1. Overview
คิม จอง-ฮัน (김정한ภาษาเกาหลี; เกิดวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1962) เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวเกาหลีใต้ ผู้มีชื่อเสียงในสาขาวิชาคณิตศาสตร์เชิงคอมบินาทอริกส์และคณิตศาสตร์เชิงคำนวณ ผลงานที่โดดเด่นที่สุดของเขาคือการพิสูจน์ว่าค่าเลขแรมซีย์ R(3,t) มีอันดับขนาดเชิงเส้นกำกับเป็น t2/log t ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลอันทรงเกียรติอย่างรางวัลฟุลเคอร์สันในปี ค.ศ. 1997 และได้รับรางวัลคยอง-อัมในปี ค.ศ. 2008
2. Early life and education
คิม จอง-ฮันมีภูมิหลังด้านการศึกษาที่แข็งแกร่งตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก โดยเน้นการศึกษาในสาขาวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์
2.1. Birth and childhood
คิม จอง-ฮัน เกิดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1962 ในประเทศเกาหลีใต้ ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตวัยเด็กของเขาไม่ได้ระบุไว้อย่างละเอียดในแหล่งข้อมูล
2.2. Education
คิม จอง-ฮันสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาฟิสิกส์และฟิสิกส์คณิตศาสตร์จากมหาวิทยาลัยยอนเซ ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศเกาหลีใต้ หลังจากนั้นเขาได้เดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกาและได้รับปริญญาเอกสาขาคณิตศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส
3. Career
คิม จอง-ฮันมีเส้นทางอาชีพที่หลากหลายในฐานะนักคณิตศาสตร์ โดยครอบคลุมทั้งบทบาทนักวิจัยในสถาบันชั้นนำและศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย
3.1. Early career and research positions
ในช่วงเริ่มต้นอาชีพ คิม จอง-ฮัน ได้รับตำแหน่งนักวิจัยในสถาบันวิจัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน, ห้องปฏิบัติการเบลล์ (AT&T Bell Labs) และไมโครซอฟท์ รีเสิร์ช การทำงานในสถาบันเหล่านี้ทำให้เขาสามารถสั่งสมประสบการณ์และมีส่วนร่วมในงานวิจัยทางคณิตศาสตร์ที่สำคัญ
3.2. Academic positions
คิม จอง-ฮันได้กลับมาสู่แวดวงวิชาการในเกาหลีใต้ โดยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษอันเดอร์วูด (Underwood Chair Professor) ในภาควิชาคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยยอนเซ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติสูง และตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 เป็นต้นมา เขาดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ที่ School of Computational Sciences ของสถาบันวิทยาศาสตร์ขั้นสูงแห่งเกาหลี (Korea Institute for Advanced Study) หรือ KIAS
3.3. Leadership roles
ในปี ค.ศ. 2008 คิม จอง-ฮันได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการของสถาบันคณิตศาสตร์แห่งชาติเกาหลี (National Institute for Mathematical Sciences - NIMS) ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาการวิจัยทางคณิตศาสตร์ในประเทศเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม เขาดำรงตำแหน่งนี้จนถึงปี ค.ศ. 2011
4. Major research and achievements
ผลงานวิจัยของคิม จอง-ฮันส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่สาขาคอมบินาทอริกส์ และเขาได้สร้างผลงานที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการคณิตศาสตร์
4.1. Research fields
สาขาความสนใจหลักในการวิจัยของคิม จอง-ฮัน คือคณิตศาสตร์เชิงคอมบินาทอริกส์ (Combinatorics) และคณิตศาสตร์เชิงคำนวณ (Computational Mathematics) เขาได้มีส่วนร่วมทางวิชาการที่สำคัญในด้านเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงการศึกษาโครงสร้างที่จำกัด การนับ และการจัดเรียง
4.2. Ramsey number proof
ผลงานวิจัยที่สำคัญที่สุดและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของคิม จอง-ฮัน คือการพิสูจน์ว่าค่าเลขแรมซีย์ R(3,t) มีอันดับขนาดเชิงเส้นกำกับเป็น t2/log t ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญในทฤษฎีแรมซีย์ (Ramsey theory) และได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Random Structures and Algorithms ในปี ค.ศ. 1995 การพิสูจน์นี้มีความซับซ้อนและได้รับการยอมรับอย่างสูงในวงการคณิตศาสตร์
5. Awards and honors
จากการอุทิศตนและผลงานวิจัยที่โดดเด่น คิม จอง-ฮันได้รับการยกย่องและรางวัลมากมายจากองค์กรทางวิชาการระดับโลก
5.1. Fulkerson Prize
ในปี ค.ศ. 1997 คิม จอง-ฮันได้รับรางวัลรางวัลฟุลเคอร์สัน (Fulkerson Prize) ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่มอบให้แก่ผู้สร้างผลงานวิจัยดีเด่นในสาขาคณิตศาสตร์แยกส่วน (discrete mathematics) รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญของผลงานการพิสูจน์ค่า Ramsey number R(3,t) ของเขา
5.2. Kyung-Ahm Prize
ในปี ค.ศ. 2008 คิม จอง-ฮันได้รับรางวัลคยอง-อัม (Kyung-Ahm Prize) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคคลที่มีผลงานโดดเด่นในสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รางวัลนี้สะท้อนถึงการได้รับการยอมรับในระดับประเทศสำหรับผลงานและความสำเร็จทางวิชาการของเขา
6. Controversy and resolution
ในระหว่างการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันคณิตศาสตร์แห่งชาติเกาหลี (NIMS) คิม จอง-ฮันได้เผชิญกับข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการกองทุนวิจัย ซึ่งนำไปสู่การยุติบทบาทของเขาในตำแหน่งดังกล่าวในเวลาต่อมา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2011 เมื่อเขาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการยักยอกเงินทุนวิจัย แม้ว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวจะนำไปสู่การปลดเขาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการของ NIMS อย่างกะทันหัน แต่หลังจากนั้นการสอบสวนของอัยการได้ข้อสรุปว่าเขาไม่มีความผิดใด ๆ ในข้อกล่าวหาดังกล่าว การตัดสินนี้ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ของเขาและเน้นย้ำถึงความสำคัญของกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใสและรับผิดชอบในการตรวจสอบข้อเท็จจริง