1. ภาพรวม
มักดา ชไนเดอร์ (Magda Schneiderมักดา ชไนเดอร์ภาษาเยอรมัน; เกิดวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1909 ที่เอาคส์บวร์ค เยอรมนี - เสียชีวิตวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1996 ที่เบิร์ชเทสกาเดิน) เป็นนักแสดงและนักร้องชาวเยอรมนีผู้มีชื่อเสียง เธอเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงผู้มีความสามารถหลากหลาย และยังเป็นมารดาของนักแสดงผู้โด่งดังระดับโลก รอมี่ ชไนเดอร์ ซึ่งมักดาได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมอาชีพการแสดงของบุตรสาว
2. ชีวิตและภูมิหลัง
มักดา ชไนเดอร์มีชีวิตที่เริ่มต้นอย่างเรียบง่ายในเมืองเอาคส์บวร์ค ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงและสร้างครอบครัว ชีวิตส่วนตัวของเธอเต็มไปด้วยเหตุการณ์สำคัญ รวมถึงการแต่งงาน การให้กำเนิดบุตร และความผูกพันกับบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์
2.1. วัยเด็กและการศึกษา
มักดาเลนา มาเรีย ชไนเดอร์ เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1909 ที่เอาคส์บวร์ค บาวาเรีย โดยเป็นบุตรสาวของช่างประปา เธอเข้าเรียนในโรงเรียนคาทอลิกสำหรับเด็กผู้หญิงและวิทยาลัยพาณิชย์ หลังจากนั้นเธอทำงานเป็นนักชวเลขในร้านค้าธัญพืช นอกจากงานประจำแล้ว ชไนเดอร์ยังศึกษาการร้องเพลงที่วิทยาลัยดนตรีเลโอโปลด์ โมซาร์ทในเอาคส์บวร์ค และเรียนบัลเลต์ที่โรงละครเทศบาล เธอสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอาราม และยังได้เข้าเรียนหลักสูตรบัลเลต์และศิลปะที่โรงเรียนดนตรีเอาคส์บวร์คอีกด้วย
2.2. การเริ่มต้นอาชีพ
ชไนเดอร์เปิดตัวบนเวทีครั้งแรกในฐานะนักร้องโซเบร็ตต์ที่โรงละครการ์ทเนอร์พลัทซ์ในมิวนิก ซึ่งทำให้เธอได้รับความสนใจจากเอิร์นสท์ มาริชกา ผู้กำกับชาวออสเตรีย ซึ่งได้เชิญเธอไปแสดงที่โรงละครอันแดร์วีนในเวียนนา และในปี ค.ศ. 1930 ก็ได้มอบบทบาทภาพยนตร์เรื่องแรกให้กับชไนเดอร์ในภาพยนตร์เรื่อง บอยคอต (Boycott) หลังจากนั้น เธอมีความปรารถนาที่จะรับบทเป็นหญิงสาวเรียบง่ายที่แต่งกายธรรมดา และมีความหวังที่จะมีชีวิตที่มีความสุข ดังที่เห็นได้จากบทบาทของเธอในภาพยนตร์เรื่อง สองคนในรถ (Two in a Car) ในปี ค.ศ. 1932 หรือ ไอน์ มาเดล เวียร์เบลท์ ดูร์ค ดี เวลท์ (Ein Madel wirbelt Durch die Welt) ในปี ค.ศ. 1934
3. ชีวิตส่วนตัว
ชีวิตส่วนตัวของมักดา ชไนเดอร์มีความผันผวนและเหตุการณ์สำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ในครอบครัวและประสบการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
3.1. การแต่งงานและครอบครัว
ขณะถ่ายทำภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1933 ชไนเดอร์ได้พบกับวูล์ฟ อัลบาค-เร็ตตี้ นักแสดงชาวออสเตรีย ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสามีของเธอ ทั้งคู่แต่งงานกันในปี ค.ศ. 1937 และมีบุตรด้วยกันสองคน ได้แก่ โรสมารี มักดาเลนา ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ รอมี่ ชไนเดอร์ เกิดในปี ค.ศ. 1938 และวูล์ฟ-ดีเทอร์ ซึ่งต่อมาเป็นศัลยแพทย์ เกิดในปี ค.ศ. 1941

