1. ภาพรวม
จักรพรรดิโกะ-อิจิโจ (後一条天皇โกะ-อิจิโจ-เท็นโนภาษาญี่ปุ่น) ทรงเป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นองค์ที่ 68 ตามลำดับการสืบราชบัลลังก์แบบดั้งเดิม ทรงครองราชย์ตั้งแต่ค.ศ. 1016 ถึง ค.ศ. 1036 พระนามส่วนพระองค์ (諱อิมินะภาษาญี่ปุ่น) คือ เจ้าชายอัตสึฮิระ (敦成親王อัตสึฮิระ-ชินโนภาษาญี่ปุ่น) หรือที่รู้จักกันในพระนามเจ้าชายอัตสึนาริ พระองค์ได้รับพระนาม "โกะ-อิจิโจ" ซึ่งมาจากพระนามของพระราชบิดาคือ จักรพรรดิอิจิโจ โดยคำว่า "โกะ-" (後โกะภาษาญี่ปุ่น) แปลว่า "ยุคหลัง" หรือ "ที่สอง" ทำให้บางครั้งมีการเรียกขานพระองค์ว่า "จักรพรรดิอิจิโจยุคหลัง" หรือ "จักรพรรดิอิจิโจที่ 2"
รัชสมัยของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจอยู่ในช่วงยุคเฮอัง ซึ่งเป็นยุคที่อำนาจทางการเมืองส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลฟูจิวาระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ ผู้เป็นพระอัยกา (ตา) และต่อมาคือฟูจิวาระ โนะ โยะริมิชิ ผู้เป็นพระมาตุลา (น้าชาย) ของพระองค์ แม้ว่าพระองค์จะทรงดำรงตำแหน่งจักรพรรดิ แต่บทบาทของพระองค์ส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงพิธีการ เนื่องจากทรงขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์และอำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อพระชนมายุเพียง 27 พรรษา โดยไม่มีพระราชโอรส ทำให้การสืบราชบัลลังก์ต้องตกเป็นของพระอนุชาคือจักรพรรดิโกะ-ซุซะกุ
2. ประวัติช่วงต้นและภูมิหลัง
จักรพรรดิโกะ-อิจิโจทรงมีภูมิหลังครอบครัวที่สำคัญและทรงเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการเมืองในราชสำนัก
2.1. การประสูติและวัยเยาว์
จักรพรรดิโกะ-อิจิโจประสูติเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1008 ซึ่งตรงกับวันที่ 11 เดือน 9 ปีคันโกะที่ 5 ตามปฏิทินจันทรคติของญี่ปุ่น พระองค์เป็นพระราชโอรสองค์ที่สองของจักรพรรดิอิจิโจ พระราชมารดาคือฟูจิวาระ โนะ อากิโกะ (藤原彰子ฟูจิวาระ โนะ อากิโกะภาษาญี่ปุ่น) หรือที่รู้จักในพระนามจักรพรรดินีโชชิ (彰子โชชิภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 988-1074) ซึ่งเป็นธิดาของฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ ผู้ทรงอิทธิพลในยุคนั้น พระองค์ยังมีพระอนุชาร่วมพระราชมารดาเดียวกันคือจักรพรรดิโกะ-ซุซะกุ
การประสูติของเจ้าชายอัตสึฮิระมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตระกูลฟูจิวาระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมิจินางะผู้เป็นพระอัยกา ซึ่งบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้อย่างละเอียดใน "บันทึกของมุราซากิ ชิคิบุ" (紫式部日記มุราซากิ ชิคิบุ นิกกิภาษาญี่ปุ่น) การประสูติของพระองค์ถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรุ่งเรืองของตระกูลฟูจิวาระในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เจ้าชายอัตสึฮิระทรงถูกใช้เป็นหมากทางการเมืองในราชสำนักตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
