1. ภาพรวม
เอริช ราเดมาเคอร์ (ชื่อเต็ม: ฟริทซ์ อัลแบร์ท เอริช ราเดมาเคอร์) เป็นนักกีฬาว่ายน้ำชาวเยอรมนี เกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 1901 ที่เมืองมาคเดอบวร์ค และเสียชีวิตในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1979 ที่เมืองชตุทท์การ์ท ด้วยวัย 77 ปี เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักกีฬาผู้เชี่ยวชาญทั้งการว่ายน้ำท่ากบและโปโลน้ำในตำแหน่งผู้รักษาประตู ราเดมาเคอร์เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนถึงสองครั้งในปี ค.ศ. 1928 และ ค.ศ. 1932 และสร้างผลงานโดดเด่นด้วยการคว้าเหรียญรางวัลในทั้งสองกีฬา
ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 1928 ที่อัมสเตอร์ดัม เขาได้รับเหรียญเงินในการแข่งขันว่ายน้ำท่ากบ 200 m และคว้าเหรียญทองในฐานะผู้รักษาประตูของทีมโปโลน้ำชายเยอรมนี สี่ปีต่อมา ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1932 ที่ลอสแอนเจลิส เขายังคงเป็นส่วนหนึ่งของทีมโปโลน้ำชายเยอรมนีที่ได้รับเหรียญเงิน ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะผู้บุกเบิกเทคนิคการว่ายน้ำท่ากบแบบ "บิน" ที่ต่อมาได้พัฒนาไปสู่ท่าผีเสื้อ
2. ชีวประวัติ
เอริช ราเดมาเคอร์ มีพื้นเพมาจากครอบครัวที่สนับสนุนความสามารถด้านกีฬาของเขา โดยเฉพาะการว่ายน้ำ ซึ่งนำพาเขาไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรว่ายน้ำที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย และยังคงรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวที่แนบแน่น รวมถึงการสืบทอดความสามารถทางกีฬาไปยังลูกหลานของเขา
2.1. การเกิดและชีวิตช่วงต้น
เอริช ราเดมาเคอร์ เกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 1901 ที่เมืองมาคเดอบวร์ค ซึ่งขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรปรัสเซียในจักรวรรดิเยอรมนี เขาเป็นบุตรชายของไฮน์ริช ราเดมาเคอร์ เมื่ออายุได้ 9 ขวบ ในวันคริสต์มาสอีฟ ราเดมาเคอร์ได้รับเชิญให้เป็นสมาชิกของสโมสรว่ายน้ำ เฮลลาส มาคเดอบวร์ค (SC Hellas Magdeburg) ซึ่งถือเป็นสโมสรว่ายน้ำที่ดีที่สุดในประเทศในขณะนั้น คำเชิญดังกล่าวส่งทางไปรษณีย์ถึงบิดาของเขา ไฮน์ริช โดยมีข้อความว่า: die Vorstandversammlung vom 23. Dezember des Jahres Ihrem Antrag entsprochen und Ihren Sohn Erich in die Jugend-Abteilung unseres Clubs aufgenommen hat.คณะกรรมการบริหารได้อนุมัติคำขอของท่านในการประชุมเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม และได้ตอบรับบุตรชายของท่าน เอริช เข้าสู่แผนกเยาวชนของสโมสรของเราภาษาเยอรมัน นอกจากนี้ จดหมายยังระบุเพิ่มเติมว่า: Wir heißen Ihren Sohn herzlich willkommen, bitten Sie aber, um den in unseren Aufnahmebedingungen übernommenen Verpflichtungen nach besten Kräften gerecht werden zu können, ihn in seinem und unserem Interesse zum regelmäßigen Besuch unserer Übungsabende anhalten zu wollen.เรายินดีต้อนรับบุตรชายของท่านอย่างอบอุ่น แต่ขอให้ท่านปฏิบัติตามพันธกรณีที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการรับเข้าของเราอย่างเต็มที่ และส่งเสริมให้เขาเข้าร่วมการฝึกซ้อมช่วงเย็นของเราเป็นประจำ เพื่อประโยชน์ของตัวเขาเองและของเราภาษาเยอรมัน