3.2. ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชไนเดอร์อาศัยอยู่ในเทือกเขาแอลป์บาวาเรีย ใกล้กับเบิร์กฮอฟ ซึ่งเป็นที่พักตากอากาศของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ในเขตโอเบอร์ซาลซ์แบร์ก เหนือเบิร์ชเทสกาเดิน ชไนเดอร์เป็นแขกของฮิตเลอร์ ซึ่งเขายกย่องว่าเธอเป็นนักแสดงคนโปรดของเขา
3.3. การหย่าร้างและการแต่งงานใหม่
ต่อมา มักดา ชไนเดอร์และอัลบาค-เร็ตตี้ได้แยกทางกัน และการแต่งงานของทั้งคู่สิ้นสุดลงด้วยการหย่าร้างในปี ค.ศ. 1945 หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1953 มักดา ชไนเดอร์ได้แต่งงานใหม่กับฮันส์ เฮอร์เบิร์ต บลัทซ์ไฮม์ เจ้าของร้านอาหารในเมืองโคโลญ
4. อาชีพการแสดงและดนตรี
มักดา ชไนเดอร์มีอาชีพการแสดงและดนตรีที่ยาวนานและโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงร่วมกับบุตรสาวของเธอ
4.1. กิจกรรมหลักและการแสดง
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง โอกาสในการแสดงภาพยนตร์ของมักดา ชไนเดอร์มีไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม เธอได้กลับมาถ่ายทำภาพยนตร์อีกครั้งในปี ค.ศ. 1948 และยังคงปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์และเวทีการแสดงอย่างต่อเนื่อง
4.2. การทำงานร่วมกับรอมี่ ชไนเดอร์
มักดา ชไนเดอร์มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมอาชีพการแสดงของบุตรสาว โดยได้ปรากฏตัวร่วมกันในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น เมื่อดอกไลแล็กสีขาวบานอีกครั้ง (When the White Lilacs Bloom Again) ในปี ค.ศ. 1953 ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของรอมี่ ชไนเดอร์ในวัย 14 ปี ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนว ไฮมัตฟิล์ม ทั่วไปในยุคทศวรรษ 1950 ในปีเดียวกันนั้น มักดา ชไนเดอร์ยังได้แสดงร่วมกับบุตรสาวในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ เช่น มาดเชนยาเรอ ไอน์เนอร์ เคอนิกิน (Mädchenjahre einer Königin หรือ Victoria in Dover) ในปี ค.ศ. 1954 และภาพยนตร์ไตรภาค ซิสซี่ (Sissi) ซึ่งสร้างจากชีวประวัติของจักรพรรดินีเอลิซาเบธแห่งออสเตรีย โดยรอมี่ ชไนเดอร์รับบทเป็นตัวละครหลัก และมักดา ชไนเดอร์รับบทเป็นเจ้าหญิงลูโดวิกาแห่งบาวาเรีย มารดาของเธอ นอกจากนี้ เธอยังร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง ดี ฮาลบ์ซาร์เทอ (Die Halbzarte หรือ Eva) ในปี ค.ศ. 1958 บทบาทของมักดา ชไนเดอร์ในภาพยนตร์ปี ค.ศ. 1933 เรื่อง ลีเบอไล (Liebelei) ยังถูกนำกลับมาแสดงโดยบุตรสาวของเธอ รอมี่ ชไนเดอร์ ในภาพยนตร์รีเมคเรื่อง คริสติน (Christine) ในปี ค.ศ. 1958 อีกด้วย
5. ผลงานภาพยนตร์
มักดา ชไนเดอร์มีผลงานภาพยนตร์จำนวนมากตลอดอาชีพการแสดงของเธอ ดังรายการต่อไปนี้:
ปี | ชื่อเรื่อง | บทบาท |
---|---|---|
ค.ศ. 1930 | บอยคอต (Boycott) | โซเฟอ |
ค.ศ. 1932 | หมายเลขผิดครับคุณ (Wrong Number, Miss) | อิงเงอ เบ็คเคอร์ - พนักงานโทรศัพท์ |
ค.ศ. 1932 | ความรักเล็กน้อย (A Bit of Love) | แอนนี่ เลขานุการของเขา |
ค.ศ. 1932 | สองคนในรถ (Two in a Car) | ลิซ่า ครูเกอร์ |
