1. Overview
คิม ดง-ซู (김동수กิม ดง-ซูภาษาเกาหลี; เกิด 27 ตุลาคม ค.ศ. 1968) เป็นอดีตนักเบสบอลอาชีพตำแหน่งแคชเชอร์และผู้จัดการทีมในเคบีโอ ลีก (KBO League) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมเบสบอลของโรงเรียนมัธยมโซล บทความนี้จะครอบคลุมถึงชีวิตส่วนตัวและอาชีพของคิม ดง-ซูตั้งแต่ช่วงชีวิตในวัยเด็กจนถึงการเป็นผู้เล่นระดับอาชีพกับหลายสโมสร รวมถึงบทบาทในฐานะผู้ฝึกสอนและผู้จัดการทีม พร้อมทั้งการวิเคราะห์ผลงานเชิงสถิติ, รางวัลที่ได้รับ, และประเด็นโต้แย้งที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และเส้นทางอาชีพของเขาในแวดวงเบสบอลเกาหลี
2. Life
คิม ดง-ซูมีเส้นทางชีวิตและอาชีพที่โดดเด่นในวงการเบสบอลเกาหลีใต้ โดยเริ่มต้นจากความหลงใหลในกีฬาตั้งแต่ยังเด็ก พัฒนาเป็นผู้เล่นมือสมัครเล่นที่มีความสามารถ ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเบสบอลอาชีพและผู้ฝึกสอนที่มีอิทธิพล
2.1. Childhood and School Days
คิม ดง-ซู เริ่มต้นเล่นเบสบอลตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่โรงเรียนประถมฮวากกโซล (Seoul Hwagok Elementary School) หลังจากนั้นได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยมคังนัมโซล (Seoul Gangnam Middle School) และโรงเรียนมัธยมโซล (Seoul High School) ในช่วงเวลาที่โรงเรียนมัธยมโซล เขามีบทบาทสำคัญในการนำทีมเบสบอลของโรงเรียนคว้าแชมป์การแข่งขันระดับประเทศที่จัดขึ้นในกรุงโซล ความสำเร็จในระดับมัธยมปลายนี้เป็นรากฐานสำคัญที่นำพาเขาเข้าสู่เส้นทางเบสบอลในระดับมหาวิทยาลัย
2.2. Amateur Player Career
หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมโซลในปี ค.ศ. 1986 คิม ดง-ซู ได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฮันยาง (Hanyang University) และยังคงเป็นผู้เล่นเบสบอลที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ความสามารถของเขาในฐานะแคชเชอร์ทำให้เขาได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเกาหลีใต้ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 1988 ที่กรุงโซล แม้ว่าเบสบอลในขณะนั้นจะยังคงเป็นกีฬาสาธิต แต่การเป็นตัวแทนของชาติในมหกรรมระดับโลกนี้ได้ช่วยสร้างชื่อเสียงและประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับเขา ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพในเวลาต่อมา
3. Professional Player Career
คิม ดง-ซู ได้สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะนักเบสบอลอาชีพด้วยเส้นทางที่ยาวนานและเต็มไปด้วยประสบการณ์กับหลายสโมสรในเคบีโอ ลีก แต่ละช่วงเวลาในอาชีพของเขาสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถ, ความพยายามในการปรับตัว, และความท้าทายที่ต้องเผชิญในวงการเบสบอล
3.1. LG Twins
หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮันยาง คิม ดง-ซูได้เข้าสู่เคบีโอ ลีกในปี ค.ศ. 1990 โดยได้รับเลือกเป็นอันดับแรกในการดราฟต์และเซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมแอลจี ทวินส์ (LG Twins) ด้วยค่าสัญญา 40.00 M KRW และเงินเดือน 12.00 M KRW ในฤดูกาลแรกของการเปิดตัวในปี ค.ศ. 1990 เขาสามารถยึดตำแหน่งแคชเชอร์ตัวจริงของทีมได้สำเร็จ และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยค่าเฉลี่ยการตีลูกกว่า .200, 13 โฮมรัน, 62 แต้มตี (RBI) และ 15 การขโมยเบส (stolen bases) ซึ่งทำให้เขาคว้ารางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี (Rookie of the Year) ได้ในปีนั้น นอกจากนี้ เขายังมีส่วนสำคัญในการนำทีมคว้าแชมป์โคเรียนซีรีส์ (Korean Series) ในปีเดียวกัน และเป็นแคชเชอร์หน้าใหม่คนแรกในประวัติศาสตร์เคบีโอ ลีกที่ได้รับรางวัลถุงมือทองคำ (Golden Glove Award) อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ. 1991 เขาต้องเผชิญกับภาวะฟอร์มตกอย่างรุนแรงในปีที่สองของอาชีพ แต่เขาสามารถกลับมาทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้งในปีถัดมาในฐานะแคชเชอร์เต็มเวลา โดยทำสถิติค่าเฉลี่ยการตีลูกกว่า .200, 20 โฮมรัน และ 69 แต้มตี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขาตลอดช่วงทศวรรษ 1990 ด้วยการทำโฮมรันเป็นเลขสองหลักได้อย่างสม่ำเสมอและทักษะการนำทีมที่ยอดเยี่ยม เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแคชเชอร์ที่ดีที่สุดในยุคนั้น โดยเฉพาะสถิติการขโมยเบส 15 ครั้งในฤดูกาลเดียวเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1990 ในการแข่งขันกับทีมล็อตเต้ที่จัมซิล (Jamsil) เป็นสถิติแรกของแคชเชอร์ที่ทำได้เป็นเลขสองหลักในฤดูกาลเดียว ซึ่งถูกทำลายโดยพัก คย็อง-วัน (Park Kyung-oan) ในปี ค.ศ. 2001 ที่ทำได้ 21 ครั้ง
3.2. Samsung Lions
ในปี ค.ศ. 1999 คิม ดง-ซู ได้รับสถานะผู้เล่นอิสระ (FA) และตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมซัมซุง ไลออนส์ (Samsung Lions) อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลแรกกับทีมใหม่กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในอาชีพของเขา ด้วยผลงานที่ย่ำแย่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกจากนี้ เขายังต้องเผชิญกับการแข่งขันภายในทีมเพื่อแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงกับจิน กัป-ยง (Jin Kab-yong) ผู้เล่นที่ย้ายมาจากทีมดูซาน แบร์ส (Doosan Bears) ซึ่งในที่สุดเขาก็เสียตำแหน่งตัวจริงไป หลังจากจบฤดูกาลปี ค.ศ. 2001 เขาก็ได้ย้ายไปร่วมทีมเอสเค ไวเวิร์นส์ (SK Wyverns) ด้วยข้อตกลงการแลกเปลี่ยนผู้เล่น 6:2 บวกเงินสด ซึ่งถือเป็นการปิดฉากช่วงเวลาที่ยากลำบากของเขากับซัมซุง ไลออนส์
3.3. SK Wyverns
การย้ายทีมครั้งที่สองของคิม ดง-ซูมายังเอสเค ไวเวิร์นส์ในปี ค.ศ. 2002 ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ของเขาดีขึ้นมากนัก เขายังคงไม่สามารถยึดตำแหน่งที่มั่นคงในทีมได้และทำผลงานได้อย่างไม่โดดเด่น หลังจากจบฤดูกาลปี ค.ศ. 2002 เมื่อโช บ็อม-ฮย็อน (Cho Beom-hyun) เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีม โช บ็อม-ฮย็อน ได้ตัดสินใจปล่อยตัวเขาออกไปทันที การตัดสินใจนี้มีเบื้องหลังมาจากความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างทั้งสองคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโช บ็อม-ฮย็อนเคยเป็นโค้ชแบตเตอรี่ที่ซัมซุง ไลออนส์และมักจะให้ความสำคัญกับจิน กัป-ยงมากกว่า ซึ่งทำให้คิม ดง-ซูต้องนั่งสำรองบ่อยครั้ง เหตุการณ์นี้จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในอาชีพนักกีฬา
3.4. Hyundai Unicorns
หลังจากถูกปล่อยตัวจากเอสเค ไวเวิร์นส์เนื่องจากความขัดแย้งกับผู้จัดการทีม โช บ็อม-ฮย็อน คิม ดง-ซูถึงกับพิจารณาที่จะเกษียณอายุจากการเป็นนักกีฬาและมองหาตำแหน่งโค้ช อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นพัก คย็อง-วัน (Park Kyung-oan) แคชเชอร์ตัวจริงของทีมฮุนได ยูนิคอร์นส์ (Hyundai Unicorns) ได้ย้ายไปอยู่กับเอสเค ไวเวิร์นส์ในฐานะผู้เล่นอิสระ ทำให้เกิดช่องว่างในตำแหน่งแคชเชอร์ตัวจริงของฮุนได ยูนิคอร์นส์ ทีมจึงยื่นข้อเสนอให้คิม ดง-ซูเข้าร่วมทีม ซึ่งเขาก็ตกลงเซ็นสัญญาด้วยค่าตัว 100.00 M KRW การย้ายมายังฮุนได ยูนิคอร์นส์ถือเป็นการฟื้นคืนชีพในอาชีพของเขาอย่างแท้จริง ในปี ค.ศ. 2003 เขาสามารถทำสถิติค่าเฉลี่ยการตีลูกสูงสุดในอาชีพถึง .308 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยการตีลูกเกิน .300 ครั้งแรกของเขา และยังได้รับรางวัลถุงมือทองคำอีกครั้งในปีเดียวกัน นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทสำคัญในฐานะแคชเชอร์ตัวจริงที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เคบีโอ ลีกได้สองปีติดต่อกันในปี ค.ศ. 2003 และ 2004 หลังจากนั้น เขายังคงเป็นผู้เล่นอาวุโสที่สำคัญของทีมร่วมกับอี ซึง-ยง (Lee Sung-yong) และช็อน จุน-โฮ (Jeon Jun-ho)
3.5. Heroes
ในปี ค.ศ. 2008 หลังจากที่ทีมฮุนได ยูนิคอร์นส์ถูกยุบและมีการก่อตั้งทีมใหม่คือฮีโรส์ (Heroes) คิม ดง-ซู ได้ย้ายมาร่วมทีมใหม่พร้อมกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ของฮุนได ยูนิคอร์นส์ ในช่วงเวลานี้ เขาสามารถสร้างสถิติสำคัญในอาชีพได้สำเร็จ โดยเป็นแคชเชอร์คนแรกในประวัติศาสตร์เบสบอลเกาหลีที่ตีโฮมรันรวมได้ถึง 200 ครั้ง และลงสนามครบ 2,000 นัด ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับฮีโรส์ เขาได้เปลี่ยนบทบาทจากผู้เล่นเพียงอย่างเดียวมาเป็นผู้เล่น-โค้ช (playing-coach) ในปี ค.ศ. 2009 เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับผู้เล่นรุ่นน้องและช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม หลังจบฤดูกาลปี ค.ศ. 2009 เขาก็ได้เกษียณอายุจากการเป็นนักกีฬาอย่างเป็นทางการ และได้รับการแต่งตั้งเป็นโค้ชแบตเตอรี่ของทีมเน็กเซ็น ฮีโรส์ (Nexen Heroes) ซึ่งเป็นชื่อใหม่ของทีมในขณะนั้น โดยมาแทนที่จ็อง อิน-กโย (Jung In-gyo) ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีมชุดที่ 2
4. Coaching Career
หลังจากเกษียณจากการเป็นนักเบสบอลอาชีพ คิม ดง-ซูได้เริ่มต้นเส้นทางใหม่ในฐานะผู้ฝึกสอนและผู้จัดการทีม โดยได้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่งในวงการเบสบอลเกาหลี