2.2. การศึกษาและอาชีพช่วงแรก
ราเดมาเคอร์เข้าเรียนและฝึกฝนในฐานะเสมียนประกันภัย อาชีพนี้จะเป็นพื้นฐานสำหรับชีวิตการงานของเขาหลังจากการแข่งขันกีฬา นอกจากนี้ เขายังเป็นหนึ่งในนักกีฬาเพียงไม่กี่คนในยุคนั้นที่มีผู้จัดการส่วนตัว คือ เคิร์ท เบห์เรนส์ (Kurt Behrens) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มชื่อเสียงของราเดมาเคอร์ในวงการว่ายน้ำของสหรัฐอเมริกา และอาจให้การสนับสนุนด้านการเงินสำหรับการเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศของเขาด้วย
2.3. ความสัมพันธ์ในครอบครัว
ความสัมพันธ์ในครอบครัวของเอริช ราเดมาเคอร์มีความใกล้ชิด และหลายคนในครอบครัวของเขาก็เป็นนักกีฬาที่มีความสามารถโดดเด่นเช่นกัน โยอาคิม ราเดมาเคอร์ น้องชายของเขา เป็นเพื่อนร่วมทีมของเอริชในการแข่งขันโปโลน้ำโอลิมปิกทั้งสองครั้งที่อัมสเตอร์ดัมปี 1928 และลอสแอนเจลิสปี 1932 นอกจากนี้ บุตรชายทั้งสองคนของเอริชก็สืบทอดความสามารถด้านการว่ายน้ำเช่นกัน อุลริช ราเดมาเคอร์ บุตรชายคนโต คว้าแชมป์การว่ายน้ำในเยอรมนีได้ถึง 11 รายการ และสร้างสถิติระดับประเทศ 37 รายการในช่วงปี 1954-1958 ส่วนบุตรชายอีกคนคือ ปีเตอร์ ราเดมาเคอร์ ก็เป็นนักกีฬาโปโลน้ำที่เคยลงเล่นให้กับทีมชาติเยอรมนี
3. อาชีพนักว่ายน้ำและโปโลน้ำ
ตลอดอาชีพนักกีฬาของเอริช ราเดมาเคอร์ เขาได้สร้างผลงานอันโดดเด่นทั้งในฐานะนักว่ายน้ำท่ากบและผู้รักษาประตูโปโลน้ำ ตั้งแต่การคว้าแชมป์ระดับประเทศไปจนถึงเหรียญโอลิมปิก และยังเป็นผู้บุกเบิกเทคนิคการว่ายน้ำที่สำคัญ

3.1. ความสำเร็จในการแข่งขันภายในประเทศ
เอริช ราเดมาเคอร์ เริ่มต้นสร้างชื่อเสียงในฐานะนักกีฬาผู้มากความสามารถตั้งแต่ยังเด็ก ในปี ค.ศ. 1918 เขาคว้าแชมป์ประเทศในการว่ายน้ำท่ากรรเชียง 100 m ซึ่งเป็นตำแหน่งแชมป์ประเทศแรกของเขา หลังจากนั้นเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปี ค.ศ. 1919-1927 (ยกเว้นปี ค.ศ. 1922) ราเดมาเคอร์คว้าแชมป์ประเทศในการว่ายน้ำท่ากบ 100 m ได้ถึง 7 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1928 เขาเป็นแชมป์ประเทศในการว่ายน้ำท่ากบ 200 m นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1924 ถึง ค.ศ. 1928 เขายังคว้าแชมป์ประเทศในการแข่งขันผลัดฟรีสไตล์ 4 x 100 m ด้วย
ในด้านโปโลน้ำ ราเดมาเคอร์ในฐานะผู้รักษาประตูของทีมเฮลลาส มาคเดอบวร์ค คว้าแชมป์ประเทศได้หลายครั้ง ได้แก่ ปี ค.ศ. 1924 ถึง 1926, ปี ค.ศ. 1928 ถึง 1931, และอีกครั้งในปี ค.ศ. 1933 ตลอดอาชีพของเขา ราเดมาเคอร์สร้างสถิติระดับประเทศของเยอรมนีได้ถึง 15 รายการ และยังคว้าแชมป์ระดับประเทศในประเทศอื่น ๆ ได้แก่ แชมป์ระดับประเทศฮังการี 2 รายการ, แชมป์ระดับประเทศสหราชอาณาจักร 1 รายการ, แชมป์ระดับประเทศเชโกสโลวาเกีย 1 รายการ, และแชมป์ระดับประเทศสหรัฐอเมริกา 1 รายการ
