1. ภาพรวม
อัลเบร์โต กอร์ริซ เอชาร์เต (Alberto Górriz Echarteอัลเบร์โต กอร์ริซ เอชาร์เตภาษาสเปน เกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1958) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวสเปนที่เล่นในตำแหน่งกองหลังตัวกลางเป็นหลัก ความสามารถเด่นของเขาคือการโหม่งลูก และเขามักจะทำประตูได้จากลูกตั้งเตะ ตลอดอาชีพค้าแข้ง เขาเล่นให้กับเรอัลโซเซียดาดเพียงสโมสรเดียว โดยลงสนามเกือบ 600 นัดในการแข่งขันอย่างเป็นทางการ และคว้าแชมป์สำคัญได้ 4 รายการ กอร์ริซยังเป็นตัวแทนของทีมชาติสเปนในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1990 อีกด้วย
2. ช่วงต้นของชีวิต
อัลเบร์โต กอร์ริซ เอชาร์เต เกิดที่อิรุน จังหวัดกิปุซโกอา ในแคว้นประเทศบาสก์ ประเทศสเปน เขาเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลกับทีมเยาวชนของสโมสรฟุตบอล ซาน มาร์เซียล ก่อนจะย้ายมายังระบบเยาวชนของเรอัลโซเซียดาด ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาจะอยู่ค้าแข้งตลอดอาชีพการเล่นของเขา
3. อาชีพสโมสร
อัลเบร์โต กอร์ริซ เริ่มต้นและปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรเดียวคือเรอัลโซเซียดาด เขาได้ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่เกือบ 600 นัด และเป็นกำลังสำคัญของแนวรับมาโดยตลอด เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในยุค 1980s คว้าแชมป์ลีกได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน และยังคงเป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นที่ลงสนามให้กับสโมสรมากที่สุดในประวัติศาสตร์
3.1. อาชีพระดับเยาวชนและช่วงแรก
กอร์ริซเป็นเด็กปั้นจากระบบเยาวชนของเรอัลโซเซียดาด โดยเขาเกิดที่อิรุน จังหวัดกิปุซโกอา และใช้เวลาตลอดอาชีพการเล่นของเขากับสโมสรแห่งบาสก์แห่งนี้ เขาประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่เมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1979 ในเกมเยือนที่เรอัลโซเซียดาดเอาชนะราโย บาเยกาโนไปได้ 4-0
3.2. บทบาทกองหลังตัวหลักของเรอัลโซเซียดาด
นับตั้งแต่ฤดูกาลที่สามของเขาในฤดูกาล ลาลิกา 1980-81 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่เรอัลโซเซียดาดคว้าแชมป์ลาลิกาได้สำเร็จ กอร์ริซก็ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักในแนวรับของทีมอย่างมั่นคง เขารับบทบาทเป็นกองหลังตัวหลักอย่างต่อเนื่องจนถึงฤดูกาล ลาลิกา 1991-92 โดยลงสนามอย่างน้อย 31 นัดในแต่ละฤดูกาล กอร์ริซมักจะจับคู่ในแนวรับกับอากุสติน กาคาเต ผู้เล่นอีกคนหนึ่งที่เล่นให้กับสโมสรอาชีพเพียงแห่งเดียวเช่นกัน ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นหัวใจสำคัญของแนวรับเรอัลโซเซียดาดที่แข็งแกร่ง
3.3. การคว้าแชมป์ลีกและเกียรติยศสำคัญ
ในระหว่างอาชีพค้าแข้งของเขา อัลเบร์โต กอร์ริซ ได้สัมผัสกับความสำเร็จมากมายกับเรอัลโซเซียดาด เขาเป็นกำลังสำคัญในการคว้าแชมป์ลาลิกาได้ถึงสองสมัยติดต่อกันในฤดูกาล ลาลิกา 1980-81 และ ลาลิกา 1981-82 นอกจากนี้ เขายังช่วยให้ทีมคว้าแชมป์โกปาเดลเรย์ได้ในฤดูกาล โกปาเดลเรย์ 1986-87 และแชมป์ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญาในปี ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 1982 ซึ่งเป็นการยืนยันสถานะของเขาในฐานะหนึ่งในผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร
3.4. การอำลาวงการและสถิติการลงสนามสูงสุดของสโมสร