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 คิม ดง-ซู ได้รับตำแหน่งเป็นโค้ชแบตเตอรี่ให้กับทีมเน็กเซ็น ฮีโรส์ (Nexen Heroes) ซึ่งเป็นชื่อที่ทีมเปลี่ยนมาใช้ในขณะนั้น เขาทำหน้าที่นี้อยู่หลายปีจนกระทั่งหลังจากจบโคเรียนซีรีส์ปี ค.ศ. 2014 เขาก็ได้กลับไปทำงานกับทีมเก่าของเขาคือแอลจี ทวินส์ (LG Twins) ในฐานะผู้จัดการทีมชุดที่ 2 ซึ่งเป็นบทบาทที่สำคัญในการพัฒนาผู้เล่นดาวรุ่งของทีม นอกจากนี้ เขายังได้รับโอกาสเป็นโค้ชแบตเตอรี่ให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ในการแข่งขันเวิลด์เบสบอลคลาสสิก 2013 (2013 World Baseball Classic) และดับเบิลยูบีเอสซี พรีเมียร์ 12 ปี 2015 (2015 WBSC Premier12) ซึ่งทีมเกาหลีใต้คว้าแชมป์ได้สำเร็จ ปัจจุบัน คิม ดง-ซู ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมเบสบอลให้กับโรงเรียนมัธยมโซล ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของเขา สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ให้กับนักเบสบอลรุ่นใหม่
5. Major Records and Awards
ตลอดอาชีพนักเบสบอลอาชีพ คิม ดง-ซู ได้รับการยอมรับจากผลงานอันโดดเด่นและสร้างสถิติสำคัญมากมายในเคบีโอ ลีก
- รางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี (Rookie of the Year)
- ค.ศ. 1990 (กับแอลจี ทวินส์)
- รางวัลถุงมือทองคำ (Golden Glove Award)
- ค.ศ. 1990 (กับแอลจี ทวินส์)
- ค.ศ. 2003 (กับฮุนได ยูนิคอร์นส์)
- สถิติสำคัญในอาชีพ
- เป็นแคชเชอร์คนแรกในเคบีโอ ลีกที่สามารถทำโฮมรันรวมได้ถึง 200 ครั้ง
- เป็นแคชเชอร์คนแรกในเคบีโอ ลีกที่ลงสนามครบ 2,000 นัด
- เป็นแคชเชอร์คนแรกในเคบีโอ ลีกที่ขโมยเบสได้เป็นเลขสองหลักในฤดูกาลเดียว (15 ครั้งในปี ค.ศ. 1990)
6. Career Statistics
นี่คือสถิติรวมตลอดฤดูกาลปกติของคิม ดง-ซูในเคบีโอ ลีก
ปี | สังกัด | อายุ | ลงสนาม | จำนวนเพลต | ตี | ได้แต้ม | ตีได้ | สองฐาน | สามฐาน | โฮมรัน | แต้มตี | ขโมยเบส | ขโมยเบสพลาด | ได้ลูกสี่ | ถูกขีดฆ่า | ค่าเฉลี่ย | เปอร์เซ็นต์ได้เบส | เปอร์เซ็นต์พลัง | OPS | แต้มรวม | ตีเป็นดับเบิลเพลย์ | ลูกถูกตัว | ลูกเสียสละ | ลูกเสียสละลอย | ได้ลูกสี่โดยเจตนา |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1990 | LG | 22 | 110 | 416 | 352 | 46 | 102 | 20 | 1 | 13 | 62 | 15 | 10 | 45 | 40 | .290 | .379 | .463 | .842 | 163 | 6 | 10 | 2 | 7 | 1 |
1991 | 23 | 90 | 294 | 255 | 29 | 50 | 8 | 3 | 5 | 24 | 5 | 6 | 26 | 38 | .196 | .288 | .310 | .598 | 79 | 4 | 8 | 2 | 3 | 0 | |
1992 | 24 | 121 | 433 | 381 | 47 | 98 | 15 | 4 | 20 | 69 | 3 | 2 | 45 | 45 | .257 | .343 | .475 | .818 | 181 | 10 | 5 | 1 | 1 | 4 | |
1993 | 25 | 115 | 427 | 372 | 47 | 102 | 16 | 3 | 16 | 56 | 7 | 0 | 41 | 40 | .274 | .351 | .462 | .814 | 172 | 11 | 6 | 3 | 5 | 3 | |
1994 | 26 | 95 | 369 | 316 | 45 | 91 | 20 | 3 | 6 | 42 | 4 | 4 | 43 | 39 | .288 | .381 | .427 | .808 | 135 | 6 | 5 | 4 | 1 | 3 | |
