1. ชีวิตช่วงต้นและการเริ่มต้นอาชีพ
นักฟุตบอลชาวเวเนซุเอลารายนี้เติบโตขึ้นมาในกรุงการากัส ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอาชีพและชีวิตส่วนตัวของเขา
1.1. วัยเด็กและปีแห่งการก่อร่างสร้างตัว
โรเบร์โต โฆเซ โรซาเลส อัลตูเบ เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1988 ที่การากัส ประเทศเวเนซุเอลา เขาเป็นลูกคนที่สามจากสี่คน (มีพี่ชายสองคนและพี่สาวหนึ่งคน) และพี่น้องของเขาทุกคนก็เป็นนักฟุตบอลเช่นเดียวกับโรเบร์โต ในวัยเด็ก โรซาเลสเปิดเผยว่าพ่อของเขาเป็นคนเข้มงวดกับลูก ๆ โดยเฉพาะกับเขา และได้สอนเขาถึงสามสิ่งสำคัญคือ ความถ่อมตน การเสียสละ และระเบียบวินัย
1.2. อาชีพสโมสรช่วงแรก
โรซาเลสเริ่มต้นเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสร เปดาโกจิโก การากัส (Pedagogico Caracas) และ เดปอร์ติโบ กูลีมา (Deportivo Gulima) ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมการากัส สโมสรจากบ้านเกิดของเขา ที่นั่นเขาได้ประเดิมสนามในระดับอาชีพชุดใหญ่ โดยลงเล่นไป 2 นัด ก่อนจะเซ็นสัญญาสองปีกับสโมสรเกนต์ ในวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 หลังจากการทดสอบฝีเท้าที่ประสบความสำเร็จ
2. อาชีพสโมสรอาชีพ
ตลอดอาชีพค้าแข้งของเขา โรซาเลสได้สร้างชื่อเสียงในฐานะนักฟุตบอลระดับอาชีพที่ประสบความสำเร็จกับหลายสโมสรในยุโรป
2.1. เค.เอ.เอ. เกนต์

โรซาเลสย้ายไปร่วมทีมเค.เอ.เอ. เกนต์ของเบลเยียมในวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 ด้วยสัญญา 2 ปี หลังจากการทดสอบฝีเท้าที่ประสบความสำเร็จ ก่อนหน้านั้นเขามีข่าวเชื่อมโยงกับอันเดอร์เลคต์
เขาประเดิมสนามให้กับเกนต์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 ในเกมที่ชนะคลิฟตันวิลล์ 4-0 ในรายการยูฟ่าอินเตอร์โตโต้คัพ 2007 ส่วนการลงสนามในลีกครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2007 ในเกมเสมอสต็องดาร์เดอ ลีแยฌ 1-1 แม้จะถูกไล่ออกในเกมที่ชนะชาร์เลอรอย 2-1 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 แต่เขาก็ลงสนามไป 20 นัดในทุกรายการในฤดูกาลแรก รวมถึงการลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศเบลเจียนคัพที่แพ้อันเดอร์เลคต์ 2-3
ในฤดูกาล 2008-09 โรซาเลสสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ เขาเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม โดยช่วยให้ทีมรักษาสถิติไม่เสียประตูในเกมเปิดฤดูกาลที่ชนะมงส์ 5-0 ด้วยผลงานที่โดดเด่น สโมสรได้มอบสัญญาฉบับใหม่ให้กับเขาในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ซึ่งจะทำให้เขาอยู่กับทีมไปจนถึงปี 2011 สามสัปดาห์ต่อมาในวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 เขาทำประตูแรกของฤดูกาลได้ในเกมที่แพ้เวสเตอร์โล 2-3 และทำประตูที่สองของฤดูกาลในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2009 ในเกมที่ชนะโลเคอเรน 1-0 อย่างไรก็ตาม เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าซึ่งทำให้เขาต้องพักยาวตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล แม้จะบาดเจ็บ แต่เขาก็จบฤดูกาลด้วยการลงสนาม 28 นัด และทำได้ 2 ประตูในทุกรายการ
