1. ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
เอนรีโก เด นีโกลา เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1877 ที่เนเปิลส์ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรอิตาลี เขาได้ศึกษาด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยเนเปิลส์เฟเดรีโกที่ 2 (University of Naples Federico II) และสำเร็จการศึกษาในปี ค.ศ. 1896 หลังจากนั้น เขาก็ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาญาที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในอิตาลี
2. การทำงานทางการเมืองช่วงต้น
ในฐานะนักการเมืองเสรีนิยม เอนรีโก เด นีโกลา ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1909 และระหว่างปี ค.ศ. 1913 ถึง ค.ศ. 1921 เขาได้ดำรงตำแหน่งเล็ก ๆ ในรัฐบาลหลายตำแหน่ง รวมถึงตำแหน่งปลัดกระทรวงกิจการอาณานิคมในรัฐบาลของโจวันนี จอลิตตี (พฤศจิกายน ค.ศ. 1913 - มีนาคม ค.ศ. 1914) และปลัดกระทรวงการคลังในคณะรัฐมนตรีของวิตโตรีโอ เอมานูเอเล ออร์ลันโด (มกราคม - มิถุนายน ค.ศ. 1919) ในวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1920 เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และดำรงตำแหน่งนี้จนถึงเดือนมกราคม ค.ศ. 1924
3. การดำเนินกิจกรรมในช่วงฟาสซิสต์
เมื่อระบอบฟาสซิสต์ของเบนิโต มุสโสลินีเรืองอำนาจ เอนรีโก เด นีโกลา ได้ถอนตัวจากชีวิตทางการเมืองและกลับไปประกอบอาชีพทนายความ เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยสมเด็จพระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 3 ในปี ค.ศ. 1929 (บางแหล่งระบุ ค.ศ. 1926) แต่เขาปฏิเสธที่จะเข้ารับตำแหน่งและไม่เคยมีส่วนร่วมในการทำงานของรัฐสภาเลยตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่เก็บตัวและไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมืองในช่วงที่ฟาสซิสต์ครอบงำประเทศ
4. บทบาทในการสถาปนาสาธารณรัฐ
หลังจากที่ระบอบฟาสซิสต์ล่มสลายในปี ค.ศ. 1943 เอนรีโก เด นีโกลา ได้กลับมาสนใจการเมืองอีกครั้ง เขากลายเป็นผู้ไกล่เกลี่ยที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการเปลี่ยนผ่านของสถาบันพระมหากษัตริย์อิตาลี ซึ่งสมเด็จพระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 3 ทรงพยายามแยกตัวออกจากความร่วมมือกับระบอบฟาสซิสต์ เด นีโกลา มีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งตำแหน่ง "ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน" ให้แก่เจ้าชายอุมแบร์โต พระราชโอรสของกษัตริย์ ซึ่งได้เข้ารับหน้าที่ส่วนใหญ่ของพระมหากษัตริย์ ต่อมาสมเด็จพระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 3 ได้ทรงสละราชสมบัติ และเจ้าชายอุมแบร์โตได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าอุมแบร์โตที่ 2 ก่อนที่จะมีการจัดลงประชามติรัฐธรรมนูญในปี ค.ศ. 1946 ซึ่งฝ่ายสาธารณรัฐได้รับชัยชนะ

หลังจากการเนรเทศของพระเจ้าอุมแบร์โตที่ 2 และการสิ้นสุดของระบอบราชาธิปไตย สมัชชาร่างรัฐธรรมนูญได้เลือก เด นีโกลา ให้ดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐชั่วคราวในวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1946 ด้วยคะแนนเสียงถึงร้อยละ 80 ในการลงคะแนนรอบแรก จูลีโอ อันเดรออตตี ซึ่งต่อมาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เล่าถึงความถ่อมตนของ เด นีโกลา ที่ไม่แน่ใจว่าจะยอมรับการเสนอชื่อหรือไม่ และเปลี่ยนใจอยู่บ่อยครั้งแม้จะได้รับการยืนยันจากผู้นำทางการเมืองคนสำคัญทั้งหมด อันเดรออตตีถึงกับต้องออกแถลงการณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ Il Giornale d'Italia ว่า "ท่านผู้มีเกียรติ เด นีโกลา ได้โปรดตัดสินใจที่จะตัดสินใจว่าท่านจะยอมรับการยอมรับหรือไม่" (Onorevole De Nicola, decida di decidere se accetta di accettare.ภาษาอิตาลี)
ในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1947 เด นีโกลา ได้ลาออกจากตำแหน่งโดยอ้างเหตุผลด้านสุขภาพ แต่สมัชชาร่างรัฐธรรมนูญได้เลือกเขากลับเข้าสู่ตำแหน่งทันทีในวันรุ่งขึ้น เพื่อเป็นการยกย่องในความสูงส่งและความถ่อมตนของเขา
5. ประธานาธิบดีคนแรกของอิตาลี
หลังจากที่รัฐธรรมนูญอิตาลีมีผลบังคับใช้ เอนรีโก เด นีโกลา ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เป็น "ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิตาลี" คนแรกในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1948 อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน ซึ่งลุยจี เอย์เนดี ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไป
6. การดำรงตำแหน่งสาธารณะในภายหลัง
ในปี ค.ศ. 1948 เอนรีโก เด นีโกลา ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาตลอดชีพในฐานะอดีตประมุขแห่งรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มอบให้แก่ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งสูงสุดของประเทศ หลังจากนั้น เขาก็ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ อีกหลายตำแหน่ง ได้แก่ ประธานวุฒิสภา (ดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1951 ถึง 24 มิถุนายน ค.ศ. 1952) และประธานศาลรัฐธรรมนูญ (ดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 23 มกราคม ค.ศ. 1956 ถึง 26 มีนาคม ค.ศ. 1957)
7. ชีวิตส่วนตัว
เอนรีโก เด นีโกลา ไม่เคยสมรสและไม่มีบุตร มีเรื่องเล่าว่าเขาเป็นคนชอบพิซซ่ามาก และมักจะเลือกนั่งโต๊ะที่อยู่ใกล้เตาอบเสมอเมื่อไปรับประทานอาหาร
8. เกียรติยศและรางวัล
ตลอดชีวิตของเขา เอนรีโก เด นีโกลา ได้รับเกียรติยศและรางวัลสำคัญหลายอย่าง เพื่อยกย่องคุณูปการของเขาต่อประเทศชาติ ซึ่งรวมถึง:
- เครื่องอิสริยาภรณ์ดวงดาวแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของอิตาลี (Order of the Star of Italian Solidarity)
- เครื่องอิสริยาภรณ์คุณธรรมแห่งสาธารณรัฐอิตาลี (Order of Merit of the Italian Republic) ซึ่งเขาได้รับในปี ค.ศ. 1956
9. การประเมินและมรดก
เอนรีโก เด นีโกลา ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากคุณสมบัติส่วนตัวของเขา ทั้งความถ่อมตน ความสูงส่ง และความอ่อนน้อมถ่อมตน เขามักถูกเรียกว่า "สุภาพบุรุษประธานาธิบดี" (Presidente galantuomo) ซึ่งสะท้อนถึงความซื่อสัตย์และความมีเกียรติของเขา บทบาทของเขาในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยในช่วงการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญของอิตาลีหลังการล่มสลายของฟาสซิสต์ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการวางรากฐานสำหรับประชาธิปไตยที่มั่นคงในสาธารณรัฐอิตาลี เขาเป็นสัญลักษณ์ของความต่อเนื่องทางกฎหมายและรัฐธรรมนูญในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนทางการเมือง และมรดกของเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังในด้านความมุ่งมั่นต่อหลักการประชาธิปไตยและการรับใช้สาธารณะด้วยความเสียสละ
10. การอสัญกรรม
เอนรีโก เด นีโกลา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1959 ที่ตอร์เรเดลเกรโก (Torre del Greco) ในจังหวัดเนเปิลส์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา สิริอายุได้ 81 ปี พิธีศพของเขาจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ เพื่อรำลึกถึงคุณูปการอันใหญ่หลวงที่เขามีต่อการก่อตั้งและเสริมสร้างสาธารณรัฐอิตาลี