1995 | 27 | 108 | 393 | 334 | 40 | 87 | 15 | 2 | 10 | 35 | 4 | 0 | 40 | 45 | .260 | .343 | .407 | .750 | 136 | 8 | 4 | 11 | 4 | 3 | |
1996 | 28 | 108 | 385 | 330 | 43 | 81 | 11 | 0 | 12 | 50 | 0 | 4 | 33 | 36 | .245 | .330 | .388 | .718 | 128 | 9 | 10 | 9 | 3 | 1 | |
1997 | 29 | 121 | 472 | 394 | 54 | 93 | 26 | 0 | 17 | 66 | 2 | 2 | 54 | 70 | .236 | .336 | .431 | .767 | 170 | 6 | 9 | 7 | 8 | 4 | |
1998 | 30 | 118 | 471 | 408 | 67 | 116 | 28 | 2 | 20 | 66 | 2 | 3 | 44 | 71 | .284 | .362 | .510 | .872 | 208 | 8 | 9 | 4 | 6 | 2 | |
1999 | 31 | 104 | 389 | 334 | 55 | 96 | 22 | 1 | 16 | 65 | 1 | 3 | 39 | 46 | .287 | .376 | .503 | .879 | 168 | 7 | 10 | 3 | 3 | 2 | |
2000 | Samsung | 32 | 90 | 238 | 200 | 23 | 41 | 9 | 1 | 11 | 30 | 0 | 2 | 31 | 43 | .205 | .319 | .425 | .744 | 85 | 7 | 4 | 0 | 3 | 2 |
2001 | 33 | 89 | 217 | 181 | 18 | 50 | 11 | 0 | 5 | 30 | 0 | 0 | 22 | 23 | .276 | .360 | .420 | .780 | 76 | 5 | 4 | 6 | 4 | 0 | |
2002 | SK | 34 | 95 | 299 | 251 | 28 | 61 | 10 | 2 | 11 | 32 | 1 | 1 | 22 | 51 | .243 | .323 | .430 | .753 | 108 | 4 | 9 | 14 | 3 | 1 |
2003 | Hyundai | 35 | 117 | 441 | 367 | 48 | 113 | 15 | 1 | 16 | 68 | 3 | 4 | 45 | 57 | .308 | .390 | .485 | .875 | 178 | 10 | 8 | 15 | 6 | 5 |
2004 | 36 | 113 | 381 | 311 | 38 | 78 | 13 | 1 | 2 | 31 | 2 | 2 | 32 | 42 | .251 | .342 | .318 | .660 | 99 | 10 | 13 | 21 | 4 | 0 | |
2005 | 37 | 96 | 318 | 274 | 24 | 60 | 4 | 2 | 10 | 30 | 2 | 1 | 20 | 56 | .219 | .283 | .358 | .641 | 98 | 2 | 5 | 18 | 1 | 0 | |
2006 | 38 | 115 | 391 | 333 | 38 | 93 | 12 | 0 | 5 | 40 | 3 | 1 | 29 | 39 | .279 | .348 | .360 | .708 | 120 | 10 | 8 | 17 | 4 | 3 | |
2007 | 39 | 111 | 356 | 306 | 22 | 85 | 18 | 0 | 4 | 39 | 2 | 4 | 26 | 19 | .278 | .329 | .376 | .705 | 115 | 6 | 1 | 16 | 7 | 2 | |
2008 | Woori | 40 | 94 | 180 | 159 | 15 | 38 | 7 | 2 | 1 | 23 | 0 | 0 | 15 | 15 | .239 | .305 | .327 | .632 | 52 | 4 | 1 | 3 | 2 | 0 |
2009 | 41 | 29 | 70 | 57 | 14 | 21 | 6 | 0 | 2 | 13 | 0 | 0 | 9 | 6 | .368 | .456 | .579 | 1.035 | 33 | 0 | 1 | 2 | 1 | 0 | |
รวม เคบีโอ: 20 ปี | 2039 | 6940 | 5915 | 741 | 1556 | 286 | 28 | 202 | 871 | 56 | 49 | 661 | 821 | .263 | .346 | .423 | .769 | 2504 | 133 | 130 | 158 | 76 | 36 |
7. Assessment
คิม ดง-ซู ได้รับการประเมินที่หลากหลายตลอดอาชีพของเขาในวงการเบสบอล ทั้งในฐานะนักกีฬาและผู้ฝึกสอน โดยมีทั้งด้านที่เป็นคุณูปการและด้านที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งสะท้อนถึงความซับซ้อนของเส้นทางอาชีพในกีฬามืออาชีพ
7.1. Positive Assessment