ในฤดูกาล 2009-10 โรซาเลสยังคงอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากการบาดเจ็บ ก่อนจะกลับมาลงสนามครั้งแรกในฤดูกาลนี้ในเกมที่ชนะโลเคอเรน 4-1 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 2009 หลังจากยึดตำแหน่งตัวจริงกลับมาได้ เขาก็ทำประตูแรกของฤดูกาลได้ในเกมที่ชนะซินต์-เตรยเดน 2-1 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2009 และทำประตูได้อีกสองประตูในช่วงวันที่ 28 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคม ค.ศ. 2009 ในเกมกับเซอร์เคิล บรูกเฮอ และเค.วี. เมเคเลน ตามลำดับ ตลอดฤดูกาล 2009-10 โรซาเลสช่วยให้เกนต์เข้าถึงนัดชิงชนะเลิศเบลเจียนคัพ โดยทำได้ 4 แอสซิสต์ใน 4 นัด ทั้งสองเลกของรอบก่อนรองชนะเลิศกับคลับ บรูกเฮอ และรอบรองชนะเลิศกับเมเคเลน ในรอบชิงชนะเลิศกับเซอร์เคิล บรูกเฮอ โรซาเลสลงเป็นตัวจริงและช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ด้วยสกอร์ 3-0 ในบางช่วงของฤดูกาล เขายังได้เล่นในตำแหน่งกองกลางเนื่องจากนักเตะตำแหน่งดังกล่าวมีอาการบาดเจ็บ เขาจบนอกฤดูกาลด้วยการลงสนาม 39 นัด และทำได้ 3 ประตูในทุกรายการ
ตลอดสามปีที่เกนต์ โรซาเลสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ โดยทำสถิติรวม 82 นัด และยิงได้ 5 ประตูในทุกรายการ
2.2. เอฟซี ทเวนเต

โรซาเลสย้ายไปร่วมทีมทเวนเต สโมสรในเอเรดิวิซี ด้วยสัญญา 3 ปี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 เขาเข้ามาเป็นตัวแทนโดยตรงของรอนนี สตัม ที่ย้ายไปวีแกน แอธเลติก ในพรีเมียร์ลีก เขาได้รับเสื้อหมายเลข 15 แต่การประเดิมสนามของเขาต้องล่าช้าออกไปเนื่องจากปัญหาวีซ่าทำงาน ซึ่งได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2010
เขาประเดิมสนามในวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2010 โดยลงเล่น 9 นาทีในเกมกับฟีเตส และลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2010 โดยเล่นครบ 90 นาทีในเกมที่ชนะอูเทรคต์ 4-0 โรซาเลสทำประตูแรกให้กับสโมสรเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2010 ในเกมที่ชนะเฟเฟเฟ-เฟนโล 2-1 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2010 โรซาเลสทำประตูได้ในเกมเสมอทอตนัมฮอตสเปอร์ 3-3 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2010-11 ทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลชาวเวเนซุเอลาคนแรกที่ทำประตูในรายการนี้ได้ เขายังคงลงสนามอย่างสม่ำเสมอ แม้จะเคยถูกพักการแข่งขัน รวมถึงการได้รับใบแดงในเกมกับโรดา เจซี เมื่อวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2011 แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงสนามในนัดชิงชนะเลิศเคเอ็นวีบี เบคเกอร์ที่ทเวนเตเอาชนะอายักซ์ 3-2 แต่เขาก็จบฤดูกาลแรกด้วยการลงสนาม 45 นัด และทำได้ 2 ประตูในทุกรายการ
ก่อนฤดูกาล 2011-12 โรซาเลสมีข่าวเชื่อมโยงกับสโมสรอย่างเรอัลมาดริด อย่างไรก็ตาม เขายังคงอยู่กับทเวนเต และเริ่มแข่งขันกับทิม คอร์เนลิสเซ เพื่อแย่งชิงตำแหน่งแบ็กขวา เขาเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการทำแฮตทริกแอสซิสต์ในเกมที่ชนะอาโด เดน ฮาก 5-2 เมื่อวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2011 จากนั้นโรซาเลสก็ส่งบอลให้มาร์ค ยังโกทำประตูชัยในเกมที่ชนะฟูลัม 1-0 ในยูฟ่ายูโรปาลีก เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2011 หลังจากพ้นโทษแบนหนึ่งนัดเนื่องจากได้รับใบเหลืองสะสมครบ 5 ใบ เขาก็ทำประตูได้ในเกมที่ชนะเดอ กราฟสคัป 2-1 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 2012 หลังจากการกลับมา โรซาเลสก็ยึดตำแหน่งตัวจริงได้อีกครั้งในช่วงที่เหลือของฤดูกาล โดยลงสนาม 41 นัด และทำได้ 1 ประตูในทุกรายการ