2.2. การศึกษา
แม้จะไม่มีบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษาของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจอย่างชัดเจนในแหล่งข้อมูล แต่ในฐานะเจ้าชายและผู้สืบทอดราชบัลลังก์ในยุคเฮอัง พระองค์ย่อมได้รับการศึกษาตามแบบแผนของราชสำนักอย่างเข้มงวด ซึ่งครอบคลุมวิชาต่างๆ เช่น วรรณคดีจีนและญี่ปุ่นโบราณ กวีนิพนธ์ ประวัติศาสตร์ และธรรมเนียมปฏิบัติในราชสำนัก อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุถึงบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลโดยตรงต่อการเรียนรู้หรือพัฒนาการทางสติปัญญาของพระองค์เป็นพิเศษ
3. สมัยแห่งการครองราชย์
รัชสมัยของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจกินเวลา 20 ปี และถูกครอบงำด้วยอิทธิพลของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จากตระกูลฟูจิวาระ
3.1. การขึ้นครองราชย์
จักรพรรดิโกะ-อิจิโจทรงขึ้นสืบราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศเมื่อพระชนมายุ 8 พรรษา (ตามการนับแบบญี่ปุ่น) หลังจากที่จักรพรรดิซันโจ ผู้เป็นพระญาติชั้นที่หนึ่งของพระองค์ ทรงสละราชสมบัติเนื่องจากพระเนตรมืดบอด การสละราชสมบัติของจักรพรรดิซันโจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1016 ซึ่งตรงกับวันที่ 29 เดือน 1 ปีโชวะที่ 5 ตามปฏิทินเก่าญี่ปุ่น หลังจากนั้นไม่นาน จักรพรรดิโกะ-อิจิโจก็ทรงเข้าพิธีขึ้นครองราชย์ (践祚เซ็นโซภาษาญี่ปุ่น) และทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษก (即位โซะกุอิภาษาญี่ปุ่น) อย่างเป็นทางการที่พระราชวังหลวงเฮอัง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ปีเดียวกัน ซึ่งตรงกับวันที่ 7 เดือน 2 ปีโชวะที่ 5
3.2. การปกครองโดยผู้สำเร็จราชการแทน
ในช่วงต้นรัชสมัยของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจ พระองค์ยังทรงพระเยาว์มาก ทำให้ฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ ผู้เป็นพระอัยกาและเซ็สโซ (ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์) มีอำนาจและอิทธิพลอย่างมหาศาลในการบริหารราชการแผ่นดิน มิจินางะได้ใช้สถานะของตนในการควบคุมการเมืองในราชสำนักอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการสืบราชบัลลังก์
เมื่ออดีตจักรพรรดิซันโจเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1017 (วันที่ 9 เดือน 5 ปีคันนิงที่ 1) มิจินางะได้กดดันเจ้าชายอัตสึอะกิระ พระราชโอรสองค์โตของจักรพรรดิซันโจ ซึ่งเดิมได้รับการแต่งตั้งเป็นมกุฎราชกุมาร ให้สละตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้เจ้าชายอัตสึนะงะ พระอนุชาร่วมพระราชมารดาเดียวกับจักรพรรดิโกะ-อิจิโจ (และเป็นหลานชายของมิจินางะด้วย) ได้ขึ้นเป็นมกุฎราชกุมารแทน ซึ่งต่อมาเจ้าชายอัตสึนะงะได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิโกะ-ซุซะกุ การกระทำนี้สะท้อนให้เห็นถึงการบงการของตระกูลฟูจิวาระเพื่อรักษาอำนาจและอิทธิพลของตนเหนือราชสำนัก
