1. Overview
ดจาเมล ซีดาน (جمال زيدانดจาเมล ซีดานภาษาอาหรับ) (เกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2498) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวแอลจีเรียที่เล่นในตำแหน่งกองหน้า เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักฟุตบอลตัวแทนของประเทศแอลจีเรียในคริสต์ทศวรรษ 1980 ซีดานได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกสองครั้งในปี พ.ศ. 2525 และ พ.ศ. 2529 โดยทำประตูได้หนึ่งประตูจากการเตะลูกฟรีคิกในนัดที่พบกับไอร์แลนด์เหนือในฟุตบอลโลกปี พ.ศ. 2529 ตลอดอาชีพค้าแข้งของเขา เขาใช้เวลาส่วนใหญ่กับสโมสรในบ้านเกิดอย่างยูเอสเอ็ม แอลเจอร์ ก่อนจะย้ายไปเล่นในลีกยุโรป ทั้งในประเทศเบลเยียมและฝรั่งเศส หลังจากการแขวนสตั๊ด เขายังคงมีส่วนร่วมกับวงการฟุตบอลด้วยการก่อตั้งสถาบันฟุตบอลในชื่อของเขา บทความนี้จะกล่าวถึงชีวิตช่วงต้น อาชีพค้าแข้งกับสโมสรและทีมชาติ รวมถึงบทบาทของเขาหลังจากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
2. Early life and personal background
ดจาเมล ซีดานมีพื้นเพมาจากแอลจีเรีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา และถึงแม้ชื่อสกุลของเขาจะเหมือนกับซีเนดีน ซีดาน อดีตนักฟุตบอลชื่อดังของทีมชาติฝรั่งเศส แต่ทั้งสองก็ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน
2.1. Birth and childhood
ดจาเมล ซีดานเกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2498 ที่แอลเจียร์ ประเทศแอลจีเรีย เขาเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลกับสโมสรในบ้านเกิดอย่างยูเอสเอ็ม แอลเจอร์ โดยเริ่มต้นจากทีมชุดบี และพัฒนาฝีเท้าขึ้นสู่ทีมชุดเออย่างรวดเร็วในปี พ.ศ. 2515 ซึ่งในขณะนั้นทีมกำลังเล่นอยู่ในดิวิชัน 2 ของลีกแอลจีเรีย ในช่วงที่เขายังเป็นผู้เล่นเยาวชน เขามีความสำเร็จที่โดดเด่นด้วยการคว้าแชมป์แอลจีเรียน จูเนียร์ส คัพได้ถึงสองครั้ง และมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ทีมยูเอสเอ็ม แอลเจอร์เลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 1 ในฤดูกาล 2516-2517 ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับการยอมรับในวงการฟุตบอลของแอลจีเรีย
2.2. Family and name clarification
เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องชี้แจงว่า ดจาเมล ซีดาน ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับซีเนดีน ซีดาน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสชื่อดังระดับโลก ถึงแม้ว่าจะมีชื่อสกุลเหมือนกันและเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอยู่บ่อยครั้ง แต่แหล่งข้อมูลส่วนใหญ่ยืนยันว่าพวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
3. Club career
ดจาเมล ซีดานเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรในประเทศบ้านเกิดก่อนที่จะย้ายไปเล่นในลีกยุโรป ซึ่งเขาสร้างผลงานและสั่งสมประสบการณ์มากมาย
3.1. USM Alger period
ซีดานใช้เวลาเก้าฤดูกาลกับสโมสรยูเอสเอ็ม แอลเจอร์ ซึ่งเป็นสโมสรบ้านเกิดของเขา โดยเริ่มต้นอาชีพจากทีมชุดบีในปี พ.ศ. 2515 และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดเออย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาดังกล่าว เขามีส่วนช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาล 2516-2517 และยังคว้าถ้วยแอลจีเรียน จูเนียร์ส คัพได้ถึงสองครั้ง ก่อนจะได้รับการยกย่องให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของแอลจีเรีย
3.2. European club career
หลังจากการประสบความสำเร็จในแอลจีเรีย ซีดานย้ายไปเล่นในลีกยุโรป โดยใช้เวลาเจ็ดฤดูกาลในเบลเยียมและฝรั่งเศส เขาได้เล่นให้กับสโมสรหลายแห่งในช่วงเวลาดังกล่าว สโมสรที่เขาเคยสังกัดได้แก่:
- พ.ศ. 2510-2515: ยูเอสเอ็ม แอลเจอร์ (แอลจีเรีย)
- พ.ศ. 2519-2520: เอเอส คอร์เบย์-เอสซอนส์ (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2520-2521: เคเอฟซี เอคลู (เบลเยียม)
- พ.ศ. 2521-2523: เคเอสวี สปอร์ติง โลเคเรน (เบลเยียม)
- พ.ศ. 2523-2527: เคเฟ ฟัน เกอร์ไตรก์ (เบลเยียม)
- พ.ศ. 2527-2530: เคอาร์ซี เฮงก์ (เบลเยียม)

4. International career
ดจาเมล ซีดานมีบทบาทสำคัญในฟุตบอลทีมชาติแอลจีเรีย โดยเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดประวัติศาสตร์ที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกถึงสองสมัย
4.1. National team debut and early career
ดจาเมล ซีดานลงสนามนัดแรกให้กับฟุตบอลทีมชาติแอลจีเรียในเกมกระชับมิตรที่พบกับแอลเบเนียในเดือนมกราคม พ.ศ. 2518 ซึ่งแอลจีเรียชนะไป 1-0 หลังจากนั้น เขาไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอีกจนกระทั่งปี พ.ศ. 2524 ซึ่งในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน เขาสามารถทำประตูแรกในนามทีมชาติได้ในเกมที่แอลจีเรียเอาชนะไนจีเรีย 2-0 ที่ลากอส