ค.ศ. 1932 | เพลงแห่งราตรี (The Song of Night) | มาทิลเดอ |
ค.ศ. 1932 | เซนซุกต์ 202 (Sehnsucht 202) | มักดา |
ค.ศ. 1932 | บอกฉันคืนนี้ (Tell Me Tonight) | มาทิลเดอ พาเทกก์ |
ค.ศ. 1932 | พินัยกรรมของคอร์เนลิอุส กูลเดน (The Testament of Cornelius Gulden) | ฟล็อกซ์ วินเทอร์ |
ค.ศ. 1932 | โอเวอร์ไนท์ เซนเซชั่น (Overnight Sensation) | เอดิธ |
ค.ศ. 1933 | เพลงคืนเดียว (One Night's Song) | มาทิลเดอ |
ค.ศ. 1933 | มาริออน นั่นไม่ดีนะ (Marion, That's Not Nice) | มาริออน - ลูกสาวของซาโทริอุส |
ค.ศ. 1933 | ลีเบอไล (Liebelei) | คริสติน ไวริง - ลูกสาวของเขา |
ค.ศ. 1933 | เรื่องราวความรัก (A Love Story) | คริสติน ไวริง |
ค.ศ. 1933 | คินด์, อิคช์ ฟรอย มิช เอาฟ์ ไดน์ คอมเมน (Kind, ich freu' mich auf Dein Kommen) | ลิลี่ ชเรเดอร์ |
ค.ศ. 1933 | โกอิง เกย์ (Going Gay) | เกรเทอ หญิงสาวชาวเวียนนา |
ค.ศ. 1933 | บอน วอยยาจ (Bon Voyage) | โมนิกา บริงค์ |
ค.ศ. 1934 | อิคช์ เค็นน์ ดิคช์ นิชท์ อุนด์ ลีเบอ ดิคช์ (Ich kenn' dich nicht und liebe dich) | กลอเรีย คลาสเซน |
ค.ศ. 1934 | ไอน์ มาเดล เวียร์เบลท์ ดูร์ค ดี เวลท์ (Ein Mädel wirbelt durch die Welt) | ลีโอโนเรอ 'เลน็อกซ์' เบรห์เมอร์ |
ค.ศ. 1934 | นิทานจากป่าเวียนนา (Tales from the Vienna Woods) | มิลลี่ เชฟเฟอร์ส |
ค.ศ. 1934 | มิส ลีเซล็อตต์ (Miss Liselott) | ลีเซล็อตต์ ฟิชเชอร์ |
ค.ศ. 1935 | ดี คัทซ์ อิม แซ็ค (Die Katz' im Sack) | ไอรีน เฟเรนซี |
ค.ศ. 1935 | ความฝันคืนฤดูหนาว (Winter Night's Dream) | ฮิลเดอ มุลเลอร์ |
ค.ศ. 1935 | เอวา, สาวโรงงาน (Eva, the Factory Girl) | เอวา |
ค.ศ. 1935 | อย่าลืมฉัน (Forget Me Not) | ลีเซล็อตต์ เฮสเฟลด์ - เลขานุการของเขา |
ค.ศ. 1936 | ดี ลุสติกเกน ไวเบอร์ (Die lustigen Weiber) | วิโอลา อีแวนส์ |
ค.ศ. 1936 | แรนเดอวูส์ อิน วีน (Rendezvous in Wien) | กุสติ ไอเนอร์ |
ค.ศ. 1936 | ตุ๊กตาเทพธิดา (The Fairy Doll) | คอมเทส เฟลิซิตาส - หลานสาวของเธอ |
ค.ศ. 1936 | ปราเตอร์ (Prater) | ทินี |
ค.ศ. 1936 | เกไฮมนิส ไอน์เนส อัลเทน เฮาส์เซส (Geheimnis eines alten Hauses) | แมรี่ ฮอฟเมเยอร์ |
ค.ศ. 1937 | ความรักของผู้หญิง-ความทุกข์ของผู้หญิง (Woman's Love-Woman's Suffering) | มารี ฮาสเลอร์ |
ค.ศ. 1937 | มูสิก เฟือร์ ดิคช์ (Musik für dich) | เฮลลา |
ค.ศ. 1938 | เอียร์ ไลบ์ฮูซาร์ (Ihr Leibhusar) | มารี โทลดี้ |
ค.ศ. 1938 | ฟรืห์ลิงส์ลุฟท์ (Frühlingsluft) | เอลลี่ โนลเทอ |
ค.ศ. 1938 | ผู้หญิงที่ทางแยก (The Woman at the Crossroads) | แพทย์หญิง ฮันนา ไวแกนด์ |
ค.ศ. 1939 | ใครจูบแมเดลีน? (Who's Kissing Madeleine?) | แมเดลีน ปาสกาล |
ค.ศ. 1939 | สิทธิที่จะรัก (The Right to Love) | วโรนี มาไรเทอร์ |
ค.ศ. 1940 | หญิงสาวที่แผนกต้อนรับ (The Girl at the Reception) | เบอาเทอ |
ค.ศ. 1940 | เฮอร์เซนส์ฟรอยด์ - เฮอร์เซนส์ไลด์ (Herzensfreud - Herzensleid) | โทนี่ ลูกสาวของเขา |
ค.ศ. 1941 | อัม อาเบนด์ เอาฟ์ แดร์ ไฮเดอ (Am Abend auf der Heide) | แอ็นเนอ |
ค.ศ. 1942 | ดี ไฮม์ลิคเกน เบร้าเทอ (Die heimlichen Bräute) | อิงเงอ ทีเลอ |