3.2. ความสำเร็จในการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรป
เอริช ราเดมาเคอร์ มีผลงานที่โดดเด่นในการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปหลายครั้ง ในการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปว่ายน้ำ ปี ค.ศ. 1926 ที่บูดาเปสต์ เขาคว้าเหรียญทองแดงกับทีมโปโลน้ำ และเป็นแชมป์ยุโรปในการแข่งขันว่ายน้ำท่ากบ 200 m ชาย เขาสามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์นี้ได้อีกครั้งในปี ค.ศ. 1927 ในการแข่งขันที่เมืองโบโลญญา และสุดท้าย ในการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรป ปี ค.ศ. 1931 ที่ปารีส เขาคว้าเหรียญเงินร่วมกับทีมโปโลน้ำของเขา
3.3. ความสำเร็จในโอลิมปิก
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เอริช ราเดมาเคอร์ ไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 1920 และโอลิมปิกฤดูร้อน 1924 ได้ เนื่องจากเยอรมนีไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันหลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 1928 ที่อัมสเตอร์ดัม ราเดมาเคอร์ถือเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งที่จะคว้าเหรียญทองในการแข่งขันว่ายน้ำท่ากบ 200 m ชาย เนื่องจากเขาเป็นเจ้าของสถิติโลกด้วยเวลา 2:48 อย่างไรก็ตาม สึรุตะ โยชิยูกิ นักว่ายน้ำชาวญี่ปุ่น ได้ใช้กลยุทธ์ที่ไม่คาดคิดซึ่งได้รับอนุญาตในเวลานั้น โดยการว่ายใต้น้ำเป็นส่วนใหญ่ของการแข่งขัน ส่งผลให้สึรุตะเอาชนะราเดมาเคอร์ได้ และสร้างสถิติโลกใหม่ที่ 2:45.4 ทำให้ราเดมาเคอร์ได้รับเหรียญเงินแทน
ความผิดหวังในครั้งนั้นอยู่ได้ไม่นานนัก เพราะราเดมาเคอร์สามารถคว้าเหรียญทองในฐานะผู้รักษาประตูให้กับทีมโปโลน้ำเยอรมนีในการแข่งขันโปโลน้ำชายในโอลิมปิกครั้งเดียวกัน โดยเขาลงเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู 2 นัด สี่ปีต่อมาในโอลิมปิกฤดูร้อน 1932 ที่ลอสแอนเจลิส ทีมโปโลน้ำเยอรมนีซึ่งมีราเดมาเคอร์เป็นผู้รักษาประตู และเขาลงเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู 3 นัด คว้าเหรียญเงินมาได้
3.4. สถิติโลกและเทคนิคการว่ายน้ำที่สำคัญ
เอริช ราเดมาเคอร์ ได้สร้างสถิติโลกมากมายตลอดอาชีพนักกีฬาของเขา ภายในปี ค.ศ. 1925 เขาเป็นเจ้าของสถิติโลกทั้งหมดในการแข่งขันว่ายน้ำท่ากบ ตั้งแต่ระยะ 50 yd ไปจนถึง 500 m เขาสร้างสถิติโลกในการว่ายน้ำท่ากบ 400 m ในปี ค.ศ. 1920, 1921, 1923, 1925 และ 1926 สำหรับการว่ายน้ำท่ากบ 200 m เขาสร้างสถิติโลกในปี ค.ศ. 1922 และ 1927 ในการว่ายน้ำท่ากบ 200 yd เขาสร้างสถิติโลกในปี ค.ศ. 1924 และในปี ค.ศ. 1925 เขาก็สร้างสถิติโลกทั้งในระยะ 100 m และ 500 m