ในฤดูกาล 2012-13 ข่าวลือการย้ายทีมของโรซาเลสยังคงดำเนินต่อไป โดยมีหลายสโมสรในยุโรปสนใจเซ็นสัญญา อย่างไรก็ตาม เขายังคงอยู่กับสโมสรและเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการทำแอสซิสต์หนึ่งประตูในเกมที่ชนะโกรนิงเงิน 4-1 ในเกมเปิดฤดูกาล และยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีมตัวจริง แม้จะเคยถูกพักการแข่งขันสองครั้งเนื่องจากได้รับใบเหลืองสะสมหลายใบ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของตัวเอง แต่เขาก็ลงสนามไป 44 นัดในทุกรายการ
ในฤดูกาล 2013-14 โรซาเลสช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีตได้ 2 ครั้งในช่วงต้นฤดูกาลในเกมกับอาร์เคซี วาลไวก์ และอูเทรคต์ แม้ทีมจะเริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ดีนัก ในเกมกับฮีเรนเฟน ในรอบสองของเคเอ็นวีบี เบคเกอร์ เขาได้รับใบแดงหลังจากได้รับใบเหลืองที่สองในเกมที่แพ้ 0-3 ทำให้ทีมตกรอบการแข่งขัน โรซาเลสทำประตูแรกของฤดูกาลในเกมที่แพ้อาโด เดน ฮาก 2-3 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 2013 และลงสนามในลีกเป็นนัดที่ 100 ให้กับสโมสรเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 ในเกมเสมอพีอีซี ซโวลล์ 1-1 เมื่อฤดูกาล 2013-14 ดำเนินไป โรซาเลสเผชิญกับการพักการแข่งขันหลังจากได้รับใบเหลืองสะสมครบ 5 ใบ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของตัวเอง แต่เขาก็จบฤดูกาลด้วยการลงสนาม 31 นัด และทำได้ 1 ประตูในทุกรายการ
เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2013-14 โรซาเลสถูกคาดว่าจะย้ายออกจากสโมสร โดยมีสโมสรมาลากาในลาลิกาสนใจเซ็นสัญญา หลังจากที่สัญญาของเขากำลังจะหมดลง ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เขายังไม่ได้ตอบรับสัญญาฉบับใหม่ที่สโมสรเสนอให้
2.3. มาลากา ซีเอฟ

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ค.ศ. 2014 โรซาเลสย้ายไปร่วมทีมมาลากา สโมสรในลาลิกา ด้วยสัญญา 3 ปี เขากล่าวว่าการย้ายมามาลากาเป็นก้าวสำคัญในอาชีพของเขา
เขาประเดิมสนามในลาลิกาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2014 โดยลงเป็นตัวจริงในเกมที่ชนะแอธเลติก บิลบาโอ 1-0 ที่บ้าน ตั้งแต่ประเดิมสนาม โรซาเลสก็ยึดตำแหน่งตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวาได้สำเร็จ จนกระทั่งเขาได้รับบาดเจ็บที่ทำให้ต้องพักไปหลายสัปดาห์ เขาฟื้นตัวจากการบาดเจ็บและกลับมาลงสนามในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2014 ในเกมที่แพ้เรอัลมาดริด 1-2 โรซาเลสอยู่ในทีมที่พบกับบาร์เซโลนาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 ซึ่งเขาลงเป็นตัวจริงและเล่นครบ 90 นาทีในเกมที่มาลากาเอาชนะบาร์เซโลนา 1-0 ซึ่งเขาบอกว่าเป็นเกมที่ดีที่สุดที่เขาเคยเล่นให้กับสโมสร โรซาเลสจบนอกฤดูกาลแรกกับสโมสรด้วยการลงสนาม 40 นัดในทุกรายการ
ในฤดูกาล 2015-16 โรซาเลสยังคงเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวา และผลงานของเขาทำให้สโมสรตัดสินใจเริ่มเจรจาสัญญาฉบับใหม่ เขาทำแอสซิสต์หนึ่งประตูให้กับชาร์ลส์ ที่ทำแฮตทริกในเกมที่ชนะเรอัลโซซิเอดัด 3-1 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 2015 และมีข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายไปเซบิยาในช่วงฤดูร้อน เมื่อฤดูกาล 2015-16 ดำเนินไป การลงสนามอย่างต่อเนื่องของโรซาเลสก็สิ้นสุดลงเมื่อเขาถูกพักการแข่งขันหลังจากได้รับใบเหลืองสะสมครบ 5 ใบในเกมกับกรานาดาเมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2016 หลังจากพ้นโทษแบน เขาก็ได้รับบาดเจ็บในเกมกับเลบันเตเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 ซึ่งทำให้เขาต้องพักตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล แม้จะบาดเจ็บ แต่เขาก็ลงสนามไป 36 นัดในทุกรายการ