คิม ดง-ซูได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแคชเชอร์ที่โดดเด่นที่สุดในเคบีโอ ลีกช่วงทศวรรษ 1990 ด้วยความสามารถรอบด้านที่หาได้ยากในตำแหน่งนี้ การได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมและถุงมือทองคำตั้งแต่ปีแรกที่เปิดตัวกับแอลจี ทวินส์ในปี ค.ศ. 1990 และการเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์โคเรียนซีรีส์ ตอกย้ำถึงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมของเขาตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพ แม้จะต้องเผชิญกับฟอร์มตกในปีถัดมา แต่การกลับมาอย่างแข็งแกร่งในปี ค.ศ. 1992 และการทำโฮมรันเป็นเลขสองหลักได้อย่างสม่ำเสมอแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความมุ่งมั่น นอกจากนี้ การสร้างสถิติสำคัญอย่างการเป็นแคชเชอร์คนแรกที่ตีโฮมรันรวม 200 ครั้ง และลงสนามครบ 2,000 นัด รวมถึงการกลับมาทำผลงานดีเยี่ยมและคว้ารางวัลถุงมือทองคำอีกครั้งกับฮุนได ยูนิคอร์นส์ในปี ค.ศ. 2003 โดยมีส่วนสำคัญในการนำทีมคว้าแชมป์สองปีติดต่อกัน ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถและภาวะผู้นำของเขาในฐานะผู้เล่นอาวุโส ในด้านการฝึกสอน การได้รับเลือกเป็นโค้ชแบตเตอรี่ของทีมชาติเกาหลีใต้ในรายการสำคัญอย่างดับเบิลยูบีเอสซี พรีเมียร์ 12ที่เกาหลีใต้คว้าแชมป์ได้สำเร็จ และปัจจุบันกับการเป็นผู้จัดการทีมเบสบอลของโรงเรียนมัธยมโซล แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับวงการเบสบอลรุ่นต่อไป เขาจึงถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างคุณูปการทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้ฝึกสอน
7.2. Controversies and Criticisms
ตลอดอาชีพของคิม ดง-ซู มีบางเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้งและมุมมองเชิงวิพากษ์วิจารณ์ต่อเส้นทางอาชีพของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่อยู่กับซัมซุง ไลออนส์ เขาต้องเผชิญกับภาวะฟอร์มตกอย่างหนักที่สุดในอาชีพ และต้องสูญเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับจิน กัป-ยง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถานะของเขาในทีมอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่โดดเด่นที่สุดที่สร้างข้อโต้แย้งคือการถูกปล่อยตัวจากทีมเอสเค ไวเวิร์นส์ในปี ค.ศ. 2002 หลังจากการเข้ามาของโช บ็อม-ฮย็อน ในฐานะผู้จัดการทีม การตัดสินใจครั้งนี้ถูกมองว่ามีสาเหตุมาจากความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างคิม ดง-ซู และโช บ็อม-ฮย็อน ซึ่งพัฒนาขึ้นตั้งแต่สมัยที่โช บ็อม-ฮย็อนเป็นโค้ชแบตเตอรี่ให้ซัมซุง ไลออนส์ และมักจะเลือกใช้จิน กัป-ยงมากกว่า การที่ผู้จัดการทีมตัดสินใจปล่อยตัวผู้เล่นออกจากทีมโดยมีปัจจัยส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจ และยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของคิม ดง-ซูในช่วงเวลานั้น แม้ว่าเขาจะสามารถฟื้นตัวและประสบความสำเร็จกับฮุนได ยูนิคอร์นส์ได้ในภายหลัง แต่เหตุการณ์เหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางอาชีพที่ไม่ราบรื่นของเขาที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันภายในทีมและข้อขัดแย้งกับผู้บริหารบางครั้ง