4.2. 1982 FIFA World Cup
ซีดานเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลทีมชาติแอลจีเรียชุดประวัติศาสตร์ที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 1982 ซึ่งเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของแอลจีเรียในรายการนี้ ในรอบแบ่งกลุ่ม แอลจีเรียสร้างความตกตะลึงให้กับวงการฟุตบอลโลกด้วยการเอาชนะเยอรมนีตะวันตก ซึ่งเป็นแชมป์ยุโรปในขณะนั้น ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ชัยชนะดังกล่าวทำให้แอลจีเรียมีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป อย่างไรก็ตาม เส้นทางของแอลจีเรียต้องจบลงด้วยการตกรอบหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เป็นที่ถกเถียงอย่างมากที่เรียกว่า "ข้อตกลงไม่รุกรานที่คิฆอน" (Non-aggression pact of Gijón) ในการแข่งขันระหว่างเยอรมนีตะวันตกและออสเตรีย ซึ่งผลการแข่งขัน 1-0 ที่เยอรมนีตะวันตกชนะ เป็นผลที่ทำให้ทั้งสองทีมผ่านเข้ารอบโดยไม่สนใจผลของแอลจีเรีย
4.3. 1986 FIFA World Cup
ซีดานยังคงเป็นกำลังสำคัญและได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 1986กับทีมชาติแอลจีเรีย ในรายการนี้ เขาทำประตูเดียวของเขาในฟุตบอลโลกได้ในนาทีที่ 60 จากการเตะลูกฟรีคิกในนัดที่พบกับไอร์แลนด์เหนือ อย่างไรก็ตาม ทีมชาติแอลจีเรียไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ โดยทำได้เพียง 1 เสมอและตกรอบแบ่งกลุ่ม การแข่งขันนัดสุดท้ายของแอลจีเรียในฟุตบอลโลก 1986 ซึ่งเป็นการแพ้ให้กับสเปน นับเป็นนัดสุดท้ายที่ซีดานลงสนามให้กับทีมชาติแอลจีเรีย
4.4. International statistics and final appearance
ตลอดอาชีพการเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ ดจาเมล ซีดานลงสนามให้กับฟุตบอลทีมชาติแอลจีเรียรวมทั้งสิ้น 15 นัด และทำได้ 4 ประตู ซึ่งเป็นสถิติที่สำคัญสำหรับอาชีพของเขา การปรากฏตัวครั้งสุดท้ายของเขาในนามทีมชาติเกิดขึ้นในเกมที่แอลจีเรียแพ้ให้กับสเปนในฟุตบอลโลก 1986 ซึ่งเป็นการสิ้นสุดบทบาทของเขาในเวทีระดับนานาชาติ
5. Post-playing career
หลังจากแขวนสตั๊ดจากอาชีพนักฟุตบอล ดจาเมล ซีดานยังคงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในวงการฟุตบอล โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนานักฟุตบอลรุ่นเยาวชน
5.1. Zidane Football Academy
ในปี พ.ศ. 2549 ได้มีการเปิดสถาบันฟุตบอลแห่งหนึ่งในย่านอัล-อาชูร์ โดยตั้งชื่อตาม ดจาเมล ซีดาน เพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตนักฟุตบอลคนนี้ ฟาริด บาห์บูห์ ผู้อำนวยการของสถาบันได้อธิบายถึงวัตถุประสงค์หลักว่า "เป้าหมายของเราคือการให้การศึกษาและฝึกฝนผู้เล่นเยาวชน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่พวกเขาสามารถพัฒนาตนเองได้" สถาบันแห่งนี้มุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมความสามารถของนักฟุตบอลรุ่นใหม่ในแอลจีเรีย
6. Legacy and evaluation
ดจาเมล ซีดาน ได้ทิ้งมรดกและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไว้ในวงการฟุตบอลแอลจีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการมีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญระดับโลก
6.1. Overall evaluation
ดจาเมล ซีดานได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่โดดเด่นและเป็นตัวแทนของประเทศแอลจีเรียในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 ด้วยความสามารถในตำแหน่งกองหน้าและการมีส่วนร่วมในฟุตบอลโลกถึงสองครั้ง เขาสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญในการแข่งขันระดับนานาชาติ
6.2. Impact on Algerian football
ซีดานมีผลกระทบอย่างมากต่อฟุตบอลแอลจีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติแอลจีเรียชุดแรกที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกในปี พ.ศ. 2525 และการสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่อย่างเยอรมนีตะวันตกได้ แม้ว่าการตกรอบจะเป็นที่ถกเถียงกันในภายหลัง แต่ผลงานของทีมในครั้งนั้นได้สร้างแรงบันดาลใจและเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับฟุตบอลแอลจีเรีย การที่เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลกปี พ.ศ. 2529 ก็ตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะผู้เล่นที่มีความสามารถและเป็นตำนานในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของประเทศ ภาพรวมอาชีพของเขา สะท้อนถึงการอุทิศตนเพื่อวงการฟุตบอลแอลจีเรีย ทั้งในฐานะผู้เล่นและผ่านการก่อตั้งสถาบันฟุตบอลที่มุ่งมั่นพัฒนาเยาวชนรุ่นต่อไป