หลังจากนั้นไม่นาน มิจินางะได้สละตำแหน่งเซ็สโซให้กับฟูจิวาระ โนะ โยะริมิชิ บุตรชายคนโตของตน และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งไดโจไดจิง (太政大臣ไดโจไดจิงภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในคณะรัฐบาล เมื่อเดือน 12 ปีคันนิงที่ 1 (ตรงกับเดือนมกราคม ค.ศ. 1017) การปกครองโดยผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์นี้ทำให้บทบาทของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจเป็นไปในเชิงสัญลักษณ์เป็นส่วนใหญ่ และอำนาจที่แท้จริงอยู่ที่ตระกูลฟูจิวาระ
3.3. เหตุการณ์สำคัญระหว่างรัชสมัย
- ค.ศ. 1012** (เดือน 8 ปีโชวะที่ 1): เจ้าชายอัตสึฮิระทรงอภิเษกสมรสกับธิดาของเซ็สโซและคัมปากุในเวลาต่อมาคือฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ ซึ่งก็คือฟูจิวาระ โนะ อิชิ ผู้เป็นพระมาตุจฉา (น้า) ของพระองค์
- 5 มิถุนายน ค.ศ. 1017** (วันที่ 9 เดือน 5 ปีคันนิงที่ 1): อดีตจักรพรรดิซันโจเสด็จสวรรคตด้วยพระชนมายุ 41 พรรษา
- ค.ศ. 1017** (เดือน 8 ปีคันนิงที่ 1): เจ้าชายอัตสึอะกิระ พระราชโอรสองค์โตของจักรพรรดิซันโจ ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นมกุฎราชกุมาร ทรงถอนตัวจากตำแหน่งเนื่องจากทรงประชวรด้วยโรคผิวหนังและแรงกดดันอย่างหนักจากมิจินางะ หลังจากนั้นเจ้าชายอัตสึนะงะ พระอนุชาของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจ ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นมกุฎราชกุมารแทน
- ค.ศ. 1017** (เดือน 9 ปีคันนิงที่ 1): มิจินางะได้เดินทางไปแสวงบุญที่ศาลเจ้าอิวาชิมิซุ (石清水八幡宮อิวาชิมิซุ-ฮาจิมังงูภาษาญี่ปุ่น) พร้อมกับข้าราชสำนักจำนวนมาก ระหว่างการเดินทางทางเรือลงแม่น้ำโยโตงาวะ เรือลำหนึ่งได้พลิกคว่ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน แต่มิจินางะรอดชีวิต
- ค.ศ. 1017** (เดือน 12 ปีคันนิงที่ 1): มิจินางะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นไดโจไดจิง
- ค.ศ. 1018**: มิจินางะได้ถวายตัวธิดาคนที่สามของตนคือฟูจิวาระ โนะ อิชิ ผู้ซึ่งเป็นพระมาตุจฉาแท้ๆ ขององค์จักรพรรดิ ให้เป็นจักรพรรดินี (中宮ชูงูภาษาญี่ปุ่น) เพียงพระองค์เดียวของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจ การกระทำนี้ไม่เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติในยุคนั้น และมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลอื่นเข้ามามีอิทธิพลผ่านการอภิเษกสมรสกับจักรพรรดิ
