1. ภาพรวม
ยูโตะ ซาโตะ (佐藤 勇人ซาโตะ ยูโตะภาษาญี่ปุ่น) เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1982 เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวญี่ปุ่นที่เล่นในตำแหน่งกองกลาง เขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากอาชีพที่ยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสโมสรเจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ ซึ่งเขาเป็นผู้ถือสถิติการลงสนามมากที่สุดของสโมสร ซาโตะได้รับการยกย่องว่าเป็น "บันเดียรา" (Bandieraผู้ถือธงภาษาอิตาลี) หรือสัญลักษณ์และตำนานของสโมสร เจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ อันเนื่องมาจากเขาเป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของสโมสรและทุ่มเทให้กับการเล่นให้กับสโมสรเป็นเวลานาน ตลอดอาชีพค้าแข้ง 20 ปี เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเจลีก และได้รับเจลีกคัพถึงสองครั้ง ยูโตะเป็นพี่ชายฝาแฝดของฮิซาโตะ ซาโตะ นักฟุตบอลอาชีพอีกคน และทั้งคู่ยังสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการฟุตบอลญี่ปุ่นด้วยการเป็นคู่แฝดคู่แรกที่ได้ลงสนามพร้อมกันในทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่
2. ชีวิตช่วงต้นและอาชีพเยาวชน
ยูโตะ ซาโตะ มีภูมิหลังที่ผูกพันกับฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับน้องชายฝาแฝดของเขา ฮิซาโตะ ซาโตะ เส้นทางอาชีพของเขาเริ่มต้นจากระบบฟุตบอลเยาวชนและได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต
2.1. การเกิดและวัยเด็ก
ยูโตะ ซาโตะ เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1982 ที่คาสึกาเบะ จังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น เขาเริ่มเตะฟุตบอลกับน้องชายฝาแฝด ฮิซาโตะ ซาโตะ ตั้งแต่ยังเข้าโรงเรียนอนุบาล ซึ่งในตอนนั้นยูโตะมักจะเป็นฝ่ายส่งลูก ส่วนฮิซาโตะจะเป็นฝ่ายยิงประตู
ในช่วงวัยเด็ก ครอบครัวของพวกเขาต้องปิดกิจการค้าขายส่วนตัวที่จังหวัดไซตามะ และย้ายมายังยาจิโยะ จังหวัดชิบะ เพื่อให้ฮิซาโตะสามารถเข้าร่วมทีมเยาวชนเจฟ ยูไนเต็ด อิชิฮาระ (JEF United Ichihara Junior Youth) หลังจากที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว ตอนแรกยูโตะไม่ผ่านการคัดเลือก แต่ด้วยความพยายามของฮิซาโตะที่ร้องขอให้ยูโตะเข้าร่วมทีม และความเห็นชอบของสโมสร ยูโตะจึงได้เข้าร่วมทีมในอีกประมาณหกเดือนต่อมา ซึ่งนับเป็นการเข้าทีมกลางฤดูกาลที่ไม่ธรรมดา
แม้ว่ายูโตะจะเกิดที่คาสึกาเบะ จังหวัดไซตามะ แต่เนื่องจากเขาได้พัฒนาฝีเท้าในระบบเยาวชนของเจฟ ยูไนเต็ด และอาศัยอยู่ในยาจิโยะมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น เขาจึงถูกมองว่าเป็นผู้เล่นท้องถิ่นโดยกลุ่มผู้สนับสนุน
2.2. สโมสรเยาวชน
ยูโตะ ซาโตะ เข้าร่วมระบบเยาวชนของเจฟ ยูไนเต็ด อิชิฮาระ ตั้งแต่ระดับจูเนียร์ยูธ:
- เจฟ ยูไนเต็ด อิชิฮาระ จูเนียร์ยูธ (1994-1996) ขณะศึกษาอยู่ชั้นประถม
- เจฟ ยูไนเต็ด อิชิฮาระ ยูธ (1997-1999) ขณะศึกษาอยู่โรงเรียนมัธยมปลายฟุนาบาชิโคคากามะ จังหวัดชิบะ
