoto Teguramori) นากามูระออกจากสโมสรแห่งนี้เมื่อสิ้นสุดปี 2013 พร้อมกับการลาออกของเทกูราโมริ
4.2. ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า (ทีมชาย)
ในปี 2014 นากามูระได้ย้ายไปร่วมทีม ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า (Sanfrecce Hiroshima) ในฐานะโค้ชทีมชุดใหญ่ โดยทำงานภายใต้การคุมทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาซุ (Hajime Moriyasu) ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของเขาที่เวกัลตะ เซนได นากามูระดำรงตำแหน่งโค้ชทีมชุดใหญ่ของซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่าระหว่างปี 2014 ถึง 2019 ในปี 2018 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าโค้ชทีมชุดใหญ่ของสโมสร และในปี 2020 เขายังคงอยู่ในระบบอะคาเดมี่ของซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่าในฐานะโค้ชอะคาเดมี่ และยังทำหน้าที่เป็นโค้ชประจำศูนย์ฝึกอบรมแห่งชาติของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA National Training Center) ในสาขาชูโกกุ
4.3. ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า เรจิน่า
ในปี 2021 ชิน นากามูระได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จัดการทีมคนแรกของ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า เรจิน่า (Sanfrecce Hiroshima Regina) ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลหญิงอาชีพที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นและเข้าร่วมการแข่งขัน วีลีก (WE League) ลีกฟุตบอลหญิงอาชีพสูงสุดของญี่ปุ่น ภายใต้การนำของเขา ทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ วีลีกคัพ ฤดูกาล 2023-24 (2023/24 WE League Cup) ได้สำเร็จ โดยเอาชนะ อัลบิเร็กซ์ นีงาตะ เลดี้ส์ (Albirex Niigata Ladies) ซึ่งถือเป็นถ้วยรางวัลแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลหญิงแห่งนี้ นากามูระได้ประกาศอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีมเรจิน่าเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2024
4.4. กลับสู่ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า (ทีมชาย)
หลังจากอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีมซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า เรจิน่า ได้เพียงไม่กี่วัน เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า ชิน นากามูระจะกลับมาทำหน้าที่เป็นโค้ชทีมชุดใหญ่ของ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า ทีมชายอีกครั้ง
5. สถิติอาชีพ
สถิติอาชีพของ ชิน นากามูระ ในฐานะผู้เล่นฟุตบอลอาชีพ มีดังนี้:
ผลงานสโมสร | ลีก | ถ้วย | ลีกคัพ | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ฤดูกาล | สโมสร | ลีก | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | |
ญี่ปุ่น | ลีก | ถ้วยจักรพรรดิ | เจลีกคัพ | รวม | |||||||
1993 | มหาวิทยาลัยโดชิชะ | - | - | - | 1 | 0 | 1 | 0 | |||
1996 | - | - | - | 1 | 0 | 1 | 0 | ||||
1997 | สากัน โทซุ | เจแปนฟุตบอลลีก | 29 | 6 | 2 | 0 | 3 | 0 | 34 | 6 | |
1998 | 29 | 3 | - | 3 | 1 | 32 | 4 | ||||
1999 | เจลีก 2 | 33 | 5 | 1 | 0 | 3 | 0 | 37 | 5 | ||
2000 | 27 | 0 | 1 | 0 | 2 | 1 | 30 | 1 | |||
2001 | เวกัลตะ เซนได | เจลีก 2 | 42 | 2 | 2 | 0 | 2 | 0 | 46 | 2 | |
2002 | เจลีก 1 | 3 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 3 | 0 | ||
รวม | 163 | 16 | 6 | 0 | 15 | 2 | 184 | 18 |
- เปิดตัวใน เจลีก 1 (J1 League): 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2002 ในการแข่งขันกับ ชิมิซุ เอส-พัลส์ (Shimizu S-Pulse) ที่สนามนิฮนไดระ (Nihondaira)
- เปิดตัวใน เจลีก 2 (J2 League): 14 มีนาคม ค.ศ. 1999 ในการแข่งขันกับ เอฟซี โตเกียว (FC Tokyo) ที่สนามนิชิงะโอกะ (Nishigaoka)
- ประตูแรกใน เจลีก 2 (J2 League): 21 มีนาคม ค.ศ. 1999 ในการแข่งขันกับ เวนท์ฟอเรท โคฟุ (Ventforet Kofu) ที่สนามโทซุสเตเดียม (Tosu Stadium)
6. เกียรติประวัติและความสำเร็จ
ตลอดอาชีพของชิน นากามูระ ทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้ฝึกสอน เขาได้รับเกียรติประวัติและประสบความสำเร็จที่สำคัญดังนี้:
6.1. ในฐานะผู้จัดการทีม
- ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า เรจิน่า (Sanfrecce Hiroshima Regina)
- วีลีกคัพ (WE League Cup): 1 สมัย (ค.ศ. 2023)
7. มรดกและอิทธิพล
ชิน นากามูระได้สร้างมรดกและอิทธิพลสำคัญให้กับวงการฟุตบอลญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องตลอดอาชีพของเขา ในฐานะผู้เล่น เขาเป็นส่วนสำคัญในการเลื่อนชั้นของ สากัน โทซุ สู่ เจลีก 2 และมีบทบาทในการช่วยให้ เวกัลตะ เซนได เลื่อนชั้นสู่ เจลีก 1 ในฐานะผู้ฝึกสอน เขาได้แสดงความมุ่งมั่นและทักษะในการพัฒนาผู้เล่นเยาวชนและทีมชุดใหญ่ของสโมสรต่างๆ การที่เขาเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่นำ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า เรจิน่า คว้าแชมป์ วีลีกคัพ ได้สำเร็จ ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถในการนำทีมไปสู่ความสำเร็จ และเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับฟุตบอลหญิงในญี่ปุ่น บทบาทที่หลากหลายและต่อเนื่องของเขาในฐานะทั้งผู้เล่นและโค้ชได้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและคุณูปการอันยาวนานที่เขามีต่อวงการฟุตบอลญี่ปุ่นโดยรวม