- 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1036** (วันที่ 17 เดือน 4 ปีโชเง็งที่ 9): จักรพรรดิโกะ-อิจิโจเสด็จสวรรคตที่พระราชวังหลวงเฮอัง ด้วยพระชนมายุเพียง 27 พรรษา (ตามการนับแบบตะวันตก) หรือ 29 พรรษา (ตามการนับแบบญี่ปุ่น) สาเหตุการสวรรคตเป็นไปอย่างกะทันหัน และเชื่อว่าอาจเกิดจากโรคเบาหวาน เนื่องจากมีบันทึกใน เออิกะ โมโนงาตาริ (栄花物語เออิกะ โมโนงาตาริภาษาญี่ปุ่น) ที่ระบุถึงอาการกระหายน้ำมากและพระวรกายซูบผอม
เนื่องจากการสวรรคตอย่างกะทันหันของพระองค์ ทำให้พิธีสละราชสมบัติไม่สามารถจัดขึ้นได้ทันเวลา อย่างไรก็ตาม ตามพระราชพินัยกรรมของพระองค์ พิธีสืบราชสมบัติของพระอนุชาคือเจ้าชายอัตสึนะงะ (ซึ่งต่อมาคือจักรพรรดิโกะ-ซุซะกุ) ได้ถูกจัดขึ้นอย่างลับๆ ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในการสืบราชบัลลังก์เมื่อจักรพรรดิเสด็จสวรรคตในตำแหน่ง โดยมีการจัดพระราชพิธีพระบรมศพในฐานะไดโจเท็นโน (อดีตจักรพรรดิ) ในภายหลัง
3.4. ศักราชในรัชสมัย
ปีในรัชสมัยของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจถูกระบุด้วยชื่อศักราชญี่ปุ่น (元号เน็งโงะภาษาญี่ปุ่น) ดังต่อไปนี้:
- โชวะ (長和โชวะภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 1012-1017)
- คันนิง (寛仁คันนิงภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 1017-1021)
- จิอัง (治安จิอังภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 1021-1024)
- มันจุ (万寿มันจุภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 1024-1028)
- โชเง็ง (長元โชเง็งภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 1028-1037)
4. ความสัมพันธ์ในครอบครัว
จักรพรรดิโกะ-อิจิโจทรงมีครอบครัวที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับจักรพรรดิองค์อื่นๆ ในยุคเดียวกัน
4.1. จักรพรรดินีและพระราชโอรสธิดา

จักรพรรดิโกะ-อิจิโจทรงมีจักรพรรดินีเพียงพระองค์เดียวคือฟูจิวาระ โนะ อิชิ (藤原威子ฟูจิวาระ โนะ อิชิภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 999-1036) ซึ่งเป็นธิดาคนที่สามของฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ และเป็นพระมาตุจฉา (น้า) ของพระองค์เอง จักรพรรดินีอิชิมีพระชนมายุมากกว่าจักรพรรดิโกะ-อิจิโจ 9 ปี การอภิเษกสมรสครั้งนี้เป็นไปตามความประสงค์ของมิจินางะที่ต้องการรักษาอำนาจของตระกูลฟูจิวาระโดยการไม่ให้จักรพรรดิมีพระมเหสีจากตระกูลอื่น
จักรพรรดิโกะ-อิจิโจและจักรพรรดินีอิชิมีพระราชธิดาด้วยกันสองพระองค์:
- พระราชธิดาองค์แรก:** เจ้าหญิงอากิโกะ (章子内親王โชชิ-ไนชินโนภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 1027-1105) ภายหลังทรงเป็นนิโจอิง (二条院นิโจอิงภาษาญี่ปุ่น) และได้เป็นจักรพรรดินี (中宮ชูงูภาษาญี่ปุ่น) ในจักรพรรดิโกะ-เรเซ
- พระราชธิดาองค์ที่สอง:** เจ้าหญิงคาโอรูโกะ (馨子内親王เคชิ-ไนชินโนภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 1029-1093) ภายหลังทรงเป็นไซเอ็น-โนะ โคโงะ (西院皇后ไซเอ็น-โนะ โคโงะภาษาญี่ปุ่น) และได้เป็นจักรพรรดินี (中宮ชูงูภาษาญี่ปุ่น) ในจักรพรรดิโกะ-ซันโจ