แม้จะมีประวัติการออกจากสโมสรสองครั้งในช่วงมัธยมปลายเนื่องจากความต้องการอิสระ แต่พรสวรรค์ของเขาก็ได้รับการยอมรับอย่างสูง เขาเคยเล่นในตำแหน่งกองกลางร่วมกับมาร์คุส ทูลิโอ ทานากะ ในทีมตัวแทนจังหวัดชิบะในการแข่งขันกีฬาระดับชาติญี่ปุ่น และมีส่วนช่วยให้ทีมชิบะคว้าแชมป์ได้อย่างน่าประทับใจด้วยชัยชนะเหนือโอซาก้า 2-0 (ซึ่งมีมาซาชิ โอคุโร อยู่ในทีม) และชนะชิซูโอกะ 5-0 นอกจากนี้ เขามักจะเล่นร่วมกับยูกิ อาเบะ เพื่อนร่วมทีมจากระดับเยาวชนของเจฟอีกด้วย
3. อาชีพสโมสร
เส้นทางอาชีพการเล่นฟุตบอลระดับสโมสรของยูโตะ ซาโตะ โดดเด่นด้วยการเป็นกำลังหลักของทีมและสร้างประวัติศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสโมสรเจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ
3.1. เจฟ ยูไนเต็ด อิชิฮาระ/ชิบะ (2000-2007)
ยูโตะ ซาโตะ เข้าร่วมทีมชุดใหญ่ของเจฟ ยูไนเต็ด อิชิฮาระ ในปี ค.ศ. 2000 พร้อมกับน้องชายฝาแฝดฮิซาโตะ ซาโตะ และยูกิ อาเบะ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมจากระดับเยาวชน เขาเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2000 และค่อย ๆ ได้รับโอกาสลงสนามเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่สาม (ค.ศ. 2002) เขากลายเป็นผู้เล่นตัวหลักในตำแหน่งกองกลางตัวรับอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003
ในปี ค.ศ. 2004 เขาเปลี่ยนหมายเลขเสื้อเป็นเบอร์ 7 และภายใต้การคุมทีมของอิวีตซา โอซิม ยูโตะได้พัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นหนึ่งในกองกลางตัวรับชั้นนำของเจลีก โดยถูกขนานนามว่าเป็น "ลูกศิษย์โอซิม" ที่โดดเด่น ในปี ค.ศ. 2003 เจฟ ยูไนเต็ดจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 3 ภายใต้การคุมทีมของโอซิม
ในฐานะผู้เล่นคนสำคัญ เขามีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เจลีกคัพเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรในปี ค.ศ. 2005 และยังสามารถคว้าแชมป์ได้อีกครั้งในปี ค.ศ. 2006 นับเป็นการคว้าแชมป์สองสมัยติดต่อกันในเจลีกคัพ ในฤดูกาล 2007 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ หลังจากยูกิ อาเบะได้ย้ายไปร่วมทีมอุราวะ เรดไดมอนส์ ตลอดช่วงเวลาแรกกับสโมสรนี้ เขาลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 158 นัด และทำประตูได้ 26 ประตู นอกจากนี้ เขายังได้เข้าร่วมการแข่งขันเอ3 แชมเปี้ยนส์คัพ ในปี ค.ศ. 2006 โดยลงสนาม 2 นัด
3.2. เกียวโต ซังงะ เอฟซี (2008-2009)
ในปี ค.ศ. 2008 ยูโตะ ซาโตะ ได้ย้ายไปร่วมทีมเกียวโต ซังงะ เอฟซี ซึ่งในเวลานั้นสโมสรเกียวโต ซังงะ ไม่มีนโยบายแต่งตั้งกัปตันทีมอย่างเป็นทางการ โดยใช้นโยบาย "Everybody Captain" (ทุกคนคือกัปตัน) แต่หลังจากมีการพูดคุยกันภายในทีมในระหว่างการเก็บตัวฝึกซ้อมที่เมืองคาโกชิมะ ในเดือนมิถุนายน ยูโตะได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีม
เขาลงเล่นเป็นผู้เล่นตัวหลักตลอดสองฤดูกาลที่อยู่กับเกียวโต ซังงะ ในวันที่ 19 กันยายน ค.ศ. 2009 เขาได้รับบาดเจ็บกระดูกขากรรไกรล่างหัก (ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3 สัปดาห์) หลังจากการปะทะกับ จิน คานาซาวะ กองหลังของทีมจูบิโล อิวาตะ ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2009 สัญญาของเขากับเกียวโต ซังงะ ได้สิ้นสุดลง และเขาได้ออกจากสโมสรไป เขามีสถิติการลงสนามในลีกให้กับเกียวโต ซังงะ 62 นัด และทำประตูได้ 3 ประตู