กอร์ริซอำลาวงการฟุตบอลในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1993 โดยปิดฉากอาชีพด้วยการลงสนามในลีกสูงสุดถึง 461 นัด และรวมการแข่งขันทุกรายการแล้ว เขาสร้างสถิติเป็นผู้เล่นที่ลงสนามให้กับสโมสรมากที่สุดด้วยจำนวน 599 นัด ปีสุดท้ายในอาชีพของกอร์ริซยังเป็นปีสุดท้ายที่เอสตาดีโอ เด อาโตชา ซึ่งเป็นสนามเหย้าเก่าแก่ของเรอัลโซเซียดาดถูกใช้งาน ก่อนที่สโมสรจะย้ายไปใช้สนามเอสตาดีโอ อาโนเอตาในฤดูกาลถัดไป การจากไปของกอร์ริซพร้อมกับการปิดตำนานสนามอาโตชาทำให้ช่วงเวลานั้นมีความหมายเชิงสัญลักษณ์อย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์ของสโมสร
4. อาชีพทีมชาติ
อัลเบร์โต กอร์ริซ มีโอกาสเป็นตัวแทนของทีมชาติสเปนในเวทีระดับนานาชาติ แม้ว่าเขาจะประเดิมสนามในวัยที่ค่อนข้างมากแล้ว แต่ก็ยังคงสร้างผลงานที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมในฟุตบอลโลก 1990 ที่ประเทศอิตาลี
4.1. การเปิดตัวและผลงานในทีมชาติ
กอร์ริซติดทีมชาติ 12 ครั้งภายในเวลาไม่ถึงสองปี เขาประเดิมสนามให้กับทีมชาติสเปนเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1988 ขณะที่เขามีอายุ 30 ปีแล้ว ในการแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 1990 นัดสำคัญกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งสเปนเอาชนะไปได้ 2-0 ที่เซบิยา และเป็นการการันตีการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก
4.2. การเข้าร่วมฟุตบอลโลก 1990
หลังจากนั้น กอร์ริซก็ถูกเลือกติดทีมชาติสเปนชุดสุดท้ายเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลี ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มกับทีมชาติเบลเยียม กอร์ริซทำประตูเดียวในนามทีมชาติได้สำเร็จ เป็นการโหม่งลูกจากลูกฟรีคิกที่เปิดโดยมิเชล นักเตะจากเรอัลมาดริด ช่วยให้สเปนเอาชนะเบลเยียมไปได้ 2-1 ในที่สุดสเปนก็คว้าแชมป์กลุ่มและผ่านเข้ารอบต่อไป
5. รูปแบบการเล่น
อัลเบร์โต กอร์ริซ เป็นกองหลังตัวกลางที่โดดเด่นในด้านความแข็งแกร่งทางร่างกายและการอ่านเกม เขามีความสูงถึง 184 cm และน้ำหนัก 79 kg ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขามีความได้เปรียบในการโหม่งลูก ความสามารถในการโหม่งของเขาถือเป็นจุดแข็งหลัก และเขามักจะใช้ประโยชน์จากความสามารถนี้ในการทำประตูจากลูกตั้งเตะ ไม่ว่าจะเป็นลูกเตะมุมหรือลูกฟรีคิก นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้เล่นที่ถนัดเท้าขวา ซึ่งเสริมความแข็งแกร่งในการเล่นเกมรับของเขา
6. เกียรติประวัติ
เรอัลโซเซียดาด
- ลาลิกา: 1980-81, 1981-82
- โกปาเดลเรย์: 1986-87
- ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา: 1982
7. มรดกที่ทิ้งไว้
อัลเบร์โต กอร์ริซ ทิ้งมรดกอันล้ำค่าไว้ในวงการฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเรอัลโซเซียดาด ด้วยการเป็น "วันคลับแมน" หรือผู้เล่นที่อุทิศตนให้กับสโมสรเดียวตลอดอาชีพค้าแข้ง สถิติการลงสนามสูงสุดของเขากับสโมสร และช่วงเวลาแห่งการอำลาที่เชื่อมโยงกับสนามเหย้าเก่าแก่ ล้วนเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงคุณค่าและสถานะอันเป็นตำนานของเขา
7.1. ความหมายเชิงสัญลักษณ์ในฐานะวันคลับแมน

กอร์ริซใช้เวลาตลอดอาชีพค้าแข้งของเขาไปกับการเล่นให้กับเรอัลโซเซียดาดเพียงสโมสรเดียว ซึ่งทำให้เขามีสถานะเป็น "วันคลับแมน" หรือผู้เล่นที่อุทิศตนให้กับสโมสรเดียวตลอดชีวิต เขาเป็นผู้ครองสถิติลงสนามให้กับสโมสรมากที่สุดถึง 599 นัด การที่เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นเพียงไม่กี่คนในยุคนั้นที่อยู่กับสโมสรเดียวตลอดอาชีพการงาน ยิ่งทำให้เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของความภักดีและความทุ่มเท การที่เขาอำลาวงการพร้อมกับการปิดฉากสนามเอสตาดีโอ เด อาโตชา ซึ่งเป็นสนามเหย้าเก่าแก่ของสโมสร ยิ่งเพิ่มความหมายเชิงสัญลักษณ์ให้กับอาชีพของเขา ทำให้ชื่อของกอร์ริซมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของเรอัลโซเซียดาด และยังคงเป็นที่จดจำในฐานะตำนานของสโมสรและผู้เล่นที่จงรักภักดีอย่างแท้จริง