ในฤดูกาล 2016-17 โรซาเลสกลับมาจากการบาดเจ็บในฤดูกาลที่แล้ว โดยมาลากาเสมอกับโอซาซูนา 1-1 ในเกมเปิดฤดูกาล ในเดือนถัดมา เขาได้เซ็นสัญญากับสโมสรไปจนถึงปี 2019 และทำประตูแรกให้กับสโมสรในเกมเสมออลาเบส 1-1 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2016 ในเกมกับบาร์เซโลนาเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 โรซาเลสมีส่วนเกี่ยวข้องกับเนย์มาร์เมื่อเนย์มาร์ใช้การหมุนตัวที่รวดเร็ว ทำให้บอลลอยข้ามหัวโรซาเลสไป ในขณะที่เขาลื่นล้มลงไปบนพื้นสนามที่เปียกและจบลงด้วยการนอนราบไปกับพื้น
2.4. อาร์ซีดี เอสปัญญอล (ยืมตัว)
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2018 หลังจากที่มาลากาตกชั้นสู่เซกุนดา ดิวิซิออน โรซาเลสถูกยืมตัวไปเล่นให้กับอาร์ซีดี เอสปัญญอล เป็นเวลา 1 ปี เขาประเดิมสนามให้กับเอสปัญญอลเมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2018 โดยเล่นครบ 90 นาทีในเกมที่ชนะเอย์บาร์ 1-0 ในบ้าน และทำประตูแรกได้ในเกมที่แพ้เรอัลมาดริด 2-4 เมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2019 ในเกมลีกนัดสุดท้ายกับเรอัลโซซิเอดัด โรซาเลสทำประตูแรกของเกมได้ช่วยให้ทีมชนะ 2-0 และผ่านเข้ารอบยูโรปาลีกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี
2.5. ซีดี เลกาเนส
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 โรซาเลสได้ตกลงเซ็นสัญญากับสโมสรเลกาเนสของสเปนเป็นเวลา 2 ปี พร้อมออปชันขยายสัญญาอีก 1 ปี เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าอันดับ 3 ในเซกุนดา ดิวิซิออนและเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเพลย์ออฟได้
2.6. เออีเค ลาร์นาคา
หลังจากฤดูกาล 2020-21 สิ้นสุดลง โรซาเลสย้ายไปร่วมทีมเออีเค ลาร์นาคา สโมสรในไซปรัสเฟิสต์ดิวิชัน ในฤดูกาลแรกของเขา เขาช่วยให้ทีมคว้าอันดับรองชนะเลิศในลีกและเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของไซปรัสคัพได้สำเร็จ และในฤดูกาล 2022-23 เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าอันดับสามในลีก
2.7. เดปอร์ติโบ ตาชีรา
ปัจจุบัน โรซาเลสเล่นให้กับสโมสรเดปอร์ติโบ ตาชีราในประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นสโมสรล่าสุดที่เขาย้ายมาร่วมทีม
3. อาชีพระหว่างประเทศ
โรซาเลสเป็นกำลังสำคัญในทีมชาติเวเนซุเอลาทั้งในระดับเยาวชนและระดับชุดใหญ่
3.1. ทีมชาติชุดเยาวชน
โรซาเลสเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเวเนซุเอลา ชุดอายุไม่เกิน 20 ปี และได้เข้าร่วมกีฬาอเมริกากลางและแคริบเบียนเกมส์ ปี 2006 ซึ่งทีมของเขาคว้าเหรียญเงินได้สำเร็จ ถือเป็นเหรียญเงินเหรียญแรกในรอบ 16 ปีของทีมชาติในรายการนี้
3.2. ทีมชาติชุดใหญ่
โรซาเลสประเดิมสนามในระดับทีมชาติชุดใหญ่ให้กับเวเนซุเอลาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 2007 โดยเล่นตลอดครึ่งหลังในเกมที่ชนะนิวซีแลนด์ 5-0 หลังจากประเดิมสนามในนามทีมชาติ โรซาเลสก็ถูกเรียกตัวติดทีมชาติสำหรับการแข่งขันโกปาอาเมริกา หลังจากที่เขาลงสนามไปไม่กี่นัดในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา และช่วยให้ทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ และจบอันดับที่สี่ในรายการ ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของเวเนซุเอลา
การลงสนามนัดที่ 50 ให้กับทีมชาติของเขาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 2014 ในเกมที่แพ้ฮอนดูรัส 1-2
โรซาเลสถูกเรียกตัวติดทีมชาติสำหรับการแข่งขันโกปาอาเมริกาอีกสองครั้ง และโกปาอาเมริกาเซนเตนาริโอ (2016) และโกปาอาเมริกา 2019 รวมถึงโกปาอาเมริกา 2021 เขาทำประตูแรกในนามทีมชาติเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ในเกมกระชับมิตรกับเอกวาดอร์ที่เสมอกัน 1-1 ปัจจุบันเขามีสถิติลงสนามในนามทีมชาติ 85 นัด ทำได้ 1 ประตู นอกจากนี้เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าคิรินคัพปี 2019 มาครอง
4. ชีวิตส่วนตัว
ในระหว่างที่อาศัยอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ โรซาเลสเริ่มเรียนภาษาดัตช์ โดยเปิดเผยว่าเขาเรียนสัปดาห์ละสองครั้ง
5. เกียรติประวัติ
เค.เอ.เอ. เกนต์
- เบลเจียนคัพ: 2009-10
- รองชนะเลิศเบลเจียนคัพ: 2007-08
- รองชนะเลิศเบลเจียนโปรลีก: 2009-10
เอฟซี ทเวนเต
- เคเอ็นวีบี เบคเกอร์: 2010-11
- โยฮัน ครอยฟ์ สกาล: 2010, 2011
- รองชนะเลิศเอเรดิวิซี: 2010-11
มาลากา ซีเอฟ
- ทรอเฟโอ คอสต้า เดล ซอล: 2015, 2016
เออีเค ลาร์นาคา
- รองชนะเลิศไซปรัสเฟิสต์ดิวิชัน: 2021-22
- อันดับสามไซปรัสเฟิสต์ดิวิชัน: 2022-23
- รอบรองชนะเลิศไซปรัสคัพ: 2021-22
ฟุตบอลทีมชาติเวเนซุเอลา อายุไม่เกิน 20 ปี
- เหรียญเงินกีฬาอเมริกากลางและแคริบเบียนเกมส์: 2006
ฟุตบอลทีมชาติเวเนซุเอลา
- อันดับสี่โกปาอาเมริกา: 2011
- คิรินคัพ: 2019
6. สถิติอาชีพ
อัปเดต ณ วันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 2021
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วย | ระดับทวีป | รวม | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ||
การากัส | 2006-07 | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 2 | 0 |
รวม | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 2 | 0 | |
เกนต์ | 2007-08 | 15 | 0 | 0 | 0 | - | 15 | 0 | |
2008-09 | 25 | 2 | 1 | 0 | 2 | 0 | 28 | 2 | |
2009-10 | 32 | 3 | 7 | 0 | - | 39 | 3 | ||
รวม | 72 | 5 | 8 | 0 | 2 | 0 | 82 | 5 | |
ทเวนเต | 2010-11 | 29 | 1 | 5 | 0 | 11 | 1 | 45 | 2 |
2011-12 | 30 | 1 | 2 | 0 | 9 | 0 | 41 | 1 | |
2012-13 | 29 | 0 | 0 | 0 | 11 | 0 | 40 | 0 | |
2013-14 | 30 | 1 | 1 | 0 | 0 | 0 | 31 | 1 | |
รวม | 118 | 3 | 8 | 0 | 31 | 1 | 157 | 4 | |
มาลากา | 2014-15 | 34 | 0 | 6 | 0 | 0 | 0 | 40 | 0 |
2015-16 | 35 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 36 | 0 | |
2016-17 | 32 | 1 | 2 | 0 | 0 | 0 | 34 | 1 | |
2017-18 | 35 | 1 | 1 | 0 | 0 | 0 | 36 | 1 | |
รวม | 136 | 2 | 10 | 0 | 0 | 0 | 146 | 2 | |
เอสปัญญอล (ยืมตัว) | 2018-19 | 21 | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 21 | 2 |
รวม | 21 | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 21 | 2 | |
เลกาเนส | 2019-21 | 42 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 42 | 1 |
รวม | 42 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 42 | 1 | |
รวมตลอดอาชีพ | 391 | 13 | 26 | 0 | 33 | 1 | 450 | 14 |