ระหว่างการย้ายทีมไปยังเกียวโตในปี ค.ศ. 2008 ยูโตะได้ปรึกษาเรื่องนี้กับฮิซาโตะผู้เป็นน้องชายที่บ้าน ซึ่งฮิซาโตะได้ตอบกลับอย่างประชดประชันว่า "นายจะไปอยู่กับสโมสรที่ทำให้เราตกชั้นไป (เจลีก 2) งั้นหรือ" (ซึ่งในเวลานั้น ซานเฟรซเช ฮิโรชิมะ สโมสรของฮิซาโตะ แพ้เกียวโต ซังงะ ในศึกเพลย์ออฟเลื่อนชั้น/ตกชั้น เจลีก 1/เจลีก 2 และยูโตะเคยไปให้กำลังใจฮิซาโตะที่ฮิโรชิมะ บิ๊กอาร์ชในการแข่งขันนัดที่สอง) อย่างไรก็ตาม ยูโตะระบุว่าคำแนะนำของฮิซาโตะ ซึ่งมีประสบการณ์การย้ายทีมมามากนั้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเขา
3.3. เจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ (2010-2019)
ในวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 2010 ยูโตะ ซาโตะ ได้กลับมาร่วมทีมเจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ อีกครั้ง ซึ่งเป็นสโมสรเก่าของเขา หลังจากที่ทีมตกชั้นสู่เจลีก 2 นี่เป็นการกลับมายังบ้านเก่าของเขาหลังจากห่างหายไป 3 ปี
เขายังคงเป็นผู้เล่นตัวหลักและรับหน้าที่เป็นกัปตันทีมในฤดูกาล 2011 และ 2012 เจฟ ยูไนเต็ดสามารถผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่เจลีก 1 ได้ถึง 3 ฤดูกาลติดต่อกัน (2012-2014) อย่างไรก็ตาม สโมสรไม่สามารถคว้าตั๋วเลื่อนชั้นได้
ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012 เขาได้รับบาดเจ็บกระดูกอ่อนครึ่งวงเดือนที่เข่าซ้ายและต้องเข้ารับการผ่าตัด ในวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ยูโตะ ซาโตะ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการลงสนามในเจลีกครบ 400 นัด ในการแข่งขันเจลีก 2 นัดที่ 38 กับเอฟซี กิฟุ
ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ในการแข่งขันเจลีก 2 นัดที่ 41 กับนาโกยา แกรมปัส ยูโตะและฮิซาโตะ (ซึ่งย้ายไปนาโกยา) ได้ลงสนามเป็นตัวจริงทั้งคู่ ซึ่งเป็นการพบกันบนสนามครั้งแรกของคู่แฝดในรอบ 8 ปี เจฟ ยูไนเต็ดสามารถผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่เจลีก 1 ได้อีกครั้งในปี ค.ศ. 2017 จากผลงานชนะ 7 นัดติดต่อกันในช่วงท้ายฤดูกาล ในรอบรองชนะเลิศเพลย์ออฟ พวกเขาต้องพบกับนาโกยาอีกครั้ง และการที่ยูโตะและฮิซาโตะได้ลงสนามเป็นตัวจริงพร้อมกัน ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเพลย์ออฟเลื่อนชั้นเจลีก 1 ที่มีคู่แฝดลงสนามเผชิญหน้ากัน
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูโตะได้ประกาศตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพหลังจบฤดูกาล 2019 ในวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2020 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "เจ้าหน้าที่สโมสรยูไนเต็ด" (Club United Officer) ของเจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ โดยจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของสโมสรในโอกาสต่างๆ ตลอดช่วงเวลาที่สองที่เขากลับมาร่วมทีม เจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ เขาลงสนามในลีกไป 239 นัด และทำประตูได้ 8 ประตู นอกจากนี้ยังลงสนามในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นเจลีก 1 อีก 4 นัด (ปี 2012 จำนวน 2 นัด, ปี 2014 จำนวน 1 นัด, และปี 2017 จำนวน 1 นัด)