เนื่องจากจักรพรรดิโกะ-อิจิโจไม่มีพระราชโอรสกับจักรพรรดินีอิชิ ทำให้การสืบราชบัลลังก์ต้องตกเป็นของพระอนุชาคือเจ้าชายอัตสึนะงะ (จักรพรรดิโกะ-ซุซะกุ) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางการสืบราชสันตติวงศ์ในยุคนั้น
5. ข้าราชบริพารคนสำคัญในรัชสมัย (คูเงียว)
คูเงียว (公卿คูเงียวภาษาญี่ปุ่น) เป็นคำรวมที่ใช้เรียกกลุ่มบุรุษผู้ทรงอำนาจสูงสุดจำนวนน้อยในราชสำนักของจักรพรรดิญี่ปุ่นในยุคก่อนยุคเมจิ แม้ในช่วงที่อิทธิพลที่แท้จริงของราชสำนักนอกกำแพงพระราชวังมีจำกัด แต่โครงสร้างลำดับชั้นนี้ก็ยังคงอยู่ โดยทั่วไป กลุ่มชนชั้นสูงนี้ประกอบด้วยบุคคลเพียงสามถึงสี่คนในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งเป็นข้าราชสำนักที่สืบทอดตำแหน่งมาแต่บรรพบุรุษ และประสบการณ์ภูมิหลังของพวกเขาได้นำพาพวกเขาไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพการงาน ในรัชสมัยของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจ ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของไดโจคัง (太政官ไดโจคังภาษาญี่ปุ่น) ได้แก่:
ตำแหน่ง | บุคคลสำคัญ |
---|---|
เซ็สโซ (ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์) | ฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ (ค.ศ. 966-1027), ฟูจิวาระ โนะ โยะริมิชิ (ค.ศ. 992-1074) |
คัมปากุ (ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์) | ฟูจิวาระ โนะ โยะริมิชิ |
ไดโจไดจิง (มหาเสนาบดี) | ฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ, คังอิน คินซูเอะ (勧修寺経隆คังอิน คินซูเอะภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 956-1029) |
ซะไดจิง (มหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย) | ฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ, ฟูจิวาระ โนะ อากิมิตสึ (藤原顕光ฟูจิวาระ โนะ อากิมิตสึภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 944-1021), ฟูจิวาระ โนะ โยะริมิชิ |
อุดะอิจิง (มหาเสนาบดีฝ่ายขวา) | ฟูจิวาระ โนะ ซาเนซูเกะ (藤原実資ฟูจิวาระ โนะ ซาเนซูเกะภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 957-1046) |
นะไดจิง (มหาเสนาบดีกลาง) | ฟูจิวาระ โนะ โนริมิจิ (藤原教通ฟูจิวาระ โนะ โนริมิจิภาษาญี่ปุ่น) (ค.ศ. 997-1075) |
ไดนะงง (ที่ปรึกษาอาวุโส) | ฟูจิวาระ โนะ มิจิสึนะ (藤原道綱ฟูจิวาระ โนะ มิจิสึนะภาษาญี่ปุ่น), ฟูจิวาระ โนะ ซาเนซูเกะ, ฟูจิวาระ โนะ ไซชิน (藤原斉信ฟูจิวาระ โนะ ไซชินภาษาญี่ปุ่น), ฟูจิวาระ โนะ โยะริมิชิ, ฟูจิวาระ โนะ คิมิโตะ (藤原公任ฟูจิวาระ โนะ คิมิโตะภาษาญี่ปุ่น), มินาโมโตะ โนะ โทชิคาตะ (源俊賢มินาโมโตะ โนะ โทชิคาตะภาษาญี่ปุ่น), ฟูจิวาระ โนะ ทากาอิเอะ (藤原隆家ฟูจิวาระ โนะ ทากาอิเอะภาษาญี่ปุ่น), ฟูจิวาระ โนะ โยริมูเนะ (藤原頼宗ฟูจิวาระ โนะ โยริมูเนะภาษาญี่ปุ่น), ฟูจิวาระ โนะ โยชิโนบุ (藤原能信ฟูจิวาระ โนะ โยชิโนบุภาษาญี่ปุ่น), ฟูจิวาระ โนะ นางาอิเอะ (藤原長家ฟูจิวาระ โนะ นางาอิเอะภาษาญี่ปุ่น), มินาโมโตะ โนะ โมโรฟูสะ (源師房มินาโมโตะ โนะ โมโรฟูสะภาษาญี่ปุ่น) |