นอกจากความสำเร็จด้านสถิติแล้ว ราเดมาเคอร์ยังเป็นหนึ่งในบุคคลแรกๆ ที่ใช้เทคนิคการกวาดแขนเหนือน้ำ (overarm recovery) ในการว่ายน้ำท่ากบ ซึ่งต่อมาเรียกเทคนิคนี้ว่า "ท่าปลาบิน" (flying fish) เทคนิคนี้ถือเป็นต้นแบบของการเคลื่อนไหวแขนในการว่ายน้ำท่าผีเสื้อในเวลาต่อมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมและความสำคัญของเขาในการพัฒนาเทคนิคการว่ายน้ำสมัยใหม่
3.5. กิจกรรมระหว่างประเทศและการสิ้นสุดอาชีพ
เอริช ราเดมาเคอร์ มีกิจกรรมระหว่างประเทศหลายครั้งที่แสดงถึงความสามารถและการยอมรับในระดับโลก ในปี ค.ศ. 1926 เขาได้เดินทางไปแข่งขันที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง เนื่องจากเขาสามารถสร้างสถิติใหม่ได้ถึง 10 รายการภายในเวลาเพียง 11 วัน ในปี ค.ศ. 1927 เขายังได้เดินทางไปญี่ปุ่นในฐานะนักว่ายน้ำสาธิต เพื่อแสดงความสามารถและเผยแพร่กีฬาว่ายน้ำ เมื่อสิ้นสุดอาชีพนักกีฬา ราเดมาเคอร์ได้ลงแข่งขันโปโลน้ำให้กับทีมชาติเยอรมนีรวมทั้งหมด 42 ครั้ง และคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันประเภทต่างๆ ได้ถึง 1,012 ครั้งตลอดอาชีพของเขา
4. ชีวิตช่วงปลายและการประเมินผล
ชีวิตของเอริช ราเดมาเคอร์ หลังจากยุคแห่งการแข่งขันกีฬาเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะผลกระทบจากสงคราม และการเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ
4.1. การเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สองและชีวิตหลังสงคราม
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เอริช ราเดมาเคอร์ เข้าร่วมรบกับสหภาพโซเวียต และถูกจับเป็นเชลยสงคราม เขาถูกคุมขังอยู่ในค่ายเชลยจนถึงปี ค.ศ. 1947 ในช่วงเวลานั้น เขาได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าอย่างถาวร ซึ่งเป็นสาเหตุให้เขาไม่ชอบการถูกถ่ายรูปหลังจากนั้น หลังจากเดินทางกลับสู่เยอรมนี เขาเลือกที่จะปลีกตัวออกจากวงการว่ายน้ำ และปฏิเสธที่จะช่วยเพื่อนร่วมทีมจากสโมสรเฮลลาส มาคเดอบวร์ค ในการจัดตั้งสมาคมว่ายน้ำแห่งใหม่ เขากลับไปทำงานเป็นเสมียนประกันภัยที่เมืองเบราน์ชไวค์ และต่อมาที่เมืองชตุทท์การ์ท การเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและถอนตัวจากวงการกีฬา แสดงให้เห็นถึงผลกระทบอย่างลึกซึ้งที่สงครามมีต่อชีวิตส่วนตัวของเขา
4.2. เกียรติยศและการระลึก
แม้ว่าราเดมาเคอร์จะปลีกตัวจากวงการว่ายน้ำ แต่เขายังคงได้รับการยกย่องในฐานะนักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่ ในปี ค.ศ. 1972 เขาได้รับเลือกให้เข้าสู่หอเกียรติยศการว่ายน้ำนานาชาติ (International Swimming Hall of Fame) และในปี ค.ศ. 2008 ก็ได้รับเกียรติให้เข้าสู่หอเกียรติยศกีฬาของเยอรมนี (Germany's Sports Hall of Fame) เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณูปการของเขา ถนนสายหนึ่งและสระว่ายน้ำในร่มแห่งหนึ่งในเมืองมาคเดอบวร์ค ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา ได้รับการตั้งชื่อตามเขา
5. การเสียชีวิต
เอริช ราเดมาเคอร์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1979 ที่เมืองชตุทท์การ์ท เยอรมนีตะวันตก ขณะมีอายุได้ 77 ปี