4. อาชีพทีมชาติ
ยูโตะ ซาโตะ ถูกเรียกติดฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2006 ในขณะที่เขากำลังเล่นให้กับเจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่อิวีตซา โอซิม ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการทีมของเจฟ ยูไนเต็ดจนถึงเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2006
เขาเปิดตัวในนามทีมชาติญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 2006 ในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2007 รอบคัดเลือก พบกับทีมชาติเยเมน ที่นีงาตะสเตเดียม ในเกมนั้น ยูโตะถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 71 แทนยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ หลังจากนั้นในนาทีที่ 89 น้องชายฝาแฝดของเขา ฮิซาโตะ ซาโตะ (ซึ่งขณะนั้นเล่นให้กับซานเฟรซเช ฮิโรชิมะ) ก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนทัตสึยะ ทานากะ เหตุการณ์นี้ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการฟุตบอลญี่ปุ่น โดยเป็นครั้งแรกที่คู่แฝดได้ลงสนามพร้อมกันในเกมระดับนานาชาติ A-match ยูโตะ ซาโตะ ลงสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่รวมทั้งสิ้น 1 นัด และไม่ทำประตูได้
5. รูปแบบการเล่น
ยูโตะ ซาโตะ เป็นที่รู้จักในฐานะกองกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งกองกลางตัวรับ (ボランチBoranchiภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นบทบาทที่สำคัญในการเชื่อมโยงเกมรุกและเกมรับ เขามีชื่อเสียงในฐานะ "ลูกศิษย์โอซิม" ซึ่งสะท้อนถึงการพัฒนาฝีเท้าภายใต้การฝึกสอนของอิวีตซา โอซิม ผู้จัดการทีมชาวบอสเนีย ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อรูปแบบการเล่นของเขา
นอกจากนี้ เขายังถูกขนานนามว่าเป็น "บันเดียรา" (Bandieraผู้ถือธงภาษาอิตาลี) ของสโมสรเจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ ซึ่งเป็นฉายาที่มอบให้กับผู้เล่นที่เป็นสัญลักษณ์ของสโมสร แสดงถึงความทุ่มเทและการเป็นกำลังสำคัญของทีมมายาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นผลิตผลจากระบบเยาวชนของสโมสรเอง ยูโตะเป็นผู้เล่นถนัดเท้าขวา ซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักในการควบคุมและจ่ายบอลในแดนกลาง
6. ชีวิตส่วนตัวและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
ชีวิตส่วนตัวของยูโตะ ซาโตะ มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับน้องชายฝาแฝดของเขา ฮิซาโตะ ซาโตะ และมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายที่สะท้อนถึงบุคลิกและเส้นทางชีวิตของเขา