6. การสิ้นพระชนม์
จักรพรรดิโกะ-อิจิโจเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1036 ซึ่งตรงกับวันที่ 17 เดือน 4 ปีโชเง็งที่ 9 ตามปฏิทินเก่าญี่ปุ่น ณ พระราชวังหลวงเฮอัง ขณะมีพระชนมายุเพียง 27 พรรษา (ตามการนับแบบตะวันตก) หรือ 29 พรรษา (ตามการนับแบบญี่ปุ่น) การสวรรคตของพระองค์เป็นไปอย่างกะทันหัน โดยมีบันทึกใน เออิกะ โมโนงาตาริ ที่อธิบายถึงอาการกระหายน้ำอย่างรุนแรงและพระวรกายที่ซูบผอม ซึ่งนักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่าอาจเป็นอาการของโรคเบาหวาน
การสวรรคตที่กะทันหันของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจ ทำให้พิธีสละราชสมบัติไม่สามารถจัดขึ้นได้ทันเวลา อย่างไรก็ตาม ตามพระราชพินัยกรรมของพระองค์ พิธีสืบราชสมบัติของเจ้าชายอัตสึนะงะ พระอนุชาของพระองค์ (ซึ่งต่อมาคือจักรพรรดิโกะ-ซุซะกุ) ได้ถูกจัดขึ้นอย่างลับๆ ซึ่งนับเป็นธรรมเนียมปฏิบัติใหม่สำหรับการสืบราชบัลลังก์เมื่อจักรพรรดิเสด็จสวรรคตในตำแหน่ง โดยหลังจากนั้นจึงมีการจัดพระราชพิธีพระบรมศพของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจในฐานะไดโจเท็นโน (อดีตจักรพรรดิ) เพื่อเป็นการให้เกียรติสูงสุดแก่พระองค์
สถานที่ตั้งพระบรมศพของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ โบไดจูอิน โนะ มิซาซางิ (菩提樹院陵โบไดจูอิน โนะ มิซาซางิภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นสุสานหลวงแบบเนินกลม ตั้งอยู่ในเกียวโต ที่เขตซาเกียว (Sakyo-ku), Yoshida Kaguraoka-chō นอกจากนี้ พระวิญญาณของพระองค์ยังได้รับการประดิษฐาน ณ โคเรเด็ง (皇霊殿โคเรเด็งภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นหนึ่งในคิวจู ซันเด็ง (宮中三殿คิวจู ซันเด็งภาษาญี่ปุ่น) ภายในพระราชวังหลวงโตเกียว เพื่อเป็นที่สักการะร่วมกับจักรพรรดิและพระบรมวงศานุวงศ์องค์อื่นๆ
7. การประเมินและมรดก
รัชสมัยของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แม้ว่าพระองค์จะไม่ได้ทรงใช้อำนาจทางการเมืองอย่างเต็มที่ แต่รัชสมัยของพระองค์ก็มีทั้งด้านที่ได้รับการประเมินในเชิงบวกและข้อวิพากษ์วิจารณ์
7.1. การประเมินเชิงบวก
รัชสมัยของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจได้รับการประเมินว่ามีความมั่นคงและสงบสุขภายใต้การนำที่แข็งแกร่งของฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ และต่อมาคือฟูจิวาระ โนะ โยะริมิชิ แม้ว่าสิ่งนี้จะจำกัดอำนาจของจักรพรรดิ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นมีความสงบสุขและวัฒนธรรมรุ่งเรืองถึงขีดสุด ซึ่งมักถูกเรียกว่าเป็นยุคทองของยุคเฮอัง
นอกจากนี้ การที่พระองค์เสด็จสวรรคตอย่างกะทันหันและมีการดำเนินการสืบราชสมบัติอย่างลับๆ ตามพระราชพินัยกรรม ได้สร้างแบบอย่างและธรรมเนียมปฏิบัติใหม่สำหรับการสืบราชบัลลังก์ในกรณีที่จักรพรรดิเสด็จสวรรคตในตำแหน่ง ซึ่งช่วยให้กระบวนการถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างราบรื่นและมีระเบียบแบบแผนมากขึ้นในอนาคต