ค.ศ. 1943 | ลีเบสโคเมดี (Liebeskomödie) | คริสเทล เชินบาค |
ค.ศ. 1943 | สองคนที่มีความสุข (Two Happy People) | |
ค.ศ. 1943 | ผู้ชายสำหรับภรรยาของฉัน (A Man for My Wife) | ดักมาร์ สตอลเบิร์ก |
ค.ศ. 1945 | ไอน์เนส ทาเกส (Eines Tages) | เบ็ตตินา พาห์เลน |
ค.ศ. 1948 | ไอน์ มันน์ เกเฮอร์ท อินส์ เฮาส์ (Ein Mann gehört ins Haus) | โลนี่ ทันน์โฮเฟอร์ |
ค.ศ. 1950 | ดี สแตร์เนอ ลือเกน นิชท์ (Die Sterne lügen nicht) | ภรรยานายกเทศมนตรี บริกิตเตอ ครามบาค |
ค.ศ. 1953 | เมื่อดอกไลแล็กสีขาวบานอีกครั้ง (When the White Lilacs Bloom Again) | เทเรเซอ ฟอร์สเตอร์ |
ค.ศ. 1954 | ความรักคือชั่วนิรันดร์ (Love Is Forever) | คุณนาย โฟเกิลรอยเทอร์ |
ค.ศ. 1954 | วิกตอเรียในโดเวอร์ (Victoria in Dover) | บารอนเนส เลห์เซน |
ค.ศ. 1955 | ดี ดอยท์ชไมสเตอร์ (Die Deutschmeister) | เทเรเซอ ฮึบเนอร์ |
ค.ศ. 1955 | ซิสซี่ (Sissi) | ดัชเชส ลูโดวิกา แห่งบาวาเรีย / วิคกี้ |
ค.ศ. 1956 | ซิสซี่ - จักรพรรดินีวัยเยาว์ (Sissi - The Young Empress) | ดัชเชส ลูโดวิกา แห่งบาวาเรีย |
ค.ศ. 1957 | เด็กสาวกับตำนาน (The Girl and the Legend) | คุณนาย แคนท์ลีย์ |
ค.ศ. 1957 | ฟอน อัลเลน เกอลิบท์ (Von allen geliebt) | ล็อตเตอ เฟือร์สท์ |
ค.ศ. 1957 | ซิสซี่ - ปีแห่งโชคชะตาของจักรพรรดินี (Sissi - Fateful Years of an Empress) | ดัชเชส ลูโดวิกา แห่งบาวาเรีย |
ค.ศ. 1958 | บ้านของสามสาว (The House of Three Girls) | คุณนาย ชเชิลล์ |
ค.ศ. 1959 | เอวา (Eva) | มารดา ดัสเซา |
ค.ศ. 1961 | แฟร์ดัมท์ ดี ยุงเงน ซึนเดอร์ นิชท์ (Verdammt die jungen Sünder nicht) | เวรา ยึทท์เนอร์ |
6. ช่วงท้ายของชีวิตและการเสียชีวิต
ในบั้นปลายชีวิต มักดา ชไนเดอร์ต้องเผชิญกับความโศกเศร้าอย่างมากจากการจากไปของหลานชายของเธอ เดวิด ในปี ค.ศ. 1981 และบุตรสาวสุดที่รักของเธอ รอมี่ ชไนเดอร์ ในปี ค.ศ. 1982 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่งให้กับเธอ มักดา ชไนเดอร์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1996 ที่บ้านของเธอในเชินเนา อัม เคอนิกส์เซ ใกล้กับเบิร์ชเทสกาเดิน บาวาเรีย
7. อิทธิพลและการประเมิน
มักดา ชไนเดอร์เป็นนักแสดงและนักร้องที่มีชื่อเสียงและมีความสามารถหลากหลายในเยอรมนีตลอดช่วงชีวิตของเธอ บทบาทของเธอในวงการภาพยนตร์และดนตรีได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะนักแสดงที่สามารถถ่ายทอดบทบาทหญิงสาวเรียบง่ายได้อย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเธอก็มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเขาได้กล่าวว่าเธอเป็นนักแสดงคนโปรดของเขา ความเชื่อมโยงนี้ได้กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์และส่งผลต่อการประเมินอาชีพและชีวิตของเธอในภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบุตรสาวของเธอ รอมี่ ชไนเดอร์ นอกจากนี้ บทบาทของเธอในฐานะมารดาที่คอยส่งเสริมอาชีพการแสดงของรอมี่ ชไนเดอร์ บุตรสาวของเธอ ก็เป็นอีกหนึ่งแง่มุมสำคัญที่สะท้อนถึงอิทธิพลของเธอในวงการบันเทิง