- ความสัมพันธ์กับฮิซาโตะ ซาโตะ:** ฮิซาโตะ ซาโตะ เคยกล่าวถึงยูโตะว่าเป็น "เพื่อนสนิท" ที่ดีที่สุดและเป็น "กัปตันที่พึ่งพาได้" มาตั้งแต่เด็ก โดยที่เขาไม่เคยรู้สึกอิจฉาหรือเป็นคู่แข่งกับพี่ชายเลย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นที่รู้จักกันดีในวงการฟุตบอลญี่ปุ่น
- การเรียกชื่อ:** เนื่องจากมีน้องชาย ฮิซาโตะ ซาโตะ และนามสกุล "ซาโตะ" เป็นนามสกุลที่พบบ่อยในญี่ปุ่น แฟนบอลจึงมักจะเรียกเขาว่า "ยูโตะ" เพื่อให้แยกแยะได้ง่าย ยูโตะเองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้และเคยแสดงความประสงค์ที่จะลงทะเบียนชื่อ "Yuto" กับทางเจลีกและสโมสรด้วย ส่งผลให้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 เสื้อของเขามีการปักชื่อ "YUTO" แทนที่จะเป็นนามสกุล "SATO"
- การแต่งงาน:** ยูโตะ ซาโตะ แต่งงานกับนางแบบสเตฟานี มัตสึโมโตะ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 2008
- ลูก:** เขามีลูกชายสองคน คนโตชื่อ ฮิยูโตะ ซาโตะ และคนเล็กชื่อ ลุค ซาโตะ
- บุคลิก:** ยูโตะมักถูกมองว่าเป็นคนที่มีบุคลิกอิสระ ตรงกันข้ามกับฮิซาโตะที่ดูจริงจัง แต่พวกเขาทั้งคู่กลับยืนยันว่าบุคลิกของพวกเขาสลับกัน ยูโตะเคยพูดติดตลกว่าฮิซาโตะเป็นคนพูดเก่ง จึงดูเหมือนเป็นคนจริงจัง ในขณะที่ฮิซาโตะก็ตอบกลับว่ายูโตะดู "นักเลง" เพราะไว้หนวด
7. ความสำเร็จและเกียรติประวัติ
ตลอดอาชีพการเป็นนักฟุตบอลของยูโตะ ซาโตะ เขาได้สะสมความสำเร็จและเกียรติประวัติมากมาย ทั้งในระดับสโมสรและรางวัลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถและความทุ่มเทของเขาในวงการฟุตบอลญี่ปุ่น
- ระดับสโมสร**
- เจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ
- เจลีกคัพ: แชมป์ 2 สมัย (2005, 2006)
- เจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ
- ระดับบุคคล**
- รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเจลีก: 1 สมัย (2005)
- รางวัลเชิดชูเกียรติเจลีก (J.League Meritorious Service Award) สำหรับการเล่นฟุตบอลอาชีพครบ 20 ปี
8. สถิติอาชีพ
ยูโตะ ซาโตะ มีสถิติอาชีพที่โดดเด่นตลอดการเล่นฟุตบอล ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอและความสำคัญของเขาในทีม
8.1. สถิติสโมสร
อัปเดต ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019
ผลงานสโมสร | ลีก | เจลีกคัพ | ถ้วยจักรพรรดิ | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ฤดูกาล | สโมสร | ลีก | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | |
ญี่ปุ่น | ลีก | เจลีกคัพ | ถ้วยจักรพรรดิ | รวม | |||||||
2000 | เจฟ ยูไนเต็ด อิชิฮาระ | เจลีก ดิวิชัน 1 | 1 | 0 | 0 | 0 | 2 | 0 | 3 | 0 | |
2001 | 0 | 0 | 3 | 0 | 0 | 0 | 3 | 0 | |||
2002 | 13 | 0 | 6 | 0 | 3 | 0 | 22 | 0 | |||
2003 | 28 | 4 | 3 | 1 | 3 | 0 | 34 | 5 | |||
2004 | 29 | 7 | 5 | 1 | 1 | 0 | 35 | 8 | |||
2005 | เจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ | 34 | 8 | 11 | 0 | 1 | 0 | 46 | 8 | ||
2006 | 26 | 4 | 10 | 2 | 1 | 0 | 37 | 6 | |||
2007 | 27 | 3 | 5 | 1 | 0 | 0 | 32 | 4 | |||
2008 | เกียวโต ซังงะ เอฟซี | 34 | 3 | 6 | 1 | 1 | 0 | 41 | 4 | ||
2009 | 28 | 0 | 5 | 1 | 0 | 0 | 33 | 1 | |||