7.2. การวิพากษ์วิจารณ์และข้อถกเถียง
ข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับรัชสมัยของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจคือ **อำนาจที่แท้จริงของจักรพรรดิที่ถูกจำกัดอย่างมาก** พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ (8 พรรษา) และอยู่ภายใต้อิทธิพลอันแข็งแกร่งของผู้สำเร็จราชการจากตระกูลฟูจิวาระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิจินางะ ซึ่งมีอำนาจควบคุมราชสำนักและการสืบราชบัลลังก์อย่างเบ็ดเสร็จ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงช่วงเวลาที่สถาบันจักรพรรดิมีบทบาทส่วนใหญ่เป็นเพียงพิธีการ โดยอำนาจที่แท้จริงอยู่ที่ตระกูลฟูจิวาระ
การกระทำของมิจินางะ เช่น การกดดันเจ้าชายอัตสึอะกิระให้สละตำแหน่งมกุฎราชกุมาร เพื่อแต่งตั้งหลานชายของตนเอง (ซึ่งเป็นพระอนุชาของจักรพรรดิโกะ-อิจิโจ) แสดงให้เห็นถึงการบงการของตระกูลฟูจิวาระในการสืบราชสมบัติเพื่อผลประโยชน์ของสายเลือดตนเอง ซึ่งยิ่งลดทอนความเป็นอิสระของจักรพรรดิลงไปอีก
นอกจากนี้ การที่พระองค์ไม่มีพระราชโอรสกับจักรพรรดินีฟูจิวาระ โนะ อิชิ (ซึ่งเป็นการอภิเษกสมรสเชิงกลยุทธ์ที่มิจินางะจัดขึ้น) ทำให้สายราชสกุลต้องส่งผ่านไปยังพระอนุชา ซึ่งไม่ใช่การสืบราชสมบัติโดยตรงจากพระองค์ สิ่งนี้เน้นย้ำถึงแรงกดดันทางการเมืองที่มีต่อการอภิเษกสมรสของจักรพรรดิและการสืบราชสันตติวงศ์ในยุคนั้น
8. พระราชพงศาวลี
จักรพรรดิโกะ-อิจิโจทรงสืบเชื้อสายมาจากจักรพรรดิหลายพระองค์และตระกูลฟูจิวาระผู้ทรงอิทธิพล ดังนี้:
- 1. จักรพรรดิโกะ-อิจิโจ
- 2. จักรพรรดิอิจิโจ (ค.ศ. 980-1011) (พระราชบิดา)
- 3. จักรพรรดินีโชชิ (ค.ศ. 988-1074) (พระราชมารดา)
- 4. จักรพรรดิเอ็นยู (ค.ศ. 959-991) (พระอัยกาฝ่ายพระราชบิดา)
- 5. ฟูจิวาระ โนะ เซ็นชิ (ค.ศ. 962-1002) (พระอัยยิกาฝ่ายพระราชบิดา)
- 6. ฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ (ค.ศ. 966-1028) (พระอัยกาฝ่ายพระราชมารดา)
- 7. มินาโมโตะ โนะ รินชิ (ค.ศ. 964-1053) (พระอัยยิกาฝ่ายพระราชมารดา)
- 8. จักรพรรดิมูรากามิ (ค.ศ. 926-967) (พระปัยกาฝ่ายพระราชบิดา)
- 9. ฟูจิวาระ โนะ อันชิ (ค.ศ. 927-964) (พระปัยยิกาฝ่ายพระราชบิดา)
- 10. ฟูจิวาระ โนะ คาเนอิเอะ (ค.ศ. 929-990) (พระปัยกาฝ่ายพระราชบิดาและพระปัยกาฝ่ายพระราชมารดา)
- 11. ฟูจิวาระ โนะ โทกิฮิเมะ (เสียชีวิต ค.ศ. 980) (พระปัยยิกาฝ่ายพระราชบิดาและพระปัยยิกาฝ่ายพระราชมารดา)
- 12. ฟูจิวาระ โนะ คาเนอิเอะ (ค.ศ. 929-990) (พระปัยกาฝ่ายพระราชมารดา)
- 13. ฟูจิวาระ โนะ โทกิฮิเมะ (เสียชีวิต ค.ศ. 980) (พระปัยยิกาฝ่ายพระราชมารดา)
- 14. มินาโมโตะ โนะ มาซาโนบุ (ค.ศ. 920-993) (พระปัยกาฝ่ายพระราชมารดา)
- 15. ฟูจิวาระ โนะ โบกูชิ (ค.ศ. 931-1016) (พระปัยยิกาฝ่ายพระราชมารดา)