รวม (เจลีก ดิวิชัน 1) | 220 | 29 | 53 | 6 | 13 | 1 | 286 | 36 | |||
2010 | เจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ | เจลีก ดิวิชัน 2 | 36 | 5 | - | 1 | 0 | 37 | 5 | ||
2011 | 36 | 1 | - | 2 | 0 | 38 | 1 | ||||
2012 | 31 | 2 | - | 1 | 0 | 32 | 2 | ||||
2013 | 30 | 0 | - | 1 | 2 | 31 | 2 | ||||
2014 | 24 | 0 | - | 2 | 0 | 26 | 0 | ||||
2015 | 26 | 0 | - | 1 | 0 | 27 | 0 | ||||
2016 | 11 | 0 | - | 2 | 0 | 13 | 0 | ||||
2017 | 19 | 0 | - | 1 | 0 | 20 | 0 | ||||
2018 | 8 | 0 | - | 2 | 0 | 10 | 0 | ||||
2019 | 18 | 0 | - | 0 | 0 | 18 | 0 | ||||
รวม (เจลีก ดิวิชัน 2) | 239 | 8 | - | 13 | 2 | 252 | 10 | ||||
รวมอาชีพ | 459 | 37 | 53 | 6 | 26 | 3 | 538 | 46 |
8.2. สถิติทีมชาติ
อัปเดต ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019
ทีมชาติญี่ปุ่น | ||
---|---|---|
ปี | ลงสนาม | ประตู |
2006 | 1 | 0 |
รวม | 1 | 0 |
9. กิจกรรมหลังเกษียณ
หลังจากประกาศยุติอาชีพนักฟุตบอล ยูโตะ ซาโตะ ยังคงมีบทบาทในวงการฟุตบอลและสาธารณะอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสโมสรที่เขาทุ่มเทมาตลอด:
- เจ้าหน้าที่สโมสร:** ในวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2020 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "เจ้าหน้าที่สโมสรยูไนเต็ด" (Club United Officer) ของเจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ โดยมีหน้าที่เป็นตัวแทนของสโมสรในโอกาสและกิจกรรมต่างๆ
- ปรากฏตัวในภาพยนตร์:** เขาเคยปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง มาสค์ไรเดอร์ไกมุ เดอะมูฟวี่ มหาสงครามฟุตบอลถ้วยทองคำ (Kamen Rider Gaim the Movie: Great Soccer Battle! Golden Fruits Cup!) ในปี ค.ศ. 2014 โดยรับบทเป็นตัวเอง
- งานเขียน:** เข้าร่วมเขียนหนังสือกับน้องชายฮิซาโตะ ซาโตะ ในชื่อเรื่อง あきらめない勇気 (Akiramenai Yuuki, ความกล้าที่จะไม่ยอมแพ้) ซึ่งตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2017 โดยสำนักพิมพ์โตโฮ (Toho Publishing)
10. มรดกและการตอบรับ
ยูโตะ ซาโตะ ได้ทิ้งมรดกอันสำคัญไว้ในวงการฟุตบอลญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสโมสรเจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ ที่เขาเปรียบเสมือนสัญลักษณ์และตำนานของทีม เขาได้เล่นฟุตบอลอาชีพมานานถึง 20 ปี และได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติเจลีก ซึ่งเป็นการยอมรับถึงความมุ่งมั่นและอาชีพที่ยาวนานของเขา
ยูโตะเป็นเจ้าของสถิติการลงสนามมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ ทำให้เขามีสถานะเป็น "บันเดียรา" (Bandieraผู้ถือธงภาษาอิตาลี) หรือผู้เล่นที่เป็นตำนานและสัญลักษณ์ของสโมสร ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเป็นผลผลิตจากระบบเยาวชนของสโมสรเอง น้องชายฝาแฝดของเขา ฮิซาโตะ ซาโตะ ได้กล่าวถึงยูโตะว่าเป็น "เพื่อนสนิท" ที่สุดของเขา และเป็น "กัปตันที่พึ่งพาได้" มาตั้งแต่เด็ก สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันและบทบาทสำคัญของยูโตะทั้งในชีวิตส่วนตัวและในอาชีพการงาน